บทที่ 131 เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์หมื่นมังกร
ข่าวที่เฉิงเป้ยเป้ยถูกหยางเสี่ยวเทียนเตะร่างลอยกระเด็น โดยไม่เกรงกลัวแม้นเบื้องหลังของนางจะเป็นใคร กระทั่งเรื่องสำคัญที่เด็กนั่นได้ทะลวงเข้าขั้นนักยุทธ์ระดับสิบ ก็ลือถึงหูของหูซิงอย่างเร็ว
ทำพื้นดินในลานฝึกพลันเป็นหลุมขนาดใหญ่เพิ่มจากเดิม ด้วยความโมโหที่เขาเอาไปลงตรงนั้นอีกครั้ง
“ขั้นนักยุทธ์ระดับสิบ ขั้นนักยุทธ์ระดับสิบงั้นรึ ถึงอย่างไร ข้าก็ไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นราชันยุทธ์ได้ภายในสองปี!”
นัยน์ตาหูซิงร้อนรุม เต็มเปี่ยมด้วยความโกรธแค้นอย่างแสนสาหัส
แม้ตัวเขาเอง ก็ยังมิอาจปักใจเชื่อในความคิดตน ว่าหยางเสี่ยวเทียนจะสามารถบุกทะลวงเข้าสู่ขั้นราชันยุทธ์ภายในสองปีได้หรือไม่
แต่เจตนาฆ่าของเขาเพลานี้ ที่มีต่อเด็กคนนั้นกลับยิ่งเพิ่มขึ้นทวี และต้องการให้หยางเสี่ยวเทียนหายไปโดยเร็วที่สุด
ต้องรีบสังหารหยางเสี่ยวเทียนให้เร็ว ก่อนที่มันจะทำตัวเก่งกาจเหนือเขาไปมากกว่านี้!
เขาจะไม่ปล่อยให้หยางเสี่ยวเทียนมีชีวิตอยู่มากถึงสองปีแน่นอน หาไม่แล้ว เด็กนั่นอาจเอาชนะเขาขึ้นมาจริงๆ ก็เป็นได้
ณ หอคัมภีร์สำนักเสินเจี้ยน
หลังหยางเสี่ยวเทียนแปลอักขระของเผ่ามังกรบนกริชเทียนหลงเสร็จ เขาก็ยังไม่คิดออกไปไหน แต่คงสิงตัวที่ชั้นบนสุดของหอคัมภีร์ และหาเรื่องราวเกี่ยวกับเผ่ามังกรเพิ่มพูนความรู้ให้ตนต่อ
ณ ชั้นบนสุดของหอคัมภีร์ ล้วนเต็มไปด้วยบันทึกเกี่ยวกับมังกรมากมาย มีมากถึงหกเล่มด้วยกัน
ซึ่งนับว่ามันมากพอจะให้หยางเสี่ยวเทียน สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับเผ่ามังกรได้
เหตุผลที่เขาสนใจมันมากก็คือ ตัวเขากำลังบ่มเพาะปราณมังกรแรกเริ่ม และเขาอาจได้ทำความรู้จักกับเผ่ามังกรในภายภาคหน้า
แม้หยางเสี่ยวเทียนจะอ่านอักขระมังกรได้ยังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่โชคดีที่พบคัมภีร์เล่มหนึ่งมีคำแปลให้เขาสามารถอ่านมันได้ หลังจากหยางเสี่ยวเทียนเทียบตัวอักขระกับคำแปลอยู่นานสองนาน เขาก็เกือบจะเข้าใจอักขระมังกร
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่คัมภีร์มังกรทั้งหกเล่มนี้ล้วนแนะนำสิ่งต่างๆ เกี่ยวข้องกับมังกร แต่ไม่มีบันทึกเกี่ยวกับการบ่มเพาะปราณมังกร และการฝึกปรือวรยุทธของเผ่ามังกรแม้สักเล่ม
เมื่อหยางเสี่ยวเทียนอ่านคัมภีร์จบทั้งหกเล่มแล้ว เขาก็ออกจากหอคัมภีร์ไปทันที เพราะยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เขาอยากรู้
ด้วยใจที่มุ่งมั่นของหยางเสี่ยวเทียน เขามุ่งหน้าไปยังตำหนักกระบี่ หาผู้อาวุโสเฉิงฉางชิงเพื่อถามเกี่ยวกับตำแหน่งไฟศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ที่เขาอาจพอรู้ เพราะตอนนี้ เขาพิชิตเปลวไฟอัสนีแห่งทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จแล้ว
ไม่นานจากนั้น หยางเสี่ยวเทียนก็มาถึงตำหนักกระบี่ เฉินฉางชิงและอีกสี่คน ต่างต้อนรับการมาเยือนของเขาด้วยความยินดี พร้อมกับสีหน้าท่าทางกระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่ง
แต่เมื่อพวกเขารู้ว่าหยางเสี่ยวเทียนมาที่นี่เพื่อถามเกี่ยวกับไฟศักดิ์สิทธิ์ เฉินฉางชิงและอีกสี่คนก็ต่างยืนนิ่งอึ้งกันไปสักพัก หลังได้รู้ว่าเขาพิชิตเปลวไฟอัสนีแห่งทัณฑ์สวรรค์สำเร็จ
เฉินฉางชิงยิ้มให้หยางเสี่ยวเทียนพลางกล่าวว่า “เสี่ยวเทียน ความจริงแล้ว นอกเหนือจากเปลวไฟอัสนีแห่งทัณฑ์สวรรค์ ข้ายังรู้ตำแหน่งของไฟศักดิ์สิทธิ์อีกชนิดหนึ่งด้วย”
“จริงรึขอรับ!” หยางเสี่ยวเทียนรีบถามด้วยสีหน้าและท่าทางดีใจมากหลังได้ยินเรื่องนี้
ก่อนหน้าเขาไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก เพียงมาถามลองดูเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าผู้อาวุโสเฉินฉางชิงจะรู้ตำแหน่งของไฟศักดิ์สิทธิ์ชนิดอื่นจริงๆ
ครั้นเฉินฉางชิงเห็นอากัปกิริยาของหยางเสี่ยวเทียนมีความสุข จึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว และตำแหน่งของไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ข้ารู้คือเปลวไฟหมื่นมังกร”
“เปลวไฟหมื่นมังกร!” หยางเสี่ยวเทียนรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก กระทั่งหัวใจเขาเต้นระรัว หลังได้รู้ชนิดของไฟศักดิ์สิทธิ์
เปลวไฟหมื่นมังกร เป็นเปลวไฟในอันดับสิบเอ็ดของบรรดาไฟศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ซึ่งก็คือ มันอยู่ในอันดับที่สูงแลแข็งแกร่งกว่าเปลวไฟอัสนีแห่งทัณฑ์สวรรค์ ที่เขาเพิ่งไปพิชิตมามากนัก
“เปลวไฟหมื่นมังกรนั้น อยู่ภายในสำนักมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรมังกรศักดิ์สิทธิ์” เฉินฉางชิงกล่าว ขณะสัมผัสได้ว่าหยางเสี่ยวเทียนสนใจมัน
สำนักมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรมังกรศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ
หยางเสี่ยวเทียนตะลึงอยู่ครู่ หลังได้ฟังเช่นนั้น
“สำนักมังกรศักดิ์สิทธิ์ เป็นหนึ่งในสิบสุดยอดสำนัก แห่งอาณาจักรมังกรศักดิ์สิทธิ์” เฉินฉางชิงกล่าวเสริม
เมื่อหยางเสี่ยวเทียนได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของเขาก็เต้นช้าลงทันที
แม้เขาจะไม่ทราบถึงความแข็งแกร่งของสำนักมังกรศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาก็รู้ว่าสิบสุดยอดสำนักแห่งอาณาจักรมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นหมายถึงอะไร
ซึ่งสำนักดังกล่าว เป็นยักษ์ใหญ่อยู่ในอาณาจักรเทียนโต้ว
สำนักยักษ์ใหญ่เช่นนี้ หากมีศิษย์คนใดของสำนักทำผิด หรือมีเรื่องอื้อฉาว ก็สามารถเปลี่ยนให้มันเป็นถูก หรือปิดข่าวอื้อฉาว ก็สามารถทำได้ง่ายโดยใช้เพียงนิ้วเดียว หรือกล่าวง่ายๆ ก็คือสามารถกลับผิดเป็นถูกได้
เฉินฉางชิงมองใบหน้าท้อแท้ของหยางเสี่ยวเทียน แล้วกล่าวว่า “เสี่ยวเทียน ตามความเห็นข้า ด้วยพรสวรรค์อันสูงส่งของเจ้า อาจมีโอกาสเข้าร่วมสำนักมังกรศักดิ์สิทธิ์ได้ในอนาคต”
“เข้าร่วมสำนักมังกรศักดิ์สิทธิ์!” หยางเสี่ยวเทียนเบิกตากว้างแสดงความตกใจหลังได้ฟังเช่นนั้น
“ใช่!” เฉินฉางชิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “สำนักชั้นยอดเช่น สำนักมังกรศักดิ์สิทธิ์ จะรับคัดเลือกเหล่าศิษย์ผู้มีความสามารถจากสำนักในอาณาจักรต่างๆ ทุกสิบปี”
“ข้าต้องการให้เจ้าเข้าร่วมสำนักเทียนโต้ว แห่งอาณาจักรเทียนโต้วในอนาคต แล้วตั้งใจฝึกฝนจนมีฝีมือโดดเด่น เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าอาจถูกเลือกโดยสุดยอดสำนักแห่งอาณาจักร เช่น สำนักมังกรศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นได้”
อาณาจักรเทียนโต้ว เป็นดินแดนขนาดใหญ่ที่มีอาณาจักรย่อยหลายสิบอาณาจักร อาจเรียกได้ว่าเป็นจักรวรรดิเทียนโต้วก็มิผิด
อาณาจักรเสินไห่ ก็เป็นหนึ่งในอาณาจักรย่อยของจักรวรรดิเทียนโต้วเช่นกัน
สำนักเทียนโต้ว เป็นสำนักที่มีชื่อเสียงมากสุดในจักรวรรดิเทียนโต้ว และยังเป็นเป้าหมายที่ศิษย์จากทุกสำนักในอาณาจักรเสินไห่แลอาณาจักรโดยรอบใฝ่ฝันอีกด้วย