ตอนที่แล้วบทที่ 81: ถ้ามีความเข้มแข็งก็ไม่ใช่เรื่องยาก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 83: ไม่มีอะไรที่แก้ไม่ได้ด้วยกระบี่ 1 เล่ม!

ตอนที่ 82: การดูแลบุตรที่ยอดเยี่ยม!


"นี้……"

หลังจากได้สติหวนเจี่ยเซียว มองไปที่หลินซวน ด้วยความตกใจ: "มันกลับลงน้ำแล้วจริง ๆ!"

เจิ้งซีถอนหายใจขณะถูฝ่ามือไปมา "ไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเชื่อฟังมาก นี่คือวิธีอะไรกัน ช่างเปิดหูเปิดตาข้าจริง ๆ!"

กลุ่มขุนนางที่อยู่ข้างหลังต่างก็พยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า

อาจารย์หวนเป็นที่รู้จักในฐานะผู้แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรหมื่นปีศาจ อาจารย์อสูรสัตว์ห้าอันดับแรกในดินแดนตะวันออกของแดนปีศาจสวรรค์ กระทั่งเขาก็ยังยากจะจัดการมังกรปีศาจที่ดุร้ายตนนี้ได้.

ทว่าหลังจาก ตี้ฟู่ เอ่ยสั้น ๆ มันกลับเชื่อฟัง ไปอยู่ในน้ำดูเหมือนกับเด็กดีไปแล้ว.

นี่แสดงให้เห็นว่าพลังควบคุมสัตว์อสูรของตี้ฟู่ นั้นยอดเยี่ยมมาก.

“ถ้าให้ข้าคาดเดา ไม่เพียงฐานบ่มเพาะขอบเขตจักรพรรดิเท่านั้น ยังมีทักษะขอบเขตปรมาจารย์อีกด้วย!”

ตั้งแต่สมัยโบราณ อาจารย์อสูรก็เหมือนกับมังกร.

อาจารย์สัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนชั่วชีวิต ที่ไล่ตามแสวงหาขอบเขตปรมาจารย์.

ต้องรู้ด้วยว่าพลังของปรมาจารย์อสูรนั้นไม่เพียงแค่สามารถควบคุมสัตว์อสูรยักษ์ ยังควบคุมสัตว์อสูรระดับสามได้ด้วย.

หากก้าวไปถึงขอบเขตดังกล่าวสามารถก่อตั้งนิกายเพื่อรับสมัครสาวกได้.

นี่คือความรุ่งโรจน์ที่เหล่าอาจารย์สัตว์อสูรใฝ่ฝันถึง.

อย่างไรก็ตามมันก็ยากเกินไปที่จะพัฒนาขอบเขตการฝึกฝนควบคุมสัตว์ร้ายได้เช่นกัน.

นอกจากความแข็งแกร่งและทักษะอีกหลายอย่างแล้ว.

ยังต้องมีความอดทนในการดูแลสัตว์อสูร และอยู่กับพวกมันเป็นเวลานาน.

ต้องเข้าใจนิสัยและลักษณะเฉพาะของสัตว์อสูรต่าง ๆ หลากหลายประการ

นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจตัวตนของสัตว์อสูร สภาพแวดล้อมการดำเนินชีวิต และมีวิธีในการฝึกฝนทำให้เชื่องโดยสมบูรณ์อีกด้วย.

สิ่งสำคัญที่สุด คือการเพิ่มฐานบ่มเพาะ และความแข็งแกร่งของตัวเองผ่านสัตว์อสูรได้ด้วย.

ดังนั้นอาจารย์สัตว์อสูรจึงเป็นอาชีพที่หายากมาก น้อยคนที่จะประสบความสำเร็จ.

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นความสามารถของหลินซวนที่มีขอบเขตปรมาจารย์ ก็ทำให้หวนเจี่ยเซียวรู้สึกทึ่งและชื่นชมจากก้นบึ้งของหัวใจ.

“เสด็จพ่อครับ ข้าขี่มันได้แล้วเหรอ?” เสวียนหยูแทบรอไม่ไหวที่จะคว้ามือของหลินซวนไว้

หลินซวนเผยยิ้ม "ใช่!"

จากนั้นเขาก็โบกมือสั่งมังกรปีศาจเกล็ดดำ

มังกรปีศาจเกล็ดดำว่ายเข้ามายังฝั่งอย่างเชื่อฟัง มันลดศีรษะลง และปล่อยให้เสวียนหยูปีนขึ้นไปบนนั้นอย่างว่าง่าย.

เสวียนจู และคนอื่น  ๆ ลังเลในตอนแรก

แต่เมื่อเห็นดวงตาที่ให้กำลังใจของหลินซวน พวกนางก็ปีนขึ้นไปอย่างกล้าหาญ

จากนั้นมังกรเกล็ดดำก็ว่ายไปรอบ ๆ สระน้ำโดยมีเด็กหญิงตัวน้อยอยู่บนหลัง ทำให้พวกนางหัวเราะชอบใจ.

“เสด็จพ่อครับ มังกรมันตัวยาวมาก ขอเล่นกระดานลื่นบนตัวมันได้ไหม”

หลังจากเล่นไปสักพัก เสวียนซี ก็ถามหลินซวนออกมาทันที.

ต้องรู้ด้วยว่าในสวนของพระราชวังหยกนั้นมีสถานที่ให้พวกนางเล่นกระดานลื่นอยู่นั่นเอง.

"แน่นอน!" หลินซวนโบกมือ และมังกรปีศาจเกล็ดดำก็พาเด็ก ๆ ไปที่ฝั่งอย่างเชื่อฟัง

หลังจากนั้นก็บิดตัวและกลายเป็นกระดานลื่นที่วนสูงสามชั้น

“ว้าว! นี่คือกระดานลื่นที่หมุนวนไปมาได้!”

"มันน่าทึ่ง มันต้องสนุกแน่!"

สาวน้อยต่างตื่นตะลึง!

พวกนางไม่เคยเห็นกระดานลื่นที่สามารถหมุนเป็นวงกลมมาก่อน

เจิ้งซี, ฮวนเจี๋ยเซียว และคนอื่น  ๆ เวลานี้ยิ่งพูดไม่ออกยิ่งกว่าเดิม.

ไม่มีใครคิดเลยว่าหลินซวน จะควบคุมมังกรปีศาจเกล็ดดำอย่างอย่างหมดจดเช่นนี้ได้

"ตี้ฟู่ ได้สร้างผลงานชิ้นเอกให้กับเด็ก ๆ แล้วจริง ๆ!"

หัวใจของทุกคนเต็มไปด้วยอารมณ์สั่นไหวอยู่พักหนึ่ง และพวกเขาก็ถูกครอบงำโดยวิธีการและภูมิปัญญาของหลินซวน

และในเวลาเดียวกัน

ติ๊ง!

ทันใดนั้นเสียงกลไกของระบบก็ดังขึ้น

“โฮสน์ปล่อยให้บุตรสาวของสัมผัสประสบการณ์กระดานลื่นที่แปลกใหม่ รับรางวัล: เนตรทองคำเพลิงศักดิ์สิทธิ์(หลี่ฮั่วจินตง)!”

“ให้ตายเถอะ นี่คือรางวัลระดับเทพชิ้นที่สองรองจากกายาศักดิ์สิทธิ์ฮุ่นตุ้น!”

หลินซวนมีความสุขมาก

เนตรทองคำเพลิงศักดิ์สิทธิ์นั้น สามารถใช้ดวงเนตรปลดปล่อยเนตรเพลิงหนานหมิงได้.

เพลิงศักดิ์สิทธิ์หนานหมิงนั้นคือหนึ่งในสิบเพลิงศักดิ์สิทธิ์ในสมัยโบราณ.

มีตำนานเล่าว่านี่คือเพลิงของสัตว์ร้ายหงส์แดง(จู่เซี่ย) ที่สามารถเผาไหม้ทุกอย่างได้.

ด้วยเหตุนี้ดวงตาของหลินซวนจึงกลายเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว.

เพียงกระพริบตาก็สามารถกระตุ้นจุดเพลิงศักดิ์สิทธิ์เผาไหม้ทุกสรรพสิ่งได้!

ติ๊ง!

“โฮสน์ต้องการถอนรางวัลหรือไม่?”

"ใช่!"

"ผสานดวงตาสีทองเพลิงศักดิ์สิทธิ์สำเร็จแล้ว!"

แสงสีทองแวววาวส่องประกายในดวงตาของ หลินซวน

ที่ใจกลางรูม่านตาของเขา มีเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์สีม่วงทองจาง  ๆ สว่างวูบวาบ

ในเวลาต่อมาเปลวไฟก็ถูกซ่อนเอาไว้อย่างลึกล้ำ

หลินซวนรู้สึกว่าเพลิงศักดิ์สิทธิ์หนานหมิงนั้นถูกซ่อนเอาไว้ในจิตสำนึกของเขา.

ตราบใดที่เขาต้องการ เขาสามารถปล่อยเพลิงศักดิ์สิทธิ์หนานหมิงออกมาได้ตลอดเวลา.

เจิ้งซี, ฮวนเจี่ยเซียว และคนอื่น  ๆ ที่อยู่ด้านข้างบังเอิญมองเห็นแสงสีทองในดวงตาของหลินซวน ทำให้หัวใจของพวกเขาหดตัวลงทันที

เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้สึกถึงความกดดันเป็นอย่างมาก จากสายตาของหลินซวน.

ภายใต้อำนาจสะกดข่มนี้ พวกเขารู้สึกราวกับว่าร่างกายและดวงวิญญาณพร้อมจะถูกเผาไหม้ให้เป็นเถ้าถ่านได้ตลอดเวลา.

“สมกับเป็นตี้ฟู่ เพียงแค่มองก็สามารถทำให้ร่างกายหลุดจากร่างได้ ช่างน่าเกรงขามนัก!”

เจิ้งซี, ฮวนเจี๋ยเซียวและคนอื่น  ๆ แอบเช็ดเหงื่อที่เย็นยะเยือบออกมา แทบไม่กล้าสบตากับหลินซวนอีก

หลังจากนั้นไม่นาน

หัวหน้าองครักษ์รีบเข้ามาในวังแล้วเอ่ยออกมาว่า "ตี้ฟู่ มีคนกลุ่มหนึ่งอยู่ข้างนอกพระราชวังขอร้องเข้าพบท่าน พวกเขาเอ่ยว่า มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์โหลวหยาง แดนศักดิ์สิทธิ์จิ่วโหยว และแดนศักดิ์สิทธิ์หานซิ่ว

เมื่อเจิ้งซีและคนอื่น ๆ ได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความตกใจ

พวกเขาได้ยินว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามได้ทำให้ตี้ฟู่ขุ่นเคือง.

นี่พวกเขาต้องการตายอย่างงั้นรึ?!

หลินซวนเอ่ยอย่างเฉยเมย "ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ"

แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามรวมหัวกัน บุกเข้าล้อมกรอบนิกายโหยวลั่ว เพื่อต้องการโลหิตของธิดาศักดิ์สิทธิ์เซียวเย่หราน.

เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดามาช้านานแล้วในโลกแห่งนี้ ผู้อ่อนแอตกเป็นเหยื่อผู้แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในแดนปิศาจแทบจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา.

หากไม่ใช่เพราะเซียวเย่หราน ได้พบกับหลินซวนโดยบังเอิญ คงถูกพวกเขาสังหารไปเรียบร้อยแล้ว.

ไม่นานหลังจากนั้น เซิ่งจู่ของแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามก็ก้าวเข้ามา.

จู่เทียนหยู จงติงเหล่ยและหลิงซู เดินเข้ามาด้วยความหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง.

เมื่อพวกเขาเห็นหลินซวน ก็เร่งรีบแสดงความเคารพออกมาทันที

“จู่เทียนหยูผู้นำแดนศักดิ์สิทธิ์โหยวหลาน จงติงเหล่ย ผู้นำแดนศักดิ์สิทธิ์จิ่วโหยวและหลิงซูผู้นำแดนศักดิ์สิทธิ์หานซิ่ว ขอวิงวอนจักรพรรดิเป่ยเสวียนเทียน!”

หลินซวนมองดูพวกเขาทั้งหมดและเอ่ยออกมาว่า“พวกเจ้าต้องการขออะไร?”

จู่เทียนหยูและพวกที่ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินสิ่งดังกล่าว.

ตามความหมายของตี้ฟู่ แสดงให้เห็นว่าตราบใดที่พวกเขาแสดงความจริงใจ ก็มีโอกาสชดใช้บาปของพวกเขาได้.

หลังจากที่ทั้งสามมองหน้ากันแล้ว จู่เทียนหยูก็นำแผ่นริ้วหยกออกมา.

“เรียนตู้ฟู่ นี่คือวิชาลับเสียงปิศาจ เป็นวิชาบ่มเพาะของแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา.”

"โปรดรับไว้ด้วย!"

หลินซวนเหลือบมองเล็กน้อย

วิชาต้องห้ามนี้ควรจะเป็นอาคมระดับสวรรค์ชั้นยอด มีคุณภาพค่อนข้างสูงทีเดียว.

แม้นว่าจะไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ ทว่าหลินซวนก็ยอมรับมันมา.

จงติงเล่ยและหลิงซูก็เองก็นำกล่องหยกขนาดเล็กออกมาด้วยเช่นกัน.

หนึ่งกล่องเป็นแผ่นริ้วหยกเป็นวิชาระดับสวรรค์ชั้นยอด อีกกล่องเป็นดาบเวทอาวุธจิตวิญญาณชั้นยอดเช่นกัน

หลินซวนเก็บสิ่งเหล่านี้ไปและเอ่ยออกมาว่า “ข้ายอมรับสิ่งเหล่านี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเจ้าจะสามารถวางใจในอนาคตได้!”

ม่านตาสีทอง เพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องประกาย พลังจิตยักษาที่แผ่ออกมาจากดวงตาของเขา.

แสงไฟที่ส่องประกายพลังจิตที่น่าพรั่นพรึง ทำให้พวกจูเทียนหยูรู้สึกราวกับว่าร่างกายของพวกเขาถูกย่างไปด้วยเปลวเพลิงที่ร้อนระอุ.

พวกเขาเข้าใจแทบจะในทันที ถึงพลังของตี้ฟู่.

หากตี้ฟู่ต้องการลงมือ พวกเขาทั้งสามย่อมถูกสังหารแทบจะในทันที.

“น่ากลัวไปแล้ว! โชคดีที่ข้าออกตัวสารภาพผิดก่อน ไม่เช่นนั้นเกรงว่าคงได้รับหายนะใหญ่แน่!”

พวกเขาแทบจะคิดเหมือน ๆ กัน พลางถอนหายใจที่พวกเขาตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด