บทที่ 81: ถ้ามีความเข้มแข็งก็ไม่ใช่เรื่องยาก!
อาหารบนโต๊ะ เจิ้งซีและคนอื่น ๆ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้หลินซวนพอใจ
ในสายตาของเจิ้งซีและคนอื่น ๆ จักรพรรดินีเสวียนปิงนั้นแข็งแกร่งและก้าวร้าว เต็มไปด้วยความอหังการ.
หากแต่ตี้ฟู่นั้นแตกต่างออกไป.
เขาไม่ได้เผยอำนาจหรือความอหังการ
ว่าเป็นผู้มากอำนาจแต่อย่างใด.
แม้แต่ดูเป็นกันเอง ทว่าพวกเขาก็ไม่อาจปล่อยให้เกิดความผิดพลาดใด ๆ ได้.
เขาที่เป็นน้องชายของกษัตริย์เจิ้งซ่งผู้ปกครองอาณาจักรหมื่นปิศาจในอดีต.
ทว่าเจิ้งซีนั้นกับรักษาตัวตนที่ต่ำมาก แทบไม่ต่างจากคนรับใช้ด้วยซ้ำ.
ด้วยเหตุนี้เมื่อเห็นหลินซวนที่รักษาสภาวะค้อมต่ำแต่กับดูสง่างามเป็นอย่างมาก ทำให้เขารู้สึกชื่นชมหลินซวนไม่น้อย.
หลินซวนที่ดูสงบไม่ใส่ใจใด ๆ ความสนใจของเขานั้นยังคงอยู่ที่บุตรสาวเสมอ.
สำหรับอาหารมื้อนี้ นอกเหนือจากการชนแก้วอย่างสุภาพกับเจิ้งซีและคนอื่น ๆ เขาก็ยังคงดูแลบุตรสาวของตัวเองด้วย.
ไม่ว่าจะคีบอาหาร หรือเช็ดปาก ล้วนแต่แสดงให้เห็นถึงการเอาใจใส่เป็นอย่างมาก.
ภาพฉากดังกล่าวนี้ทำให้เจิ้งซีและคนอื่น ๆ รู้สึกหัวใจสั่นไหวไปด้วยเช่นกัน.
“เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็น คนระดับตี้ฟู่จะใส่ใจและอ่อนโยนกับบุตรสาวของเขาถึงเพียงนี้!”
การแลกเปลี่ยนดื่มสุราผ่านไปแก้วแล้วแก้วเล่า.
ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากระยะไกล! ทำให้เหล่าเด็ก ๆ กรีดร้อง.
ภายในหมอกเวทนั้นล้อมรอบไปด้วยไอน้ำที่พุ่งกระฉูดขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยแรงกระแทกมหาศาล.
เสวียนจู่และคนอื่น ๆ หันศีรษะไปมองด้วยความประหลาดใจ: "โอ้ว เกิดระเบิดที่ไหน!"
สีหน้าของเจิ้งซีเปลี่ยนไป ถ้าเขาทำให้องค์หญิงตัวน้อยกลัว คงกลายเป็นเรื่องที่แย่แน่
เขารีบลุกขึ้นแล้วเอ่ยว่า "เรียนองค์หญิงทั้งสี่ นี่ไม่ใช่การระเบิด แต่เป็นการเล่นซนของมังกร!"
เมื่อได้ยินคำเอ่ยดังกล่าว ดวงตาของเด็กหญิงตัวน้อยก็เป็นประกายทันที
“มังกรปิศาจเหรอ? ดูน่าสนใจมาก!”
“ใช่แล้ว ไปดูกันเถอะ!”
หลังจากเอ่ยจบเสวียนจู่ และเสวียนหาน ก็กระโดดลงจากเก้าอี้พร้อม ๆ กัน
พวกนาง เช็ดมือที่มันเยิ้มด้วยผ้าเช็ดหน้าแล้ววิ่งไปดูมังกรทันที
เมื่อเสวียนซี และ เสวียนหยู เห็นว่าพวกนางเป็นผู้นำแล้ว ทั้งคู่ก็เช็ดน้ำมันจากมือบนเสื้อผ้าอย่างเร่งรีบ และตามพวกนางไปข้างหลัง ขาสั้น ๆ ที่สะบัดอย่างเร็วไว.
หลินซวนอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าและเผยยิ้มเมื่อเห็นพวกนางทิ้งรอยอุ้งเท้าเล็ก ๆ ของพวกนางเอาไว้บนเสื้อของเขา.
“เด็กน้อยพวกนี้ไม่สนใจจริง ๆ ขอเพียงแค่ได้เล่น”
เขาแผ่พลังวิญญาณออกมาทันทีและเปลี่ยนเป็นของเหลววิญญาณเพื่อซักชำระเสื้อผ้าให้สะอาด
จากนั้นก็ตามเด็กหญิงตัวเล็กไปที่ขอบสระน้ำขนาดใหญ่
หลินซวน เห็นว่าสระน้ำเต็มไปด้วยพลังอาคม.
มังกรดำตัวใหญ่ที่มีความยาวสี่ถึงห้าร้อยฟุตกำลังลอยคออยู่ในสระน้ำ
ด้วยตำราค่ายกลสิบทิศ หลินซวนสามารถมองเห็นได้ว่าสระน้ำและหมอกเวทที่อยู่รอบ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ว่ามันคือค่ายกลแบบหนึ่ง.
“นี่คือค่ายกลดักจับมังกร”
เจิ้งซีเอ่ยอธิบาย: "มังกรปีศาจตัวนี้มาจากทะเลปีศาจดำทางตะวันตกของอาณาจักรหมื่นปีศาจของพวกเรา มันถูกเรียกว่ามังกรลึกล้ำเกล็ดดำ"
“มังกรตัวนี้มีความดุร้ายโดยธรรมชาติ เมื่อมันโกรธ มันสามารถทุบเนินเขานับแสนลูกให้สลายไปได้ในพริบตา มันยากมากที่จะเชื่อง จึงถูกจับมากักขังอยู่ในสระนำแห่งนี้เพื่อทำให้เชื่อง”
เสวียนจู่และคนอื่น ๆ มีสีหน้าตื่นตะลึง!: "ว้าว จับมังกรที่ทรงพลังขนาดนี้ได้ น่าทึ่งมาก!"
เจิ้งซีหัวเราะเบา ๆ และเอ่ยออกมาว่า "นั่นเพราะว่าคนที่จับมันเป็นอาจารย์สัตว์อสูรที่ทรงพลังที่สุดในอาณาจักรหมื่นปีศาจของเรา"
ในขณะที่เขากำลังเอ่ย ร่างสูงสีดำก็โผล่ออกมาจากหมอกเวทข้าง ๆ เขา
เจิ้งซีชี้ไปที่อีกฝ่ายแล้วเอ่ยว่า "องค์หญิง เขาคืออาจารย์อสูรที่ข้าเอ่ยถึง!"
“อาจารย์ฮวนไม่เพียงแต่แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักรหมื่นปิศาจของพวกเรา แต่ยังเป็นอาจารย์สัตว์อสูรหนึ่งในห้าอันดับแรกของภาคตะวันออกแดนปิศาจสวรรค์ด้วย!”
เวลาเดียวกันฮวนเจี๋ยเซียวที่อยู่ริมสระน้ำ เขาที่พอจะรู้ตัวตนของหลินซวนและเด็กหญิงตัวน้อยได้.
เขารีบก้าวไปข้างหน้าพร้อมเอ่ยทักทาย“ผู้น้อยทักทายตี้ฟู่และองค์หญิงทั้งสี่!”
เสวียนจู ชี้ไปที่มังกรดำลึกล้ำแล้วถามหวนเจี่ยเซียว "คุณลุง ท่านจับมังกรตัวใหญ่ขนาดนี้ได้อย่างไร"
หวนเจี่ยเซียวที่เอ่ยด้วยความภาคภูมิใจ
“ผู้น้อยทำงานหนักด้านดูแลปกป้องสัตว์ร้ายมากว่า 6,000 ปี ทำให้ได้เรียนรู้พระสูตรหัวใจอสูรที่ทรงพลังมา.”
“ด้วยการใช้พระสูตรหัวใจอสูร ทำให้สามารถสื่อสารกับจิตใจของสัตว์อสูรทั้งหมดได้ ดังนั้นจึงควบคุมพวกมันได้ แม้แต่สามารถสั่งการให้พวกมันกระทำตามใจต้องการได้”
"ฟังดูน่าทึ่งมาก!"
"ใช่ ๆ!"
เสวียนจู และคนอื่น ๆ แสดงความชื่นชม
เมื่อฮวนเจี๋ยเซียวเห็นสิ่งนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าได้รับคำชมจากองค์หญิงมากมาย วันนี้หน้าใหญ่จริง ๆ
เจิ้งซีเอ่ยด้วยท่าทางพอใจ: "ท่านอาจารย์ฮวน เนื่องจากองค์หญิงชอบมันมาก ดังนั้นท่านควรสั่งให้มังกรลึกล้ำเกล็ดดำเคลื่อนไหวทำการแสดงเล็กน้อยเพื่อให้องค์หญิงได้ชม"
"ได้!"หวนเจี่ยเซียวตอบรับทันที.
เขาจะพลาดโอกาส ที่จะสามารถแสดงความสามารถต่อหน้า ตี้ฟู่ ได้อย่างไร
หลังจากนั้น!เขาไปที่สระน้ำและร่ายคาถาลึกลับเบา ๆ จากนั้นก็ชี้มือขวาชี้ไปทางมังกรปิศาจเกล็ดดำ.
"เงยหน้าไป!"
มังกรปีศาจเกล็ดดำที่รีบผุดขึ้นมาจากผิวน้ำ หัวของมันที่เงยสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว.
“ว้าว น่าทึ่งมาก!”
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เต้นรำอย่างมีความสุขเมื่อได้เห็นมัน
หวนเจี่ยเซียวเอ่ยออกมาอีกครั้ง“อ้าปากแล้วแลบลิ้นออกมา!”
มังกรปีศาจเกล็ดดำก็ทำตามทันที.
"ว้าว เยี่ยมมาก!"
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทุกคนกำหมัดเล็ก ๆ ของพวกนางและเต้นไปมา ด้วยความตื่นเต้นดีใจ.
เสวียนหยูอดไม่ได้ที่จะดึงแขนของ ฮวนเจี๋ยเซียว: "คุณลุง ข้าขี่มันได้ไหม?"
นางคิดกับตัวเองเสมอว่านางขี่สัตว์อสูรมามากมายแล้ว แต่นางยังไม่เคยขี่มังกรตัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
เสวียนจู,เสวียนซี และ เสวียนหาน ก็เริ่มสนใจเช่นกัน
แต่พวกนางทั้งหมดแสดงสีหน้าลังเล: "จะสามารถขี่มังกรที่ดุร้ายขนาดนี้ได้จริงเหรอ?"
"ไม่มีปัญหา!" ฮวนเจี๋ยเซียวเอ่ยด้วยความมั่นใจ"ข้าจะปล่อยให้มันว่ายมาที่นี่อย่างเชื่อฟัง และทำหน้าที่เป็นพาหนะสำหรับองค์หญิงทั้งสี่!"
หลังจากเอ่ยจบ เขาก็ยื่นมือออกไปหามังกรเกล็ดดำ: "ว่ายมาที่นี่เพื่อให้องค์หญิงขี่!"
แน่นอนว่ามังกรปีศาจเกล็ดดำ ดำดิ่งลงไปในน้ำและว่ายมาที่ฝั่ง
อย่างไรก็ตาม มันว่ายมาได้เพียงร้อยเมตรแล้วก็หยุดกะทันหัน
"มานี่สิ!" หานเจี่ยเซียวขมวดคิ้ว
เมื่อรู้สึกว่ามังกรปีศาจเกล็ดดำไม่เชื่อฟังเล็กน้อย เขาจึงกระตุ้นอาคมหัวใจอสูรทันที
เชิดหน้าขึ้น! - -
ทันใดนั้นมังกรมารเกล็ดดำก็ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างรุนแรง และพลังปิศาจสีดำที่น่าสะพรึงกลัวก็ลอยฟุ้งกระจายไปทั่วท้องฟ้า ร่างของมันสั่นไปมาขัดขืนจนเขย่าผิวน้ำจนหยดน้ำแตกกระเซ็นไปทั่ว
เจิ้งซีตกใจเมื่อเห็นสิ่งนี้ จึงเอ่ยออกมาว่า: "ดูเหมือนว่ามังกรจะโกรธ!"
หวนเจี่ยเซียวเริ่มกังวลทันทีที่เขาได้ยิน และกระตุ้นแก่นแท้ที่แท้จริงในร่างกายของเขามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังรวมพลังสร้างบอลอามคมที่มีพลังสายฟ้าขึ้นที่ฝ่ามือขึ้นด้วย.
“ดูเหมือนว่าเจ้าคงไม่เชื่อฟังหากไม่สั่งสอนสักหน่อย!”
หวีด!
เขายิงบอลเวทไปที่มังกรเกล็ดดำ
ปัง
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของมังกรปีศาจเกล็ดดำนั้นเทียบเท่ากับอสูรยักษ์ระดับ 1 และการโจมตีของฮวนเจี๋ยเซียวไม่ได้สร้างปัญหาใด ๆ กับมันเลย.
นอกจากนี้หลังจากถูกยิงด้วยบอลเวทดูเหมือนว่ามันจะบ้าคลั่ง คำรามออกมาเสียงดังกึกก้อง พร้อมกับสะบัดหางฟาดผืนน้ำอย่างรุนแรง.
ในเวลาเดียวกัน หัวมังกรก็ยกสูงขึ้น นอกจากนี้มันยังรวมพลังเวทสร้างลูกไฟขึ้นที่มากของมันเพื่อเตรียมโจมตีออกมา.
เมื่อเห็นฉากนี้ ไม่เพียงแต่ฮวนเจี๋ยเซียว เจิ้งซี และคนอื่น ๆ เท่านั้นที่ตื่นตะลึงตกใจเป็นอย่างมาก.
“เป็นไปได้ยังไง? ศิลปะหัวใจอสูรของข้า ไม่อาจควบคุมมันได้ ซ้ำยังทำให้มันดุร้ายยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วย!”
ฮวนเจี่ยเซียวอดไม่ได้ที่จะหลั่งเหงื่อที่เย็นยะเยือบออก,k
จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่สุขุมเงียบสงบดังขึ้นที่ข้างหลังเขา
“จริง ๆ แล้วเทคนิคการปกป้องสัตว์ร้ายและเทคนิคการควบคุมคนก็เหมือนกัน”
“ถ้าเจ้าต้องการให้มันเชื่อฟังเจ้าอย่างสมบูรณ์ เจ้าต้องทำให้มันยอมจำนนอย่างราบคาบ ไม่ให้มันกล้าต่อต้านแม้แต่ในก้นบึ้งของหัวใจของมัน”
หวนเจี่ยเซียว หันกลับมาอย่างรวดเร็วและสอบถาม:
“เรียนตี้ฟู่! ตอนนี้มันโกรธเกรี้ยวจนไม่อาจควบคุมได้ แล้วจะทำให้มันเชื่องได้อย่างไร?”
เขาคิดกับตัวเอง ในเมื่อตี้ฟู่สามารถเอ่ยความจริงนี้ออกมาได้ เป็นไปได้ว่ามีความรู้บางอย่างเกี่ยวกับการควบคุมสัตว์อสูรเช่นกัน.
ท้ายที่สุดแล้ว คนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาก็คือ สวามีของจักรพรรดินิแห่งเป่ยเสวียนเทียน ย่อมต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว.
หลินซวน เอ่ยเบา ๆ : "เป็นการดีกว่าที่จะควบคุมสัตว์ร้ายให้สมบูรณ์ เช่นมังกรปีศาจเกล็ดดำตนนี้"
หวนเจี่ยเซียว ส่ายหน้าและยิ้มอย่างขมขื่น: "มันยากกว่าการปีนขึ้นสวรรค์ หากต้องการควบคุมมังกรปีศาจเกล็ดดำนี้ให้สมบูรณ์!"
“มังกรปิศาจตัวนี้มีอายุมากกว่า 8,000 ปี แม้ว่าศาสตร์หัวใจอสูร จะเป็นทักษะสวรรค์ขั้นสูง กระทั่งเมื่อฝึกฝนสำเร็จแล้ว ก็ยังยากจะควบคุมมันได้สมบูรณ์!”
หลินซวนเผยยิ้มเล็กน้อย: "ถ้ามีความแข็งแกร่งก็ไม่ยาก"
หลังจากเอ่ยจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองดูมังกรปิศาจเกล็ดดำที่กำลังจะโจมตี เอ่ยเบา ๆ : "ลงมา"
พวกเขากระทั่งฮวนเจี่ยเซียวล้วนแต่ตกใจ
หลังจากที่หลินซวนเอ่ยจบ มังกรปีศาจเกล็ดดำก็ลดหัวของมันลงผืนน้ำ ราวกับเปลี่ยนแปลงอารมณ์อย่างรวดเร็ว.
เหลือเพียงส่วนหัวที่มองมายังหลินซวน บุรุษในชุดสีขาวที่ยืนอยู่บนฝั่งด้วยความหวั่นเกรง!