บทที่ 36 อาจารย์ของหลินหยู่
บทที่ 36 อาจารย์ของหลินหยู่
เช้าวันรุ่งขึ้น...
ณ บริษัทซูซิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
วันนี้ ซูเฉียนโม่สวมชุดสูท OL และกระโปรงสีดำช่วยเน้นรูปร่างโค้งมนของเธออย่างสง่างามมาก
ถุงน่องสีเนื้อมันวาวเล็กน้อยที่ขาของเธอ ทำให้เรียวขาที่สวยงามของเธอดูเซ็กซี่ยิ่งขึ้น
เธอดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ดุจปานนางฟ้าบนสวรรค์ชั้นที่เก้า ความเย็นชาและความเซ็กซี่รวมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนกลายเป็นความสง่างามที่หาที่เปรียบได้ยาก
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ซูเฉียนโม่ไม่ได้คิดที่จะแต่งตัวเซ็กซี่เลย
แต่ด้วยรูปร่างที่เย้ายวนของเธอ ไม่ว่าเสื้อผ้าจะธรรมดาขนาดไหน เมื่ออยู่บนตัวของซูเฉียนโม่แล้ว มันก็ยังดูสวยงามและเป็นสง่าอยู่เสมอ
เมื่อตอนบ่ายเธอไม่ได้เข้าบริษัท เพราะหลังจากที่เธอกลับมาจากหาดส่วนตัวของกู่เฉินหนาน เธอก็อารมณ์ไม่ดีมาก และถึงตอนนี้ เธอก็ยังอารมณ์ไม่ดี
ดังนั้นของขวัญที่หลินหยู่ส่งไปเมื่อวาน มันจึงยังไม่ถึงมือของซูเฉียนโม่
วันนี้ทันทีที่ซูเฉียนโม่มาถึงห้องทำงาน เลขานุการเสี่ยวเฉินก็รีบเข้าไปหา
"ท่านประธานซู มีคนส่งของขวัญให้คุณเมื่อวานนี้ค่ะ"
"โอ้? อะไรนะ?"
ซูเฉียนโม่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ทันทีที่เธอได้ยินคำพูดนี้ คนที่ปรากฏในใจของเธอก็คือกู่เฉินหนาน
"รอสักครู่นะคะ ท่านประธานซู"
เสี่ยวเฉินเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกระเป๋าสะพายสีดำและตะกร้าดอกกุหลาบสีสดใสที่อยู่ในมือของเธอ
เมื่อเห็นกระเป๋าและดอกกุหลาบใบนี้ ดวงตาที่สวยงามของซูเฉียนโมก็ชำเลืองมอง
แม้ว่าจะมีหลายคนที่ให้ของขวัญแก่เธอในตงไห่ แต่ดูเหมือนว่าคงมีเพียงกู่เฉินหนานเท่านั้นที่จะมอบดอกกุหลาบให้เธอแบบนี้
ทำให้ซูเฉียนโม่รีบถามไปว่า "ใครส่งมา?"
เธอคาดหวังว่าเสี่ยวเฉินจะพูดชื่อกู่เฉินหนาน
แต่...
เสี่ยวเฉินส่ายหัว "เด็กชายตัวน้อยเอามาให้ค่ะ ส่วนใครเป็นคนส่งของขวัญเขาไม่ได้บอก"
“ฉันเข้าใจแล้ว...”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูเฉียนโม่ก็ผิดหวังเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้ เมื่อกู่เฉินหนานส่งของขวัญมาให้ เขามักจะส่งของขวัญด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่ ต่อให้เขาส่งใครมา เขาก็จะบอกว่าผู้ส่งเป็นชื่อตัวเอง
แต่คราวนี้ ผู้ให้ของขวัญกลับไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเขา
มันอาจจะไม่ใช่กู่เฉินหนานก็ได้...
ซูเฉียนโม่กัดริมฝีปากสีแดงของเธอ และถอนหายใจเบา ๆ
"ทิ้งดอกไม้ไป เก็บกระเป๋าไว้ในห้องรับฝากของ"
เนื่องจากไม่ใช่กู่เฉินหนาน ซูเฉียนโม่จึงไม่สนใจว่าเป็นใคร
เพราะว่ามันมีผู้คนมากมายในตงไห่ที่สนใจเธอ คงไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยหากจะบอกว่ามีคนที่ไล่ตามจีบเธอตั้งแต่ตงไห่ไปจนถึงซูโจว
ดังนั้น ของขวัญที่เธอมักจะได้รับจะถูกเก็บไว้ในห้องรับฝากของก่อน และเสี่ยวเฉินจะทำความสะอาดมันทุกเดือน
"ค่ะ ท่านประธานซู"
เสี่ยวเฉินหยิบดอกกุหลาบขึ้นมา และกำลังจะโยนมันลงในถังขยะนอกประตู
แต่ในขณะนั้นเอง เธอจำสิ่งที่เด็กน้อยบอกเธอ เมื่อวันก่อนนี้ได้
"โอ้ จริงสิค่ะ ประธานซู"
เสี่ยวเฉินหยุดและหันกลับมา "คน ๆ นั้นยังขอให้เด็กน้อยส่งข้อความเมื่อวานนี้ด้วย"
"เขาบอกว่า ฉันจะไม่มีวันลืมข้อตกลงของเรา"
เมื่อได้ยินดังนั้น เปลือกตาของซูเฉียนโม่ก็คล้ายหดลงอย่างกะทันหัน ลมหายใจของเธอหยุดลงชั่วขณะ
“คุณชายกู่! ต้องเป็นคุณชายกู่แน่!”
สิ่งที่ฉันขอให้คุณชายกู่สัญญากับฉันที่ชายหาดเมื่อวันก่อน มันคือการพูดประโยคนี้!
หัวใจของซูเฉียนโม่อบอุ่นขึ้นมาอีกครั้ง และจมูกของเธอรู้สึกเปียกชื้น เธอเกือบจะร้องไห้ออกมาต่อหน้าเสี่ยวเฉิน
"เดี๋ยวก่อน!" ซูเฉียนโม่ร้องเรียกเสี่ยวเฉินที่กำลังจะทิ้งดอกกุหลาบ
"คะ ท่านประธานซู?" เสี่ยวเฉินโค้งคํานับเล็กน้อย
ลำคอของซูเฉียนโมสั่น และเธอพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า "เก็บดอกไม้ หาแจกันมาใส่ และอย่าเอากระเป๋าไว้ในห้องรับฝากของ"
เสี่ยวเฉินสับสนเล็กน้อย ทําไมท่านประธานซูถึงเปลี่ยนใจกะทันหัน?
"เข้าใจแล้วค่ะ ท่านประธานซู" เสี่ยวเฉินพยักหน้าตอบ
เสี่ยวเฉินวางดอกกุหลาบไว้บนโต๊ะกาแฟก่อน แล้วออกไปซื้อแจกัน
ในเวลานี้เอง ซูเฉียนโม่ลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานของเธอ แล้วเดินมาที่โต๊ะกาแฟ
เธอเอื้อมอันมือเรียวเล็กราวหยกที่ขาวเนียนไปหยิบดอกกุหลาบขึ้นมา โดยไม่สนใจหนามแหลมคมที่อยู่บนก้าน เธอเอามันมาจ่อจมูกแล้วสูดดมลึก ๆ
คุณชายกู่ จริง ๆ แล้ว...นายชอบฉันงั้นเหรอ?
ไม่เช่นนั้นนายจะให้ดอกไม้ฉันทำไม? แถมพูดคําสัญญาที่ฉันอยากขอให้คุณพูดอีก?
เมื่อคิดถึงสิ่งนั้น ก็ทำเอาซูเฉียนโม่น้ำตาคลอเบ้า
เธออดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมาเบา ๆ "คุณชายกู่... พวกเรา...จะแต่งงานตามสัญญาใช่ไหม?"
...
ในขณะเดียวกัน ภายในลานบ้านที่ตกแต่งสไตล์แบบจีนโบราณ ซึ่งซ่อนอยู่ท่ามกลางสวนไผ่
หลินหยู่กําลังฝึกศิลปะการต่อสู้แบบโบราณอยู่ ทั้งตัวเขารู้สึกสั่นสะท้าน
ความรู้สึกหดหู่ในใจของเขาพุ่งสูงขึ้น
เกิดอะไรขึ้น?
หลินหยู่ขมวดคิ้วด้วยความงุนงง
“อืม?”
ข้าง ๆ เขานั้นมีหญิงสาวคนหนึ่ง สวมกางเกงขาสั้นเหนือเข่า เผยให้เห็นเรียวขาขาวเนียน ยาว ใส่ถุงเท้ายาวถึงครึ่งแข้ง เธอหรี่ตามองสังเกตอาการผิดปกติของหลินหยู่
เธอดีดนิ้วใส่หลินหยู่สองที ก้อนหินในมือดีดดังป๊อก ใส่หน้าอกของหลินหยู่
หลินหยู่โยนทิ้งทันที
"อาจารย์ ทําไมถึง..." หลินหยู่ปิดหน้าอกของตนด้วยท่าทางสงสัย
ผู้หญิงคนนี้เป็นอาจารย์ของหลินหยู่ เธอคือทายาทของตระกูลศิลปะการต่อสู้โบราณในตงไห่ ถังหยุนจิน!
ถังหยุนจินตะคอกเบา ๆ พลางเหลือบมองหลินหยู่ "ฝึกสมาธิดี ๆ ทำไมฟุ้งซ่านขนาดนี้ เพราะงี้ฉันถึงต้องเรียกสติไง!"
"อาจารย์ ผมแค่...อารมณ์ไม่ดีเอง"
หลินหยู่ลุกขึ้นจากพื้นดิน และเดินเข้ามาหาถังหยุนจิน
เมื่อเห็นถังหยุนจินเบ้ปากแดง ๆ ของเธอและหันหน้าหนีไปทางอื่น ความต้องการบางอย่างก็เกิดขึ้นในใจของหลินหยู่
เขาอยากจะจับหน้าของถังหยุนจินกลับมาและจูบเธอแรง ๆ !
แต่เนื่องจากเขายังคงต้องฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณกับถังหยุนจินต่อไป อีกทั้งเขาก็เพิ่งมาเป็นลูกศิษย์ของเธอยังไม่นานด้วย
ดังนั้นหลินหยู่จึงทําได้เพียงระงับความต้องการของเขา และพูดด้วยรอยยิ้มที่อึดอัดใจ " โอ้ อาจารย์ มันเป็นความผิดของผมเอง อย่าโกรธเลยนะครับ"
ถังหยุนจินกอดอก เบ้ปากแล้วหันหน้าหนี "การแข่งขันศิลปะการต่อสู้โบราณของตระกูลเย่ กําลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วัน นายจะเข้าร่วมหรือเปล่า?"
"เข้าร่วมแน่นอนครับ ต้องเข้าร่วมอยู่แล้ว" หลินหยู่พยักหน้า
"ถ้าอย่างนั้นก็ต้องตั้งใจฝึกให้ดี!" ถังหยุนจินจ้องมองหลินหยู่อย่างหมดความอดทน
เมื่อได้ยินดังนั้น หลินหยู่ก็ลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหัน โค้งคำนับถังหยุนจินพร้อมมือประสานกัน และกล่าวอย่างจริงจังไปว่า “ศิษย์ผู้นี้จะมุ่งมั่นฝึกฝนอย่างหนัก และจะไม่ทำให้ท่านต้องอับอาย!”
“ฮึ! พูดน่ะง่ายกว่าลงมือ!” ถังหยุนจินพูดอย่างหมดความอดทน
เพราะหลินหยู่กลายเป็นศิษย์ของเธอ ทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ฝึกฝนอย่างหนัก แต่เขาก็ค่อนข้างเก่งในการประจบสอพลอ
หากไม่ใช่เพราะความเจ็บป่วยในวัยเด็กที่ทำให้เส้นลมปราณของเธอเสียหาย และทำให้ไม่สามารถต่อสู้ได้ เธอคงจะไม่มีทางถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้โบราณให้กับผู้อื่นแน่นอน
ในเนื้อเรื่องดั้งเดิม ถังหยุนจินมีอาการป่วยร้ายแรงในวัยเด็ก ซึ่งทิ้งอาการบาดเจ็บที่ซ่อนอยู่ไว้เบื้องหลัง ทำให้ไม่เพียงแค่เธอจะต่อสู้ไม่ได้ แต่เธอก็ไม่สามารถออกกําลังกายที่ต้องใช้กําลังมาก ๆ ได้เช่นกัน
นั่นคือเหตุผลที่เธอยอมรับหลินหยู่เป็นศิษย์ คิดส่งต่อศิลปะการต่อสู้โบราณของเธอให้กับเขา
ตามเนื้อเรื่องเดิม ถังหยุนจินถือเป็นซึนเดเระตัวจริง
เธอไม่เพียงแต่ใช้วาจาเหยียดหยาม แต่ในใจยังห่วงใยเขา เธอได้พัฒนาความรู้สึกที่มีต่อหลินหยู่ตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่ไม่เคยแสดงออกมาเลย
ในช่วงกลางของนิยาย หลินหยู่จะพบเห็ดวิญญาณอายุพันปีในภูเขาที่ไม่มีคนอาศัยอยู่อันแสนห่างไกล จากนั้นเขาใช้เห็ดวิญญาณเป็นยาที่ทําให้เส้นลมปราณของถังหยุนจินมีเสถียรภาพดีขึ้น
จุดเปลี่ยนในเนื้อเรื่องนี้ ยังทําให้ถังหยุนจินกลายเป็นหนึ่งในฮาเร็มของราชามังกราชามังกรหลินหยู่อย่างเป็นทางการ
ต้องบอกเลยว่าเนื้อเรื่องมันซ้ำซากจําเจมาก ชนิดที่คุณก็สามารถบอกตอนจบได้เลยตั้งแต่ต้น
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแบบโคตรถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น