บทที่ 1735 : ตบฉัน ตบฉัน ตบฉัน! (1) (ตอนฟรี)
บทที่ 1735 : ตบฉัน ตบฉัน ตบฉัน! (1) (ตอนฟรี)
ในความโกลาหลวุ่นวาย!
นักสู้ระดับเอกภพทั้งสามกำลังเร่งความเร็วท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวาย พวกเขารู้สึกถึงความปั่นป่วนที่อยู่ข้างหน้าและรู้สึกประหลาดใจ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“มีใครถูกอสูรโกลาหลปิดล้อมอยู่รึเปล่า?”
“เอาล่ะ ไปดูกันเถอะ!”
พวกเขาทั้งสามคุยกันโดยใช้การส่งสัญญาณเสียง จากนั้นจึงตัดสินใจเป็นเอกฉันท์ที่จะไปดู ถ้าเป็นนักสู้จากสถาบัน พวกเขาก็อาจจะสามารถช่วยเขาได้
นี่เป็นกฎที่รู้กันในดินแดนลับ
ในสถานการณ์ที่ไม่มีความขัดแย้งกัน พวกเขาจะช่วยเหลือกันหากทำได้
ด้วยวิธีนี้ เมื่อพวกเขาตกอยู่ในอันตรายในอนาคต คนอื่นก็จะมาช่วยเหลือพวกเขาด้วยเช่นกัน
การช่วยเหลือผู้อื่นก็เท่ากับการช่วยเหลือตัวเอง!
ในฐานะเพื่อนนักเรียนร่วมสถาบัน มันจึงมีความสนิทสนมกันอยู่แล้ว เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูกัน นอกนั้นก็ถือว่าเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนยังมีพรสวรรค์อันแข็งแกร่งอีกด้วย การมีเพื่อนที่แข็งแกร่งมากมายย่อมหมายถึงผลประโยชน์ในอนาคตที่มากขึ้นตามไปด้วย
แน่นอนว่าเงื่อนไขเบื้องต้นคือจะไม่มีใครยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยผู้อื่น
ถ้ามันเป็นศัตรู มันก็ยิ่งมีเหตุผลมากกว่านั้นให้ต้องพิจารณา
จะดีกว่าไหมถ้าจะเตะใครสักคนเมื่อพวกเขาล้มลง?
แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะเป็นนักเรียนของสถาบัน แต่เมื่อเป็นศัตรูกันแล้ว มันก็ไม่จำเป็นต้องคิดมากก็ได้
นอกจากนี้ พวกเขาก็อาจจะได้รับประโยชน์จากการทำเช่นนั้นด้วย
….
เหล่าอสูรโกลาหลอันทรงพลังระดับเอกภพได้รุมเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง เอลิซาเบธ ขาวน้อยและวิญญาณอัสนีพยายามต่อต้านพวกมันอย่างเต็มที่
พวกเขาถูกล้อมรอบไปด้วยอสูรโกลาหลแล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันรบกวนความก้าวหน้าของหวังเต็ง พวกเขาจึงทำได้เพียงขัดขวางอสูรโกลาหลเหล่านี้เอาไว้อย่างสิ้นหวัง แม้ว่ามันจะหมายถึงการได้รับบาดเจ็บเองก็ตาม
เอลิซาเบธมีบาดแผลมากมาย โดยมีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลของเธอ
ใบหน้าของเธอซีดมาก มันเผยให้เห็นสัญญาณของความอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังคงยืนหยัดต่อไป
ขาวน้อยเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน โคลนอีกาโลหิตจำนวนมากถูกทำลายลง และแม้แต่ร่างหลักก็ยังถูกปกคลุมไปด้วยบาดแผลและรอยเลือด ปีกที่มีลักษณะคล้ายเหล็กสีแดงเข้มตอนนี้ดูขาดรุ่งริ่ง
แสงที่ส่องสว่างรอบๆ วิญญาณอัสนีนั้นเองก็อ่อนลงมากแล้ว การต่อสู้อย่างต่อเนื่องทำให้พลังงานของมันหมดลงไปอย่างมาก มันสูญเสียท่าทางขี้เล่นและมีชีวิตชีวาไปแล้ว
“นายท่านเสร็จรึยังนะ?” เอลิซาเบธหันกลับมามองหวังเต็งอย่างกังวลใจ
เขายังคงนั่งขัดสมาธิและหลับตาอยู่ เขายังไม่บรรลุความก้าวหน้าของเขา
เธอสัมผัสได้ว่าออร่าของหวังเต็งกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ กระบวนการนี้ยังคงดำเนินอยู่
นักสู้ทั้งสามมาถึงบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว พวกเขาประหลาดใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้าพวกเขา
" นี่คือ…"
แม้จะมีอสูรโกลาหลมากมายอยู่ในพื้นที่นี้ แต่ความสนใจของพวกเขาก็ถูกดึงไปที่ความว่างเปล่าอันกว้างใหญ่ตรงหน้าโดยทันที
พวกเขาทั้งสามประหลาดใจ
“ช่างเป็นสถานที่ที่น่าทึ่งจริงๆ!”
“เรามาสายเกินไป ฉันไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะพบสถานที่แบบนี้ที่นี่ มันสมบูรณ์แบบสำหรับเราที่จะทำความเข้าใจกฎต้นกำเนิดของเรา”
“ดูสิ มีคนอยู่ตรงนั้นด้วย!”
“นั่นมันนักเรียนจากสถาบันเรานี่ เขาดูเด็กมากและหน้าไม่คุ้นเลย ฉันไม่เคยเห็นเขามาก่อน”
“จากออร่าของเขา เขากำลังทะลวงระดับอยู่ เขาดูเหมือนนักสู้ระดับนภานะ”
“ออร่าพลังของเขาน่ากลัวมาก พรสวรรค์ของบุคคลนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ”
แม้ว่าหวังเต็งจะยังไม่บรรลุการพัฒนาอย่างเต็มที่ แต่ความผันผวนของพลังที่เขาปล่อยออกมาจากร่างกายของเขานั้นก็น่าประหลาดใจอย่างยิ่ง
ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งสามจึงรู้สึกว่าออร่าของหวังเต็งนั้นเกินกว่านักสู้ระดับจักรวาลทั่วไป ดังนั้นเขาจึงต้องอยู่ที่ระดับนภาแน่!
“อีกาสีแดงตัวนั้นทรงพลังมาก มันอยู่ในระดับจักรวรรดิขั้นกลาง แต่มันก้สามารถต่อสู้กับอสูรโกลาหลระดับเอกภพได้ ความแข็งแกร่งของมันไม่ได้อ่อนแอไปกว่าลูกๆ ของเบเฮมอธจักรวาลเลย!”
“และนั่น… อืม สิ่งนั้นคืออะไร? มันเหมือนกับราชินีมนุษย์มด แต่เขาบนหัวของมันคืออะไรกัน?”
ความสนใจของนักสู้ทั้งสามถูกดึงไปที่ขาวน้อยและเอลิซาเบธ ความประหลาดใจในดวงตาของพวกเขาไม่ได้ลดลงแต่กลับแข็งแกร่งขึ้นแทน
รูปร่างหน้าตาของขาวน้อยยังค่อนข้างปกติ แต่รูปร่างหน้าตาของเอลิซาเบธก้ค่อนข้างแปลกประหลาดจริงๆ แม้แต่นักสู้ระดับเอกภพที่มีประสบการณ์อย่างพวกเขาก็ยังงุนงง
พวกเขารู้สึกเหมือนกับกำลังมองของแปลก!
พวกเขาประหลาดใจมากยิ่งขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่าความผันผวนที่แผ่ออกมาจากเอลิซาเบธนั้นอยู่ที่ระดับเอกภพ
นี่คือตัวตนระดับเอกภพ!
และดูเหมือนว่ามันจะกำลังปกป้องนักสู้มนุษย์อยู่ โดยต่อสู้กับอสูรโกลาหลที่อยู่รอบๆ
นี่คือ... สัตว์เลี้ยงของอีกฝ่ายหรอ?
ในทำนองเดียวกัน ขาวน้อยก็ทำให้ทั้งสามคนแอบประหลาดใจเช่นกัน สัตว์อสูรดาราจำนวนนับไม่ถ้วนแวบผ่านจิตใจของพวกเขา แต่กระนั้นมันก็ไม่มีสัตว์อสูรดาราตัวไหนเลยที่ดูเหมือนกับมัน
อีกาสีแดงเข้มตัวนี้… มีเอกลักษณ์เล็กน้อย!
ไม่ใช่ว่าความรู้ของพวกเขาขาดไป แต่เห็นได้ชัดว่าอีกาตัวนี้ไม่ธรรมดา
นอกจากนี้ ในบรรดาสัตว์อสูรดาราทั้งหมดที่พวกเขารู้จัก มันก็ไม่มีอีกาแบบนี้
ครู่หนึ่งทั้งสามก็งงงวย
" ห้ะ? ตรงนั้นมีก้อนสายฟ้าด้วยใช่รึเปล่า?” ทันใดนั้น นักสู้คนหนึ่งก็เห็นวิญญาณอัสนีกะพริบอยู่ท่ามกลางเหล่าอสูรโกลาหล เขาสับสนเพราะมองเห็นมันได้ไม่ชัด
“ห้ะ นั่นมันวิญญาณอัสนีนี่!”
ท้ายที่สุดแล้ว ในฐานะนักสู้ระดับเอกภพ หลังจากสังเกตมาสักระยะหนึ่ง พวกเขาก็จำก้อนสายฟ้านั้นได้และตกตะลึง
สิ่งมีชีวิตทั้งสามนี้ทำให้พวกเขาประหลาดใจสามครั้ง!
“วิญญาณอัสนีนี้เป็นของนักเรียนคนนั้นด้วยรึเปล่า?” หนึ่งในนั้นถามอีกสองคนผ่านการส่งสัญญาณเสียงหลังจากลังเลอยู่เล็กน้อย
“เป็นไปได้!” อีกคนพยักหน้า