Chapter 185 : ความตายของแฝดอสูร! (1)
ตูม!
เปลวเพลิง แสงสีแดงฉานและควันสีดำเข้าปะทะกันอีกครา
ชิมาดะ ริวยะยังคงไม่เสียเปรียบเหมือนเช่นเคย
อสูรโลหิตและอสูรตะกละสบตามองกันด้วยสีหน้ามืดครึ้ม
อันดับที่2ของตารางจัดอันดับนักสู้ขอบเขตที่7ทั่วโลกคู่ควรแล้วแก่ชื่อเสียง
ความแข็งแกร่งของคนผู้นี้สมชื่อแล้วจริงๆ! หนึ่งต่อสองแต่ก็ยังไม่เสียเปรียบ
ไม่รู้จริงๆว่าซาโต้ ทาเคะผู้นั้นไปหาตัวตนเช่นชิมาดะ ริวยะผู้นี้มาจากที่ใด
“สกิลประจำอาชีพของเขามันแปลกประหลาดมากแตกต่างจากข้อมูลที่พวกเราได้รับมาเป็นไหนๆ” อสูรตะกละเอ่ยเสียงแผ่ว
“น่าจะเป็นซาโต้ ทาเคะที่ซ่อนความลับนี้เอาไว้และไม่ได้บอกรายละเอียดให้หัวหน้าฟัง คนผู้นี้ทะเยอทะยานนัก”
อสูรโลหิตแค่นเสียงเย็น
เคร้ง!
เปลวเพลิงควบแน่นจนกลายเป็นโล่เพลิงและขวางกั้นปราณดาบสีเลือดขนาดมหึมาเอาไว้ได้อีกครา
“พวกนายสังหารหลานทั้งสองคนของพ่อบุญธรรม ฉันคงมองว่าเป็นคำสั่งของหัวหน้าองค์กรได้สินะ?” ชิมาดะ ริวยะเอยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
อสูรตะกละหัวเราะอย่างป่าเถื่อน
“จะเป็นคำสั่งของหัวหน้าหรือเปล่าก็ไม่เกี่ยว ฉันไม่ชอบเจ้าสองคนนั่นมานานแล้ว ฆ่าไปแล้วแล้วมันจะทำไม?”
อสูรโลหิตเองก็แค่นเสียงเย็นเช่นกัน
“ชิมาดะ ริวยะอย่าได้ลืมว่าหัวหน้าองค์กรคือหัวหน้าของทุ่งราบมหาสวรรค์ นายติดตามผิดคนแล้ว!”
สีหน้าของชิมาดะ ริวยะมืดครึ้มลงเล็กน้อย
ตัวเขานั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์กับหลานทั้งสองคนของซาโต้ ทาเคะมากนักแต่ซาโต้ ทาเคะนั้นคือพ่อบุญธรรมของเขา
ในเมื่อหลานของพ่อบุญธรรมตายเขาในฐานะลูกบุญธรรมย่อมไม่อาจปล่อยให้ฆาตกรรอดไปได้!
อย่างไรก็ตามแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้เสียเปรียบแต่ก็ยากนักที่จะสังหารหนึ่งในแฝดอสูรลงได้
การต่อสู้นั้นเป็นการยันกันไปกันมาเสียมากกว่า
‘บางทีเราน่าจะใช้พวกนักสู้ที่กำลังรับชมการแสดงพวกนี้ให้เป็นประโยชน์ได้’
ชิมาดะ ริวยะตรวจสอบสถานการณ์รอยๆโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวเรียบร้อยแล้ว
เขาเองก็มีสกิลคล้ายสกิลตรวจจับเช่นเดียวกันแต่ทางฝั่งของทุ่งราบมหาสวรรค์นั้นจะถูกเรียกว่า [สกิลเนตรจิตวิญญาณ]
มันสามารถตรวจจับสิ่งมีชีวิตภายในระยะทำการได้
‘ตรงไหนมีคนก็ล่ออีกฝ่ายไปตรงนั้น ที่ใดมีคนที่นั่นย่อมมีตัวแปร’
‘ถ้าจำไม่ผิดคนผู้นั้นที่ขาข้างหนึ่งถูกอสูรโลหิตตัดขาดตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการต่อสู้น่าจะเกลียดชังอสูรโลหิตไม่น้อย’
หนนี้ชิมาดะ ริวยะเข้าโจมตีด้วยพลังทั้งหมดที่มี เปลวเพลิงควบแน่นกันอย่างบ้าคลั่งและก่อตัวขึ้นเป็นหัวมังกรดูดุดันในเวลาเพียงเสี้ยวพริบตา
คนทั้งสามค่อยๆขยับเข้าใกล้กับชายขอบขอบการต่อสู้มากขึ้นเรื่อยๆซึ่งนั่นก็คือจุดที่ฮิราโนะ ยูตะหลบซ่อนตัวอยู่!
เมื่อได้ยินเสียงการต่อสู้ที่ดังขึ้นและดังขึ้นเรื่อยๆ ฮิราโนะ ยูตะก็พลันหนาวสั่นไปทั้งใจ
สิ่งที่เขากังวลในที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้
การโจมตีของคนทั้งสามใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆแล้วจริงๆ
“เวรเอ๊ย...เวรเอ๊ย! ทำยังไงดี? ฉันจะทำยังไงดี?!” ฮิราโนะ ยูตะคิดสะระตะในหัวแต่กลับพบอย่างสิ้นหวังว่าตัวเขานั้นไร้ทางหนีแม้จะใช้ทุกวิถีทางที่ตนมีก็ตาม
สุดท้ายเขาย่อมต้องถูกลูกหลงจากการต่อสู้ของคนทั้งสามสังหารในที่สุด!
“แทนที่จะตายอย่างสับสนสู้สู้ให้ถึงที่สุดยังดีซะกว่า ขาของฉันถูกอสูรโลหิตตัดออกไปแล้วดังนั้นฉันต้องทิ้งบาดแผลเอาไว้ให้อีกฝ้ายบ้างถึงแม้ต้องเสี่ยงชีวิตก็ตาม!”
“ส่วนอสูรโลหิตจะตายหรือไม่นั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของชิมาดะ ริวยะไป!”
ฮิราโนะ ยูตะกัดฟันแน่นและเตรียมจะสู้ตายกับอีกฝ่าย
ต่อให้เขาต้องตายเขาก็จะลากใครซักคนไปกับเขาให้ได้!
พริบตาต่อมาฮิราโนะ ยูตะก็ใช้ขาที่เหลือเพียงข้างเดียวกระโจนขึ้นไปบนอากาศ
จากนั้นเขาก็เหวี่ยงดาบใหญ่โดยใช้พลังทั้งหมดหวดฟาดที่ไปแผ่นหลังของอสูรโลหิตอย่างป่าเถื่อน!
อสูรโลหิตเองก็มี [เนตรจิตวิญญาณ] เช่นกันแต่ [เนตรจิตวิญญาณ] ของเขานั้นเทียบไม่ได้เลยกับของชิมาดะ ริวยะดังนั้นเขาจึงไม่อาจตรวจพบฮิราโนะ ยูตะตั้งแต่เนิ่นๆ
เมื่อตอนที่เขารู้ตัวก็เป็นตอนที่หลังของเขากำลังหันให้กับดาบใหญ่ของอีกฝ่ายไปแล้ว ตัวเขาที่ไร้ทางเลือกได้แต่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการโจมตี
ชิมาดะ ริวยะ
เองก็คาดการณ์ถึงจุดนี้เอาไว้แล้ว
เปลวเพลิงจู่ๆก็พลันควบแน่นอยู่รอบกายของเขาก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นหอกเพลิงยาวกว่าสามเมตรและเสียบแทงไปที่หัวใจของอสูรโลหิตอย่างป่าเถื่อน!
เมื่อครู่นั้นเนื่องจากตัวเขาไม่มีทางเลือกได้แต่ต้องหลีกเลี่ยงดาบใหญ่ของฮิราโนะ ยูตะทำให้ดูเหมือนกับเขากระโจนเข้าไปหาหอกด้วยตัวเอง
ดวงตาของอสูรโลหิตเบิกกว้างด้วยความโกรธ
กระจกโบราณบานหนึ่งจู่ๆก็พลันปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา เมื่อกระจกโบราณสัมผัสเข้ากับหอกมันก็พลันแตกสลายกลายเป็นพันๆชิ้นในชั่วพริบตา
พลังทำลายของหอกเพลิงเองก็ลดลงไปกว่า50%
ไม่ใช่เพียงเท่านั้นอสูรโลหิตยังชูแขนขึ้นอีกด้วย โล่ทรงกลมขนาดเล็กที่ดูธรรมดาๆทั่วๆไปพลันปรากฏใบลวดลายสีแดงน่าเกรงขามของวิญญาณร้ายขึ้นมา
ลวดลายวิญญาณร้ายนั้นพุ่งออกมาจากโล่ทรงกลมและปะทะเข้ากับหอกเพลิง
พลังของหอกเพลิงลดลงอีกครั้งเหลือเพียง20%เท่านั้น
ปัง!
หน้าอกของอสูรโลหิตถูกเจาะทะลุและร่างกายเองก็ปลิวกระเด็นออกไปไกลและหลังจากปะทะกับต้นไม้จนล้มโค่นไปหลายต้นถึงหยุดลง
แม้ว่าพลังของหอกเพลิงจะถูกลดลงเหลือเพียง20%แต่การโจมตีนี้ก็ยังโจมตีเข้าจุดตายของเขาทำให้เขาได้รับความเสียหายไปเกือบ50%!
อย่างไรก็ตามเมื่อหอกเปลวเพลิงสลายหายไปแล้วชิมาดะ ริวยะเองก็ครางเบาๆออกมาเช่นกัน
ดูเหมือนเขาจะได้รับความเสียหายไม่น้อย
ใบหน้าของอสูรตะกละซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดอยากจะพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายทันทีหากแต่ชิมาดะ ริวยะกลับไม่ให้โอกาสเขาได้ทำเช่นนั้น
เขาเรียกเปลวเพลิงออกมาล้อมรอบตัวและควบแน่นพวกมันกลายเป็นโซ่ยาวก่อนจะปาออกไปพันธนาการอสูรตะกละเอาไว้
ในเวลาเดียวกันเขาก็ฝืดรีดพลังชีวิตเล็กน้อยเพื่อควบแน่นหอกเพลิงขนาดความยาวหนึ่งเมตรขึ้นมาเพื่อโจมตีอสูรโลหิต
ในเวลานี้เขานั้นต้องแบ่งความคิดอย่างสุดโต่งเพื่อโจมตีอสูรโลหิตและอสูรตะกละในเวลาเดียวกัน!
ฮิราโนะ ยูตะในเวลานี้เองถูกการโจมตีสวนกลับของอสูรโลหิตจนร่างทั้งร่างปลิวกระเด็นและหน้าอกเองก็ยุบยวบจนต้องกระอักเลือดออกมา
พลังชีวิตของเขาลดลงราวกับน้ำพุ
ในเวลานี้ตัวเขานั้นอยู่กึ่งกลางของการต่อสู้
การต่อสู้ระหว่างอสูรตะกละและชิมาดะ ริวยะกำลังจะเกิดขึ้นตรงที่เขาอยู่
ในตอนที่เขาคิดว่าตัวเองคงไม่รอดแน่จู่ๆรสสัมผัสหวานหอมอบอุ่นของโพชั่นฟื้นฟูพลังชีวิตพลันถูกกรอกเข้ามาในปากของเขาดึงพลังชีวิตของเขากลับคืนมาราวกับปาฏิหาริย์!