ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 69 วิธีที่ง่ายที่สุด หยาบคายที่สุด และได้ผลที่สุด

ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 69 วิธีที่ง่ายที่สุด หยาบคายที่สุด และได้ผลที่สุด

“อย่าเข้ามา...”

“ฆาตกร เจ้าฆาตกร...”

“อสูรร้าย คำพูดของท่านอาจารย์ไม่เกินจริงเลย พวกเจ้าตระกูลหลัวทั้งหลายนั้นล้วนเป็นอสูรร้าย...”

เสียงกรีดร้อง

เสียงร้องไห้

เสียงขอร้อง

ดังก้องอยู่ในดินแดนเต๋าอนันต์นี้ไม่หยุดหย่อน

คิดจะต่อต้านหรือ?

เมื่อตระกูลหลัวไม่ได้ลงมือ การต่อต้านของประชาชนอาจยังมีผลบ้าง

แต่เมื่อตระกูลหลัวตัดสินใจเริ่มการสังหาร

การต่อต้านหรือ?

นี่เป็นเพียงเรื่องตลก

ในหมู่กองทัพผู้บำเพ็ญเพียรนับล้าน ผนวกกับตระกูลหลัว และผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนที่บรรพบุรุษหลัวจิ่วเกอพากลับมา ประชาชนในดินแดนเต๋าอนันต์จะมีสิทธิ์ต่อต้านได้อย่างไร?

ในเวลานี้พวกเขาเป็นเพียงฝูงแกะที่รอถูกฆ่า และสั่นคลอนด้วยความหวาดกลัว

“เจ้าอาวาส”

“คนของตระกูลหลัวทำเกินไปแล้ว”

“พวกเขากล้าสังหารประชาชนที่ไร้เดียงสาเช่นนี้”

ภายในราชวงศ์แห่งหนึ่ง

เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวเริ่มขึ้นอย่างช้า ๆ

นั่นคือสถานะของเจ้าอาวาสวัดสมบัติวิญญาณ มลฑลตงหวง

เขามองการสังหารด้วยสีหน้าที่กลายเป็นเยือกเย็น

“ใช่แล้ว”

“ตระกูลหลัวทำเกินไป”

“สงครามระหว่างผู้บำเพ็ญเพียร ประชาชนไร้เดียงสาจะมีความผิดได้อย่างไร?

คู่เจิ้นกระซิบเบา ๆ

เขามองพวกทหารที่สวมเกราะเหล็ก ถือกระบี่ และเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร

ในดวงตาของเขา มีแววตาแห่งการสังหารพลันผ่านไป

สำหรับตระกูลหลัว บางที ประชาชนเหล่านี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้ แต่สำหรับวัดบรรพตขจี วัดสมบัติวิญญาณ มลฑลตงหวง แม้กระทั่งพุทธศาสนาทั่วโลก ประชาชนเหล่านี้คือผู้นับถือที่ศรัทธาอย่างยิ่ง เป็นผู้ที่ให้พลังแห่งศรัทธา

อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ ผู้นับถือพุทธศาสนาจำนวนมากถูกตระกูลหลัวสังหาร

ในฐานะเจ้าอาวาสวัดสมบัติวิญญาณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์พุทธศาสนาของมลฑลตงหวง คู่เจิ้นจะทนได้อย่างไร?

“ข้า คู่เจิ้น เจ้าอาวาสวัดสมบัติวิญญาณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์พุทธศาสนาของมลฑลตงหวง”

“เมื่อเห็นผู้นับถือพุทธศาสนาถูกทุกข์ยาก ข้าจะนิ่งดูดายได้อย่างไร?”

“ลงมือ”

ตามคำสั่งของคู่เจิ้น ข้าง ๆ เขา พระภิกษุ 20 รูป ที่สวมผ้ากาสาวะ ถือลูกประคำ และมีหัวเหมือนไข่ต้มทั้งหลายต่างเดินเร็วไปข้างหน้า จนกระทั่งไปถึงสนามรบที่ตระกูลหลัวสังหารประชาชน จึงเริ่มลงมือช่วยเหลือประชาชน

แม้คู่เจิ้นจะสามารถช่วยทั้งสิบคน ร้อยคน พันคน หมื่นคน แล้วเขาจะช่วยได้ครบทั้งแสนคน ล้านคน หรือหลายล้านคนได้หรือ?

คำตอบชัดเจน

น้ำจากฝักบัวไม่สามารถดับไฟป่าได้

กองทัพผู้บำเพ็ญเพียรของราชวงศ์หลัวมีมากกว่าล้านคน

สมาชิกตระกูลหลัวต่างก็เข้าร่วมกองทัพ ปฏิบัติตามคำสั่งของจ้าวตระกูล

การสังหารครั้งนี้ หากเริ่มแล้วก็ย่อมไม่มีทางย้อนกลับ

ดินแดนเต๋าอนันต์

ในนครจักรพรรดิของราชวงศ์หลัว

อาณาเขตตระกูลหลัว

ภายในห้องหนึ่งที่ดูโล่ง

หลัวเหิงกำลังก้มหน้าลงจัดการกับเรื่องราวต่าง ๆ

เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็เปิดเอกสารหนึ่งและบันทึกไว้ว่า

[ภายใน 3 วัน ประชาชนถูกสังหารมากกว่าหมื่นล้านคน]

[ภายใน 3 วัน ปราบปรามขุมอำนาจที่ต่อต้านทั้ง 52 ราชวงศ์]

[ทุกวัดในดินแดนที่ตระกูลหลัวควบคุมถูกทำลาย พระภิกษุทุกรูปที่พบถูกสังหาร]

หลังจากเห็นเอกสารนี้ หลัวเหิงนิ่งเงียบลงชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะส่ายหัวแล้วปิดมันลง

อำมหิตหรือ?

คงจะเป็นเช่นนั้น

ตั้งแต่หลัวเหิงขึ้นเป็นจ้าวตระกูลหลัวปัจจุบัน โลกนี้ที่เย็นชาและโหดร้ายบังคับให้เขาต้องใจดำอำมหิต

เพื่อตระกูลหลัว เขาก็ต้องไร้เมตตา

ในลานที่มีกลิ่นอายโบราณแห่งหนึ่งของตระกูลหลัว

หลัวยวี่กำลังจดจ่อศึกษาค่ายกล

เขาดูดซับความรู้ต่าง ๆ เข้าสู่ห้วงจิตใจ และหลัวจิ่วเกอก็นั่งอยู่ใต้ซุ้มหินอย่างสงบ

เขาถือถ้วยชาไม้ ในถ้วยมีชากระจ่างเต๋า

“ข้ารู้สึกเหมือนพายุกำลังจะมาถึง”

ในซุ้มหิน

หลัวจิ่วเกอหัวเราะขณะมองไปที่ท้องฟ้าด้านหน้าที่ดูเหมือนจะมืดครึ้ม

“นายท่าน”

ข้าง ๆ หลัวจิ่วเกอก็ปรากฏชายผู้หนึ่งสวมชุดดำ รูปร่างผอมบาง ร่างกายกลับแผ่กลิ่นอายขอบเขตสันติ 3 สวรรค์ออกมา

ไม่ผิด ชายคนนั้นคือหลัวฟู

บุคคลที่หลัวจิ่วเกอซื้อมาจาก [คุกนักโทษทองคำ]

“มีเรื่องอะไร?”

“เจ้าจัดการเรื่องนั้นเสร็จแล้วหรือ?”

หลัวจิ่วเกอจิบชากระจ่างเต๋าในมือ แล้วถามคนข้าง ๆ

“นายท่าน เรื่องนั้นเสร็จสิ้นแล้ว ต่อจากนี้ข้าก็เป็นเพียงผู้รับใช้ของนายท่าน นามว่าหลัวฟู”

นั่นคือคำตอบของหลัวฟู

“อืม ดีมาก”

“หากเช่นนั้น ข้าขอให้เจ้าไปยังดินแดนเต๋าอนันต์ นั่งคุมทิศทางที่คนของตระกูลหลัวอยู่”

“หากเด็ก ๆ ของเราไม่สามารถต่อสู้ได้ ข้าจะให้เจ้าช่วยเหลือ”

หลังจากนั้นไม่นาน หลัวจิ่วเกอพูดช้า ๆ

เขาก็ไม่รู้ว่าเหตุใดตัวเองถึงตัดสินใจเช่นนี้ เพราะความไม่สบายใจในใจหรือ?

มันไม่สำคัญแล้ว เมื่อมีหลัวฟู ผู้รับใช้ขอบเขตสันติ 3 สวรรค์อยู่ คงไม่มีใครในดินแดนเต๋าอนันต์ที่จะคุกคามกองทัพของตระกูลหลัวได้

การสังหารยังคงดำเนินต่อไป

ในดินแดนเต๋าขนาดเล็กเช่นนี้ โดยเฉพาะวัดบรรพตขจีที่เป็นขุมอำนาจชั้นนำ

ผู้นับถือพุทธศาสนามีอยู่อย่างมากมาย

แล้วราชวงศ์หลัวหรือ?

บางทีอาจเป็นเพราะตระกูลหลัวมีอำนาจสั่งสมอย่างเด็ดขาด ผู้นับถือพุทธศาสนาในราชวงศ์หลัวจึงมีไม่มากนัก

สามารถพูดได้เลยว่ามีน้อยมาก

แต่ในพื้นที่นอกราชวงศ์หลัว ที่มีสงครามทุกปี ประชาชนที่อดอยาก ไม่มีเสื้อผ้าใส่ ไม่มีบ้านอยู่ แม้กระทั่งมีชีวิตที่ไม่ต่างจากวัชพืช คนเหล่านี้ถือเป็นผืนดินชั้นเลิศสำหรับพุทธศาสนา

ผู้นับถือพุทธศาสนามากมายถูกล้างสมองไปอย่างต่อเนื่อง

ประชาชนมากมายมอบศรัทธาในพุทธศาสนา โดยหวังว่าการกระทำที่ดีจะนำพวกเขาเข้าสู่ดินแดนสุขาวดี

ดังนั้น...

เพียงแค่พวกพระภิกษุจากวัดบรรพตขจีลงมือ ทั้งดินแดนเต๋าอนันต์ก็จะโกลาหลไปหมด

หากตระกูลหลัวต้องการปกครองทั้งดินแดนเต๋าอนันต์ และกำจัดปัญหาที่พุทธศาสนาทิ้งไว้อย่างสิ้นเชิง ทางเลือกที่ปรากฏต่อหน้าตระกูลหลัวก็มีไม่มากนัก

บางทีอาจมีวิธีอื่น ๆ ในการแก้ปัญหา

แต่สำหรับหลัวเหิง การฆ่าล้างเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด หยาบกระด้างที่สุด แต่ก็เป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดเช่นกัน