ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 60 ผลเพลิงสีชาด
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 60 ผลเพลิงสีชาด
ไม่นาน
พวกเขาก็ได้ไปรายงานกับหลัวเหิง จ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบัน
ส่วนหลัวเหิงเมื่อได้ยินเรื่องนี้
ก็โบกมือใหญ่ปัดไปมา
บอกศิษย์ของสำนักอาภาทองคำไม่ต้องใส่ใจในเรื่องนี้อีก
โดยที่ใบหน้าตัวเองก็แดงขึ้นเล็กน้อย
เอาเข้าจริงแล้ว หากบรรพบุรุษนั้นจะกลับมาในตระกูล
แต่กลับโดนกั้นไว้
เรื่องเช่นนี้ ช่างทำให้รู้สึกอับอายเสียจริง ๆ
แต่โชคดีที่ท่านบรรพบุรุษไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้
ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นความรับผิดชอบของเขา จ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบัน
เขตแดนตระกูลหลัว
ห้องส่วนตัวสำหรับการทำงานของจ้าวตระกูลหลัวคนปัจจุบัน
หลัวเหิง หรี่ตามองคนทั้งยี่สิบที่นั่งอยู่กลางห้อง โดยมีเสื้อผ้าด้อยคุณภาพ
รูปร่างสูงใหญ่แข็งแกร่งราวกับพยัคฆ์ป่า
รอบตัวยังแผ่กระจายกลิ่นอายอันน่าขนพองสยองเกล้าอย่างคลุมเครือ
หลัวเหิงนิ่งอึ้ง
"คนเหล่านี้..."
"ฐานพลังยุทธ์ต่ำสุดก็อยู่ในขอบเขตกายาเต๋า 3 สวรรค์?"
"ส่วนสูงสุดนั้น ฐานพลังยุทธ์กลับอยู่ถึงขอบเขตกระจ่างแจ้ง 7 สวรรค์??"
เห็นกลุ่มคนเหล่านี้แล้ว หลัวเหิงรู้สึกงงงวย
บรรพบุรุษไปหาคนเหล่านี้มาจากที่ไหนกัน?
แล้วยังให้เขาสั่งการอีก??
ล้อเล่นหรือไม่?
แต่อย่างไรก็ตาม จากการกระทำของหลัวจิ่วเกอ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ล้อเล่น
หลังจากใช้ [คำสาปดวงจิตโลหิต]
เพื่อให้คนเหล่านี้ซึมซับความภักดีต่อหลัวจิ่วเกอไปในจิตใจ
คนเหล่านี้ ก็กลายเป็นผู้ติดตามที่ภักดีต่อหลัวจิ่วเกอที่สุด
ต่อต้าน?
ไม่ว่าจะคิดต่อต้านอย่างไรก็ตาม
[คำสาปดวงจิตโลหิต] เป็นวิชาลับระดับเทพขั้นสูงสุด
เมื่อเอาเลือดของผู้ใช้หยดลงในจิตใจของผู้อื่นแล้ว ก็จะสร้างคำสาปเลือดขึ้นได้อย่างน่าพิศวง
ไม่เพียงแค่ใช้สั่งการความซื่อสัตย์ต่อผู้ใช้ได้เท่านั้น ยังสามารถตรวจสอบความซื่อสัตย์ของผู้ถูกสาปด้วย
หากความซื่อสัตย์ไม่สูง?
ก็จะระเบิดร่าง
หากใจคิดต่อต้าน?
ก็จะระเบิดร่าง
แม้แต่การบิดพลิ้วคำสั่งของเจ้านายเพียงเล็กน้อย ก็จะระเบิดร่าง
ด้วยเหตุนี้...
หลัวจิ่วเกอจึงไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่า ทั้งยี่สิบคนนี้จะซื่อสัตย์หรือไม่
เพราะตราบใดที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่
ก็หมายความว่า คนเหล่านี้ยังคงจงรักภักดีต่อเขาอย่างที่สุด
"จ้าวตระกูล"
"จ้าวตระกูล"
"จ้าวตระกูล"
เขตแดนตระกูลหลัว
ห้องแห่งหนึ่ง
เสียงเรียกดังขึ้นพร้อมกัน
ผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนทั้งยี่สิบที่มีรูปร่างสูงใหญ่แข็งแกร่งราวกับพยัคฆ์ และแผ่กลิ่นอายอันน่าขนพองสยองเกล้ารอบตัวต่างก้มศีรษะลง
เตรียมพร้อมถูกหลัวเหิงสั่งการ
ส่วนหลัวเหิง เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้แล้ว
ก็กระตุกมุมปากเล็กน้อย
เขาสูดหายใจลึก ปรับสภาพจิตใจแล้วกล่าวอย่างเนิบช้า
"นับจากวันนี้"
"ในพวกเจ้าสิบคน จะเข้าร่วมกองทัพของราชวงศ์หลัว"
"ส่วนอีกสิบคนที่เหลือ ให้ข้าเป็นผู้สั่งการโดยตรง"
เสียงพูดจบลง
ในห้องนี้ ผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนทั้งยี่สิบต่างก้มศีรษะเล็กน้อย
ยกมือซ้ายวางไว้บนอก
สักพักหนึ่งก็เลือนหายไปจากห้องนี้
ห้องในกลับกลายเป็นว่างเปล่าอีกครั้ง
หลัวเหิง นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะ หรี่ตาเล็กน้อย
บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ ขึ้น
"หากมีผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนทั้งยี่สิบอยู่"
"เช่นนั้น ดินแดนเต๋าอนันต์นี้ แม้จะไม่ต้องใช้สำนักอาภาทองคำ ตระกูลหลัวของข้าก็สามารถยึดครองได้อย่างง่ายดาย"
แน่นอนว่าหากมีสำนักอาภาทองคำที่เป็นแรงงานให้ตระกูลหลัว
หลัวเหิงก็ย่อมไม่รังเกียจ
เอาเข้าจริงแล้ว แม้ตอนนี้ที่ผ่านช่วงเวลาการพัฒนานานร้อยปีมาแล้ว
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสำนักอาภาทองคำ ที่ได้ชื่อว่าเป็นขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนเต๋าอนันต์
ยังคงมีช่องว่างไม่น้อยอยู่
แต่ทว่า....
เรื่องหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้
เขตแดนตระกูลหลัว
ลานที่มีกลิ่นอายโบราณล้ำลึกอีกแห่งหนึ่ง หลัวจิ่วเกอกำลังนอนบนม้านั่งทำด้วยไม้อย่างสบายใจ
สนุกกับความสงบในขณะนี้
ส่วนข้างกายเขา
ริมสวนวิญญาณ 3 หมู่
กระทิงเทพโบราณตัวนั้นที่ถูกเรียกว่าต้าหวง
กำลังหรี่ตาคู่นั้น จ้องไปที่สวนวิญญาณ 3 หมู่ที่ปลูกรากเซียน รากวิญญาณ และรากเทพที่มีจำนวนนับได้ด้วยสองมือ
น้ำลายก็ไหลไม่หยุด
"ต้าหวง"
"เจ้ามองได้ แต่อย่าคิดจะขโมยกินเด็ดขาด"
"ไม่เช่นนั้น..."
"ฮึ่ม"
"ผลที่ตามมา เจ้าก็รู้ดี"
ในลาน
เสียงของหลัวจิ่วเกอดังขึ้นอย่างเนิบช้า
ส่วนกระทิงเทพโบราณที่ถูกย่อขนาดให้เล็กลงเหลือแค่ประมาณสองเมตร ก็สั่นเทาเล็กน้อย
และกลืนน้ำลายลงคอหนึ่งที
จากนั้นก็ไม่กล้ามองสวนวิญญาณสามหมู่ที่ปลูกรากเซียน รากวิญญาณ และรากเทพอีกต่อไป
เขากลัวว่าตัวเองจะหักห้ามใจไม่ได้
แล้วก็กลัวว่าเจ้านายของเขาจะทำโทษ
เพราะรู้อยู่ว่าตอนที่เจ้านายของเขาใช้วิธีที่โหดเหี้ยมเพื่อปราบให้เชื่อง
มันช่างทรมานเหลือเกิน
เขาไม่อยากเจอความทุกข์ทรมานเช่นนั้นเป็นครั้งที่สอง
"ใช่สิ"
"เห็นผลไม้สีแดงบนต้นไม้ในลานหรือไม่?"
"อันนั้นเจ้าเด็ดกินได้"
"ส่วนที่อื่น อย่าคิดแตะต้องเด็ดขาด"
เสียงของหลัวจิ่วเกอดังขึ้นหลังจากนั้น
ต้าหวงก็ตื่นเต้นยินดีขึ้นมา
ถึงแม้จะกินรากเซียน รากวิญญาณ และรากเทพในสวนวิญญาณสามหมู่ไม่ได้
แต่ไม่เป็นไร
เจ้านายบอกว่าผลไม้สีแดงบนต้นไม้ในลานกินได้หรือ??
ผลไม้สีแดงเหล่านั้น
ดูเหมือนจะน่ากินไม่เบา
ในลาน
กระทิงเทพโบราณอ้าปากกว้าง สูดลมหายใจแรง ๆ ครั้งหนึ่ง
ผลไม้สีแดงห้าหกลูกก็ถูกดูดเข้าปาก
หลังเคี้ยวเบา ๆ ครั้งหนึ่ง เนื้อสัมผัสนี้ รสชาตินี้ ความรู้สึกที่ทำให้หลงใหลนี้
ช่างวิเศษจริง ๆ
ต้าหวงเริ่มหมกมุ่น สำหรับกระทิงเทพโบราณที่อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งตลอดชีวิตนี้แทบจะได้กินแค่ต้นไม้ถิ่นทุรกันดารเท่านั้น
เพียงแค่ผลไม้ธรรมดา ก็ทำให้พวกเขารู้สึกยินดีได้แล้ว
นับประสาอะไรกับ [ผลไม้เพลิงชาด] ที่มีระดับอยู่ที่รากเทพระดับต่ำ
มีความเร็วในการเจริญเติบโตรวดเร็ว
เนื้อแน่นฉ่ำน้ำ
ที่สำคัญยังมีปราณวิญญาณหนาแน่น แม้แต่ใช้หลอมกายก็ยังได้
แน่นอน [ผลไม้เพลิงชาด] นี้
ก็เป็นสิ่งที่หลัวจิ่วเกอซื้อจากระบบระหว่างการปิดด่านนานร้อยปีนั้น
จากนั้นเมื่อปลูกและบำรุงเลี้ยงอีกระยะหนึ่ง
บวกกับพลังชีวิตที่น่าสะพรึงของรากวิญญาณ และความเร็วในการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว
สามารถกล่าวได้ว่า ในลานของเขานี้
ต้น [ผลไม้เพลิงชาด] มีจำนวนทั้งหมดมากกว่าสามร้อยต้น
บัดนี้มีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งแล้ว