ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 59 ตระกูลหลัวห้ามคนเถื่อนเข้า
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 59 ตระกูลหลัวห้ามคนเถื่อนเข้า
หลังจากนั้น หลัวจิ่วเกอยังได้ซื้อปรมาจารย์ปรุงโอสถ ปรมาจารย์หลอมอาวุธ
และผู้บำเพ็ญเพียรที่มีฐานพลังยุทธ์ต่างกันประมาณ 20 คนที่ [คุกนักโทษทองคำ] อีกด้วย
ส่วนที่ว่าทำไมไม่ซื้อผู้บำเพ็ญเพียรที่มีฐานพลังยุทธ์สูงกว่าขอบเขตเซียน?
สาเหตุก็ง่ายนิดเดียว
ผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนที่ [คุกนักโทษทองคำ] ล้วนมีราคาแพงระยับ
อีกทั้งมีข่าวลือว่าร้านค้าในสาขานี้เป็นเพียง 1 ใน 100 กว่าสาขาของ [คุกนักโทษทองคำ] ในมณฑลตงหวง
จำนวนทาสที่เหลือก็ไม่ค่อยเพียงพอ
"ท่านผู้อาวุโส"
"หากมีเวลา โปรดแวะมาอีกนะขอรับ"
[คุกนักโทษทองคำ] ที่โต๊ะด้านหน้า
ชายหนุ่มรูปร่างท้วมเล็กน้อยคนนั้นยิ้มจนตาเป็นประกายนับไม่ถ้วน
จ้องไปทางหลัวจิ่วเกอ
พลางโบกมืออย่างกระตือรือร้น
อันที่จริงแล้ว ลูกค้ารายใหญ่เช่นนี้ในดินแดนเต๋าแล้ว แทบไม่มีแม้แต่น้อย
จนกระทั่งหลัวจิ่วเกอเดินจากไปแล้ว
ที่หน้าประตู [คุกนักโทษทองคำ]
ชายหนุ่มรูปร่างท้วมเล็กน้อยคนนั้นจึงเก็บรอยยิ้มบนใบหน้ากลับเข้าไป
เขาชะงักตาแคบลงเล็กน้อยจ้องไปทางหลัวจิ่วเกอจากไป
และกระซิบเบา ๆ ว่า
"ท่านผู้อาวุโสท่านนี้...”
"เหมือนจะไม่ธรรมดา"
"เจ้าค้นพบตัวตนของเขาหรือยัง?"
ทันใดนั้น
ชายหนุ่มหันไปถามคนใช้ที่มีฐานพลังยุทธ์ขอบเขตกระจ่างแจ้งอีกคน
"เจ้านาย"
"ค้น- ค้นพบแล้วขอรับ"
"ท่านผู้อาวุโสท่านนี้.....”
"ท่านผู้อาวุโสท่านนี้คงเป็นปีศาจร้ายผู้ทำลายล้างนิกายหมื่นอัคคี ฆ่าพระภิกษุคู่จื้อ แห่งวัดสมบัติวิญญาณ”
"บรรพบุรุษสูงสุดแห่งตระกูลหลัวในดินแดนเต๋าอนันต์ หลัวจิ่วเกอ!"
ได้ยินดังนั้นแล้ว
ชายหนุ่มคนนั้นก็ตะลึงงัน
เขาคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านั้นแล้วว่า
คนผู้นั้นจะไม่ธรรมดา
แต่ไม่คิดเลยว่าจะน่าสะพรึงขนาดนี้??
นิกายหมื่นอัคคี
อย่างไรเสียก็เป็น 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำของมณฑลตงหวง
พระภิกษุคู่จื้อ?
นี่ก็เป็นพระภิกษุใหญ่แห่งวัดสมบัติวิญญาณ
"ท่านผู้อาวุโสท่านนี้ช่างกล้าหาญจริง ๆ..."
แน่นอนว่า
ชายหนุ่มไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามอะไร
วัดสมบัติวิญญาณ
แม้ในสายตาของชายหนุ่ม
ก็เป็นแค่ขุมอำนาจธรรมดาเท่านั้น
แต่เบื้องหลังวัดสมบัติวิญญาณคือพุทธศาสนา
อิทธิพลของพุทธศาสนาแผ่ขยายกว้างขวาง
มีชาวพุทธไม่ถ้วนในแผ่นดินใหญ่แห่งนี้
สังหารพระภิกษุคู่จื้อ
ก็เรื่องของเขา
แต่หากทำลายวัดสมบัติวิญญาณ แล้วยังยุ่งเกี่ยวกับศรัทธาของพุทธศาสนา
ถึงแม้ท่านผู้อาวุโสท่านนั้นจะมีความสามารถถึงขอบเขตสวรรค์
ก็คงยากที่จะเอาชีวิตรอดบนแผ่นดินใหญ่แห่งนี้
ที่หน้าประตู [คุกนักโทษทองคำ]
ชายหนุ่มส่ายหัว
จากนั้นก็หันหลังกลับ เดินกลับไปที่โต๊ะต้อนรับอย่างเชื่องช้า
บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอีกครั้ง
กลับสู่รูปลักษณ์ขี้เล่นเหมือนเดิม
ส่วนหลัวจิ่วเกอ?
ขณะนี้กำลังขี่กระทิงเฒ่าเทพโบราณ
ข้างหลังถูกประกบด้วยสมุนที่มีรูปร่างสูงใหญ่ แข็งแกร่งเหมือนพยัคฆ์ กลิ่นอายรอบตัวแผ่กระจายไปนับไม่ถ้วน ทั้งหมดมีประมาณ 20 คน
กำลังเดินทางไปยังดินแดนเต๋าอนันต์ช้า ๆ
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ
อีกครู่เดียว ก็ผ่านไปอีก 3 วัน
ณ เวลานี้ ดวงอาทิตย์ขึ้นพอดี
ตำแหน่งที่หลัวจิ่วเกออยู่ ไม่ไกลจากดินแดนเต๋าอนันต์
ด้วยความแข็งแรงของกระทิงเทพโบราณ
คาดว่าคงใช้เวลาอีก 3 - 5 ชั่วโมง ก็จะกลับถึงเขตแดนตระกูลหลัว
"ต้าหวง...."
"เหตุใดเจ้าที่ไม่มีอะไรให้ทำ ถึงอยากอ้างสิทธิ์เป็นราชาแห่งดินแดนนั้นรึ"
"ไม่สู้ฝึกปรือจะดีกว่าหรือ"
"เพิ่มพูนฐานพลังยุทธ์ของตนเอง"
หลัวจิ่วเกอนอนอยู่บนหลังของกระทิงเฒ่าพลันเอ่ยถามขึ้น
"ฮึ่ม"
กระทิงเทพโบราณที่มีชื่อว่า "ต้าหวง"
ได้ยินดังนั้นก็หน้าดำคล้ำพ่นลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
จากนั้นก็ก้มหัวลง
"หืม"
"เหตุใดไม่พูดต่อรึ?"
"น่าเบื่อเสียจริง"
พูดจบ หลัวจิ่วเกอก็หลับตาลงอย่างสนิทใจ
หาตำแหน่งที่สบายที่สุด
แล้วนอนลงบนหลังกว้างใหญ่ของต้าหวง
ต้าหวงสืบเชื้อสายมาจากกระทิงเทพโบราณ
พรสวรรค์ของเผ่าพันธุ์นี้ ช่างหาได้ยากยิ่งนัก
มีศักยภาพบรรลุความเป็นเทพ
สิ่งเหล่านี้หลัวจิ่วเกอย่อมทราบอยู่แล้ว
อีกทั้งยังรู้อีกว่า
กระทิงเทพโบราณเผ่าพันธุ์นี้ หาได้ยากยิ่งนัก โดยทั่วไปแล้วจะอาศัยอยู่ในดินแดนที่เรียกว่าถิ่นทุรกันดาร ใน 1 ดินแดนพิเศษ ของมณฑลตงหวง
อะไรคือถิ่นทุรกันดาร?
ก็ง่ายนิดเดียว
พืชพันธุ์ไม่งอกเงย น้ำไม่ไหล พื้นทรุดตัว มักจะมีสายลมที่มีอุณหภูมิสูงมากพัดอย่างรุนแรง สามารถทำลายผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียนได้อย่างง่ายดาย
สถานที่เช่นนี้ ก็เรียกว่าถิ่นทุรกันดาร
ส่วนที่ว่าทำไมต้าหวงถึงได้ออกจากถิ่นทุรกันดาร
และถูกหลัวจิ่วเกอเจอพอดี?
สำหรับเรื่องนี้
ตามตรงแล้ว เขาไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่
ต้าหวงไม่อยากพูด
เขาก็ไม่ถาม
เพราะบางครั้ง การถามที่ลึกเกินไป ก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป
จนกระทั่งเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ
บนฟ้า ดวงอาทิตย์ร้อนแรงนั้นก็ค่อย ๆ ตกลงมาทีละน้อย
จนกระทั่งเวลามาถึง 3 ชั่วโมงหลัง
ในที่สุดหลัวจิ่วเกอก็ขี่กระทิงเฒ่าเทพกลับมาในเขตแดนตระกูลหลัวอย่างเนิบช้า
"เจ้าเป็นใคร?"
"ที่นี่คือเขตแดนตระกูลหลัว เหล่าคนเถื่อนห้ามเข้า"
เห็นชายชราสวมชุดขาวขี่วัวกระทิงเฒ่า เอวคาดกระบี่เก่า ๆ ที่มีสนิมจับ ดูแล้วมีท่าทางป่าเถื่อนสักหน่อย
ภายนอกเขตแดนตระกูลหลัว
ศิษย์สำนักอาภาทองคำที่เฝ้ายามอยู่ตลอดเวลา
พลันชักกระบี่วิญญาณระดับกลางที่เอวออกมา
มีท่าทางเข้มงวดเคร่งขรึมยิ่งนัก
กล่าวตักเตือนหลัวจิ่วเกอ
"เขตแดนตระกูลหลัว ห้ามคนเถื่อนเข้ารึ??"
ได้ยินคำเหล่านี้แล้ว
หลัวจิ่วเกออยากหัวเราะ
ตัวเองเป็นบรรพบุรุษสูงสุดแห่งตระกูลหลัว
ทว่ากลับถูกกั้นไม่ให้เข้าเขตแดนตระกูลหลัวเสียได้
ช่างน่าสนุกจริง ๆ
"ไปกันเถอะ...."
เขาหัวเราะพลันส่ายหัว
หลัวจิ่วเกอก็ตบต้าหวงเบา ๆ
ส่วนต้าหวงเอง ก็ชายตามองศิษย์สำนักอาภาทองคำที่เฝ้ายามอยู่ภายนอกเขตแดนตระกูลหลัว
จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า
ที่ด้านหลังของหลัวจิ่วเกอ
ผู้บำเพ็ญเพียรทั้งยี่สิบที่สวมชุดคร่ำคร่า
ดูแล้วร่างกายก็สูงใหญ่ แข็งแกร่ง รอบตัวแผ่กระจายไปด้วยกลิ่นอายอันน่าขนพองสยองเกล้า
บัดนี้ก็เดินตามติดไปทันที
"หยุด"
"มีคนกล้าบุกรุกเข้าไปในเขตแดนตระกูลหลัว พี่น้องทั้งหลายจัดการ!"
แม้จะยังไม่ทันได้ขยับมือ
แต่ชายชราที่ขี่วัวกระทิงเฒ่าเบื้องหน้าของศิษย์สำนักอาภาทองคำที่เป็นผู้นำ และผู้บำเพ็ญเพียรยี่สิบคนที่เดินตามหลังชายชรา ซึ่งดูแล้วใคร ๆ ก็รู้ว่าไม่ควรยุ่ง
วูบหนึ่งร่างเหล่านั้นก็พลันเลือนหายไปจากสายตาของทุกคน
"นี่..."
"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่??"
ศิษย์สำนักอาภาทองคำตะลึงงัน