บทที่ 25 นายล้อฉันเล่นงั้นหรอ
ซู่ตงมายังที่เกิดแสงไฟอย่างรวดเร็ว เมื่อเขามาถึงอาการบาดเจ็บของเกาเถิงก็หายดีหมดแล้วและพลังงานก็ใกล้จะหมดลง
"โชคดีที่ฉันไม่ได้มาสายเกินไป ตอนแรกคิดว่าหญ้าบนหลุมศพของนายกำลังจะงอกแล้วซะอีก"
ซู่ตงรีบมองไปรอบๆและพูดอย่างติดตลก
เกาเถิงได้โน้มตัวพิงต้นไม้ตอนนี้เขารู้สึกมึนหัวเป็นอย่างมาก
ร่างกายและจิตวิญญาณของเขายังอ่อนแอเกินไปหากใช้ความสามารถมากจนเกินไปพลังงานก็จะหมดในเวลาไม่ช้า ในอนาคตเขาต้องพยายามอย่างหนักเพื่อกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดและมีพลังงานไร้ที่สิ้นสุด
"ฉันรีบติดต่อสำนักงานความมั่นคงทันทีเมื่อได้รับข้อความของนาย เพราะเขาต้องใช้เวลาพอสมควรในการส่งคนมาฉันจึงรีบมาช่วยนายก่อน เป็นยังไงล่ะฉันค่อนข้างน่าเชื่อถือใช่ไหม?"
"เชื่อถือได้อยู่แล้ว" เกาเถิงยกนิ้วโป้งขึ้นแล้วพูดว่า "หากคุณไม่มาสองคนนั้นคงจะหลอกผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้มันจะไร้ประโยชน์แต่มันก็เหมือนดูถูกสติปัญญาของผม"
ซู่ตงถามอย่างสงสัย "นายหนีจากการไล่ล่าได้อย่างไร?"
"แกล้งทำเป็นตาย"
ซู่ตงมองดูสภาพที่น่าสลดใจของศพที่อยู่รอบตัวเขา "เป็นความคิดที่ดี นายปลอมเป็นศพเนียนขนาดนั้นได้ยังไง? นี่ถือเป็นเรื่องที่ยากมาก"
เกาเถิงโบกมือ "คนฉลาดย่อมมีกลอุบายของตัวเอง ไม่ต้องถามเรื่องนี้อีกต่อไปคุณไม่สามารถคิดเรื่องนี้ได้ด้วยสติปัญญาอันน้อยนิดหรอก"
"นายได้ยินเสียงอะไรมั้ย?"ซู่ตงพูดโดยไม่ยิ้ม "มันเป็นรอยเท้าเทพแห่งความตาย มันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆหรือเปล่า?"
"ผมไม่เชื่อพระเจ้า"
ซู่ตงเม้มริมฝีปากแน่น เขาคิดไม่ออกว่าจะสู้กับเกาเถิงอย่างไร
"ยังไงก็ตามฉันจะต้องช่วยฟางเหมิงก่อน"
"ฟางเหมิง?" ซู่ตงพูดด้วยความประหลาดใจ “เธอไม่ได้แกล้งทำเป็นศพเหมือนนายเหรอ?”
เกาเถิงยักไหล่ "เธอไม่มีพรสวรรค์ขนาดนั้น"
ซู่ตง "…"
"การแสร้งทำเป็นตายต้องใช้ทักษะด้วยเช่นกัน"
ซู่ตงแตะคางของเขาแล้วพูดว่า "มันสมเหตุสมผลแล้ว"
"อย่ามั่วช้าอยู่เลย หากเป็นแบบนี้ต่อไปหญ้าบนหลุมศพของฟางเหมิงได้งอกมาจริงๆแน่"
เกาเถิงกล่าวและรีบวิ่งไปยังที่ฟางเหมิงถูกฝังเอาไว้ด้วยความเร็วสูงสุด
"เธออยู่ที่ไหน?"
ซู่ตงตามมาและถามอย่างสงสัย
"เดี๋ยวคุณก็รู้เอง"
ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสองก็มาถึงสถานที่ฝังฟางเหมิงเอาไว้
เมื่อเห็นเกาเถิงขุดฟางเหมิงออกมา ซู่ตงก็ตกใจมาก "ความคิดของนายสุดยอดมาก ฉันควรติดต่อสุสานเพื่อย้ายโลงศพตอนนี้เลยไหม"
เกาเถิงสำลักไม่กี่วินาทีแล้วพูดว่า "ผู้มีความสามารถคงไม่ตายง่ายๆหรอกใช่ไหม? ผมคิดว่าเธอยังมีชีวิตรอดอยู่"
"นายเป็นคนมองโลกในแง่ดีมาก"
"นายได้เจอกับผู้มีความสามารถน้ำแข็งงั้นหรอ?"
"ใช่แล้ว" เกาเถิงกล่าวว่า "หลังจากที่ฟางเหมิงถูกแช่แข็งแล้วผมหนีไปคนละทางกับเธอนะ"
"ฉันไม่เคยคิดเรื่องบ้าๆแบบนี้มาก่อนเลย ขอดูหน่อยเถอะว่ามันจะได้ผลหรือเปล่า"
ซู่ตงวางมือของเขาบนก้อนน้ำแข็งมีอุณหภูมิที่ร้อนแรงถูกปล่อยออกมาจากฝ่ามือของเขา
"ฉันจะละลายน้ำแข็งแล้วดูว่าเธอยังหายใจอยู่หรือเปล่า"
น้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วเหมือนโดนดวงอาทิตย์ที่แผดเผา
เสื้อผ้าของเธอเปียกโชคและเกาะติดกับร่างกาย เผยให้เห็นรูปร่างอันงดงามของเธออย่างชัดเจน
เกาเถิงเอานิ้วชี้ไปที่จมูกของฟางเหมิงจนรู้สึกหนาวจนไปถึงกระดูก
หนึ่งวินาที
สองวินาที
สามวินาที
ไม่มีหายใจ
"จบแล้ว ตอนนี้ฉันต้องติดต่อกับสุสานจริงๆ"
"อะไร?" ใบหน้าของซู่ตงเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ "นายคิดว่าเธอจะรอดได้จริงๆเหรอ?"
"ปาฏิหาริย์อาจจะเกิดขึ้นก็ได้"
"ฉันอิจฉาทัศนคติที่ดีของนายจริงๆ"
"ไม่ต้องรีบร้อน"
เกาเถิงวางหูบนหน้าอกของฟางเหมิงและสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวล
"นี่…มันไม่ดีนะ"
การแสดงออกของซู่ตงซับซ้อนมาก
"คุณคิดเรื่องอะไรกัน?" เกาเถิงกลอกตาแล้วพูดว่า "ผมแค่อยากจะดูว่าเธอยังมีการเต้นของหัวใจอยู่หรือเปล่า"
"โอ้" ซู่ตงพูดอย่างเสียใจ "ฉันคิดว่านายจะคิดเหมือนฉันซะอีก"
ซู่ตงหยิบบุหรี่ที่ยับยู่ยี่ออกมา ใส่เข้าไปในปากของเขาและถามอย่างเฉยเมยว่า"นายได้ยินเสียงการเต้นหัวใจของเธอหรือเปล่า"
"ปาฏิหาริย์มันมีอยู่จริง"
ซู่ตงพูดว่า "ร่างกายของเธอแข็งแกร่งจริงๆงั้นรีบส่งเธอไปโรงพยาบาลเร็วเข้า"
เกาเถิงพูดด้วยความประหลาดใจ "คุณไม่มีน้ำพุแห่งชีวิตบ้างเลยเหรอ?"
หากมีน้ำพุแห่งชีวิตเธอคงมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น
เผื่อบางทีเธออาจจะเป็นอะไรระหว่างที่เดินทางไปโรงพยาบาล
"ฉันไม่เคยทำงานที่อันตรายเลยไม่ต้องใช้มัน" ซู่ตงกล่าวว่า "ฉันจะพานายไปที่หมู่บ้านหลิวเจียและนายดูแลเธอที่โรงพยาบาล ส่วนเรื่องที่สำนักงานความมั่นคงฉันจะจัดการเอง"
"เข้าใจแล้ว"
ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องไร้สาระ เราต้องแข่งกับเวลาแล้ว
ซู่ตงอุ้มเกาเถิงไว้บนหลังของเขา และเกาเถิงอุ้มฟางเหมิงไว้บนหลังของเขาเช่นกัน ซู่ตงวิ่งไปยังหมู่บ้านด้วยความเร็วที่เร็วสุดของเขา
ทั้ง 3 คนรีบเข้าโรงพยาบาลด้วยความเร็วสูงและส่งฟางเหมิงไปรักษา
ต้องขอบคุณความพยายามของแพทย์และพยาบาล ฟางเหมิงจึงรอดชีวิตมาได้
เกาเถิงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
นั่นหมายความว่าเกาเถิงไม่ต้องนำดอกไม้ที่เธอชอบมาให้ที่สุสานทุกปีแล้ว
วันรุ่งขึ้น เกาเถิงได้รับความสามารถใหม่
【เสริมการได้ยิน】
ในตอนแรกเกาเถิงคิดว่าความสามารถนี้เป็นทักษะติดตัว แต่กลับเป็นทักษะที่ต้องใช้พลังควบคุม
เมื่อใช้ความสามารถนี้เขาจะได้ยินเสียงทั้งหมดภายในรัศมี 500 เมตร มีเสียงที่ดังและชัดเจนขึ้น
ในคืนนั้นเขาได้ยินเสียงคู่รักจากหอพักผู้ป่วยชั้นที่ 4 ของโรงพยาบาลทำบางอย่างและเกาเถิงก็ฟังและวิพากษ์วิจารณ์เป็นเวลานาน
เช้าตรู่
ฟางเหมิงตื่นขึ้นมาจากอาการโคม่า เธอถูกพันไปด้วยผ้าพันแผลชั้นแล้วชั้นเล่าเหมือนกับมัมมี่
"เธอตื่นแล้วเหรอ?"
เกาเถิงกำลังปอกเปลือกแอปเปิ้ล พอเขารู้ว่าฟางเหมิงพ้นจากอันตรายแล้วสีหน้าของเกาเถิงจึงไม่เปลี่ยนมากนักและดูสงบมากขึ้น
ฟางเหมิงหันศีรษะด้วยความยากลำบากและมองไปที่เกาเถิง "พวกเรายังมีชีวิตอยู่งั้นหรอ?"
"ใช่แล้ว" เกาเถิงพูดอย่างมีความสุข "การผ่าตัดแปลงเพศของเธอสำเร็จแล้ว ตอนนี้เธอก็ถือว่าเป็นผู้ชายเต็มตัว"
ฟางเหมิงสะดุ้งและแตะลงไปที่ด้านล่าง เธอทำหน้าบูดบึ้งด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผล
โชคดีที่เธอไม่ได้สัมผัสเจออะไรแปลกๆ
เธอจ้องมองเกาเถิงด้วยความโกรธและพูดว่า "หยุดล้อเล่นได้แล้ว!"
เกาเถิงยิ้ม
"หลังฉันถูกแช่แข็ง เกิดอะไรขึ้นบ้าง?"
"เรื่องมันยาวมาก"
ดวงตาของเกาเถิงฉายแววความทรงจำและเขาพูดอย่างจริงจัง "หลังจากที่เธอถูกแช่แข็ง ฉันวิ่งเข้าไปต่อสู้กับซูหงหยิงแต่ด้วยความแข็งแกร่งของเธอฉันจึงไม่สามารถสู้ได้
หลังจากถูกทุบตีจนเกือบตาย ฉันก็ถูกบังคับให้เข้ากับองค์กรเพลงนิลโดยการล้างสมองซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนฉันกลายเป็นสมาชิกของเพลิงนิลอย่างเต็มตัว
ทุกอย่างมันเป็นอดีตที่ฉันลืมเลือน ฉันลืมความทรงจำในอดีตไปจนหมดและกลายเป็นปีศาจที่ต้องการทำลายล้างโลก
หลังจากเจอวิกฤตชีวิตและความตายมานับไม่ถ้วน ฉันได้ไปถึงระดับ S และกลายเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
ผู้นำองค์กรเพลิงนิลรู้สึกว่าฉันอาจคุกคามตำแหน่งของเขาได้ จึงพยายามกำจัดฉันและหลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัสฉันก็นึกถึงอดีตและค้นพบตัวตนที่แท้จริงของฉัน
ฉันทำลายองค์กรเพลิงนิลและยึดครองโลก ก่อตั้งสมาคมผู้มีความสามารถ และจัดระเบียบโลกใหม่
ในภูเขาจิ่วหลงฉันได้สร้างหลุมศพให้กับเธอ เพราะคิดว่าเธอคงจะตายและสลายไปพร้อมน้ำแข็งแล้ว
แต่ใครจะรู้มีอุกกาบาตตกลงมาจากท้องฟ้าชนเข้ากับภูเขาจิ่วหลง ทำให้น้ำแข็งที่ผนึกเธออยู่กระเด็นออกมา
และมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเธอยังหายใจอยู่ ฉันจึงส่งเธอมาโรงพยาบาลเพื่อรักษาแล้วเธอก็ตื่นขึ้นมา
ฟางเหมิงตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้และดูเหมือนสติเธอจะยังไม่ฟื้นอย่างเต็มที่
หลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าของเธอก็บิดเบี้ยวช้าๆ "นายล้อฉันเล่นงั้นหรอ!"