บทที่ 124 เจ้าคิดว่าข้า มิกล้างั้นหรือ
ทันทีที่หยางไห่มาถึง เขาก็ได้เห็นเศษซากประตูหมู่บ้านที่เคยยิ่งใหญ่ เกลื่อนกลาดอยู่ตามพื้นไปทั่ว
ภายใต้อำนาจของหมัดหยางเสี่ยวเทียน ประตูได้เปลี่ยนไปพังทลายลง จนไม่เหลือเค้าโครงเดิม อันน่าจดจำอีกต่อไป
หยางไห่จ้องเขม็งหาหยางเสี่ยวเทียน ดวงตาเขาเริ่มคุกรุ่นไปด้วยความเกรี้ยวโกรธอย่างถึงที่สุด
“เจ้าเด็กสารเลว คิดว่าตนเป็นศิษย์ของสำนักเสินเจี้ยนแล้ว ข้าจะมิกล้าหักขาเจ้าเช่นนั้นหรือ!” หยางไห่ตะคอกเสียงดัง
“เจ้ารีบซ่อมแซมประตูหมู่บ้าน ให้กลับเป็นเช่นเดิมเดี๋ยวนี้ หาไม่แล้ว ข้าจะหักขาของเจ้าเสีย!”
“เช่นนั้นหรือ” การแสดงออกของหยางเสี่ยวเทียนยังคงปกติ “หากไม่ทำ ข้าอยากเห็นจริงๆ ว่าท่านจะหักขาของข้ายังไง!”
หยางไห่เดือดพล่าน ปราณขั้นเซียนสวรรค์ของเขาไหลเวียน พร้อมพุ่งหมัดโจนเข้าต่อยหยางเสี่ยวเทียนในทันที
“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าทำจริงๆ งั้นหรือ!”
ดวงตาของเขาขณะโผหมัดเข้าหา ล้วนเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง เขาจับจ้องตรงจุดของส่วนท้องหยางเสี่ยวเทียน แล้วกดหมัดให้ต่ำลงมุ่งไปยังตันเถียน
หากหยางเสี่ยวเทียนโดนหมัดนี้เข้าจุดสำคัญ มันจะต้องแตกสลายและไม่อาจบ่มเพาะพลังยุทธ์ได้อีกเป็นแน่
เห็นได้ชัด ว่าหยางไห่จงใจใช้โอกาสนี้ทำลายตันเถียนของหยางเสี่ยวเทียนในคราเดียว!
ตั้งแต่หยางเสี่ยวเทียนเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลก เขาและหยางหมิงก็จงเกลียดจงชัง หลานชายคนนี้เป็นที่สุด
ยิ่งเห็นเขาค่อยๆ เติบโต ก็ยิ่งไม่ถูกชะตายิ่ง จนมีความคิดในหัวว่าเด็กคนนี้ไม่ควรเกิดมาด้วยซ้ำ
อีกทั้งก่อนหน้านี้ หยางเสี่ยวเทียนยังเอาชนะบุตรชายเขาถึงสองครั้ง ประจักษ์ต่อสายตาธารกำนัล ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดมิใช่น้อย
ต่อมา ยังได้รับข่าวว่าหยางเสี่ยวเทียนกลายเป็นผู้มีวิญญาณยุทธ์คู่ขั้นสูง เขาก็ยิ่งริษยาและเกลียดชัง หยางเสี่ยวเทียนมากทวียิ่ง
ระหว่างที่หมัดของหยางไห่ กำลังจะถึงตันเถียนหยางเสี่ยวเทียนผู้ยืนนิ่งอยู่รอมร่อ
“เจ้ากล้าเรอะ!” ทันใดนั้น เสียงแผดดังที่มาพร้อมกับภาพธรรมฝ่ามือขนาดใหญ่ ยื่นออกมาจากนภากาศ ปะทะเข้ากับปราณหมัดของหยางไห่ดังสนั่น
ปัง!
ไม่ถึงลมหายใจ ก็พลันปรากฏหนึ่งร่าง พุ่งเข้ามาคว้ามือของหยางไห่ไว้ทันที
บัดนี้ หมัดหยางไห่ถูกคว้าไว้แน่นอย่างสมบูรณ์ แม้นเขาจะพยายามดึงกลับแต่ก็มิอาจทำได้
สายตาหยางไห่ที่เดิมแฝงไปด้วยเจตนาฆ่า ยามนี้กลับมองหลัวชิงด้วยความหวาดหวั่น ที่เผยออกมาผ่านดวงตาคู่นั้น
“เจ้าเป็นใคร!”
หลัวชิงเงียบปากไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด ใบหน้าเขาเฉยเมย พร้อมพลิกมือข้างที่คว้าแขนของหยางไห่ทันที
แคร่ก!
หยางไห่แผดเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวด เนื่องจากหลัวชิงบิดแขนขวาของเขาจนเป็นเกลียว
จากนั้น หลัวชิงก็พลันเหวี่ยงขาเตะหยางไห่ลอยลิ่วออกไปอย่างกะทันหัน
หยางไห่ผู้ปลิวพร้อมเสียงแหกปากร้อง ก่อนกระแทกเข้ากับประตูหมู่บ้าน ที่เหลือเพียงเศษพิงก้อนหินอยู่จนแตกละเอียดกระทั่งร่างกลิ้งต่อไปอีกสองสามตลบ
ครั้นเหล่าทหารลาดตระเวนประจำหมู่บ้านสกุลหยางเห็นฉากนี้ ใบหน้าของพวกเขาก็แทบซีดเซียวเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัวมิใช่น้อย
“ท่านหัวหน้าใหญ่” บรรดาทหารเหล่านั้นอุทานเสียงหลง ไม่ช้าก็กรูกันไปหาหยางไห่ผู้นอนแผ่หลาอยู่บนพื้นอย่างน่าสังเวช
เมื่อหยางไห่ขยับตัวได้ ก็ยันร่างตนพยุงตัวนั่ง พลางยกมือกุมที่อกก่อนอาเจียนเป็นเลือดออกมาคำใหญ่ เขาช้อนตาอันสั่นเทาขึ้นมองหลัวชิงด้วยความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจ
“หากท่านกล้าไปอาละวาด และทำร้ายท่านพ่อท่านแม่ของข้าที่เรือนอีกครั้ง ต่อไปข้าจะไม่หักเพียงแขนของท่านเท่านั้น!” หยางเสี่ยวเทียนเหลือบมองหยางไห่ผู้นั่งอยู่บนพื้น ด้วยสายตาเย็นชาแล้วกล่าวบอกไป
คำเตือนของหยางเสี่ยวเทียนก้องดังอยู่ในหูหยางไห่ ทำให้สีหน้าเขาดูบูดบึ้งก่อนยกมือชี้หน้าตะโกน “เจ้า!”
“โอ้จริงสิ เมื่อสองวันก่อนท่านทำลายสิ่งของเครื่องใช้ในเรือนข้า ซึ่งมันมีมูลค่าถึงห้าพันหกร้อยเหรียญทอง ท่านอย่าลืมให้คนนำเงินมาชดใช้ ในวันพรุ่งนี้ด้วยล่ะ” หยางเสี่ยวเทียนกล่าวแทรก
แล้วหยางเสี่ยวเทียนก็เปลี่ยนไปกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไม่เช่นนั้น ข้าจะทำลายมากกว่าแค่ประตูหมู่บ้านสกุลหยาง! ท่านได้ยินชัดหรือไม่”
บอกกล่าวเสร็จสรรพ หยางเสี่ยวเทียนก็หันหลังจากไปพร้อมกับหลัวชิงและเสี่ยวจิน
ก่อนที่เสี่ยวจินจะจากไป มันก็เหวี่ยงหางใหญ่ฟาดเข้าใส่กำแพงของหมู่บ้านจนพังทลายลง แม้นทุกคนในหมู่บ้านสกุลหยางจะเห็นเช่นนั้น แต่ก็หามีผู้ใดกล้าเข้าไปหยุดยั้งไม่
กำแพงของหมู่บ้านพังลง ส่งเศษหินดินและฝุ่นกระเด็นไปใส่หยางไห่อย่างน่าเวทนา
คราเห็นการกระทำเช่นนั้น หยางไห่ก็โกรธมาก ขณะเปิดปากหมายก่นด่า ทว่าสิ่งที่ออกมากลับมิใช่เสียง แต่มันเป็นเลือดคำใหญ่ที่กระอักออกมาแทน
หลังหยางเสี่ยวเทียนลับตาไป หยางไห่ก็แหงนหน้าขึ้นฟ้าพลางแผดเสียงคำราม “หยางเสี่ยวเทียน ข้าอยากรู้นัก หากพรุ่งนี้ข้าไม่ส่งเงินให้ เจ้าจะกล้าทำลายหมู่บ้านสกุลหยางจริงหรือไม่!”
เวลาเดียวกันนี้ หยางเสี่ยวเทียนได้เดินทางกลับจากหมู่บ้านสกุลหยาง มุ่งหน้าเข้าเมืองซิงเยว่ แต่ระหว่างทางก็บังเอิญเห็นบิดามารดา เด็กหญิงตัวเล็ก ซุนฮัว และคนอื่นๆ กำลังวิ่งลนลานมาทางเขาด้วยสีหน้าร้อนใจ
“เสี่ยวเทียน!” หยางเฉาและหวงอิ๋งมีความสุขมาก เมื่อเห็นว่าหยางเสี่ยวเทียนออกจากหมู่บ้านสกุลหยางอย่างปลอดภัย
“เสี่ยวเทียน เจ้าเป็นอะไรบ้างหรือไม่” หวงอิ๋งเอยถามอย่างกังวลใจยิ่ง
“ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไร” หยางเสี่ยวเทียนส่ายศีรษะแล้วยิ้ม ขณะมองดวงตาที่เป็นกังวลของผู้เป็นมารดา
“ไม่เป็นอะไร ลูกข้าไม่เป็นอะไร” หวงอิ๋งรีบโผเข้ากอดหยางเสี่ยวเทียน พร้อมหยาดน้ำตาอาบสองแก้ม แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เราไม่ได้เจอเจ้ามาสองสามเดือนแล้ว เจ้าคิดถึงแม่ของเจ้าหรือไม่”
ทั้งหมดกลับมาที่เมืองซิงเยว่อย่างมีความสุข ระหว่างทางหวงอิ๋งยังคงดึงหยางเสี่ยวเทียนเข้ากอด ขณะถามไถ่ช่วงเวลาที่เขาอยู่สำนักเสินเจี้ยน
เช้าวันรุ่งขึ้น หยางไห่ก็สั่งให้คนนำเงินมากกว่าห้าพันหกร้อยเหรียญทองมาชดใช้ในที่สุด
เป็นการยากนักที่จะมีโอกาสได้กลับมาเช่นนี้ ดังนั้นหยางเสี่ยวเทียนจึงยังพักอยู่กับครอบครัวต่ออีกสองสามวัน
ในทุกๆ วัน หยางเสี่ยวเทียนมิเคยเกียจคร้าน นอกจากบ่มเพาะปราณมังกรแรกเริ่มแล้ว เขายังมอบขวดหยกใส่ธารสายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์ ให้กับบิดามารดาพร้อมเด็กหญิงตัวน้อย เพื่อช่วยทั้งสามเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแกร่ง เปลี่ยนแปลงเส้นเอ็น ตัดต่อไขกระดูก คงอายุขัยให้มีชีวิตชีวามากขึ้น
เวลาเดียวกัน เขาได้เลือกเคล็ดวิชาฝึกปราณสองทักษะจากถ้ำหงเฟิง ให้บิดามารดาไว้ฝึกฝน
โดยใช้ธารสายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์ ควบคู่ไปกับเคล็ดวิชาฝึกปราณจากถ้ำหงเฟิง ไม่นานหยางเฉาและหวงอิ๋งต้องสามารถเอาชนะหยางไห่กับหยางหมิงได้อย่างแน่นอน