บทที่ 122 นายน้อย ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว!
นี่นับเป็นเรื่องเร่งด่วน หยางหมิงกับหยางไห่จึงรีบออกเดินทางจากหมู่บ้านสกุลหยาง พร้อมผู้ติดตามอีกหลายคนมุ่งหน้าเข้าเมืองซิงเยว่
เมื่อมาถึง แล้วพบว่าเรือนหยางเฉากับครอบครัวที่ใช้อยู่อาศัย เป็นเพียงเรือนหลังเล็กโทรมๆ หยางไห่ก็พลันเผยยิ้มเยาะเย้ยก่อนแสร้งเก็บสีหน้าแลอาการตน ก่อนร้องเรียกผู้เป็นน้องชายด้วยน้ำเสียงเชิงไม่สบายใจ
“น้องรอง น้องรอง มีใครอยู่หรือไม่”
ครั้นหยางเฉาเปิดประตูออกมาแล้วพบเจ้าของเสียงเรียก ใบหน้ายิ้มแย้มก็ผันเปลี่ยนไปด้วยความใคร่สับสนทันที ด้วยไม่คาดว่าสองคนนี้จะยังกล้าถ่อมาหาเขาถึงที่นี่ได้
หยางเฉานึกสงสัยอยู่ครู่ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ถามถึงเหตุผลใดๆ นอกจากคำนับทักทายแล้วเชิญทั้งสองเข้ามานั่งในโถงเล็กๆ ตามมารยาทที่คนเป็นเจ้าเรือนปกติเขาทำกัน
หลังหยางไห่เข้ามายังโถงเรือน แล้วเห็นสิ่งของล้ำค่ามากมายจัดวางอยู่ภายใน ขัดจากความทรุดโทรมน่ารังเกียจ ความรู้สึกริษยาก็แทบพุ่งพล่านปรากฏออกมาบนใบหน้า
“น้องรอง เจ้านี่โชคดีจริงๆ” หยางไห่นั่งลงขณะเปิดปากพูด
“พวกท่านต้องการสิ่งใด ถึงลำบากมาหาข้าที่นี่ได้” หยางเฉาเร่งถามเข้าประเด็น ไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระกับหยางไห่ ด้วยรู้นิสัยเสแสร้งของผู้เป็นพี่ชายดี
หยางไห่ส่งสายตามองยังหยางหมิง หมายให้เขาบอกเล่าเหตุผล ที่ยอมลดศักดิ์ศรีมาหาหยางเฉาถึงที่นี่ด้วยตนเอง
แต่หยางหมิงตอนนี้ กลับรู้สึกเขินอายเกินไปจะกล้าเอ่ยคำใดๆ ต่อผู้เป็นลูกชายที่เขาเป็นคนเอ่ยปากขับไสไล่ส่งให้พ้นจากตระกูลหยางเอง เขานั่งอ้ำอึ้ง มิกล้าแม้แต่จะมองหน้าหยางเฉาตรงๆ เสียด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หยางไห่จึงได้แต่กัดฟัน ข่มอารมณ์แสร้งพูดกับหยางเฉาด้วยสีหน้าอมทุกข์อย่างถึงที่สุด
“ท่านพ่อ อย่าปิดบังเรื่องนี้กับน้องรองข้าเลย เรื่องที่วานนี้แร่จำนวนหนึ่งของเราถูกปล้นไปจากเหมืองสกุลหยาง โดยกลุ่มชายสวมหน้ากากนิรานาม เราจึงต้องมาหาน้องรองถึงที่นี่ ด้วยเห็นว่าความสามารถน้องรองมากพอจะช่วยตามหา แล้วนำมันกลับมาได้”
“อะไรนะ!” ทันทีที่หวงอิ๋งได้ยินสิ่งนี้ นางก็รีบเอ่ยพูดด้วยความโกรธทันที “ทุกครั้งที่พวกท่านสูญเสียแร่ พวกท่านถึงจะยอมลดเกียรติมาร้องขอให้หยางเฉาไปนำมันกลับเช่นนั้นหรือ”
นางไม่คิดว่าหยางไห่จะเป็นคนหน้าด้านขนาดนี้ ด้วยความขี้ขลาดตาขาว เขาถึงกับยอมละทิ้งเรื่องไร้ยางอายที่เคยกระทำต่อสามีนาง ผู้เป็นถึงเลือดเนื้อเชื้อไขแล้วยังจะหลานๆ พวกเขาเอง
ครั้งสุดท้ายที่แร่ถูกปล้นไป หยางเฉาอุตส่าห์อุทิตชีวิต ยอมเสี่ยงไปที่หมู่บ้านเฮยเฟิงแทนพวกเขา เพื่อนำแร่เหล่านั้นกลับมาให้
แล้วผลลัพธ์คืออะไร มีใครเห็นหัวหยางเฉาและครอบครัวเขาหรือไม่ ต้องถูกพวกเขาผลักไสไล่ส่งราวขอทานข้างถนน เวลาลำบากก็ไม่เห็นมีคนจากตระกูลหยางช่วยเหลือ นอกจากเยาะเย้ย
แต่มาบัดนี้ ไฉนหยางไห่ผู้นี้ กลับหน้าหนากล้ามาหาหยางเฉาอีกครั้ง! ราวกับไม่มีสิ่งใดเกินขึ้น ราวกับแร่ที่ถูกปล้นเป็นความผิดหยางเฉา ที่เขาต้องรับผิดชอบ
หยางเฉาเพลานี้ก็คุกรุ่นด้วยบันดาลโทสะ มิต่างจากผู้เป็นภรรยาเช่นกัน สีหน้าเขาพลันมืดลงอย่างเหลืออดกับความไร้ยางอายหยางไห่ ที่ยังกล้าเอ่ยปากร้องขอเขา
ครั้นหยางไห่เห็นอากัปกิริยาของหวงอิ๋ง จึงเพิกเฉยต่อนางแล้วยกชาร้อนขึ้นจิบอย่างใจเย็น ก่อนแสยะยิ้มพลางกล่าวว่า
“น้องสะใภ้ เจ้ากล่าวเช่นนั้นก็ไม่ถูก น้องรองของข้าเป็นคนตระกูลหยาง เมื่อแร่ของหมู่บ้านสกุลหยางหายไป แน่นอนว่าเขาต้องมีหน้าที่ช่วยตามหาอยู่แล้ว หาใช่เรื่องสมควรแก่การบันดาลโทสะไม่”
“ท่านรู้ด้วยรึ ว่าเขายังเป็นน้องชายของท่านอยู่ ตอนเขาเสี่ยงชีวิตไปที่หมู่บ้านเฮยเฟิง เพื่อนำแร่ทั้งหมดกลับมา ท่านเคยกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขาหรือไม่” ยิ่งเห็นท่าทีไม่ละอายใจเช่นนั้นของหยางไห่ หวงอิ๋งยิ่งไม่มีความพอใจใดๆ กับคนเยี่ยงเขาเลย
หวงอิ๋งหันศีรษะไปทางหยางหมิง แล้วกล่าวเสียงดังว่า “แม้แต่เกราะวิญญาณราชันย์พยัคฆ์ ท่านยังเห็นว่ามันสำคัญกว่าชีวิตของหยางเฉาเสียด้วยซ้ำ”
“ต่อมา พอเขาช่วยหมู่บ้านสกุลหยางค้นหาแร่ที่หายไป แล้วนำมันกลับมา พวกท่านปฏิบัติต่อเขาและครอบครัวของเราอย่างไร!” หวงอิ๋งกล่าว
ยิ่งนางนึกถึงเรื่องนี้ หวงอิ๋งยิ่งทวีโทสะ นางตะคอกด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “มิใช่ว่าพวกท่านขับไล่พวกเราออกจากหมู่บ้านสกุลหยางกระนั้นหรือ ในสายตาพวกท่าน ยังเห็นว่าเขาเป็นน้องชายหรือเป็นบุตรชายอยู่หรือเปล่า ไยยังกล้ามาราวีเขาอีก!”
สีหน้าของหยางไห่เริ่มไม่พอใจ พลางชี้หน้าหยางเฉากล่าวว่า “หยางเฉา หากมิใช่เพราะหมู่บ้านสกุลหยางเลี้ยงเจ้าจนเติบใหญ่ เจ้าจะมีวันนี้หรือ เราเพียงต้องการให้เจ้าไปนำแร่กลับมาเท่านั้น ไม่ได้สั่งให้เจ้าไปปีนหุบเขาดาบหรือลงทะเลเพลิง (บุกน้ำลุยไฟ)”
ครั้นได้ยินดังนั้น หยางเฉาจึงระเบิดหัวเราะด้วยเดือดพล่านเต็มทน “ฮ่า ฮ่า ฮ่า… เจ้า เจ้าหมายถึงว่า การที่ข้าผู้นี้สามารถมีชีวิตที่ดีได้ เป็นเพราะหมู่บ้านสกุลหยางของเจ้าคอยสนับสนุนกระนั้นหรือ ฮ่า ฮ่า ฮ่า… น่าขัน!”
หยางหมิงที่เงียบมาตลอด ก็พลันเอ่ยขึ้น “หยางเฉา ที่พี่ใหญ่เจ้าพูดก็ถูก เจ้าเป็นคนของหมู่บ้านสกุลหยาง หากวัสดุแร่ของหมู่บ้านหายไป เจ้าก็ต้องช่วยรับผิดชอบในการนำพวกมันกลับมา!”
“กิจการเหมืองแร่ ได้รับการดูแลโดยพี่ชายคนโตของข้า แต่พอแร่ของเขาถูกปล้นไป ไยต้องขอให้ข้าเป็นผู้ตามหาด้วยเล่า เรียนผูกต้องรู้จักเรียนแก้” หยางเฉาหันถามผู้เป็นบิดาเสียงเข้ม
“เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าต้องขออภัย ที่ข้าไม่สามารถมีส่วนเกี่ยวข้องได้อีกแล้ว ท่านพ่อ” หยางเฉากล่าวสีหน้าจริงจัง
หยางไห่เดือดดาลพลันปาดมือตบฉาดลงบนโต๊ะ จนแตกละเอียดเป็นชิ้นๆ “เจ้ามันเนรคุณ!”
“เจ้าว่าอะไรนะ!” หยางเฉาจ้องเขม็งหาหยางไห่ ที่ยังกล้าเอ่ยคำนี้กับเขา
“ข้ากำลังด่า ว่าเจ้ามันเป็นสุนัขเนรคุณ!” สิ้นเสียง หยางไห่ก็บันดาลโทสะ เขาชกหมัดสังหารพยัคฆ์ใส่หยางเฉาทันที
หยางเฉาที่เก็บอารมณ์เกรี้ยวโกรธเหล่านั้นมาโดยตลอด บัดนี้มันได้ปะทุออกมาพร้อมปรี่หาคนตรงหน้าเช่นกัน
หมัดทั้งสองปะทะกัน กระทั่งของทุกสิ่งในโถงถูกกวาดออกไป แตกเป็นชิ้นๆ
“พอแล้ว!” หยางหมิงเห็นดังนั้นจึงตวาดหยุดหยางไห่ ที่กำลังพุ่งเข้าหาหยางเฉาผู้เป็นน้องชายด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ
เขาเหลือบมองหยางเฉาแล้วพลางถอนหายใจ “ฮึ! เมื่อเจ้าไม่ทำก็ลืมมันซะ หมู่บ้านสกุลหยางเลี้ยงดูเจ้าเสียข้าวสุกจริงๆ แล้วข้าจะหน้าด้านคุยกับคนที่มีความสุขจนลืมบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองไปเพื่ออะไร(วัวลืมตีน) พวกเรากลับ!”
จากนั้น เขาก็เดินนำหยางไห่ออกไป ไม่คิดแม้แต่จะหันมาเหลี่ยวมองอีกเลย กระทั่งขอโทษสักคำยังไม่เอ่ยออกมา
อีกด้านหนึ่ง
หยางเสี่ยวเทียนที่กลับออกจากป่าพระจันทร์แดงพร้อมหลัวชิงและเสี่ยวจิน กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางต่อมายังเมืองซิงเยว่
ด้วยความคิดถึงผู้ที่คอยเขา หยางเสี่ยงเทียนจึงยังไม่คิดกลับเมืองเสินเจี้ยนตอนนี้ในทันที เพราะช่วงนี้ถือว่าเป็นเรื่องยาก กว่าเขาจะหาเวลากลับมาเยือนยังเมืองซิงเยว่ เพื่อมาเยี่ยมบิดามารดาและน้องสาวผู้เป็นที่รักได้
หลายวันต่อมา
หยางเสี่ยวเทียนก็มาถึงหน้าประตูเรือนใหม่หลังโทรมของตนในเมืองซิงเยว่
หัวใจของเขาเต้นระรัว เมื่อคิดว่ากำลังจะพบพานใบหน้าที่คุ้นเคย ซึ่งอาจรอตอนรับการกลับมาของเขาด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น อยู่เบื้องหลังประตูบานนี้
ว่าแล้วก็พลันเอื้อมมือออกไป เคาะประตูเรือนสองสามครั้ง
ไม่ช้า ประตูบานนั้นก็เปิดออก ซึ่งผู้ที่เปิดคือซุนฮัว
ดวงตาซุนฮัวเบิกกว้างด้วยทั้งตกใจก่อนจะทันดีใจ เมื่อเห็นว่าผู้ที่มาเยือนคือหยางเสี่ยวเทียน จึงรีบร้องอุทานเสียงหลง “นะ นายน้อย! ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว!”
แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของซุนฮัวที่ดูร้อนรนแปลกๆ หยางเสี่ยวเทียนก็สัมผัสได้ทันทีว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติไปพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นว่า
“ลุงซุน เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ แล้วท่านพ่อท่านแม่ของข้า พวกเขาอยู่ที่ไหน”