ตอนที่ 190 บริษัทภาพยนตร์ และโทรทัศน์ จงเซี่ยน..
“ประธานซู คุณมาถึงแล้ว พวกเรามารอคุณนานแล้วครับ”
“ใช่แล้วครับ เราทุกคนกำลังรอคอยคุณอยู่!”
ทันทีที่ ซูเหวิน เดินมาถึงหน้าประตูล็อบบี้ของโรงแรม รองประธานโจว และผู้ถือหุ้นอีกหลายคนก็รีบก้าวขึ้นมาข้างหน้า พร้อมกับกล่าวทักทาย ซูเหวิน
“อืม ไม่คิดว่าพวกคุณจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ผมเทียบพวกคุณไม่ได้เลย”
ซูเหวิน ยกยิ้มขึ้นไปพลางกล่าวอย่างสงบ
แม้ว่าเขาจะค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์ครั้งนี้ แต่การนอนตื่นสายสักหน่อยคงจะสบายกว่า จริงป่ะ!
เมื่อเขาพูดไปเช่นนั้น ทุกคนก็พูดกันอย่างสุภาพไปอีกสองสามคํา
รองประธานโจว และคนอื่นๆ จึงได้พา ซูเหวิน เข้าไปในล็อบบี้ของโรงแรมทันที และขึ้นไปยังชั้นบน
“เฮ้ พวกคุณเห็นไหม เมื่อกี้นั่น โจว ลี่ซง รองประธานของ บริษัท เทียนอี้ ใช่ไหม?”
“ใช่! หลายคนที่อยู่ข้างๆ เขา ดูเหมือนจะเป็นผู้ถือหุ้น แต่ทําไมพวกเขาถึงเคารพชายหนุ่มคนนั้นขนาดนั้น?”
“ถูกต้อง ฉันก็กำลังสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของชายหนุ่มคนนั้นอยู่ด้วยเช่นกัน เขาเป็นใครมีความสามารอะไรที่ทำให้คนอื่นๆ ปฏิบัติต่อเขาแบบนั้น”
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของ ซูเหวิน และคนอื่นๆ ที่กำลังเดินเข้าไปในโรงแรม คนอื่นๆ ที่ยืนอยู่หน้าประตูโรงแรมก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน และพูดคุยกันอย่างลับๆ
ดูเหมือนว่าใครหลายคนจะมีความสนใจอย่างมากเกี่ยวกับตัวตนของ ซูเหวิน
ส่วน ซูเหวิน เองเขาจะไปรู้ความคิดของกลุ่มคนนี้ได้อย่างไร
ในขณะนี้เขากําลังเดินตาม รองประธานโจว และคนอื่นๆ ไปยังลิฟต์ในล็อบบี้ของโรงแรม และในไม่ช้าพวกเขาก็ได้มาถึงชั้นหก
ซึ่งก็คือชั้นที่จัดงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์
จากนั้นทุกคนแค่เลี้ยวตรงหัวมุมก็มาถึงห้องโถงแห่งหนึ่งแล้ว
เพียงมองตรงไป ซูเหวิน ก็ต้องตกตะลึง
ห้องโถงนี้ใหญ่มาก และหรูหรามาก
โซนด้านหน้าโดยรอบๆ เป็นผนังกระจก..
เมื่อมองออกไปก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกได้ ซึ่งมันโปร่งใสเอามากๆ
การออกแบบที่หรูหรา และโดดเด่นเช่นนี้ ช่างน่าทึ่งมากจริงๆ
แม้แต่ ซูเหวิน ก็อดไม่ได้ที่จะเผยดวงตาที่เปล่งประกายออกมา
ถึงขนาดอยากเปลี่ยนโรงแรม ฮิลส์ ..ของตัวเอง ให้เป็นสไตล์แบบนี้ด้วย
“รองประธานโจว, ประธานเจิ้ง, ประธานอู๋… ทุกคนมาถึงแล้ว ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับ”
เป็นจังหวะที่ ซูเหวิน กำลังสังเกตห้องโถงแห่งนี้
ผู้ชายหลายคนในชุดสูท และดูมีอารมณ์ที่ไม่ธรรมดาเดินตรงเข้ามาจากอีกด้านหนึ่ง มองไปที่ รองประธานโจว และคนอื่นๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“บริษัท ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ เจี๋ยฮว๋า จัดงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์ขึ้นทั้งที ที่ไหนเราสองสามคนจะไม่มาได้ยังไง?”
รองประธานโจว ยิ้มหัวเราะ พลางกล่าวตอบกลับอย่างสุภาพ
จากนั้นเขาพูดต่อว่า : “จริงสิ ประธานเสิ่น มีเรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะบอกคุณ”
“พวกคุณอาจจะยังไม่รู้ว่า พวกเรา เทียนอี้ ได้ถูกใครบางคนซื้อหุ้นไปเกินครึ่ง ดังนั้น ประธานเหอ ของเราจึงก้าวลงจากตำแหน่งประธาน…”
“และชายหนุ่มคนนี้ก็คือคนที่เข้าซื้อบริษัทของเรา ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นประธานคนใหม่ของบริษัทของเราด้วย… ซูเหวิน, ประธานซู”
รองประธานโจว กล่าวด้วยรอยยิ้ม พลางผายมือไปทาง ซูเหวิน ไปพลางกล่าวแนะนําเขาในเวลาเดียวกัน
“อะไรนะ เข้าซื้อเกินครึ่ง?”
พอคําพูดนี้หลุดออกมา อีกฝ่ายหลายคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งพลันตกใจ
พวกเขาล้วนมองไปที่ ซูเหวิน ด้วยความไม่เชื่อ
บริษัท เทียนอี้ วิดีโอ เน็ตเวิร์ค ก็ถือเป็นบริษัท แพลตฟอร์มวิดีโอที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ และโทรทัศน์ โดยมีมูลค่าตลาดอย่างน้อยก็หลายหมื่นล้าน
คาดไม่ถึงว่าบริษัทขนาดใหญ่เช่นนี้จะถูกซื้อหุ้นไปเกินครึ่ง
ชายหนุ่มคนนี้เป็นเทพมาจากไหนกันแน่?
อย่างไรก็ตาม น่าตกใจ มันก็น่าตกใจอยู่หรอก..
คนเหล่านี้ใช่ว่าเป็นบุคคลธรรมดา และต่างก็เคยเห็นโลกมามากแล้ว
พวกเขาจึงรีบเข้ากล่าวทักทาย ซูเหวิน อย่างสุภาพ พร้อมกับกล่าวแนะนำตัวเอง
ซูเหวิน เพิ่งรู้ว่า เดิมทีคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ก็คือ ประธานของบริษัทภาพยนตร์ และโทรทัศน์ เจี๋ยฮว๋า ชื่อของเขาคือ เสิ่น ฉางชุน..
ส่วนคนที่อยู่ข้างๆ เขานั้น ย่อมเป็นผู้ถือหุ้น ไม่ก็ผู้บริหารระดับสูง
ทันใดนั้น ประธานเสิ่น ของ เจี๋ยฮว๋า ก็มองไปที่ ซูเหวิน และคนอื่นๆ ก่อนจะพูดว่า : “ประธานซู รองประธานโจว ฉันมีข่าวดีจะบอกให้พวกคุณทราบ”
“ปีนี้คนจาก จงเซี่ยน ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ ก็มาด้วย เมื่อถึงเวลานั้นพวกคุณสามารถไปพูดคุยกับพวกเขาได้ ถ้าโชคดีอาจได้มีโอกาสร่วมมือ!”
ประธานเสิ่น ยิ้มพลางหัวเราะเหะๆ ดูลึกลับไม่น้อย
เพียงแต่เขาเพิ่งพูดจบ ก็ได้มีแขกกลุ่มใหม่มาถึง..
เขาจึงทักทาย ซูเหวิน และคนอื่นๆ ก่อนจะเรียกบริกรมาเทไวน์แดงให้กับทุกคนแล้วจึงพากลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาจากไป
เหลือเพียง ซูเหวิน ที่ดูเหมือนเขาจะตกอยู่ในอาการตกใจเล็กน้อย โดยไม่ทราบสาเหตุ
“จงเซี่ยน ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ มันดูเหมือนจะเป็นบริษัท ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ แต่ ประธานเสิ่น คนนี้ทำไมถึงต้องพูดจาให้ลึกลับขนาดนี้ด้วย?”
ซูเหวิน เขารู้สึกสับสน และตกตะลึงไม่น้อย
“บริษัท ภาพยนตร์และโทรทัศน์ จงเซี่ยน บริษัทนี้ไม่ธรรมดาเลย!”
“ประธานซู คุณเพิ่งซื้อบริษัทของเรา และคุณอาจจะยังไม่รู้ว่าบริษัทนี้ อยู่ในวงการภาพยนตร์ และโทรทัศน์”
รองประธานโจว พูดขึ้น สีหน้าของเขาดูระมัดระวังมาก
“ใช่ครับ! บริษัท ภาพยนตร์ และโทรทัศน์แห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศ เอาเป็นว่า มีบริษัทภาพยนตร์ และโทรทัศน์ขนาดใหญ่ และขนาดเล็กรวมกันเกือบ 10,000 กว่าแห่งในประเทศ”
“แต่บริษัทภาพยนตร์ และโทรทัศน์ จงเซี่ยน คือผู้นําในกลุ่มนี้ โดยถือครองอันดับหนึ่ง ภายใต้บริษัทภาพยนตร์ และโทรทัศน์ชั้นนําในประเทศ”
“ละครโทรทัศน์ อาทิเช่น ‘เสวี่ยเทียนเฟยเจี้ยน(雪天飞剑)’, ‘เทียนเค่อหาน(天可汗)’, ‘ราชวงศ์นิรันดร์(万世王朝), ‘ตำนานนางพญางูขาว(白蛇传奇)’, ‘ตำนานเทพเอ้อร์หลาง(二郎神传)’ และอื่นๆ ล้วนมาจากบริษัทของพวกเขา”
“มีภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เช่น”ศึกแตกหัก(决战大行动)“,”เกาะแห่งความโดดเดี่ยว(孤独之岛)“,”รุ่งอรุณแห่งวันสิ้นโลก(天启黎明)“,”ข้ามศตวรรษ(世纪穿越)“และอื่นๆ ภาพยนตร์ไม่เพียงแต่คลาสสิกเท่านั้น แต่ยังทำรายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศสูงมากอีกด้วย”
“หากให้พูดแบบไม่เกรงใจ ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ จงเซี่ยน ของพวกเขาไม่ว่าจะสร้างละคร หรือภาพยนตร์อะไร ไม่จําเป็นต้องดึงดูดการลงทุนเลย ล้วนเป็นคนอื่นที่ต่างแย่งลงทุนอย่างแข็งขัน”
ผู้ถือหุ้นหลายคนได้อธิบายให้ ซูเหวิน ฟังทีละคน
แถมในขณะเดียวกันยังรายงานผลงานของ จงเซี่ยน ออกมาทีละชิ้น
จะเห็นได้ว่าพวกเขารู้สึกทึ่งกับ บริษัทภาพยนตร์ และโทรทัศน์แห่งนี้มาก
ซูเหวิน ที่ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ พอฟังแล้วเขาย่อมต้องตกใจมาก
ยอดเยี่ยมมาก!
จงเซี่ยน.. นี้คู่ควรแล้วกับการเป็นบริษัทภาพยนตร์ และโทรทัศน์อันดับหนึ่ง น่าทึ่งมาก
ละคร หรือภาพยนตร์ที่ผู้ถือหุ้นกล่าวมาเมื่อสักครู่ เรื่องไหนที่ไม่ได้รับความนิยม?
เรื่องไหนที่ไม่ใช่คลาสสิก?
และคะแนนเรตติ้งสูงมาก ทั้งยังมั่นคงถาวร..
ซูเหวิน ไม่อยากเชื่อเลยว่าภาพยนตร์ดีๆ มากมายนี้จะมาจากบริษัทเดียวกัน
อันดับหนึ่ง.. พวกเขาสมควรได้รับนามนี้แล้ว
เมื่อ ซูเหวิน กำลังจมอยู่กับความคิด รองประธานโจว และคนอื่นๆ ก็กวาดสายตามองไปมารอบๆ ห้องโถง และพบเข้ากับคณะกรรมการบริหารหลายคนของบริษัท จงเซี่ยน
ในขณะนี้ มีคนมากมายล้อมรอบคณะกรรมการบริหารเหล่านี้ ซึ่งต่างกำลังพูดคุย และหัวเราะด้วยกันอยู่
ดูเหมือนพวกเขาต้องการประจบสอพลอ เชื่อมความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้น โดยมุ่งหวังเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ
ทันที ผู้ถือหุ้นก็ชี้ไปที่กลุ่มคนเหล่านั้น เพื่อให้ ซูเหวิน รู้จัก
“ประธานซู เราเข้าไปทักทายพวกเขากันดีไหม?”
“ใช่แล้ว บริษัทของพวกเขามีละคร และภาพยนตร์ดีๆ มากมาย ถ้าหากเราสามารถร่วมมือกับพวกเขาได้ เราย่อมไม่เสียเปรียบแน่นอน!”
“ได้ยินมาว่าช่วงนี้บริษัทของพวกเขาซื้อลิขสิทธิ์ IP(Intellectual Property : ทรัพย์สินทางปัญญา) ยักษ์ใหญ่ชื่อดังมาอีกเพียบ เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะมีละครดีๆ ออกมาไม่น้อยแน่นอน และเป็นการดีหากเราได้ร่วมมือกัน..”
ผู้ถือหุ้นต่างกระตือรือร้นนานแล้ว และต่างเตรียมคำพูดไว้สำหรับเข้าร่วมวงสนทนากับเหล่าคณะกรรมการบริหารหลายคนของบริษัท จงเซี่ยน
ไม่มีทาง ในโลกธุรกิจนั้นมันก็เป็นแบบนี้
เพียงพบเจอพี่ใหญ่ในวงการ มีใครบ้างที่ไม่อยากเข้าไปประจบสอพลอ และผูกมิตรกับพวกเขา
เช่นเดียวกับบริษัทภาพยนตร์ และโทรทัศน์ จงเซี่ยน นี้
หากวันหนึ่งวันใดมีละคร และภาพยนตร์ ฮอตฮิตออกมา
และบริษัท เทียนอี้ วิดีโอ เน็ตเวิร์ค ของพวกเขาได้รับลิขสิทธิ์ในการออกอากาศพิเศษผ่านความสัมพันธ์
นั่นไม่ใช่ว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อบริษัทของพวกเขาหรอกหรือ?
“เอาล่ะ บริษัทภาพยนตร์ และโทรทัศน์ จงเซี่ยน นี้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ”
“อย่างนั้นพวกคุณก็เข้าไปพูดคุยกับพวกเขาเถอะ ครั้งนี้ผมขอไม่เข้าร่วมสนุกด้วย..”
ซูเหวิน รู้สึกว่าสิ่งที่พวกเขาพูดก็ใช่ว่าไร้เหตุผล เขาจึงพยักหน้าเห็นด้วย
“ประธานซู คุณ... คุณจะไม่ไปด้วยจริงๆ เหรอ?”
รองประธานโจว และคนอื่นๆ รู้สึกประหลาดใจแล้ว
“ที่นั่นมีคนเยอะมาก ผมขี้เกียจที่จะไปร่วมสนุกด้วย”
“พวกคุณไปในนามบริษัทก็พอแล้ว และอีกอย่างเราไม่จำเป็นต้องให้ทุกคนเข้าไปหมุนรอบตัวพวกเขา.. พวกคุณว่ามั้ย?”
ซูเหวิน คลี่ยิ้มเบาๆ และเขาพูดอย่างไม่สำคัญ(ไม่แคร์)
พูดจบ เขาก็ยกแก้วไวน์ในมือขึ้นจิบ
แต่สิ่งที่เขาพูดนั้นมันเป็นความจริง
เขามาที่นี่ในวันนี้ แค่คิดว่างานพบปะสังสรรค์นี้ดูน่าสนใจทีเดียวจึงอยากลองเข้ามาร่วมดู..
ในส่วนการไต่เต้าความสัมพันธ์ เอาใจคนอื่นนั้นก็เพียงเพื่อประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ ของบริษัทเท่านั้น
พูดตามตรง ด้วยสถานะทางสังคมของเขาในปัจจุบัน มัน.. ไม่จําเป็นเลย