อาร์ติแฟกต์ชุดเกราะราชสีห์เพลิงคำราม (อ่านฟรี 15/06/2567)
“แฮ่ก แฮ่ก... ดูเหมือนว่าจะได้ผลสินะ” บอดี้การ์ดร่างใหญ่กล่าวออกมา ในตอนนี้เขาใช้พลังไปค่อนข้างมากแล้ว แต่ดูจากการที่ยังไม่มีการประกาศผู้ชนะแสดงว่าคู่ต่อสู้ยังไม่ได้
แต่รับเคาท์เตอร์ชิลด์ไปเต็ม ๆ แบบนั้นยังไงก็คงได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อย ที่เหลือก็แค่ต้องไปซ้ำอย่างระมัดระวังก็พอ การบุกโจมตีอย่างประมาทอาจทำให้สถานการณ์พลิกได้
เพราะสุนัขเมื่อมันจนตรอกมันอาจจะสู้จนตัวตายได้ เขาจะต้องไม่ประมาทเด็ดขาด!
ฟิ้ว ฉั้วะ!
แต่แล้วก็มีลำแสงบางอย่างพุ่งมายังจุดที่บอดี้การ์ดกำลังยืนหอบอยู่ ลำแสงนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมากจนเขาหลบไม่ทัน มันพุ่งทะลุไหล่ข้างขวาของเขาไปอย่างง่ายดาย รูขนาดเท่าหัวนิ้วโป้งปรากฏอยู่บนไหล่ของเขาพร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูดออกมาอย่างแรง
“อึก! บัดซบ ไอ้ความเจ็บปวดสองเท่าบัดซบ!” บอดี้การ์ดสบถออกมาด้วยความเจ็บปวด ถูกบางอย่างโจมตีทะลุไหล่เป็นรูขนาดนี้ย่อมเจ็บเป็นธรรมดา
แถมไอ้การตั้งค่าความเจ็บปวดสองเท่า มันยิ่งเจ็บจนแทบทนไม่ได้เลยด้วย
“ฮ่าฮ่า แกนี่มีเซอร์ไพรส์เหมือนกันนี่หว่า” เสียงหัวเราะอันเย่อหยิ่งดังขึ้นมาจากร่างหนึ่งที่กำลังเดินฝ่ากลุ่มควันออกมา
“นี่แก.. ไม่เป็นอะไรเลยเรอะ ? แล้วไอ้เกราะบ้านั่นมันอะไรกัน ?” บอดี้การ์ดกล่าวออกมาด้วยความตกใจ เขาเห็นว่าหัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงที่สวมชุดคลุมในตอนแรก เปลี่ยนมาใส่ชุดเกราะสีแดงที่มีลายไฟแทนแล้ว
แถมดูเหมือนเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากทักษะเคาท์เตอร์ชิลด์ของบอดี้การ์ดร่างใหญ่เลยด้วย มีเพียงรอยถลอกเล็กน้อยบนใบหน้าเท่านั้นเอง
“ก็นะ แกคิดว่าเกราะนี่มันเป็นของธรรมดารึไง ? มันไม่ใช่ของที่ผู้ปลุกพลังระดับต่ำอย่างแกจะเข้าใจได้อยู่แล้ว” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงกล่าวออกมาด้วยความดูถูก
บนโลกภายนอก ในห้องการทดสอบเสมือนจริง
“เกราะนั่นมันอะไรวะ! ทำไมมันกันดาเมจจากทักษะของฝั่งชายตัวใหญ่ได้หมดเลย” มีผู้ปลุกพลังคนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยความตกใจ
“นั่นดิ สงสัยจะเป็นเกราะระดับสูง หรือไม่ก็ เป็นพวกอาร์ติแฟกต์ประเภทเกราะแน่ ๆ” ชายคนหนึ่งกล่าวขึ้นอย่างเห็นด้วย
การจะป้องกันทักษะได้อย่างง่ายดายแบบนั้นมีแต่ต้องใช้พวกไอเท็มหรือสิ่งของระดับสูงเท่านั้น แถมดูจากรูปร่างแล้วเกราะที่ฝั่งหัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงใส่อยู่คงไม่ใช่ของที่ผู้ปลุกพลังสร้างขึ้นมาแน่ ๆ เพราะมันมีออร่าสีแดงแผ่ออกมาบาง ๆ เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าของชิ้นนั้นคืออาร์ติแฟกต์
อาร์ติแฟกต์ยิ่งระดับสูงออร่าที่แผ่ออกมายิ่งมากขึ้นไปด้วย ดูจากออร่าของเกราะที่หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงสวมอยู่แล้ว น่าจะเป็นอาร์ติแฟกต์ระดับ D เป็นอย่างน้อย
‘เกราะนั่น... ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเกราะนาโนของทางกองทัพเสียอีก’ คริสลองเปรียบเทียบสิ่งที่เห็นกับชุดเกราะของกองทัพในโลกเกราะของเขาอยู่ในใจ
เกราะนาโนเป็นเกราะที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษเพื่อใช้รับมือกับพวกมอนสเตอร์โดยเฉพาะ มันทั้งสามารถสร้างม่านพลังป้องกันได้ ฟื้นฟูร่างกายของผู้ใช้ได้ แถมยังเติมพลังได้โดยอัตโนมัติอีก
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังบอกได้ยากว่ามันแข็งแกร่งกว่ากันจริงหรือไม่
มีแต่ต้องลองต่อสู้ด้วยตัวเองดูเท่านั้นถึงจะรู้...
...
“แก! ขี้โกงนี่หว่าเล่นใช้เกราะแบบนี้” บอดี้การ์ดตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“โกงตรงไหนวะ มันไม่มีกฎอะไรว่าห้ามใช้ชุดเกราะสักหน่อย แกก็เอาออกมาใช้ดิ.. อ๋อ! ลืมไป บอดี้การ์ดจน ๆ แบบแกจะไปหาเกราะแบบนี้จากที่ไหนมาใช้ ขอโทษด้วยนะลืมคิดไป” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงยักไหล่ให้ก่อนจะกล่าวดูถูกออกมา
ครึ่งหลัง
“กรอดด ถึงจะมีเกราะก็ใช่ว่าแกจะชนะฉันได้!” บอดี้การ์ดคำรามออกมาก่อนจะเรียกใช้ทักษะเสริมการป้องกันอีกครั้ง
ถึงแม้ตอนนี้พลังของเขาจะเหลือไม่มากแล้ว แต่เขาก็คิดว่าอีกฝ่ายก็คงไม่ต่างกัน
แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นเพียงความเข้าใจผิดของเขาแต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น...
เปรี้ยง! เปรี้ยง!
“แรงกว่านี้หน่อยสิ! ฉันไม่รู้สึกอะไรเลยนะ” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงที่ถูกโจมตีกล่าวออกมา เขาทำเพียงรับการโจมตีโดยตรงไม่ได้หลบหลีกหรือตอบโต้แต่อย่างใด
ถึงจะเป็นเช่นนั้นบอดี้การ์ดก็ทำอันตรายอะไรให้กับอีกฝั่งไม่ได้เลย
“ฉันขอยอม...” บอดี้การ์ดที่เห็นว่าสู้ต่อไปก็คงทำอะไรไม่ได้เพราะอีกฝ่ายมีไอเทมที่เหนือกว่า แถมเขาก็ใกล้หมดพลังแล้วด้วย
มีแต่จะได้รับบาดเจ็บมากกว่าเดิมเสียเปล่า ๆ เลยตั้งใจที่จะเอ่ยยอมแพ้ขึ้นมา
ในสนามประลองเสมือนจริงนั้น มีวิธีชนะแค่สองอย่าง
หนึ่ง มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกล่าวยอมแพ้ออกมา
สอง มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดสภาพที่จะทำการต่อสู้ได้
“ค่อก อะ...สา..” บอดี้การ์ดพยายามที่จะส่งเสียงออกมาแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะในตอนนี้ลูกกระเดือกของเขาเหมือนจะถูกทำลายไปแล้วจากบางสิ่งที่พุ่งเข้ามากระแทกอย่างแรง
“ว่าไงนะ ? จะพูดอะไรก็พูดให้ชัด ๆ หน่อยสิ” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงเดินเข้าไปใกล้ร่างของบอดี้การ์ดที่นั่งกุมลำคออยู่
ในตอนนี้ร่างของหัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีแดงฉาน ดูเหมือนว่าเขาจะเปิดใช้งานทักษะพิเศษบางอย่าง
ความร้อนของเปลวเพลิงนั้นทำให้บอดี้การ์ดที่อยู่ห่างไปไม่ไกลถึงกับเหงื่อแตกออกมาและรู้สึกแสบร้อนผิวหนังเป็นอย่างมาก
‘ถ้ามันเข้ามาใกล้กว่านี้เราคงถูกย่างตายทั้งเป็นแน่ ๆ แต่จะประกาศยอมแพ้ก็ทำไม่ได้เสียแล้ว’ บอดี้การ์ดพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดแล้วตั้งสติให้ได้มากที่สุด
‘ถึงยังไงพลังชีวิตของเราก็เหลืออยู่น้อยเต็มทน อย่างมากคงโดนมันโจมตีอีกไม่กี่ทีก็ตายแล้ว จะได้ออกไปจากที่นี่สักที’ บอดี้การ์ดครุ่นคิดถึงหนทางต่าง ๆ แต่ดูเหมือนจะเหลือแค่ทางเดียวเท่านั้น
แต่ในขณะที่เขากำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ก็ได้มีเสียงดังขึ้นที่ด้านหน้าของเขาเสียก่อน
“มัวแต่คิดอะไรอยู่ล่ะ ?” สิ้นเสียงปริศนาก็ได้มีมือในชุดเกราะสีแดงโผล่เข้ามาคว้าเข้าที่ใบหน้าของบอดี้การ์ดอย่างแรง มือนั้นจับหัวของบอดี้การ์ดกระแทกพื้นจนเกิดเป็นหลุดลึกราวสิบนิ้ว
สนามประลองเกิดรอยแตกคล้ายใยแมงมุมขึ้นโดยมีจุดศูนย์กลางคือบริเวณที่หัวของบอดี้การ์ดถูกฝังลงไป
“แค่ก แค่ก พรวด!” เลือดจำนวนมากถูกพ่นออกมาจากปากของบอดี้การ์ดร่างใหญ่ ด้วยความเจ็บปวดที่มากกว่าปกติถึงสองเท่ารวมถึงความเสียหายที่ได้รับ ทำให้ในตอนนี้เขาแทบไม่มีสติเหลืออยู่อีกแล้ว
แต่ที่บอดี้การ์ดยังไม่แพ้สักทีก็เป็นเพราะหัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงนั่นเอง
“ไม่ต้องห่วง! ฉันไม่ให้แกแพ้ง่าย ๆ หรอกนะ เอานี่ไปสิ” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงกล่าวขึ้นมาพลางหยิบของบางอย่างออกมาด้วย
มันเป็นขวดที่มีน้ำสีแดงบรรจุอยู่ภายใน หรือที่เรียกกันว่าโพชั่นเลือดนั่นเอง โดยไอเทมชิ้นนี้ถึงมันจะเป็นเพียงโพชั่นเลือดระดับต่ำ แต่ก็สามารถฟื้นฟูบาดแผลได้เป็นอย่างดี อย่างน้อย ๆ ก็ใช้ยื้อชีวิตเอาไว้ไม่ให้ตายได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงเปิดขวดโพชั่นก่อนที่จะเทราดใส่หัวของบอดี้การ์ดอย่างดูถูก
เมื่อน้ำยาได้ชโลมไปทั่วตัวของบอดี้การ์ด บาดแผลของเขาก็ค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมาอย่างช้า ๆ รวมถึงลูกกระเดือกที่ถูกทำลายไปก่อนหน้านี้ด้วย
“ฉันขอยอมแ...” บอดี้การ์ดอาศัยจังหวะที่ลูกกระเดือกของตนเองได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาจนพอจะเปล่งเสียงได้ รีบพูดขอยอมแพ้ทันที
“ไม่น่าน่า จะรีบยอมแพ้ไปทำไมกัน ?” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงใช้ปลายเท้าอุดปากของบอดี้การ์ดเอาไว้ ทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถขอยอมแพ้ได้อีก
“ฉันจะเล่นกับแกอย่างดีเลยล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงกล่าวออกมาพร้อมหัวเราะเสียงดัง
ที่ผ่านมาเขาแค่แกล้งเล่นสนุกไปอย่างนั้นเพื่อให้อีกฝ่ายมีความหวัง ก่อนจะบดขยี้มันทิ้งอย่างโหดเหี้ยม การทำแบบนี้มันช่างมีความสุขเสียจริง ๆ