ตอนที่แล้วบทที่ 32 ผู้เชี่ยวชาญ (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34 ผู้เชี่ยวชาญ (6)

บทที่ 33 ผู้เชี่ยวชาญ (5)


บทที่ 33 ผู้เชี่ยวชาญ (5)

. .

ในวันที่ 20 หน้าอพาร์ทเมนท์ของคังวูจิน

เช้าตรู่ ท่ามกลางอากาศที่อุ่นสบาย คังวูจินสวมเสื้อสเวตเตอร์สีเทา ก้าวออกมาจากอพาร์ทเมนต์ของเขา ตรงหน้าเขามีรถตู้สีดำที่คุ้นเคยจอดอยู่

ยามนั้นเอง

"คุณคังวูจิน!"

ซีอีโอชเวซองกุนเห็นคังวูจิน จึงลงจากรถตู้และหัวเราะอย่างออกรส

“สวัสดีตอนเช้า ขึ้นมาสิครับ!”

เขาเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารพร้อมกับท่าทางเบิกบาน คังวูจินก็คล้อยไปตามอารมณ์ของเขาเช่นกัน  แน่นอนแค่ภายในใจเท่านั้น สาเหตุที่เขาสุขใจมากคงเพราะเรื่องที่เขาสามารถจำภาษาอังกฤษที่เพิ่งได้เรียนรู้เมื่อไม่กี่วันก่อนได้กระมัง

‘อืม เช้านี้วิเศษจริง ๆ’

คังวูจินทักทายซีอีโอชเวซองกุนด้วยน้ำเสียงที่เย็นชากว่าความรู้สึกของเขา

"สวัสดีครับ ซีอีโอ"

หลังจากคังวูจินขึ้นรถซีอีโอชเวซองกุน เขาจึงขึ้นเบาะคนขับและรถก็เริ่มเคลื่อนตัว ซีอีโอชเวซองกุนเหลือบมองคังวูจินที่เบาะข้างคนขับ ขณะที่เขากำลังขับรถออกจากซอย

‘ทำไมวันนี้เขาดูเย็นชาจัง? เมื่อวันก่อนเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?’

เปล่า ไม่ใช่แบบนั้นเลย ตอนนี้ถึงคังวูจินที่มีสีหน้าเรียบเฉย แต่ที่จริงกำลังจมอยู่กับความคิดฟุ้งซ่านเล็ก ๆ น้อย ๆ

‘หิวจัง กินข้าวเช้าดีไหมนะ? อยู่ ๆ ฉันก็อยากกินบะหมี่เย็น อยากทงคัตสึด้วย’

ซีอีโอชเวซองกุนที่ไม่มีทางรู้เรื่องนี้ได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ ฮงฮเยยอนนักแสดงหญิงที่เขาดูแลมาอย่างยาวนานนั้นก็ไม่ธรรมดาเลย แต่คังวูจินยิ่งกว่านั้นอีกหลายเท่า เป็นถึงคนบ้าที่ปฏิเสธผู้กำกับวูฮยอนกูคนนี้

‘ทำไมมีแต่คนบ้า ๆ มารวมตัวกันรอบตัวฉันกันเนี่ย?’

แต่ก็นะ คนบ้าพวกนี้ก็มีความสามารถที่ยอดเยี่ยม ซีอีโอชเวได้แต่ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง ก่อนจะเริ่มบทสนทนาด้วยรอยยิ้ม

“คุณคังวูจิน คุณได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับการถ่ายทำเรื่อง 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' ครั้งแรกแล้วหรือเปล่าครับ? พวกเขาบอกว่ามันจะเป็นวันที่ 25 นี้”

"ครับ ผมทราบแล้ว"

"ผมกำลังจัดการทุกอย่างให้นะครับ แม้ว่าคุณPDซงมันวูยังไม่ยืนยัน แต่ดูเหมือนว่าจะถ่ายฉากของรยูจองมินและรองหัวหน้าพัคก่อน"

ตอนนี้ใจของคังวูจินเริ่มเต้นระรัว

หลังจากการซ้อมถ่ายทำผ่าน 'สำนักงานนักสืบ' จบลง ตอนนี้ก็ถึงเวลาถ่ายทำจริงแล้ว การถ่ายทำครั้งนี้คงจะไม่สั้นเหมือน 'สำนักงานนักสืบ' ซึ่งเพื่อให้ผลงานออกมาดีที่สุด เขาจำเป็นต้องรักษาระดับการแสดงให้นิ่งและสม่ำเสมอตลอดการถ่ายทำ มันน่าตื่นเต้นมาก จากนั้นเอง ซีอีโอชเวซองกุนก็ยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่กังวลเลย

"ดูเหมือนว่าคุณจะกังวลเลยนะครับ คุณคังวูจิน ว่าแต่เรื่องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการถ่ายทำในอีกห้าวันข้างหน้า คุณต้องการอะไรเพิ่มไหมครับ?"

"ยังไม่มีครับ"

"เข้าใจแล้วงั้น งั้นวันนี้เราจะเริ่มต้นด้วยการถ่ายรูปโปรไฟล์ก่อนแล้วกัน"

เอ่อ รูปโปรไฟล์ ต้องใช้ท่าโพสต์เท่ ๆ สำหรับรูปโปรไฟล์หรือเปล่า? คังวูจินเคยเห็นภาพโปรไฟล์นักแสดงมาก่อน ทันใดนั้นความอายคล้ายคลื่นเล็ก ๆ พลันพัดผ่านเข้ามา เอ่อ ไม่ใช่ความอายอย่างเดียว แต่มันใกล้เคียงกับความเขินมากกว่า

'ฉันไม่เคยทำแบบนั้นมาก่อนเลย ต้องโพสต์ท่าแบบไหนเนี่ย?’

เขารู้สึกเก้งก้างตลอดเวลาเลยตอนถ่ายรูปบัตรประชาชน

แต่มันก็น่าจะคล้ายกับการแสดงใช่ไหมนะ? เขาพยายามกลบเกลื่อนความเขินอาย คังวูจินกลบเกลื่อนมันเอาไว้ และพูดเบา ๆ กับซีอีโอชเวซองกุนที่เพิ่งเลี้ยวรถไปทางขวา

"ซีอีโอครับ คุณพูดกับผมแบบสบาย ๆ ก็ได้นะครับ"

เขารู้สึกอึดอัดใจกับการพูดแบบสุภาพมาก ซึ่งราวกับได้ยินความคิดภายในใจของคังวูจิน ซีอีโอชเวซองกุนจึงพยักหน้าและตอบไปว่า

“อ้อ อย่างนั้นเหรอ? งั้นคังวูจิน แบบนี้โอเคใช่ไหมครับ?”

ในน้ำเสียงที่ผสมระหว่างคำสุภาพและคำไม่สุภาพ ซีอีโอชเวซองกุนก็อธิบายตารางงานประจำวันให้ฟัง

อันดับแรก เราต้องสร้างโปรไฟล์อย่างเป็นทางการของคังวูจินก่อน เพราะเขามีสังกัดแล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้สำหรับโปรโมทภายนอกหรือบนเว็บไซต์ พวกเขาต้องถ่ายรูปประจำตัวก่อน ด้วยเหตุนี้จึงไปที่ร้านเสริมสวยเพื่อแต่งหน้า

ที่นี่เป็นร้านเสริมสวยสำหรับคนดังเท่านั้น

ผ่านไปสักพัก คังวูจินก็รู้สึกตื่นเต้นพอสมควร

‘ในที่สุด ฉันก็จะได้ไปร้านเสริมสวยของคนดังเพื่อไปแต่งหน้าแล้ว’

คังวูจินเป็นคนธรรมดา รู้เพียงแค่ประโยคเดียวเวลาไปร้านตัดผม

ตัดผมสั้นหน่อยครับ

เรื่องนี้อาจจะเป็นแบบเดียวกันกับผู้ชายทุกคน แต่สำหรับคังวูจินมันแย่ยิ่งกว่า เพราะเขาไว้ผมสั้น ร้านตัดผมเลยเป็นสถานที่ที่น่าอึดอัด แต่ตอนนี้เขากำลังไปร้านเสริมสวยที่นักแสดงไปกัน

ในยามนี้เอง

"คังวูจิน"

เมื่อเจอะเข้ากับสัญญาณไฟแดง ซีอีโอชเวซองกุนก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างกะทันหัน

“ผมปฏิเสธการคัดเลือกกับบ็อกซ์มูฟวี่ไปแล้ว หัวหน้าชเวโดมินเดือดมาก แต่ยังไงก็ตาม ผมปฏิเสธไปแล้ว”

อ๋อ เรื่องนั้นเหรอ? เขาลืมมันไปเสียสนิทเลย จริง ๆ แล้วคังวูจินลืมเรื่องพวกนนั้นไปแล้ว เพราะการได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษมันเป็นเรื่องใหญ่มากเกินไปสำหรับเขา

“อ้อ อย่างนั้นเหรอ? ขอบคุณครับ”

ซีอีโอชเวซองกุนได้แต่เกาหัว พลางยิ้มน้อย ๆ

“บอกตามตรง ผมเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน หากมีเหตุผลที่จริงจังมากมันคงไม่เป็นอะไร แต่แบบนี้มันก็... เฮ้อ ไม่สำคัญแล้วล่ะครับ เอาเป็นว่าคุณคงไม่ได้พูดถึงเรื่องสัญชาตญาณหรืออะไรก็ทำนองนั้นกับหัวหน้าชเวโดมินใช่ไหมครับ?”

“ครับ”

“ถ้าเขาได้ยินเรื่องนั้น เขาคงจะยิ่งโกรธเข้าไปอีก ยังไงซะตอนนี้บ็อกซ์มูฟวี่คงไม่มองคุณด้วยสายตาที่ดีแน่ เพราะพวกเขาดันถูกเมินจากการเสนอบทให้กับดาราโนเนม”

วงการบันเทิงมันเป็นวงการที่คับแคบ ใครอยากปฏิเสธก็ปฏิเสธได้ แต่ว่าวงการบันเทิงมันก็เหมือนกับป่า พอมันเป็นแบบนี้แล้ว เขาจะทำอะไรได้อีก? ทว่าคังวูจินกลับตอบไปได้อย่างใจเย็นกว่าที่คาดไว้

“แต่มันก็ยังดีกว่าไปปฏิเสธเขาหลังจากที่ได้คัดเลือกไปแล้วนะครับ”

“ถูกต้องครับ การปฏิเสธไปตั้งแต่แรกเลยมันย่อมส่งผลกระทบน้อยกว่า แต่ก็นั่นแหละครับ ต่อไปนี้คุณคงจะได้ร่วมงานกับผู้กำกับวูฮยอนกูยากขึ้นแน่ ๆ คุณรู้ใช่ไหม? เขาเป็นคนเจ้าอารมณ์ และเอาแต่ใจตัวเองด้วย”

แล้วจะให้เขาทำยังไง? แค่เพราะเขาเป็นผู้กำกับฝีมือดี ฉันก็ไม่สามารถไปเล่นหนังกาก ๆ ได้หรอกนะรู้ใช่ไหม? ถึงจะน่าเสียดายที่เขาเป็นถึงผู้กำกับฝีมือดี...แต่ถ้าหนังมันห่วย ก็เป็นแค่การเสียเวลาเปล่า ๆ

‘ด้วยเหตุนี้ ฉันคงต้องโกหกนิดหน่อยแล้วล่ะ’

คังวูจินตอบกลับด้วยท่าทีจริงจัง

“ผมไม่สนใจครับ”

พอเห็นท่าทางของคังวูจิน ซีอีโอชเวซองกุนก็พึมพำกับตัวเองเบา ๆ

‘เขาเฉยเมยกับหนังของผู้กำกับฝีมือดีขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ? ยิ่งดู ยิ่งรู้สึกว่าเขาไม่เหมือนคนทั่วไปเลยแฮะ'

ความเข้าใจผิดมันกำลังเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ แบบทุกวินาที แต่ซีอีโอชเวซองกุนก็ไม่รู้ตัว พอไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียว เสียงอันเรียบเฉยของคังวูจินก็ดังขึ้น

“ซีอีโอ ผมต้องการชุดสูทครับ”

"สูทเหรอ? อยู่ ๆ นายอยากได้สูทขึ้นมาทำไม?”

ทำไมงั้นเหรอ? เพราะผู้กำกับชินดงชุนบอกให้เขาซื้อสูท ถึงเขาจะยังไม่แน่ว่าจะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศหรือเปล่า แต่เขาก็คิดว่ายังไงคงต้องใช้สูทอยู่ดี

อย่างน้อยนั่นก็เป็นสิ่งที่คังวูจินคิด

แต่คำตอบที่ออกจากปากไปมันต้องน่าสนใจหน่อย 'คำว่า ‘เผื่อไว้’ มันดูฟังไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไร คังวูจินจึงคิดว่าควรจะต้องผสมความหยิ่งยโสเข้าไปด้วย

“ผมตั้งใจจะใส่มันไปงาน ‘เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง’ ครับ”

“… ‘เทศกาลหนังสั้นมิสอองแซง’ งั้นเหรอครับ?”

“ครับ”

เมื่อได้ยินคำตอบจริงจังของคังวูจิน ซีอีโอชเวซองกุนก็รู้สึกประทับใจยิ่ง

‘ถ้านายเข้ารอบชิงไม่ได้ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรไปงานเทศกาลหนังสิ แต่สำหรับหมอนี่ เขาไม่มีพื้นฐานความคิดถึงว่าเรื่องนี้จะล้มเหลวเลยเหรอ? มั่นใจในตัวเองมากมันเกินไปแล้ว’

ซีอีโอชเวซองกุนคิดเองเออเอง ว่าเขาเชื่อมั่นในตัวเองมาก

“ฮ่า ๆ ได้อยู่แล้วครับ ‘สำนักงานนักสืบ’ คงได้รางวัลใหญ่แน่นอนใช่ไหม? แต่ถึงจะไม่ยังไง นายก็ควรเตรียมสูทไว้อยู่ดี ซึ่งนายคงมีอยู่แล้วแหละ ทว่านี่คืองานเทศกาลใหญ่ เราคงต้องดูแลภาพลักษณ์มากกว่าเดิมด้วย”

จากนั้น หลังจากคิดอยู่สักพัก ซีอีโอชเวซองกุนก็ตัดสินใจ

“เรื่องสูท แน่นอนว่าทางบริษัทจัดการให้ได้ เพราะมันจำเป็นสำหรับการทำงาน วันนี้คงจะยุ่งมาก งั้นจัดการเรื่องสูทวันนี้เลยละกัน  เอ่อ- เพราะว่าฮงฮเยยอนเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์หรูพอดี การหาสูทผู้ชายคงไม่ใช่เรื่องใหญ่  ไหน ๆ พอพูดถึงสูทแล้ว ลองเพิ่มรูปใส่สูทลงในโปรไฟล์คุณดูด้วยสิ”

เมื่อได้ยินคำว่า ‘หรู’ คังวูจินก็หูชันขึ้นมาทันที

‘สุดยอดเลย ให้สูทแบรนด์หรูกับฉันเฉย ๆ งี้เลยเหรอ?’

จากนั้นบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัวของคังวูจินทันที มันเป็นประโยคที่เขาเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวันก่อน

“ผมขอบทภาษาญี่ปุ่นได้ไหมครับ?”

“… ภาษาญี่ปุ่น? นี่เป็นคำขอที่แปลกประหลาดมาก ทำไมต้องเป็นบทภาษาญี่ปุ่นด้วยล่ะครับ?”

เพื่อตอบคำถามนั้น คังวูจินก็ตอบกลับไปอย่างจริงจัง

“ผมแค่อยากลองดู ไม่มีเหตุผลอะไรมาก”

สองชั่วโมงต่อมา ที่ร้านเสริมสวยขนาดใหญ่ย่านชองดัมดง

ประมาณเที่ยง ร้านในอาคารสามชั้นดูหรูหราตั้งแต่แวบแรก ภายในตกแต่งราวกับวัง และคังวูจินกำลังอยู่บนชั้นสาม ซีอีโอชเวซองกุนอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ซึ่งท่ามกลางเก้าอี้หลายตัวตรงกลาง เป็นคังวูจินที่กำลังนั่ง...ไม่สิ

“…”

กำลังหลับอยู่ เขาอยู่ในร้านตั้งแต่เช้าและรู้สึกเหนื่อยเมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน นอกจากนี้ มันอาจเป็นเพราะเบาะที่เขานั่งค่อนข้างสบายอีกด้วย

ทันใดนั้นเอง...

-พึบ

คังวูจินที่หลับอยู่ก็ลืมตาขึ้น โชคดีที่เขาไม่ได้ขยับเขยื้อนมากนัก คังวูจินทำหน้าราวกับเพิ่งตื่นจากการงีบหลับในห้องเรียน

‘ฉันหลับไปเหรอเนี่ย?  แย่ชะมัด-เป็นเพราะเก้าอี้สบายเกินไปหรือเปล่า? แต่ฉันยังรู้สึกง่วงอยู่เลยแฮะ’

ในเวลานั้นเอง

“โอ๊ะ”

ดีไซเนอร์สาวที่ยืนอยู่ด้านหลังคังวูจินก็ยิ้มออกมา

“คุณคงเหนื่อยมากสินะคะ”

ผู้หญิงในเสื้อเชิ้ตสีขาวมีผมยาวสีเหลืองพูดขึ้นมา ส่วนคังวูจินก็ได้แต่กลั้นความอายไว้แล้วกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา

“ผมแค่กำลังนึกถึงบท”

นั่นไม่ใช่ความจริงเลย เขาแค่ผล็อยหลับไปโดยไม่คิดอะไร ซึ่งที่พูดออกไปแบบนี้เพราะแค่เขาอายเท่านั้น ซึ่งโชคดีที่ดีไซเนอร์ไม่สงสัยคำพูดโกหกของคังวูจิน

“เป็นอย่างนั้นเหรอคะ? ถ้าบอกว่ากำลังคิดถึงบทอยู่ แสดงว่าคุณเป็นนักแสดงหน้าใหม่ใช่ไหมคะ? คุณดูเหมือนนักแสดงมากเลย ว่าแต่คุณตัดสินใจใช้ชื่อบนวงการแสดงของคุณแล้วหรือยังคะ?”

“แค่คังวูจินครับ”

“อ๋อ คุณคังวูจิน! มาบ่อย ๆ นะคะ นี่คือร้านประจำของคุณฮงฮเยยอนเลยค่ะ”

“ครับ”

“เสร็จแล้วลองดูสิคะ ซีอีโอชเวซองกุนให้ฉันทำให้ดีที่สุด ฉันเองก็ลงมือสุดความสามารถเลย”

ในไม่ช้า คังวูจินก็สบตากับภาพสะท้อนในกระจกเงาตรงหน้าเขา แล้วเขาก็ตรวจสอบภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก สิ่งที่น่าสนใจตรงนี้คือ

“?!?!”

ดวงตาของคังวูจินเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าของเขาเอง เหตุผลนั้นง่ายมาก

เพราะคังวูจินในกระจก...

‘… ว้าว นายคือใคร? นั่นฉันจริง ๆ เหรอ?’

เขาเปลี่ยนไปเป็นตัวเองที่หล่อเหลาอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ใช่แค่ในสายตาของคังวูจินเท่านั้น ดีไซเนอร์ผมสีทองที่แต่งหน้าให้เขาก็เช่นกัน

“แม้แต่ซีอีโอชเวซองกุนคงจะประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แน่เลย ว่าไหมคะ?”

ในเวลานั้นเอง ที่กองถ่าย 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล'

เนื่องจากวันถ่ายทำวันแรกได้รับการยืนยันแล้ว ทีม'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล' จึงยุ่งมาก แม้กระทั่งตอนนี้ พวกเขาก็กำลังตรวจสอบการตรวจสอบขั้นสุดท้าย แน่นอนว่าความรับผิดชอบทั้งหมดเป็นของ PDซงมันวู

เขาตอนนี้กำลังสั่งทีมกำกับ

“ทันทีที่การตรวจสอบที่นี่เสร็จสิ้นแล้ว บอกทีมงานที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทำให้รอด้วย ผมจะคุยกับผู้กำกับกล้องแยก”

“ครับ ครับ คุณPD”

“เหลือเวลาอีก 5 วันก่อนการถ่ายทำวันแรก! พยายามกันเข้าไว้!”

หลังจากให้คำแนะนำที่เหมาะสมแล้ว PDซงมันวูก็เดินไปที่รถตู้ที่จอดอยู่ในที่จอดรถ มันเป็นการพักผ่อนช่วงสั้น ๆ ในวันก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งนอนไปแค่ 3 ชั่วโมงเอง เขาแทบไม่มีเวลานอนพักเลย

จากนั้นเอง...

"อืม"

ภายในรถ PDซงมันวูนึกถึงคังวูจินเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาได้ไปเป็นคนกลางคัดเลือกตัวนักแสดงหนังใหม่ให้คังวูจิน แต่เขาไม่รู้ว่าผลลัพธ์มันจะลงเอยเช่นไร มันทำให้เขาสงสัยมากจริง ๆ ว่าคังวูจินจะมาร่วมงานกับผู้กำกับวูฮยอนกูหรือไม่?

ในไม่ช้า PDซงมันวูก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา แต่คนที่เขาโทรหาไม่ใช่คังวูจิน ทว่าเป็นซีอีโอชเวซองกุน

"สวัสดีครับ ซีอีโอชเวซองกุนครับ"

PDซงมันวูเอ่ยปากทันทีที่ซีอีโอชเวซองกุนรับสายอย่างรวดเร็ว

"คุณยุ่งอยู่ไหม?  คุยได้หรือเปล่า?"

ปลายสาย ซีอีโอชเวซองกุนตอบกลับอย่างยินดี

"ไม่ยุ่งแน่นอนครับ ผมต้องรับโทรศัพท์จากPDซงมันวูของเราแน่นอน ต่อให้ผมจะนอนหลับอยู่ก็ต้องรับหได้ ฮ่าฮ่าฮ่า  มีอะไรหรือเปล่าครับ?"

ในเวลาเดียวกัน เสียงผู้หญิงดังขึ้น

"PD สวัสดีค่ะ-"

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคย PDซงมันวูจึงหัวเราะออกมา

"อ่า อยู่กับคุณฮงฮเยยอนด้วยเหรอ?"

"ใช่ครับ ผมขอโทษนะครับ ฮงฮเยยอนก็อยู่ที่นี่ด้วย ผมเจอกับเธอระหว่างรอคังวูจินที่ร้านค้า อ๋อ คุณโทรมาหาผมเพราะคังวูจินไม่รับโทรศัพท์เหรอครับ? ตอนนี้เขายังอยู่ชั้น 3 ของร้านเสริมสวยครับ"

"เปล่า ไม่ใช่ ไม่ใช่เรื่องนั้นครับ"

ทันทีที่ชื่อของคังวูจินถูกพูดถึง PDซงมันวูก็เข้าประเด็น

"ผมแค่อยากรู้ว่าการประชุมกับบ็อกซ์มูฟวี่ของคังวูจินเป็นยังไงบ้าง ไปเจอกับผู้กำกับวูฮยอนกูหรือเปล่าครับ?"

"อ๋อ เขาปฏิเสธไปครับ"

"อะไรนะ?  ปฏิเสธอะไรครับ?"

"ผลงานชิ้นต่อไปของผู้กำกับวูฮยอนกูครับ แม้ว่าจะไม่ใช่การคัดตัวนักแสดง แต่หัวหน้าชเวโดมินก็กระตือรือร้นที่จะเอาตัวเขามาให้ได้ แต่คังวูจินของเรากลับปฏิเสธอย่างเด็ดขาด"

"จริงหรือ? เหตุผลคืออะไรกัน?"

ต่อคำถามนั้น ซีอีโอชเวซองกุนตอบด้วยน้ำเสียงที่เฉยชายิ่ง

"เขาพูดประมาณว่าสัญชาตญาณครับ เขาแค่อ่านบทไม่กี่หน้าอย่างรวดเร็ว แล้วก็บอกว่ารู้สึกไม่ดี"

"อะไรนะ?"

มันเป็นคําที่คุ้นเคยมาก รู้สึกไม่ดีงั้นเหรอ? PDซงมันวูลูบเคราของเขาโดยไม่รู้ตัว

'··· คังวูจิน เขาใช้ลางสังหรณ์อีกแล้วเหรอ?  สัญชาตญาณถูกกระตุ้น?'

แน่นอนว่ายังไม่มีอะไรแน่นอน เพราะผลงานเรื่อง 'สำนักงานนักสืบ' และ 'ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล'' ยังไม่ออกฉาย  แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง PDซงมันวูจริงจังกับ 'ความรู้สึก' ของคังวูจินมาก เขาอยากรู้เหลือเกินว่าสายตาและสัญชาตญาณที่แท้จริงของคังวูจินจะทำได้ดีขนาดไหนกัน?

'ว่าแต่ บทภาพยนตร์ของผู้กำกับวูฮยอนกูมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?'

แต่มันแปลกเกินไปแล้ว

อีกฝ่ายเป็นถึงผู้กำกับวูฮยอนกู แม้ว่าผลงานจะต่ำกว่ามาตรฐานไปหน่อย แต่อย่าลืมสิว่าคังวูจินเป็นแค่นักแสดงโนเนม หากเขาเข้าร่วมการแสดงเรื่องนี้ ชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นและคำขอสัมภาษณ์จะหลั่งไหลเข้ามแน่

'แต่เขาปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะคิดทบทวนเลยงั้นเหรอ? เป็นการกระทำที่มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่ทำได้ อ่า จริงสิ คุณคังวูจินก็มีด้านที่บ้าคลั่งซ่อนอยู่สินะ'

จากนั้นPDซงมันวูก็พึมพำกับโทรศัพท์ของเขา ราวกับว่าเขาจะวางสาย

"อืม คุณเองก็คงทำอะไรไม่ได้สินะครับถ้านักแสดงบอกว่าเขาไม่อยากแสดง"

"ใช่แล้วครับ ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของคุณPDนะครับ”

เมื่อวางสาย PDซงมันวูก็มองออกไปนอกหน้าต่าง  ในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้สึกถึงความคาดคาดหวังอันแสนแปลกประหลาด

“คน ๆ นี้ชักดูน่าสนุกดีแฮะ”

ตอนนั้นเอง

-♬♪

โทรศัพท์ในมือของPDซงมันวูดังขึ้นอย่างอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้PDซงมันวูที่สงสัยว่าเป็นสายจากใครจึงเอียงคอ เพราะมันเป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกชื่อไว้ ทว่าเพราะช่วงนี้เขาสายโทรศัพท์แบบนี้บ่อย ๆ PDซงมันวูจึงรับสายอย่างไม่ใส่ใจนัก

“ครับ ผมPDซงมันวูเอง”

เสียงผู้ชายตอบกลับจากอีกด้านของโทรศัพท์ เป็นน้ำเสียงที่ดูอ่อนโยน

“PDซงมันวูครับ นานแล้วนะครับที่ไม่ได้เจอกัน ผมผู้กำกับควอนกีแท็กครับ”

ในไม่ช้า ดวงตาของPDซงมันวูก็เบิกกว้างขึ้น เขาตะโกนไปทันที

“หา?  อ๋อ ใช่ครับ! ผู้กำกับครับ!  ไม่เจอกันนานเลยนะ”

“ฮ่าฮ่า คุณสบายดีไหม?  เอ่อ เราทักทายกันที่งานประกาศรางวัลแบคซังเมื่อสองปีที่แล้ว”

“ผมรู้ ผมจำได้ครับ จะลืมได้ยังไงกัน”

“ผมมีบางอย่างที่อยากรู้ เลยต้องหาเบอร์ของคุณมา ขอโทษนะครับที่โทรไปรบกวนแบบกะทันหัน”

"ครับ?? เปล่าครับ ไม่เป็นไรเลย!”

PDซงมันวูตื่นเต้น เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะผู้กำกับควอนกีแท็กเป็นผู้กำกับฝีมือดีคนหนึ่ง ทัดเทียมกับผู้กำกับวูฮยอนกู ถ้าจะจัดอันดับผู้กำกับแถวหน้าของประเทศ เขาก็จะติดอันดับเสมอ  ยิ่งถ้าต้องจัดอันดับจริง ๆ ผู้กำกับควอนกีแท็ก อาจจะอยู่เหนือผู้กำกับวูฮยอนกูด้วยซ้ำ

เรียกได้ว่าติดอันดับสูงไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ชมรวมและผลงานที่ประสบความสำเร็จ

ผู้กำกับควอนกีแท็กคนนั้น ถามPDซงมันวูว่า

“คุณกำลังเตรียมถ่ายทำละครอยู่ใช่ไหม? ผมตั้งตารอชมอยู่นะ มีกำหนดการถ่ายทำวันแรกหรือยังครับ?”

“อ๋อ ขอบคุณครับ ถ่ายทำวันแรกนัดกันไว้สัปดาห์หน้าครับ แต่ทำไมคุณถึงถามเรื่องนี้กันล่ะครับ?”

“อืม คือผมได้ยินข่าวลือมาว่านักแสดงในละครของคุณ ขยันฝึกฝีมือการแสดงกันมาก เลยอยากจะขอแอบเข้าไปดูการถ่ายทำในวันแรกสักหน่อยน่ะ”

“คุณอยากจะมาสังเกตการณ์งั้นเหรอครับ?”

เมื่อPDซงมันวูถามคำถามนั้น ผู้กำกับควอนกีแท็กก็รีบตอบกลับมาทันทีจากปลายสายว่า

“ใช่ครับ ผมอยากดูการแสดงของรยูจองมิน รบกวนด้วยนะครับ”

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay , ลงแค่ในThai-novelและMy-Novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

5 2 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด