บทที่ 121 มันเป็นใครกัน!
หลังทะลวงเข้าสู่ระดับหกของขั้นเซียนสวรรค์สำเร็จ หยางเสี่ยวเทียนกับเหยาติง ก็ไม่มีสิ่งใดให้ค้นหาหรือต้องการจาก ณ ที่แห่งนี้อีกแล้ว
เขาเดินออกจากโถงเล็กภายในถ้ำ ยืนนิ่งแหงนมองทางข้างบนที่ตนเคยเข้ามา ก่อนเผยยิ้มให้กับมันพร้อมกระโดดปลายเท้าแตะตามจะงอยผนังถ้ำขึ้นไป คล่องแคล่วประดุจอสูรวานรมิมีผิด
นอกถ้ำทัณฑ์สวรรค์
หลัวชิงผู้นั่งนิ่งขัดสมาธิ เฝ้ารอการเคลื่อนไหวจากหยางเสี่ยวเทียนอยู่ปากทางเข้าถ้ำ เป็นเวลานานหลายวัน เริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียดมากทวียิ่ง เมื่อเห็นว่ายังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
ตั้งแต่วันแรก ที่เสียงคำรามจากมังกรดังขึ้น เขากับเสี่ยวจินก็ตัดสินใจพุ่งตัวลงหาหยางเสี่ยวเทียนทันที แต่พยายามฝ่าแรงกดดันนั้นไปได้เพียงร้อยห้าสิบจั้ง เสี่ยวจินก็ต้องดึงกระชากเขาขึ้นมา ด้วยพวกเขาจะตายกันทั้งคู่ หากยังฝืนลงไปต่อ
พอประคับประคองกันขึ้นมาได้อย่างยากลำบาก เขากับเสี่ยวจินก็ถึงกับต้องนั่งขัดสมาธิรักษาอาการบาดเจ็บจากแรงกดทับอันมหาศาลนั้น
นี่ก็ผ่านมาสามจะสี่วันแล้ว หลังเสียงคำรามของมังกรนั่น ที่ทำเขายิ่งรู้สึกไม่สบายใจและเริ่มพะวงโดยตลอดตั้งแต่ขึ้นมาได้ หลัวชิงลุกขึ้นยืนกำหมัดแน่น พร้อมตัดสินใจจะลงไปอีกครั้งแม้ตัวต้องตายก็ยอม
วันนี้เขาจะต้องลงไป และช่วยนายน้อยให้ได้
แต่ขณะหลัวชิงกำลังเคลื่อนไหว ร่างผอมของคนที่เขาคุ้นเคยก็พุ่งตัว โผล่ขึ้นมาจากปากถ้ำอันมืดมิด ทำหลัวชิงถึงกับเบิกตาสุขใจด้วยรับรู้ทันทีว่าคือหยางเสี่ยวเทียน เขาแทบทนไม่ไหวที่จะปรี่เข้าหาเด็กน้อยผู้นั้น เพื่อต้อนรับการกลับมาของเขาด้วยความยินดียิ่ง
“นายน้อย!” หลัวชิงพยายามเก็บซ่อนน้ำเสียงสั่นเครือของตนไว้อย่างดี เพื่อที่หยางเสี่ยวเทียนจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลต่อเขาอีกคน
ส่วนเสี่ยวจินกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขเช่นกัน แม้มันจะเก็บอาการแห่งความดีใจจนน้ำตาไหลพรากไม่ไหวก็เถอะ
หยางเสี่ยวเทียนพยักหน้าขณะเผยยิ้มส่งหลัวชิง กระทั่งลูบหัวปลอบประโลมเจ้าเสี่ยวจินให้มันคลายห่วง
“กลับกันเถอะ” หยางเสี่ยวเทียนกล่าวกับทั้งสอง
การตามหาถ้ำทัณฑ์สวรรค์ครั้งนี้ แม้นต้องเผชิญอุปสรรคมากมายกว่าจะมาถึง ก็นับว่าคุ้มอยู่ไม่น้อย เพราะไม่เพียงเขาจะพิชิตไฟศักดิ์สิทธิ์ได้เท่านั้น แต่ยังพบธารสายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์ ที่เขานำกลับมาฝากทุกคนอีกเยอะด้วย
หลัวชิงที่คอยเดินติดตามหยางเสี่ยวเทียนอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางมีความสุขของเด็กน้อยน่าทึ่งคนนี้ เขาก็พลันแย้มยิ้มและถามว่า
“ท่านพบสิ่งที่กำลังตามหาหรือไม่”
“พบแล้ว” หยางเสี่ยวเทียนหัวเราะเบาๆ ทำหลัวชิงถึงกับหัวใจพองโต ด้วยเขาไม่เพียงกลับมาอย่างปลอดภัย แต่ยังได้สิ่งที่ต้องการอีกด้วย สมแล้วที่เป็นนายน้อย
“เราจะเชือดหมี ทำเนื้อย่างเป็นมื้อเย็นฉลองกัน” หยางเสี่ยวเทียนกล่าว น้ำเสียงเคล้าความสำราญ
เสี่ยวจินรู้สึกตื่นเต้นทันทีเมื่อได้ยินว่าเนื้อหมีย่าง
“ข้าได้ของชั้นดีสำหรับเจ้า กลับมาฝากด้วย” หยางเสี่ยวเทียนอมยิ้ม ขณะบอกกล่าวทั้งสอง
หลัวชิงติดอยู่ในขั้นราชันยุทธ์ระดับสิบขั้นปลายมาเป็นเวลานานแล้ว หากเขาได้ดื่มธารสายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์ เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแกร่ง เปลี่ยนแปลงเส้นเอ็น ตัดต่อไขกระดูกควบคู่ไปกับการบ่มเพาะปราณจักรพรรดิพฤกษา โอกาสที่เขาจะทะลวงเข้าสู่ขั้นบรรพจารย์ยุทธ์อาจมีเพิ่มขึ้นไม่น้อย
จากนั้น หยางเสี่ยวเทียน หลัวชิง พร้อมเสี่ยวจินก็เดินทางออกห่างจากถ้ำทัณฑ์สวรรค์ มุ่งสู่สถานที่ต่อไป
ณ หมู่บ้านสกุลหยาง
ในเวลาเดียวกันนี้ หยางหมิงและหยางไห่ ต่างมีสีหน้ากลัดกลุ้มใจ ด้วยประสบปัญหาทางกิจการประจำตระกูลครั้งใหญ่อีกหน
เพราะแร่ที่พวกเขากำลังเตรียมจะนำขนส่งวานนี้ ถูกปล้นไปอีกครั้ง
และครานี้ ถูกกลุ่มชายสวมหน้ากากปล้นไป
ซึ่งแร่ชุดนี้ เป็นจำนวนที่เยอะและสำคัญกว่าชุดที่เคยถูกปล้นไป โดยหมู่บ้านเฮยเฟิงเมื่อไม่กี่เดือนก่อนมาก
“บัดซบสิ้นดี! ต้องมีคนกำลังมุ่งร้ายต่อหมู่บ้านสกุลหยางเรา มันเป็นใครกัน!” หยางไห่ฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะหินด้วยบันดาลโทสะถึงกับสั่นสะเทือน
เนื่องด้วย กลุ่มโจรที่มาปล้นคราก่อนคือหมู่บ้านเฮยเฟิง จึงรู้ว่าจะต้องไปเอาคืนได้จากที่ใด ทว่า ครั้งนี้นั้น กลับมิอาจรู้ได้ว่าใครหรือเป็นกองกำลังไหนมาปล้น แล้วจะให้ไปทวงคืนจากที่ไหน
หยางไห่ฉุนเฉียวทวียิ่ง ทันทีที่รู้ว่าตนจะไม่สามารถส่งมอบแร่เหล่านั้นให้กับสำนักไป่เจี้ยน และอาจต้องชดใช้ค่าปรับที่ไม่เป็นไปตามสัญญาด้วยเหรียญทองอยู่จำนวนไม่น้อย ซึ่งนับเป็นความเสียหายอันมหาศาลมากสำหรับสกุลหยาง
หยางหมิงเดินวกไปเวียนมาด้วยร้อนใจเป็นที่สุด ก่อนจะพลันแผดเสียงคำรามด้วยความโกรธ “ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีใดก็ตาม ต้องเอาแร่เหล่านั้นกลับมาให้ได้!”
หยางไห่ถึงกับผงะด้วยเกรงกลัวคนเป็นบิดายิ่ง ขณะก้มหน้าหลบตาอยู่ครู่ จู่ๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาให้หัวเขา
“ท่านพ่อ ข้ามีความคิดดีๆ เราไปขอให้น้องรองตามหามัน แล้วนำมันกลับมาดีหรือไม่”
หยางหมิงสะดุ้งตกใจหลังได้ยินชื่อนี้สักพัก ก่อนกล่าวว่า “หยางเฉางั้นหรือ”
“ใช่แล้วท่านพ่อ ในครั้งที่แล้ว น้องรองเป็นผู้ตามหาแล้วนำมันกลับมาให้เราได้” หยางไห่อธิบายด้วยสีหน้าแลแววตาเจ้าเล่ห์
จากนั้นเขาก็กล่าวต่อ “ในเมื่อครั้งที่แล้ว เขาสามารถนำมันกลับมาได้ ข้าคิดว่าครั้งนี้เขาก็คงนำมันกลับมาได้เช่นกัน”
หยางหมิงเงียบไป ขบคิดไตร่ตรองอยู่ครู่ และทอดถอนใจกล่าวว่า “เฮ้ย… ข้าเกรงว่าเขาจะไม่ทำน่ะสิ”
เรื่องที่หยางหมิงเป็นกังวลหาใช่สิ่งใด เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นขาดสะบั้นไปตั้งแต่คราก่อนแล้ว
ด้วยสิ่งที่หยางเฉาทำครั้งก่อน ไม่เพียงแต่ช่วยหมู่บ้านสกุลหยางตามหาแร่ที่หายไป แต่ยังช่วย คนตระกูลหยางรักษาเงินได้ถึงหนึ่งหมื่นเหรียญทองอีกต่างหาก
ทว่า หลังจากที่หยางเฉานำแร่กลับมา พวกเขาไม่เพียงตระบัดสัตย์ เรื่องที่จะให้เขาดูแลกิจการเหมืองแร่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น แต่ยังขับไล่หยางเฉาออกจากหมู่บ้านสกุลหยางแห่งนี้ ด้วยเขาไม่ยอมอยู่ใต้บัญชาใครอีก
เมื่อหยางไห่ได้ยินเช่นนั้น จึงกล่าวว่า “เขาเป็นคนของตระกูลหยาง หากแร่ในหมู่บ้านสกุลหยางหายไป เขาก็ต้องมีหน้าที่ตามมันกลับมาเป็นธรรมดาอยู่แล้วมิใช่รึ”
จากนั้นสีหน้าเขาพลันเป็นเป็นเย็นชา “ท่านพ่อ ท่านเป็นผู้นำตระกูลและหมู่บ้านสกุลหยาง เพียงท่านเอ่ยปากให้เขาไปตามหาแร่กลับมา มีรึเขาจะกล้าปฏิเสธ”
“ตกลง เช่นนั้นเราก็ไปหาหยางเฉากันเถอะ” หยางหมิงลังเลไปพักหนึ่ง ก่อนพยักหน้าในที่สุด