ตอนที่แล้วคนใหญ่คนโตเต็มไปหมด พวกเขามากันทำไม (อ่านฟรี 05/07/2567)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปทำไมนายชอบสะสมของปลอมจังเลย (อ่านฟรี 13/07/2567)

นายเป็นอะไรกับน้องสาวฉัน เงิน 150 ล้านหยวน! (อ่านฟรี 09/07/2567)


แกร๊ก  ปั้ง!

ประตูห้องที่ปิดไว้ถูกเปิดย่างรุนแรงพร้อมกับตำรวจหน้าเดิมที่รีบเข้ามาอย่างเร่งร้อน เขาหอบหายใจอย่างหนักน่าจะมาจากการที่รีบวิ่งไปที่ไหนสักแห่งมาอย่างแน่นอน

“คุณเย่เซวียน คุณช่วยออกไปกับผมเถอะครับ ผมเคลียร์เอกสารพร้อมทำเรื่องขอค่าชดเชยให้แล้วครับ” เขากล่าวออกมาพร้อมยื่นเอกสารบางอย่างให้ดู

บนเอกสารก็แค่บอกไว้คร่าว ๆ ว่าทางสถานีตำรวจแห่งนี้จะออกเอกสารขอโทษอย่างเป็นทางการให้กับตัวของเย่เซวียนและตัวผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงจะชดเชยเป็นเงินให้จำนวนคนละห้าพันหยวน ซึ่งเย่เซวียนก็เห็นว่ามันก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน ความจริงที่เขาไม่ยอมออกไปก็แค่เพราะอยากเล่นตัวให้อีกฝ่ายลำบากให้มากที่สุดก็เท่านั้น

ตอนนี้จะออกไปก็ได้แล้ว... แต่อยู่อีกสักหน่อยจะดีกว่า!

“คุณเก็บเศษเงินนั่นไว้เถอะ ผมไม่ต้องการมันหรอก” เย่เซวียนตอบกลับไปด้วยความหยิ่งทะนง

“เฮ้! นายเลิกเล่นได้แล้ว ไปกันเถอะ” แต่แทนที่จะเป็นเสียงตำรวจ กลับมีเสียงของหญิงสาวดังขึ้นแทนเสียอย่างนั้น ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังก้มหน้ากินขนมอยู่ต้องเงยขึ้นมาดู

“อ้าว! เธอนี้เอง พวกนั้นปล่อยตัวแล้วเหรอ” เย่เซวียนที่เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายก็กล่าวขึ้นมาด้วยความยินดี ถึงเขาจะรู้อยู่แล้วว่าพวกตำรวจคงไม่กล้าทำอะไรหญิงสาวแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้

“ตำรวจก็อยากปล่อยตัวพวกเราใจจะขาดแล้วนั่นแหละ นายก็เลิกเล่นแล้วออกไปสักที มีคนรออยู่” ฮวาหวู่หลิงกล่าวออกมาด้วยความเหนื่อยใจ เธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายน่าจะกำลังปั่นหัวพวกตำรวจเล่นอยู่

ถึงจะรู้จักกันได้แค่วันเดียวแต่ก็พอจะมองนิสัยของชายตรงหน้าออก ถ้าไม่ติดว่าที่หน้าสถานีมีผู้ทรงอิทธิพลหลายคนรออยู่เธอก็คงจะถ่วงเวลาอยู่ที่นี่เพื่อสร้างเรื่องให้ใหญ่ขึ้นเหมือนกัน

แต่แค่นี้... พวกตำรวจในนี้ก็ไม่น่าจะรอดไปได้แล้วล่ะ

“ก็ได้ งั้นไปกันเถอะ” ชายหนุ่มตอบรับอย่างว่าง่ายก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปยังทางที่หญิงสาวตัวเล็กยืนรออยู่

“เออจริงสิ ! อย่าลืมเรื่องสัญญาล่ะ ถ้าพวกคุณไม่ทำตามสัญญาผมจะประจานลงบัญชีเวย์ปั๋วของผมนะ” แต่ก่อนที่จะเดินจากไปชายหนุ่มก็ไม่ลืมที่จะหันมาข่มขู่ตำรวจนายนั้นด้วย

เงินตั้งห้าพันหยวนเลยนะ! กินข้าวได้หลายวันเลยล่ะ

...

“ดูนั่นสิ! มีคนกำลังเดินออกมาจากด้านใน” มีชาวจีนมุงคนหนึ่งที่สายตาดีสังเกตเห็นพวกเย่เซวียนกับฮวาหวู่หลิงพอดี เขาจึงชี้ให้ทุกคนดู

“จริงด้วย ที่พวกตำรวจมันใช้กำลังเข้าจับกุมนี่นา” มีเสียงชาวจีนคนหนึ่งดังขึ้น ดูเหมือนเขาจะเห็นเหตุการณ์ตอนที่พวกตำรวจบุกจับกุมเลยพูดขึ้นมา

“ทำไมตอนนี้ถึงทำท่าทางเคาระนอบน้อมแบบนั้นล่ะ ? ท่าทางดุดันไม่ยอมฟังอะไรแบบตอนแรกหายไปไหน ?” เพราะท่าทีของพวกตำรวจที่อ่อนลงอย่างมากทำให้เกิดความแปลกใจในหมู่ชาวจีนที่ยืนเฝ้าหน้าสถานีอยู่

“แล้วทำไมถึงใส่กุญแจผู้ชายคนนั้นไว้แบบนั้นล่ะ ? นี่มันจะปล่อยตัวหรืออะไรกันแน่ แถมยังมีรอยช้ำบนหน้าอีก! พวกตำรวจซ้อมเขาแน่ ๆ !” มีคนสังเกตเห็นว่าบนหน้าของเย่เซวียนมีรอยคล้ำสีดำอมน้ำตาลเหมือนถูกซ้อมมา แถมถูกใส่กุญแจมือเอาไว้อีกด้วย

เมื่อเห็นแบบนี้ผู้คนที่เริ่มสงบลงได้นิดหน่อยแล้วในตอนแรกก็พากันโวยวายขึ้นมาเสียงดังอีกครั้ง พวกเขาขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจอย่างไม่หยุดมือ

“นายตั้งใจใช่ไหม ?” ฮวาหวู่หลิงหลี่ตามองชายที่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยสายตาจับผิด

เธอย่อมรู้ดีว่าก่อนจะออกมาชายตรงหน้าของเธอทำอะไรมาบ้าง เขาต้องจงใจแน่ ๆ

ครึ่งหลัง

“เปล่านะ ฉันแค่สะดุดล้ม แล้วก็เลอะเทอะนิดหน่อยแค่นั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจเลยสักนิด” เย่เซวียนกล่าวโต้แย้งกลับไป ถึงความจริงเขาจะตั้งใจก็เถอะ

แค่แกล้งล้มนิดหน่อยตรงที่มีฝุ่น แล้วก็เอามือไปควักดินจากกระถางต้นไม้มาตบ ๆ บนหน้าก็แค่นั้นเอง ส่วนกุญแจมือเขาก็ไม่ยอมให้พวกตำรวจถอดให้

ไม่ได้เจตนาจะทำอะไรสักหน่อย... จริง ๆ นะ !

“คิกคิก ฉันจะพยายามเชื่อก็แล้วกัน ไปกันเถอะ พี่สาวฉันมานั่นแล้ว” ฮวาหวู่หลิงกล่าวออกมาพลางเดินนำหน้าชายหนุ่มไป เธอฝ่ากลุ่มตำรวจไปยืนอยู่ด้านหน้าสุดพร้อมกับพวกบอดี้การ์ดและเย่เซวียน

“หวู่หลิง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ?” พี่สาวของฮวาหวู่หลิงกล่าวออกมาด้วยความเป็นห่วง

ในชีวิตนี้เธอเหลือแค่คุณยายกับน้องสาวตัวเล็กตรงหน้าเท่านั้น ทุกวันนี้เธอจึงพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อให้ตระกูลของเธอกลายเป็นตระกูลที่มั่นคงมากขึ้นไปอีก

“ก็ นิดหน่อยค่ะพี่เสี่ยวชิง” หญิงสาวตัวเล็กยิ้มออกมาก่อนจะตอบกลับไป

“แล้วจะให้พวกเรายืนคุยกันอยู่ตรงนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ?” ฮวาเสี่ยงชิงหันไปกล่าวกับรองสารวัตรด้วยน้ำเสียงเย็นชา เธอได้เห็นคลิปวิดีโอทั้งหมดตั้งแต่ที่น้องสาวของเธอเริ่มเปิดไลฟ์แล้ว และในเวลานี้เธอก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก

เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ และไม่ใช่แค่คนเดียวด้วย !

“ชะ.. เชิญทุกท่านที่ด้านในก่อนได้เลยครับ ทางนี้เลยครับ” รองสารวัตรรีบกล่าวออกมาด้วยความลนลานพลางเดินนำหน้าคนทั้งกลุ่มไปด้วย

ทุกคนที่มาล้วนเป็นคนที่เขาแตะต้องไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงไร้การงานอาชีพอีกตลอดชีวิตแน่ ๆ เพราะเหตุนั้นในตอนนี้เขาจึงได้แต่ต้องทำตัวให้ดีที่สุดเผื่ออีกฝ่ายจะยอมเห็นใจบ้าง

...

“สรุปแล้ว ดูเหมือนฝั่งตำรวจจะเป็นฝ่ายผิดนะ” ทนายฉีกล่าวสรุปออกมาหลังจากที่ทุกคนภายในห้องได้รับฟังเรื่องราวจากฮวาหวู่หลิง

ภายในห้องรับรองขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีผู้คนอยู่ในห้องประมาณยี่สิบคน มีฮวาหวู่หลิง เย่เซวียน ฮวาเสี่ยวชิง รองสารวัตร ทนายฉี รองประธานสมาคมผู้คุ้มครองสิทธิประชาชน และคนอื่น ๆ ที่มีตำแหน่งในวงการไม่ธรรมดาอีกมากมาย

ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้มีอำนาจพอจะขับเคลื่อนมณฑลได้ แต่ภายในจังหวัดนี้แทบจะเอามือข้างเดียวปิดฟ้าได้เลยล่ะ

“ครับ...” รองสารวัตรได้แต่นั่งนิ่งแล้วกล่าวออกมาเสียงอ่อน

ในตอนนี้เขาจะไปทำอะไรได้อีก ทั้งแรงกดดันจากกระแสสังคม ตระกูลฮวา เบื้องบน ไหนจะกลุ่มคนที่อยู่ในห้องนี้ แค่เขาไม่ถูกอุ้มหายไปก็บุญเท่าไหร่แล้ว

“งั้นก็แยกย้ายกันเท่านี้นะ” ฮวาเสี่ยวชิงกล่าวตัดบทออกมา ก่อนที่เธอจะพาคนในกลุ่มกลับไปยังรถหรูที่จอดเอาไว้ท่ามกลางสายตาของนักข่าวและฝูงชน

ภายในรถสุดหรูคันหนึ่ง

“นายเป็นอะไรกับน้องสาวฉัน ?” ฮวาเสี่ยวชิงกล่าวถามออกมาเมื่อพวกเขาอยู่กันเพียงลำพัง

ภายในรถมีเพียงคนขับรถที่ถูกกั้นด้วยผนังรถกับห้องคนโดยสาร ส่วนภายในห้องคนโดยสารมีเพียงเย่เซวียน ฮวาหวู่หลิง ฮวาเสี่ยวชิง

คำถามของเสี่ยวชิงทำให้หวู่หลิงหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะรีบตอบกลับไป

“พี่คะ! อย่าเข้าใจผิดสิ นี่เย่เซวียนที่ช่วยชีวิตคุณยายไว้ค่ะ คุณยายเลยให้หนูมาพาเขาซื้อของก็เท่านั้นเอง”

“พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ แค่ถามเฉย ๆ ที่แท้ก็คุณเย่เซวี่ยนนี่เอง ขอบคุณคุณมากนะคะที่ช่วยชีวิตคุณยายเอาไว้ ถ้ามีอะไรให้ช่วยสามารถติดต่อฉันได้ตลอดเลยนะคะ” ฮวาเสี่ยวชิงกล่าวออกมาพลางยื่นนามบัตรของเธอให้กับชายหนุ่ม

“ขอบคุณมากครับ ผมก็แค่ทนเห็นคนเป็นอะไรไปต่อหน้าไม่ได้ก็เท่านั้นเอง ไม่ต้องขอบคุณอะไรมากมายหรอกครับ แถมคุณยายก็ให้บัตรกดเงินผมมาตั้งเยอะ จนตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่ามันมีเงินทั้งหมดเท่าไหร่” เย่เซวียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเกรงใจ

“ฉันขอดูบัตรที่ว่าหน่อยได้ไหมคะ” เสี่ยวชิงกล่าวถามออกมาด้วยความสุภาพ

“นี่ครับ” ชายหนุ่มก็ยื่นบัตรธนาคารที่ได้มาให้อีกฝ่ายอย่างว่าง่าย

เขาเพิ่งจะใช้เงินจากบัตรนี้ไปไม่กี่ล้านหยวนเอง เนื่องจากไม่รู้ว่าบัตรมีเงินอยู่เท่าไหร่จึงไม่กล้าใช้ให้มันมากจนเกินไป อีกส่วนนึงก็เกรงใจด้วยนั่นแหละ

“อ๋อ บัตรนี้นี่เอง ถ้าเป็นบัตรใบนี้น่าจะมีเงินอยู่ประมาณ 150 ล้านหยวนนะคะ คุณใช้ได้ตามสบายเลยไม่ต้องเกรงใจ ถ้ามันหมดก็หักบัตรแล้วโยนทิ้งไปได้เลยค่ะ” ฮวาเสี่ยวชิงกล่าวออกมาเหมือนมันเป็นเพียงเงินจัดนวน 150 หยวนไม่มีผิด

เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับจำนวนเงินที่มากขนาดนี้เลย

“150 ล้าน!!” เย่เซวียนกล่าวออกมาด้วยเสียงที่ดังกว่าปกติ

มีเงินขนาดนี้เขาก็รวยแล้วสิ! เงินนี้ไม่ใช่เงินจากระบบที่ห้ามใช้ให้ตัวเองด้วย ถ้าอย่างนั้นเอาไปซื้อรถสักคน ปรับปรุงร้านใหม่ หาของดี ๆ มาขาย เปิดธุรกิจ มีหลายสิ่งที่ต้องทำเต็มไปหมด!!

ฉันจะรวยให้ได้เลย!!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด