ตอนที่ 70: เสด็จพ่อ ท่านคือคือเวทย์มนตร์ของข้า!
“เสด็จพ่อ ข้าทำผิดไปแล้ว!”
เสวียนซีจับมือของหลินซวนด้วยความละอาย
ปากเล็ก ๆ ที่แฟบ และจมูกเล็ก ๆ กระตุก ดูคล้ายว่านางกำลังจะร้องไห้
หลินซวนมองดูคราบน้ำมันบนผืนผ้าใบอย่างละเอียด
เพราะมีทักษะการวาดภาพระดับปรมาจารย์ ทำให้เขาคุ้นเคยกับวิธีจัดการกับภาพวาดที่ปนเปื้อนเช่นนี้เหมือนกัน.
เขาจึงแตะศีรษะของเด็กหญิงตัวน้อยเบา ๆ "ไม่เป็นไร มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่"
ก่อนที่หลินซวนจะเอ่ยอีกครั้ง ตงหวงเต๋อเย่ก็เอ่ยออกมาว่า "ใช่แล้ว! ไม่เป็นไรเลย มันเป็นแค่คราบน้ำมันนิดหน่อย"
ซู่ชิงก้าวไปด้านหน้าลูบศีรษะของเสวียนซี เผยยิ้มเบา ๆ: "เด็กน้อย อย่าได้เอามาใส่ใจ"
[别往心里去 อย่าได้เอามาใส่ใจ]
“หวังเฟยเดิมทีก็สวยอยู่แล้ว เจ้าไม่ต้องคิดอะไรมาก!”
แม้ว่าจะได้รับการปลอบโยน แต่เสวียนซี ก็ยังคงรู้สึกเสียใจ
เสวียนจู่,เสวียนหาน และ เสวียนหยู ก็พยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า
พวกนางคิดว่าเสวียนซีคงจะไม่ทำผิดพลาดสาดคราบน้ำมันไปบนผืนผ้าใบ หากพวกนางไม่ได้ปรบมือ
เห็นภาพวาดสวยงามสกปรกเช่นนี้ เด็กน้อยย่อมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก.
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นอะไรเลย!”ตงหวงเต๋อเย่เอ่ยออกมาอย่างไม่ใส่ใจ“ข้าก็แค่ขอให้ปรมาจารย์ฮั่นวาดภาพอีกครั้งก็ได้!”
“ไม่เป็นไรจริงรึ?”เสวียนซี กระพริบตาและมอง ฮั่นเต้าจื่อ ด้วยตากลมโต
"ไม่เป็นไร วาดใหม่ได้"
ฮั่นเต้าจื่อ เปลี่ยนคำเอ่ยของเขา: "ปัญหาเดียวคือผืนผ้าใบที่ชายชราใช้นั้นเป็นของวิเศษที่สลักอาคมที่ถูกเรียกว่า’ผ้ามุก’ ”
“ของวิเศษชิ้นนี้สามารถกำหนดแสงและสีได้ เมื่อลงสีไปแล้ว ก็รับประกันได้ว่าจะไม่จางหายหรือเสียรูปในเวลาหมื่นปี โดยที่ยังคงความแวววาวสดใสเอาไว้เช่นเดิม”
“ถ้ามันเปื้อนน้ำมันแล้ว ก็จะไม่มีทางกำจัดออกไปได้ เพราะข้ามีของวิเศษเพียงชิ้นเดียว ถ้าต้องวาดใหม่ ก็คงต้องวาดด้วยภาพวาดธรรมดาเท่านั้น!”
ตงหวงเต๋อและคนอื่น ๆ พยักหน้าเงียบ ๆ เมื่อได้ยินสิ่งนี้
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภาพหวางเฟยที่ฮั่นเต้าจื่อ วาดนั้นสวยงามและสดใสเป็นพิเศษ ปรากฎว่าผืนผ้าใบนี้เป็นของวิเศษนี่เอง.
เนื่องจากผืนผ้าใบมีรอยเปื้อนถาวร คงมีแต่ต้องทิ้งเท่านั้น.
หวางเฟยซูชิงที่เผยยิ้มอย่างอ่อนโยน“ใช้กระดาษวาดรูปธรรมดาก็ได้ นี่เป็นเพียงการบันทึกความทรงจำ เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดเพียงแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้!”
ทุกคนมองนางอย่างชื่นชม
ควรค่าเป็นหวางเฟยเหนียงเหนียง จิตใจที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ.
หลินซวนก็พยักหน้าเล็กน้อยเช่นกัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่บุตรสาวชอบหวางเฟยซูชิงมาก บุคลิกของนางดีมากจริง ๆ
“เสด็จพ่อครับ ไม่มีทางที่จะทำให้ผืนผ้าใบกลับคืนสภาพเดิมได้จริง ๆ เหรอ?”
เสวียนซี คิดว่าเสด็จพ่อของนางมีอำนาจทุกอย่าง จึงเอ่ยถามด้วยความหวังสุดท้ายที่ดูริบหรี่
หลินซวน ส่ายหน้า: "การฟื้นฟูเป็นไปไม่ได้"
เช่นเดียวกับที่ฮั่นเต้าจื่อเอ่ย ของวิเศษนี้จะช่วยปรับสีและแสง คราบน้ำมันที่เปื้อนไปแล้ว จึงถูกของวิเศษผนึกเอาไว้ แม้แต่จะทำลายส่วนนั้นไป ไม่เช่นนั้นก็ไม่อาจนำคราบน้ำมันนั่นออกมาได้.
"ฮือ ~" ไหล่เล็ก ๆ ของเสวียนซีทรุดลงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว แววตาของนางที่รู้สึกผิดหวังอย่างสุดซึ้ง.
หลินซวนลูบศีรษะเล็ก ๆ ของนางด้วยความรัก: "แต่เสด็จพ่อสามารถทำให้ภาพวาดนี้สว่างและสวยงามยิ่งขึ้นได้"
"จริงหรือ?" ดวงตาของเสวียนซีที่สว่างขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว.
เสด็จพ่อมีวิธีจริง ๆ!
ทุกคนต่างก็บอกว่า เสด็จพ่อเก่งที่สุด!
เมื่ออยู่กับหลินซวนมานาน เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็รู้ว่าตราบใดที่เสด็จพ่อตอบว่าใช่ ย่อมทำได้!
เสวียนจู่ เสวียนหาน และเสวียนหยูก็ดึงมือของหลินซวนอย่างคาดหวังเช่นกัน: "เสด็จพ่อ ถ้าอย่างนั้นเสด็จพ่อก็ทำให้ภาพวาดออกมาดูดีด้วย!"
ไม่เพียงแต่พวกนางเท่านั้น แม้แต่ตงหวงเต๋อเย่ และ หวางเฟยซูชิง ฯลฯ ล้วนแต่ประหลาดใจและคาดหวังด้วยเช่นกัน
เนื่องจากตี้ฟู่ เอ่ยว่ามีวิธี ย่อมไม่ได้เอ่ย ไร้สาระอย่างแน่นอน.
ทว่า...ภาพวาดที่เปื้อนแล้วจะทำให้ดูดีขึ้นได้อย่างไร?
ท่ามกลางฝูงชน สีหน้าของฮั่นเต้าจื่อดูตื่นเต้นที่สุด
เขารีบก้าวไปข้างหน้า พร้อมทำความเคารพ: "ขอให้ตี้ฟู่ ดำเนินการอย่างรวดเร็วด้วย เพื่อจะได้ให้ทุกคนได้ยล!"
เห็นว่าอีกฝ่ายดูเร่งร้อน ทุกคนก็อดถอนหายใจไม่ได้ สมควรเป็นจิตรกรที่หมกมุ่นกับการวาดภาพจริง ๆ.
หลินซวนยิ้มเบา ๆ : "ตกลง"
เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าน้ำมันที่สาดจากมือของเสวียนซีก็คือน้ำมันวอลนัทที่ใช้ผสมผักเย็น
น้ำมันวอลนัทเป็นหนึ่งในเม็ดสีผสมหลายชนิดที่ใช้กันทั่วไปในการวาดภาพสีน้ำมัน
หากต้องการแก้งานนี้ล่ะก็.
จำเป็นต้องใช้น้ำมันพืชสองสามชนิด ปรับสีของภาพนี้ให้เป็นภาพเขียนสีน้ำมัน.
ด้วยการใช้ทักษะวาดภาพปรมาจารย์.
หลินซวน ไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญการวาดภาพต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังคุ้นเคยกับการผสมผสานและการปรับแต่งเม็ดสีอีกด้วย
จากนั้น เขาได้สั่งให้ผู้คนรวบรวมน้ำมันวอลนัทและน้ำมันพืชอื่น ๆ รวมทั้งแร่ธาตุสองสามชนิดที่จำเป็นสำหรับการเตรียมเม็ดสีตามที่กำหนด
“ข้าจะจัดการเอง”ฮั่นเต้าจื่อที่ริเริ่มช่วยรวบรวมวัตถุดิบทั้งหมดที่หลินซวนต้องการอย่างรวดเร็ว.
ภายใต้ความสนใจ อยากรู้อยากเห็นของทุกคน หลินซวน บดวัตถุดิบอย่างรวดเร็วและเริ่มผสมเม็ดสีตามสัดส่วนที่กำหนด
"ปรากฎว่าน้ำมันพืชก็ใช้สร้างเม็ดสีได้เช่นกัน!" ฮั่นเต้าจื่อ อดไม่ได้ที่จะทำให้ดวงตาของเขาสว่างขึ้น
เขามีลางสังหรณ์ที่แข็งแกร่ง เป็นไปได้ว่าหลังจากได้ชมทักษะวาดภาพของตี้ฟู่ในวันนี้ ทักษะการวาดภาพของเขาจะสามารถพัฒนาไปอีกขั้นได้อย่างแน่นอน
เพราะสิ่งที่ตี้ฟู่ทำ เขาไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อน เท่ากับว่ามันคือเส้นทางใหม่ที่เขายังไม่เคยเห็นมาก่อนนั่นเอง.
หลังจากเตรียมพร้อมแล้ว! หลินซวนก็เริ่มวาดภาพด้วยสีที่เตรียมไว้.
หลังจากนั้นไม่นาน ภาพวาดที่สวยงาม สีสันสดใส และเหมือนกับคนจริงทุกประการก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน
เมื่อเห็นหญิงสาวที่งดงามมีเสน่ห์ ดูเย้ายวนบนผืนผ้าใบ สัมผัสได้ถึงความสดใสมีจิตวิญญาณราวกับภาพวาดมีชีวิต
ผู้คนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ต่างก็อุทานตื่นตะลึงไปตาม ๆ กัน!
ฮั่นเต้าจื่อ ดวงตาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ สมองของเขาที่ราวกับมีแสงสาดส่องออกมา ราวกับว่าได้รับการชี้แนะจากผู้เป็นอมตะ
“ถ้าภาพวาดของอาจารย์ฮั่นเหมือนจริง ภาพวาดของตี้ฟู่ก็สดใสงดงาม!”
“ใช่ หลังจากที่ตี้ฟู่ลงสี ภาพวาดนี้ก็มีโทนสีอบอุ่นและเย็น เข้ากับแสงและความมืด สัมผัสได้ถึงความกลมกลืน ราวกับว่าเป็นภาพวาดของเซียนเลย!”
“มันน่าทึ่งมาก! ถ้าไม่รู้ว่ามันเป็นภาพวาด ข้าคงคิดจริง ๆ ว่าหวางเฟยได้เปลี่ยนไปเป็นภาพวาดแล้ว!”
เหล่าขุนนางและผู้มีอำนาจต่างก็เคยพบเห็นงานศิลปะของจิตรกรที่มีชื่อเสียงนับไม่ถ้วน.
อย่างไรก็ตาม ภาพวาดสีน้ำมันที่ปรับปรุงโดย หลินซวน นั้นพวกเขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก.
สีสันและความแวววาวที่สดใสนั้นสูงกว่าภาพวาดของ ฮั่นเต้าจื่อ อย่างน้อยหนึ่งระดับ
ฮั่นเต้าจื่อที่กล่าวกับหลินซวนด้วยความมั่นใจ:
"เมื่อเทียบกับตี้ฟู่ แล้ว ฉายาของชายชราที่ถูกเรียกว่า ‘ปราชญ์แห่งจิตรกรรม’ ช่างน่าเขินอายจริง ๆ!"
"จากนี้ไป ฉายาปราชญ์จิตรกรรมของเป่ยเสวียนเทียน คงมีเพียงตี้ฟู่เท่านั้นที่คู่ควร!"
คำเอ่ยของเขาได้รับการอนุมัติเป็นอย่างมากจากทุกคน
“ใช่แล้ว! ปราชญ์จิตรกรรม เหมาะสมกับตี้ฟู่ยิ่งนัก!”
ภาพวาดของหวางเฟยซูชิงที่ปรับแต่งโดยตี้ฟู่ ทำให้นางชื่นชอบมันเป็นอย่างมาก:
“สวรรค์อวยพร ไม่คิดเลยว่าจะได้รับภาพวาดที่สวยงามขนาดนี้”
“การวาดภาพที่ราวกับใช้เวทย์มนตร์ ทำให้ภาพวาดที่เปื้อนถูกเสกให้กลับกลายเป็นยอดเยี่ยมได้ดั่งปาฏิหาริย์!”
ตงหวงเต๋อก็ยิ้มอย่างสดใสเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เดิมทีงานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อวาดภาพเพื่อให้หวางเฟยซูชิงมีความสุข
ตอนนี้หวางเฟยได้ภาพวาดที่งดงามเป็นอย่างมาก งานวันเกิดวันนี้คุ้มค่าจริง ๆ!”
เมื่อเห็นทุกคนชื่นชมภาพวาดของหลินซวน เสวียนซี ซึ่งอยู่ที่นั่น ก็ถอนหายใจยาวออกมาได้
นางเงยหน้าขึ้นแล้วกวักมือเรียกหลินซวน: "เสด็จพ่อ ข้ามีเรื่องจะเล่าให้ฟัง"
“เจ้ากำลังเอ่ยอะไรรึ?” หลินซวนก้มลงอย่างสงสัย
เสวียนซี ยิ้มอย่างลับ ๆ โดยคิดว่า หลินซวน ไม่ได้สนใจ ดังนั้น จึงกอดคอและหอมแก้มเขาสามครั้งในลมหายใจครั้งเดียว
"เสด็จพ่อ ท่านคือคือเวทย์มนตร์ของข้า!"