ตอนที่ 68: เรื่องใหญ่ เมื่อถึงเวลา...ข้าจะทำมันอีกครั้ง!
บุรุษผู้นี้ จงใจรึ?
เมื่อเอ่ยถึงการบ่มเพาะ เขาก็ไม่ยอมรับฟังเลยรึ?
ตงหวงจื่อโหยวกัดฟันขาวเงินของนาง ส่ายหน้าเอ่ยออกมาว่า“มันไม่สำคัญหรอก ข้าพูดกับสายลม!”
นางเห็นได้ว่าหลินซวนไม่สนใจจะรับฟังนางเลยแม้แต่น้อย.
เขาต้องการมีอายุยาวแต่กับไม่ต้องการเหนื่อยกับการฝึกฝน นางพูดไปแล้ว มีประโยชน์อะไร.
ในเวลานี้ นางไม่ควรเอ่ยอะไรออกมาเลยจะดีกว่า.
ค่อยหาวิธีอื่นก็แล้วกัน.
มันควรจะมีวิธี.
เมื่อคิดนึกถึงสิ่งนี้ ตงหวงจื่อโหยวก็รู้สึกดีขึ้นมา
ข้าอยู่ในอาณาจักรจักรพรรดิที่แข็งแกร่ง สามารถจัดการกับปุถุชนเช่นหลินชวนได้หรือไม่?
หลินซวนเห็นนางเก็บ "พระสูตรอายุยืน" และยาเม็ดเทียนเจี่ยไป ก็พอคาดเดาความตั้งใจของตงหวงจื่อโหยวได้ทันที.
อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าอย่างลับ ๆ: "สตรีนางนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมแพ้เลยจริง ๆ!"
เกี่ยวกับต้องบ่มเพาะ หลินซวนไม่คิดจะแตะต้องมันอยู่แล้ว.
เลี้ยงดูบุตรสาว แล้วรอรับรางวัลจากระบบ มันไม่สะดวกกว่ารึ?
การบ่มเพาะด้วยตัวเองจะมีอายุขัยเพิ่มได้เท่าไหร่กัน?
“เสด็จพ่อ ว่าวพร้อมหรือยัง?”
ในเวลานั้น เหล่าสาวน้อยก็วิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น
เพื่อก่อนหน้านี้บิดาของพวกนางบอกว่าอยากทำว่าวสวย ๆ ด้วยตัวเอง!
"ใช้ได้แล้ว!" หลินซวน ยิ้มและผูกเชือกเข้ากับว่าวในมือ
กระบวนการสุดท้ายเสร็จสมบูรณ์
ว่าวผีเสื้อสีแดงสวยงามปรากฏขึ้นต่อหน้าเจ้าหญิงตัวน้อย
"ว้าว มันดูดีมากเลย!"
สาวน้อยปรบมืออย่างมีความสุข ว่าวที่เสด็จพ่อทำนั้นสวยงามกว่าว่าวที่ช่างฝีมือในวังทำมาก
แม้แต่ตงหวงจื่อโหยวก็ยังแอบชื่นชม หลังจากได้เห็นมัน
"เจ้าชอบหรือไม่!" หลินซวน เผยยิ้ม แสดงถึงความรู้สึกถึงความสำเร็จ
ว่าวที่เขาเรียนรู้จากระบบการเรียนรู้ ระบบฝึกสอนพ่อผู้สมบูรณ์แบบ ย่อมงดงามสดใสกว่าว่าวใด ๆ ในโลกนี้.
ตราบใดที่มีวัสดุเพียงพอ หลินซวน ย่อมสามารถสร้างว่าวที่สวยงามเป็นพิเศษสำหรับเด็ก ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม
“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ มาเล่นว่าวด้วยกันเถอะ!”
“เสด็จพ่อกับเสด็จแม่ มาเล่นว่าวกัน สนุกมาก”
เสวียนจู่และเสวียนหานดึงหลินซวนและตงหวงจื่อโหยวมาตามลำดับ
ตงหวงจื่อโหยว ไม่อาจปฏิเสธเด็ก ๆ ได้ดังนั้นนางจึงพยักหน้า: "ตกลง!"
หลินซวนยื่นรอกเชือกที่ทำมาเป็นเพื่อใช้ควบคุมว่าวให้กับตงหวงจื่อโหยว: "เจ้าเอารอกเชือกไป แล้วข้าจะดึงตัวว่าวเอง"
"อืม." ตงหวงจื่อโหยว พยักหน้าเล็กน้อย
ทั้งสองจึงแบ่งงานกันและกัน
ตงหวงจื่อโหยว ค่อย ๆ เขย่ารอกเชือก และหลินซวนก็ยืนอยู่ตรงหน้านางและควบคุมว่าวให้บินขึ้นผ่านเชือก
“เสด็จพ่อเสด็จแม่ พวกท่านเร็วเข้า!”
“ใช่แล้ว ปล่อยให้ว่าวบินสูงขึ้นไป!”
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ยกหมัดเล็ก ๆ ไว้ด้านข้างเพื่อให้กำลังใจพวกเขา
หลินซวน และ ตงหวงจื่อโหยว ต่างก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ และต้องปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าตัวเล็ก
ตงหวงจื่อโหยว เร่งรีบถอยหลัง นี่นับเป็นการร่วมมือกับคนอื่นเป็นครั้งแรก ทำให้ดูมันแปลก ๆ เก้ ๆ กัง ๆ.
"อ่ะ~"
นางเหยียบก้อนกรวดบนพื้นหญ้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ลื่นจนทำให้นางเซถลาไปด้านข้าง
โชคดีที่นางตอบสนองเร็วมากและหมุนกายทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองล้ม
ทว่าก่อนที่นางจะขยับ แขนอันแข็งแกร่งก็คว้าจับเอวของนางไว้แล้ว
หลินซวน มองลงไปที่ ตงหวงจื่อโหยว ในอ้อมแขนของเขา และเอ่ยอย่างเรียบ ๆ: "ระวังตัวด้วย"
"อืม!" แก้มของตงหวงจื่อโหยวอุ่นขึ้นเล็กน้อย
นางรู้สึกแปลก ๆ เขาพยุงร่างนางขึ้นและปล่อยมือไปอย่างรวดเร็ว.
แต่การจ้องมองของนางยังคงอดไม่ได้ที่จะกวาดผ่านแขนของหลินซวน
ไม่คาดคิด แขนของเขาทรงพลังมาก
นางคิดอย่างลับ ๆ
หลินซวน ยังสัมผัสความอบอุ่นที่ยังคงเหลืออยู่ในมือ ขณะจ้องมองไปยังเอวของ ตงหวงจื่อโหยว
เอวของสตรีนางนี้บางมากและร่างกายของนางก็นุ่มมากด้วย
หลินซวนอดไม่ได้ที่จะคิดฟุ้งซ่าน
เมื่อเห็น หลินซวน เข้ามาพยุงตงหวงจื่อโหยวไว้ เด็กหญิงตัวเล็กทั้งสี่ต่างก็เผยยิ้มอย่างมีความสุข.
ความสัมพันธ์ระหว่างเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ ดีจริง ๆ
ครอบครัวที่ห่วงใยกัน ย่อมทำให้ทุกคนมีความสุขมาก!
จากนั้น เนื่องจากเด็ก ๆ ดูอยู่ หลินซวนและตงหวงจื่อโหยวจึงต้องเล่นว่าวกับพวกนางต่อไป
ตงหวงจื่อโหยว จงใจเฝ้าดูสภาพแวดล้อมรอบตัวนาง ไม่ให้เกิดปัญหาใด ๆ อีก.
จนกระทั่งทั้งสองยกว่าวขึ้นสู่ท้องฟ้า เหล่าสาวน้อยจึงแข่งขันกันเล่นว่าว
หลังจากที่ หลินซวน และ ตงหวงจื่อโหยว คืนว่าวให้พวกนาง พวกเขาก็ยืนดูพวกนางเล่น
จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน ตงหวงจื่อโหยว ก็กล่าวอำลาเด็ก ๆ อย่างไม่เต็มใจ กลับไปยังพระราชวังเพื่อจัดการราชกิจต่อไป.
-
แดนอมตะเก้าสวรรค์
พื้นที่รกร้างภายในดินแดนอมตะเก้าสวรรค์ ภายในถ้ำแห่งหนึ่ง.
บุรุษผู้แข็งแกร่งในชุดเกราะรบสีเงินกำลังนั่งอยู่บนม้านั่งหนังสัตว์ บนจุดสูงสุดของถ้ำ
เขามีผมสีแดงและมีเขาสีขาวเงินอยู่ตรงกลางหน้าผาก
กล้ามเนื้อทั่วร่างกายปูดโปนด้วยความแน่น ราวกับเต็มไปด้วยพลังที่ไร้ขอบเขต.
เขาเป็นผู้นำคนปัจจุบันของเผ่าแกะเงิน ซังโม หนึ่งในสิบอสูรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาณาจักรเก้าสวรรค์
“เหตุใดจึงไม่มีข่าวการตายของสามพี่น้องเทพสงครามเห่ยหยิงเลย?”
ซังโมพึมพำกับตัวเอง
เก้าวันผ่านไปนับตั้งแต่พี่น้องเห่ยหยิงสามคนถูกส่งออกไป
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับการเสียชีวิตของพวกเขาจวบจนถึงขณะนี้
สิ่งนี้ทำให้ซังโมรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
เขาซ่อนตัวอยู่ในแดนอมตะเก้าสวรรค์มาหลายพันปีแล้ว และเขาไม่เคยเจอเรื่องยุ่งยากเช่นนี้มาก่อน
หากแต่สิ่งหนึ่งที่เขาบอกได้ตามสัญชาตญาณ คนที่สังหารเทพสงคราวเห่ยหยิงนั้นต้องแข็งแกร่งจนน่าตื่นตะลึงอย่างแน่นอน!
ในเวลานั้น มีร่างสูงและผอมเดินเข้ามาจากภายนอกถ้ำ
ซังโม่มองออกไปอย่างตั้งใจ อีกฝ่ายคือรองผู้นำจากเขานั่นเอง อสูรลำดับแปดของตระกูลจิ้งจอก เหลียงชิว.
“พบอะไรเกี่ยวกับเทพสงครามเห่ยหยิงบ้าง?”ซังโม่เอ่ยถาม.
เหลียงชิวส่ายหน้า: "ยังไม่มีเบาะแสเลย!"
ซังโม่พยักหน้า เป็นไปตามที่เขาคิดไว้เช่นกัน จากนั้นเขาจึงเอ่ยถามออกมาอีกครั้ง “พรุ่งนี้เจ้าพร้อม สำหรับพิธีบูชาบรรพบุรุษหรือยัง”
เหลียงชิวพยักหน้า: "พร้อมแล้ว”
“ดีมาก” ซังโม่พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“การบูชาบรรพบุรุษครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ข้าจะต้องอธิษฐานขอพลังจากบรรพบุรุษมา”
“หากข้าได้รับพรจากบรรพบุรุษ ความแข็งแกร่งของข้าก็จะพัฒนาไปอีกขั้นอย่างแน่นอน”
“ดังนั้น ในพิธีการบูชาบรรพบุรุษครั้งนี้ ห้ามผิดพลาดเด็ดขาด!”
“รับทราบ หัวหน้าโปรดวางใจได้เลย จะไม่มีปัญหา!” เหลียงชิวดูแน่วแน่มั่นใจ "ข้าขอให้หัวหน้าประสบความสำเร็จในการบูชาบรรพบุรุษ และก้าวเข้าสู่อาณาจักรจักรพรรดิอสูรโดยเร็วที่สุด!"
ซังโมเงยหน้าขึ้นและหัวเราะสองครั้ง: "อาณาจักรจักรพรรดิอสูร ข้าจะต้องไปถึงในเร็ว ๆ นี้แน่นอน!"
“อย่างไรก็ตาม เจ้าไปจับหญิงสาวพรหมจารีสามร้อยคู่มา แล้วใช้โลหิตของพวกมันเพื่อกระตุ้นค่ายกลของเทือกเขาเป่ยกู่ซะ!”
ซังโม่รู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อยเมื่อนึกถึงชายผู้อยู่เบื้องหลังการจัดการเทพสงครามเห่ยหยิง.
เพื่อความปลอดภัย เขาตัดสินใจเปิดใช้งานค่ายกลป้องกันโบราณ บนเทือกเขาเป่ยกู่ทันที
ตราบใดที่ค่ายกลนี้เปิดใช้งาน จะไม่มีใครสามารถเข้าไปในภูเขาเพื่อรบกวนการบูชาบรรพบุรุษของพวกเขาได้
และเมื่อการบูชาบรรพบุรุษประสบความสำเร็จ เขาอาจจะสามารถก้าวเข้าสู่อาณาจักรจักรพรรดิอสูรได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
เมื่อถึงเวลานั้น...
แม้ว่าจะเป็นอาณาจักรจักรพรรดิของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาก็ไม่มีอะไรต้องกลัว!
"ใช่แล้ว มาเริ่มกันเลย!" เหลียงชิวคิดว่าผู้นำนั้นคู่ควรกับมหาอำนาจแห่งเผ่าอสูรผู้มีประสบการณ์ เพราะอีกฝ่ายกระทำการอะไรระมัดระวังเป็นอย่างมาก.
ตราบใดที่ค่ายกลอันยิ่งใหญ่โบราณของภูเขาเป่ยกู่ยังเปิดใช้งาน การเลื่อนระดับของผู้นำ สู่อาณาจักรจักรพรรดิอสูรก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นเผ่าอสูร ก็จะมีอนาคตไร้ขอบเขต!
-
เมื่อตกกลางคืน พระราชวังของตงหวงเต๋อเย่ก็ยังสว่างไสว
หลินซวนได้รับเชิญให้นำบุตรสาวสี่คนมาที่หน้าพระราชวังตรงตามเวลา
คราวนี้ เด็กหญิงตัวน้อยทั้งสี่ เสวียนจู่และน้อง ๆ ได้เตรียมของขวัญเล็ก ๆ ให้กับหวางเฟย ของตงหวงเต๋อเย่เป็นพิเศษ