ตอนที่ 31 สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่
1 เดือนผ่านไป วันเสาร์ 09.43 น.
ด้วยอำนาจของเงินตราจำนวนมากที่ดนัยได้ไปถอนมาจากการก่อสร้างเล็กน้อยทำให้ตอนนี้เขาได้สิ่งที่ต้องการมาครบหมดแล้วโดยมีค่าเสียหายคือ 70 ล้านกว่าบาท
“ฉันบอกว่าเอาแค่ยีนไม่ใช่เหรอ ทำไมมันมาเป็นตัวเลยล่ะ??”ตอนนี้ดนัยกำลังนั่งงงอยู่ในห้องทำงานของเขาพร้อมกับซินหรานและลูคัส
เหตุที่ทั้งสองต้องมาพร้อมกันก็เพราะมันดันมีหมาป่า และ จิ้งจอกอยู่ตรงหน้าพวกเขานี่ไง ยังดีที่พวกมันอยู่ในกรง แต่หมาบ้านอีกสองตัวตอนนี้มันกำลังเดินไปทั่วห้อง
“พวกนั้นมันเอาเข้าประเทศมาได้ไงกัน???”
“มันมีช่องทางและวิธีการที่หลากหลายค่ะท่าน…ว่าแต่จะเอาพวกนี้มาทำอะไรกันคะ”
“ฉันอยากได้หมาโหดๆเทพๆไว้เฝ้าบ้านน่ะ”
“แต่พวกนี้เราจะคุมมันอยู่เหรอคะ”
“ฉันไม่ได้อยากได้แบบนี้สักหน่อย มันควรจะเป็นแค่ขน เลือด หรือชิ้นส่วนร่างกายของพวกนี้สิ…ยังดีที่ Dire Wolf มันส่งมาเป็นเลือดที่แข็งตัวในน้ำแข็ง ถ้ามาเป็นตัวนั่นคงจะไม่ใช่แล้ว”
“แล้วเราจะเอายังไงกับเจ้าพวกนี้ดีครับ”ลูคัสถาม
“เจาะเลือดพวกมันมาตัวละหลอดแล้วปล่อยหมาป่าไป ส่วนที่เหลือเราเอามาเลี้ยงเอง”
“จะเลี้ยงจิ้งจอกด้วยเหรอคะ?”
“มันดูเรียบร้อยดีออก”ดนัยมองไปยังจิ้งจอกสีขาวที่กำลังนอนขดตัวอยู่ในกรง
“ฉันได้หาข้อมูลมาแล้วว่าจิ้งจอกที่เลี้ยงได้จะต้องนำมันมาเลี้ยง 14 วันหลังคลอดนะคะ”
“เอาน่าถ้ามันไม่เชื่องก็ค่อยส่งกลับไปทีหลังก็ได้”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
“ลูคัสจับล็อกหมาป่านั่นที มันกำลังแยกเขี้ยวใส่ฉันอยู่ด้วยนะ”
“ครับบอส”
ลูคัสเดินเข้าไปในกรงก่อนจะจับหมาป่ากดลงไปที่พื้นได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากมันโดนล็อคปากไว้อยู่จึงทำอะไรไม่ได้แต่การจะเจาะเลือดมันต้องดิ้นแน่ๆ
ซินหรานเดินเข้าไปหาพร้อมเข็มฉีดยาในมือก่อนจะดูดเลือดหมาป่าออกมาจนเต็มหลอด โดยระหว่างนั้นมันก็ขู่ออกมาด้วยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
“ต่อไปจิ้งจอก”
“ค่ะ”
ลูคัสเข้าไปทำแบบเดิมแต่คราวนี้กลับง่ายอย่างน่าเหลือเชื่อ
เจ้าจิ้งจอกตัวสีขาวตื่นขึ้นมาก่อนจะยอมให้เอาเลือดไปได้ง่ายๆและยังมองมาที่ดนัยด้วยดวงตาใสแป๋วมองไปมองมาช่างน่ารักจริงๆ
จากนั้นทุกๆตัวก็โดนเจาะเลือดจนครบ แต่หมาป่านั่นจะยังอยู่ต่ออีกสักพักเผื่อเลือดที่ใช้ไม่พอ
ถ้าถามว่าทำไมดนัยไม่ซื้อเอาจากในระบบ ก็เพราะมันไม่คุ้มน่ะสิ หมาบ้านสีขาวสามารถใช้เงินซื้อได้ราคาไม่แพง แต่ระบบกลับเก็บตั้ง 1 หมื่นคะแนน จิ้งจอกและหมาป่าก็ตัวละแสน
ส่วน Dire Wolf ดันไม่มีให้ซื้อ ดูเหมือนว่าเซลล์ของมันจะอยู่ไม่ถึงในอนาคตไม่ก็ถูกนำไปทดลองหมดแล้วก็ได้มั้ง
“เราไปกันเถอะ”หลังจากเก็บเลือดได้ครบดนัยก็หยิบกล่องสีดำขึ้นมาและเดินออกไป
“ครับ/ค่ะ”
…………….
คอนโด Blue Bird 10.06 น.
“สวัสดีทุกคน”เมื่อเข้ามาข้างในดนัยก็เอ่ยปากทักทายทันที
“สวัสดีครับบอส”
“วันนี้ผมจะมาลองสร้างสัตว์สายพันธุ์ใหม่ดูน่ะ”ดนัยเอ่ยจุดประสงค์ในทันที
“ท่านครับ….”เองเจโล่ถามเรียกเขาขึ้น
“ทำไมรึ”
“การจะสร้างสัตว์สายพันธุ์ใหม่มันส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนะครับ”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เจ้าตัวนี้ไม่จำเป็นต้องกินอาหาร”
“จริงเหรอครับ”
“แน่นอน”
เองเจโล่ตาเป็นประกายเพราะเรื่องการสร้างสิ่งมีชีวิตสุดโต่งแบบนี้ทำไมนักชีวะที่ทุ่มเททั้งชีวิตในการศึกษาสิ่งมีชีวิตจะไม่สนมันล่ะ
“เราไปกันเถอะครับ”ดูเหมือนเองเจโล่จะตื่นเต้นมากทำให้เขาลากทุกๆคนไปที่ลิฟต์แล้วกดขึ้นไปชั้นบนสุดทันที
ติ๊งง!!
ลิฟต์เปิดออกก่อนที่ทั้งหมดจะเดินไปตามทางและพบกับห้องที่ถูกล็อกไว้อย่างแน่นหนา อังเดรเดินเข้าไปก่อนจะนำมือไปทาบและสักพักประตูก็เปิดออก
“นี่คือเครื่องตัดต่อพันธุกรรมอนุภาคมานารุ่นปรับปรุงครับและยังมีเครื่องเพาะเลี้ยงตามที่บอสสั่งอีกด้วย”อังเดรกล่าวขึ้น
“ดีๆ เรามาเริ่มงานกันเถอะ ซินหรานแจกเอกสารที”
“ค่ะ”
ทุกคนรับกระดาษไปคนละแผ่นก่อนที่จะอ่านมัน สักพักหนึ่งทุกคนก็เหมือนจะมีไฟขึ้นมาและตื่นเต้นกับการทดลองในครั้งนี้
“เครื่องนี้สมบูรณ์แล้วแน่นะ”
“แน่นอนครับ”พุชกิ้นเอ่ยขึ้นมา
“งั้นเอานี่ไปใส่ให้ที”
ดนัยส่งมอบหลอดเลือด 4 หลอดให้แก่พุชกิ้นก่อนจะเปิดกล่องที่มีก้อนน้ำแข็งออกและเจาะเข้าไปดูดเอาหยดเลือดออกมา
“นำเจ้านี่ไปเพาะเพิ่มที”
“ได้ครับ”
“งานนี้ฉันอาจจะอยู่ที่นี่สัก 1 สัปดาห์ ช่วยลาหยุดให้ฉันทีซินหราน”
“ได้ค่ะ”
หากถามเหตุผลที่ดนัยทุ่มเงินไปจำนวนมากกับการทดลองครั้งนี้เพราะอะไร คำตอบที่ได้คงไม่ใช่กำไรแต่เป็นความสุขส่วนตัวที่มีสัตว์เลี้ยงสุดโหดและอาจจะมีประโยชน์ในอนาคตอีกด้วย
“อย่างแรกที่เราต้องทำคือการผสานยีนให้เข้ากันโดยดึงจุดเด่นของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ออกมา ที่สำคัญที่สุดฉันอยากได้ตัวสีขาว ไม่เอากลายพันธุ์เป็นสีอื่นนะ”
“เข้าใจครับ/ค่ะ!!”
“ดีมากเรามาเริ่มงานกันเลย”
1 สัปดาห์ผ่านไป
วันเสาร์ 09.54 น. คอนโด Blue Bird
“ในที่สุดเราก็ได้ตัวอ่อนมันมาสักที!!”ดนัยกล่าวขึ้นด้วยความเหนื่อยล้าเพราะสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ตนได้พักผ่อนเพียงแค่ 5 ชม. ต่อวันเท่านั้น
“เซลล์ทุกตัวปกติดีครับ ระบบสืบพันธุ์ก็สามารถใช้งานได้ด้วย”อังเดรเอ่ยรายงานขึ้นมา
“การใช้งานอนุภาคมานาล่ะ”
“เนื่องจากใช้เซลล์ของบอสเป็นต้นแบบทำให้มันสามารถใช้งานอนุภาคมานาได้ 100% แต่ปัญหาจะอยู่ที่มันต้องใช้เวลาฝึกเป็นสิบปีเพื่อจะใช้งานได้คล่อง”
“แล้วใครบอกเราจะปล่อยให้มันฝึกกัน เราจะใช้ของที่สุดยอดมาเสริม”
“มันคืออะไรหรอครับ”
“รอสักครู่เดี๋ยวมา”
ดนัยแยกตัวออกจากห้องทดลองและเดินไปยังห้องน้ำก่อนจะถามกับระบบ
“มี Brain chip ให้ฉันซื้อไหมระบบ”
[มีอยู่ 5 ตัว แบ่งออกเป็นระดับ ต่ำ กลาง สูง ค่ะ]
“ขอราคาหน่อย”
[ระดับต่ำ 1 ล้านคะแนน
ระดับกลาง 10 ล้านคะแนน
ระดับสูง 100 ล้านคะแนน]
“ถูกกว่าที่คิดไว้ซะอีก”
[เป็นเพราะนี่คือสมองกลที่ผลิตเมื่อปี 2100 ค่ะ]
“ฉันก็คิดไว้แล้วอ่ะนะ….แต้มฉันเหลือเท่าไหร่”
[480,620,741 คะแนนค่ะ]
“ฉันเอาระดับสูงตัวหนึ่ง”
[ทำการหักคะแนนเสร็จสิ้น]
[มาสเตอร์สามารถรับไอเท็มได้ที่ห้องน้ำลำดับสามนับจากขวามือค่ะ]
“ขอบคุณมาก!”
ดนัยเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปก่อนจะพบกับชิปขนาดเท่าหัวแม่มืออยู่บนฝาชักโครก
“เหมือนของที่เคยเห็นมาในชีวิตก่อนแป๊ะ! เป็นแบบรับส่งข้อมูลทางไกลได้ด้วยสมกับเป็นระดับสูง”
ไหนๆก็เข้ามาแล้วดนัยเลยทำธุระส่วนตัวก่อนจะออกจากห้องน้ำไปพร้อมกับชิบในมือ
“นี่แหละคือสิ่งที่ฉันบอก”ดนัยโชว์ชิปในมือของตน
“มันทำอะไรได้หรอครับ??”อังเดรถาม
“มันคือชิปที่สามารถฝังลงไปบนสมองและแชร์ข้อมูลของกันและกันได้”
“มันสุดยอดไปเลยนี่ครับ!!!”อังเดรอุทานขึ้น
“ใช่แล้วล่ะ แต่ฉันมีแค่อันเดียวเท่านั้น…ดังนั้นต้องใช้ให้คุ้ม”
“แต่ถ้าฝังลงไปแล้วเกิดบั๊คขึ้นมาเราจะแก้ยังไงครับ”เดวิดถามขึ้น
“เราสามารถเชื่อมต่อสัญญาณที่ชิบปล่อยออกมาได้โดยใช้รหัสที่ตั้งตอนใช้งานครั้งแรก จากนั้นเราก็สามารถแก้โค้ดได้เลย”
“ครั้งแรกเราต้องเชื่อมเข้าไปกับคอมโดยตรงก่อนสินะครับ”
“ใช่แล้วล่ะ”
ดนัยเดินไปยังโน้ตบุ๊คของตนที่แรงกว่าซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ในห้องนี้ก่อนจะเสียบชิปนี้ลงไปแล้วเร่ิมใส่โค้ดเกี่ยวกับหลักฟิสิกส์ในการควบคุมอนุภาคมานา
และไม่ลืมที่จะใส่โค้ดเพื่อให้มันภักดี ซื่อสัตย์ และทำตัวว่านอนสอนง่ายเหมือนหมาปกติ แม้ในอนาคตมันจะตัวใหญ่เท่าม้าหรือใหญ่กว่าเพราะเกิดการวิวัฒนาการก็เถอะ
เมื่อทำทุกอย่างเกี่ยวกับชิปนี้เสร็จดนัยก็ดึงมันออกมาก่อนจะเดินไปยังตู้แก้วขนาดใหญ่ที่มีตัวอ่อนของหมาป่าอยู่ข้างใน