ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 55 เจ้าอาวาสวัดสมบัติวิญญาณ
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 55 เจ้าอาวาสวัดสมบัติวิญญาณ
สำนักอาภาทองคำ ในฐานะ 1 ใน 3 ขุมอำนาจชั้นนำแห่งดินแดนเต๋าอนันต์
พวกเขาถือว่าเป็นขุมอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนเต๋าอนันต์
โดยไม่มีใครเทียบเคียง
อย่างไรก็ตาม เหตุใดอีกฝ่ายถึงได้มาหาตระกูลเขา แล้วยังพูดเรื่องร่วมมือกับตระกูลหลัว
จะยกระดับตระกูลหลัวขึ้นเป็นจ้าวผู้ครองดินแดนเต๋าอนันต์อีกด้วย
สิ่งนี้ทำให้หลัวเหิงรู้สึกงุนงงไม่น้อย
หลังจากเงียบไปนาน
หลัวเหิงกล่าวในใจว่า
‘หรือว่าเป็นเพราะท่านบรรพบุรุษ จึงทำให้สำนักอาภาทองคำมีท่าทีเช่นนี้?’
คิดถึงตรงนี้
เขาก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดสำนักอาภาทองคำถึงมีการกระทำเช่นนี้
"ท่านบอกว่า จะยกระดับตระกูลข้าขึ้นเป็นจ้าวผู้ครองดินแดนเต๋าอนันต์"
"แล้วสำนักอาภาทองคำของท่าน......"
"ต้องการอะไรรึ?"
หลัวเหิงหรี่ตาเล็กน้อย
เอามือขวาข้างหนึ่งวางบนโต๊ะ
มืออีกข้างหนึ่ง ค้ำศีรษะตัวเอง
เช่นนี้แล้ว
ก็จ้องมองไปที่บรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักอาภาทองคำตรงหน้า
พร้อมกล่าวเสียงเบา
"ต้องการอะไรรึ?
ได้ยินเช่นนี้
บรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักอาภาทองคำ จินหวู่ก็หัวเราะ
เพราะเขารู้ดี
หากไม่มีอะไรผิดพลาด
เรื่องนี้ก็สำเร็จแล้ว
"ต้องการอะไรหรือ?"
"ง่ายนิดเดียว"
"ข้า จินหวู่ อยากเข้าร่วมตระกูลหลัว กลายเป็นผู้อาวุโสผู้น่าเคารพของตระกูลหลัว
"สำนักอาภาทองคำของข้า ก็อยากกลายเป็นสำนักสาขาภายใต้การปกครองของตระกูลหลัว"
"ไม่ทราบว่า”
"จ้าวตระกูลหลัวคิดว่าอย่างไร?"
เสียงบรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักอาภาทองคำ จินหวู่ดังก้องกังวานในห้องนี้
ส่วนหลัวเหิงที่นั่งอยู่ณตำแหน่งจ้าวตระกูล
ตอนนี้ก็เผยรอยยิ้มบางเบาออกมา
"เป็นเช่นนี้รึ?"
"เป็นเพราะท่านบรรพบุรุษสินะ”
หลังคิดทบทวนครู่หนึ่ง
ไม่นาน หลัวเหิงก็ให้คำตอบของตนออกไป
เข้าร่วมตระกูลหลัว
ให้จินหวู่กลายเป็นผู้อาวุโสที่น่าเคารพบูชาของตระกูลหลัว
ให้สำนักอาภาทองคำกลายเป็นสำนักสาขาภายใต้การปกครองของตระกูลหลัว
เรื่องเหล่านี้ไม่มีอะไรเป็นปัญหา
เมื่อเผชิญกับจ้าวตระกูลหลัวที่ตอบตกลงอย่างง่ายดาย
บรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักอาภาทองคำ จินหวู่ ก็ทำการเจรจาได้อย่างง่ายดาย
แล้วก็ออกไปช้า ๆ
สำหรับจินหวู่แล้ว
ตระกูลหลัว?
ตอนนี้อาจดูเหมือนยังไม่แข็งแกร่งมากนัก
แต่หากรวมกับบรรพบุรุษของตระกูลหลัว หลัวจิ่วเกอผู้ล้มล้างนิกายหมื่นอัคคี
ตระกูลหลัวจะต้องพุ่งทะยานด้านกำลังในเวลาอันสั้น
กระทั่งแทนที่นิกายหมื่นอัคคีในอดีต
กลายเป็น 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำในมณฑลตงหวง
หรือแม้กระทั่ง กลายเป็นจ้าวผู้ครองมณฑลตงหวงอย่างแท้จริงก็ไม่แน่เช่นกัน
แล้วเมื่อถึงเวลานั้น
ตำแหน่งของจินหวู่ก็จะสูงส่ง
ผู้อาวุโสที่น่าเคารพบูชาของตระกูลหลัว
ใครจะกล้ายุ่งกับเขาอีก?
แค่คิดก็รู้สึกดีใจยิ่งนัก
ในไม่ช้า การติดต่อระหว่างสำนักอาภาทองคำและตระกูลหลัวก็จบลง
ส่วนบรรพบุรุษหลัวจิ่วเกอแห่งตระกูลหลัว
ตอนนี้ก็ยังคงนอนอยู่บนหลังกระทิงเทพโบราณ
ลอยล่องไปอย่างสบายอารมณ์
ค่อย ๆ มุ่งหน้าไปตามทิศทางที่ดินแดนเต๋าอนันต์ตั้งอยู่
ส่วนข่าวการล่มสลายของนิกายหมื่นอัคคี
ก็สะท้านไปทั่วมณฑลตงหวง ราวกับปล่อยระเบิด
นิกายหมื่นอัคคีเป็นขุมอำนาจขนาดใหญ่เพียงใด
ในมณฑลตงหวง เกือบทุกขุมอำนาจต่างรู้ดี
แต่ขุมอำนาจขนาดนี้
กลับถูกทำลายล้างอย่างเงียบ ๆ
ในชั่วพริบตา ทำให้เกือบทุกขุมอำนาจในมณฑลตงหวงต่างตกอยู่ในความหวาดกลัว
พวกเขากำลังสืบหาอย่างบ้าคลั่ง
ว่าใครกันที่ทำเรื่องนี้
แต่ก็ไม่กล้าสืบสวนมากนัก
ท้ายที่สุดผลลัพธ์ต่างบ่งชี้ไปที่คนคนหนึ่ง
บรรพบุรุษหลัวจิ่วเกอแห่งตระกูลหลัว
ยากที่จะเชื่อ
ยากที่จะเชื่อจริง ๆ
ตระกูลหลัว?
ไม่เคยได้ยินมาก่อน
ดินแดนเต๋าอนันต์?
นี่ก็เป็นเพียงดินแดนเต๋าเล็ก ๆ ในมณฑลตงหวงเท่านั้น
เช่นนี้แล้ว บรรพบุรุษของตระกูลหลัวจะมีกำลังมากได้เท่าใดกันเชียว?
แต่ความเป็นจริงก็คือความเป็นจริง
การล่มสลายของนิกายหมื่นอัคคี ก็เป็นเพราะฝีมือของบรรพบุรุษหลัวจิ่วเกอแห่งตระกูลหลัว
ดังนั้น ไม่มีทางเลือก
ผลลัพธ์เช่นนี้
ขุมอำนาจมากมายในมณฑลตงหวงก็ต้องยอมรับอย่างจำใจ
ในเวลาเดียวกัน
ผู้นำของขุมอำนาจมากมายก็เริ่มเน้นย้ำเรื่องหนึ่ง
อย่าได้ยุ่งกับตระกูลหลัวเด็ดขาด
แม้แต่นิกายหมื่นอัคคี 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำของมณฑลตงหวง ที่ครอบครองดินแดนเต๋ากว่า 50 แห่ง
ก็ยังเป็นเพียงมดปลวกเมื่อเทียบกับบรรพบุรุษหลัวจิ่วเกอแห่งตระกูลหลัว ผู้มีกำลังลึกซึ้งเกินคาด
ส่วนขุมอำนาจอื่น ๆ ที่ด้อยกว่านิกายหมื่นอัคคี
จะกล้าไปยุ่งกับตระกูลหลัวได้อย่างไร?
จะมีสิทธิ์อะไรไปยุ่งกับตระกูลหลัว??
ไม่ว่าอย่างไร
การล่มสลายของนิกายหมื่นอัคคี
เรื่องนี้ได้แพร่สะพัดไปทั่วเกือบทั้งมณฑลตงหวง
ชื่อเสียงของตระกูลหลัวแห่งดินแดนเต๋าอนันต์
ก็ปรากฏอยู่ในสายตาของขุมอำนาจมากมาย
มณฑลตงหวง
วัดสมบัติวิญญาณ
นี่คือขุมอำนาจที่เทียบเท่ากับนิกายหมื่นอัคคี เป็น 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำเช่นกัน
แต่อิทธิพล ความเก่าแก่ และพลังอำนาจ
กลับเหนือกว่านิกายหมื่นอัคคีถึงสิบเท่า หรือแม้กระทั่งร้อยเท่า สุด
น่าสะพรึงอย่างยิ่ง
ในยามปกติ
วัดสมบัติวิญญาณ มีพระสงฆ์มากมายมาชุมนุม แลกเปลี่ยนพระธรรม ศึกษาพระคัมภีร์ของพุทธศาสนา
แต่วันนี้ วัดสมบัติวิญญาณกลับผิดแปลกไปจากปกติ
เพราะในวันนี้
วัดสมบัติวิญญาณมีพระผู้ใหญ่นามขึ้นต้นด้วย 'คู่' รูปหนึ่งสิ้นชีพไป
"รู้หรือไม่ว่าใครทำ?”
วัดสมบัติวิญญาณ
ภายในตำหนักพุทธศาสนาสีแดงทอง
คงฮุ่ย เจ้าอาวาสวัดสมบัติวิญญาณซึ่งสวมผ้ากาสาวะคร่ำคร่า ถือลูกประคำเก่า ๆ
ข้างตัววางไม้เท้าสีหม่นไว้
เขามีใบหน้าแก่ชรา ทั่วร่างเหมือนจะมีกลิ่นอายของความเสื่อมโทรมแผ่ออกมา
กำลังถามคู่เจิ้น ผู้มีสิทธิ์สืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสอันดับ 1
ซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง สวมผ้ากาสาวะ ถือลูกประคำ แต่ระหว่างคิ้วมีแววโกรธเกรี้ยวเล็กน้อย
"เจ้าอาวาส”
"สืบออกมาแล้ว ผู้ที่ฆ่าศิษย์พี่คู่จื้อคือบรรพบุรุษแห่งตระกูลหลัว หลัวจิ่วเกอ”
คู่เจิ้นกำลูกประคำในมือแน่น
กล่าวด้วยเสียงกัดฟัน
"บรรพบุรุษแห่งตระกูลหลัว หลัวจิ่วเกอ??"
ได้ยินคำตอบจากคู่เจิ้น ศิษย์ผู้จะมาเป็นตัวแทนในตำแหน่งเจ้าอาวาสของเขา คงฮุ่ยก็เงียบลง
วัดสมบัติวิญญาณ
แม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำของมณฑลตงหวง
และยังถือเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปด้วย
แต่สุดท้ายก็เป็นเพียง 1 ใน 3 ขุมอำนาจชั้นนำของมณฑลตงหวง
ภายในมณฑลตงหวงยังมีตระกูลซู และสำนักดวงจิตเสรีที่มีกำลังไม่ต่างจากพวกเขา
ที่สำคัญ ขุมอำนาจเหล่านี้ไม่ได้เลื่อมใสในธรรมะ ไม่ใช่ผู้นับถือพุทธศาสนา
ทำให้เจ้าอาวาสวัดสมบัติวิญญาณ คงฮุ่ย เป็นกังวลยิ่งนัก
เพื่อเรื่องนี้ คงฮุ่ยใช้เวลาหลายหมื่นปี
อยากให้อิทธิพลด้านธรรมะของวัดสมบัติวิญญาณแผ่เข้าไปในสองขุมอำนาจใหญ่นั้น
อยากให้ผู้คนในสองขุมอำนาจนั้นกลายเป็นผู้นับถือพุทธศาสนา
ทว่าคงฮุ่ยกลับทำไม่สำเร็จ
เขาไม่เพียงแต่ทำไม่สำเร็จ
แถมยังเพราะเรื่องเหล่านี้ จึงได้เสียเวลาไปมากมาย
เสียแรงไปมากมาย
จนทำให้ฐานพลังยุทธ์ของเจ้าอาวาสวัดสมบัติวิญญาณ คงฮุ่ย ในช่วงหลายหมื่นปีนี้ไม่เพียงไม่พัฒนา แถมยังมีแนวโน้มถดถอยด้วยซ้ำ
ทำให้เจ้าอาวาสวัดสมบัติวิญญาณ คงฮุ่ย รู้สึกวิตกกังวลยิ่งขึ้น