ตอนที่แล้วระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 53 เคลื่อนย้ายมิติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 55 เจ้าอาวาสวัดสมบัติวิญญาณ

ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 54 การเลือกของสำนักอาภาทองคำ


ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 54 การเลือกของสำนักอาภาทองคำ

ในไม่ช้า

เขาก็ลืมตาขึ้น

ยื่นมือขวาออกไป ฉวยไปในห้วงมิติ

กำแพงมิติถูกฉีกออกเป็นปากเล็ก ๆ ช่องหนึ่ง

พอดีให้มือขวาของหลัวจิ่วเกอสอดเข้าไปได้

ส่วนหนานกงเหอ?

เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย

หลังจากเคลื่อนย้ายไป

เขาก็เร่งฝีเท้าหนีไปยังที่อื่นอย่างบ้าคลั่ง

ถึงแม้เขาจะไม่เชื่อว่าผู้บำเพ็ญเพียรลึกลับที่ดูเหมือนสัตว์ประหลาด ซึ่งขี่กระทิงเฒ่าจะตามมาพบ

แต่เพื่อความปลอดภัย

เขาต้องหนีไปให้ไกลที่สุด

"น่าจะปลอดภัยแล้วกระมัง?"

หนานกงเหอคิดในใจเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ท้องฟ้ากลับมืดลงทันใด

และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง

เขาเห็นฝ่ามือยักษ์ขนาดเท่าภูเขาที่เปล่งประกายสีทองในอากาศ

กำลังบดขยี้ลงมาทางตำแหน่งของเขาด้วยความว่องไว

เผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ หนานกงเหอคิดอยากจะหนี

อยากจะหลีกเลี่ยงการถูกบดขยี้จากมือยักษ์ขนาดเทียบเท่าขุนเขา

แต่......

ความพยายามของเขาล้มเหลว

"ปัง!"

ในพริบตา

ฝ่ามือยักษ์ที่เปล่งประกายสีทองกระแทกพื้น

บดขยี้ภูเขาจำนวนมากจนราบเป็นหน้ากอง

ทำลายสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนจนแหลกเป็นผุยผง

ส่วนหนานกงเหอ?

แม้แต่เสียงร้องโหยหวนเขาก็ไม่ทันได้ส่ง

ถูกมือยักษ์ขนาดเทียบเท่าขุนเขาเหล่านั้นบดขยี้จนกลายเป็นก้อนเนื้อ

หนานกงเหหายไปจากโลกนี้ตลอดกาล

ณ นิกายหมื่นอัคคี

หลังจากที่หลัวจิ่วเกอจัดการเรื่องนี้เสร็จ

เขาก็ดึงมือขวากลับมาจากรอยแยกในกำแพงมิติอย่างเชื่องช้า

จากนั้นทั้งตัวเขาก็นอนลงบนหลังกระทิงเทพโบราณตัวใหญ่ ที่ชือว่าต้าหวง

หลับตาลงอย่างสบายอารมณ์

"ต้าหวง......”

"เราควรไปได้แล้ว”

"จำไว้ อย่าเร็วเกินไป”

"แล้วก็อย่าลืมโอ้อวด"

หลังนอนอยู่บนหลังกระทิงเทพโบราณ

หลัวจิ่วเกอส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ

ส่วนกระทิงเทพโบราณที่ถูกเรียกว่าต้าหวง

ก็ส่งเสียงครางอู้อี้อย่างเบื่อหน่าย

ทว่าก็ย่ำเมฆาเคลื่อนที่

ทั่วร่างเปล่งประกายเรืองรองสีเหลืองโคลน

มุ่งหน้าไปตามทิศทางที่ดินแดนเต๋าอนันต์ตั้งอยู่อย่างเชื่องช้า

ส่วนเหตุผลที่หลัวจิ่วเกอให้ต้าหวงเคลื่อนที่ช้าลงและโอ้อวดนั้นก็ง่ายนิดเดียว

หากไม่ช้าลงจะให้คนรู้ คนอื่นจะรู้ได้อย่างไรว่าเขามาจากไหน?

แล้วจะให้คนรู้ถึงตัวตนของเขาได้อย่างไร?

บางที สำหรับขุมอำนาจเล็ก ๆ ที่ไม่มีแม้แต่ผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียน สิ่งนี้คงไม่มีประโยชน์อะไร

แต่สำหรับขุมอำนาจที่สามารถดำรงอยู่ในมณฑลตงหวงได้

นับหมื่นปี

หลายหมื่นปี

หรือแม้แต่แสนปี

นี่ถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก

ในไม่ช้า หลัวจิ่วเกอก็ออกจากนิกายหมื่นอัคคี

แน่นอนว่าก่อนจากไป

เขาได้เก็บทรัพยากรทั้งหมดของนิกายหมื่นอัคคีเข้าไปในห้วงมิติกลางตันเถียน

มีของดีมากมาย

ตั้งแต่รากเซียน อาวุธเซียน และวิชาลับต่าง ๆ นับไม่ถ้วน

ถึงอย่างไรนี่ก็คือสมบัติของนิกายหมื่นอัคคี 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำของมณฑลตงหวง

หากหลัวจิ่วเกอเก็บทรัพยากรเหล่านี้กลับไป และใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม

อาจต้องใช้เวลาเพียงไม่กี่พันปีหรือหมื่นปีเท่านั้น

ตระกูลหลัวอาจเข้ามาแทนที่นิกายหมื่นอัคคี

และกลายเป็น 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำในมณฑลตงหวง

หรืออาจกลายเป็นจ้าวเหนือหัวมณฑลตงหวงอย่างแท้จริง

นี่ก็เป็นไปได้เช่นกัน

ในห้วงมิติ

หลัวจิ่วเกอนอนอย่างสบายใจบนหลังของกระทิงเทพโบราณ

ลอยล่องไปอย่างเชื่องช้าตามทิศทางที่ดินแดนเต๋าอนันต์ตั้งอยู่

ส่วน ณ ดินแดนเต๋าอนันต์

ตระกูลหลัว

ข้างในห้องทำงานส่วนตัวของจ้าวตระกูลหลัว

หลัวเหิง จ้าวตระกูลหลัวรุ่นปัจจุบัน

กำลังนั่งนิ่งอยู่หน้าโต๊ะด้วยสีหน้าขรึม

เขากำลังพลิกอ่านเอกสารต่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ

[เมื่อเร็ว ๆ นี้ ราชวงศ์หลัวได้ยึดครองดินแดนของราชวงศ์หนึ่งที่มีประชากรประมาณสิบล้านคน]

[เมื่อเร็ว ๆ นี้ อุตสาหกรรมมวลรวมของตระกูลหลัวเติบโตเพิ่มขึ้นอีกร้อยละสิบ]

[เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีอีกสิบแปดตระกูลที่มาขอสวามิภักดิ์ต่อตระกูลหลัว]

ข่าวที่บันทึกลงในเอกสารดูเหมือนเป็นเรื่องดีทั้งหมด

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการยึดครองราชวงศ์

เรื่องการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมมวลรวม

หรือเรื่องสิบแปดตระกูลมาขอสวามิภักดิ์

สำหรับตระกูลหลัวแล้ว ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม..

เมื่อหลัวเหิงพลิกเอกสารแผ่นแล้วแผ่นเล่า

ในใจเขากลับรู้สึกรำคาญใจ

ช้ายิ่งนัก

ช้าเกินไป

อัตราการพัฒนานี้สำหรับอีกหลายขุมอำนาจอาจถือว่าเป็นอัตราที่น่าทึ่งมาก

แต่สำหรับตระกูลหลัว

อัตราการพัฒนานี้ไม่ควรเกิดขึ้นเลย

การพัฒนาของตระกูลหลัวควรจะรวดเร็วและแรงกล้ามากกว่านี้

แต่ทำไม?

ตอนนี้ผลลัพธ์ถึงได้เป็นเช่นนี้?

ทำให้หลัวเหิงในขณะที่รำคาญใจ มีอารมณ์แย่ลงไปทุกที

"จ้าวตระกูล"

"บรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักอาภาทองคำบอกว่าอยากพบท่าน”

ทันใดนั้น

ภายในห้องที่โล่งว่างเปล่า

เงาร่างของสมาชิกตระกูลหลัวผู้หนึ่งปรากฏขึ้น สวมชุดสีเขียว ระดับฐานพลังยุทธ์อยู่ในขอบเขตทารกเซียน

"สำนักอาภาทองคำ?"

ได้ยินสามคำนี้

หลัวเหิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

สำนักอาภาทองคำ

เขาจำได้

ในดินแดนเต๋าอนันต์ มี 3 ขุมอำนาจชั้นนำด้วยกัน

และสำนักอาภาทองคำก็เป็นขุมอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดตามการยอมรับโดยทั่วไปในดินแดนเต๋าอนันต์

มีฐานรากที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง

แต่ทำไมตอนนี้บรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักอาภาทองคำจึงมาหาเขา?

แล้วยังต้องการมาพบเขาด้วย?

นี่ทำให้หลัวเหิงรู้สึกงุนงงไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม การพบปะสักครั้งก็คงไม่เป็นไร

ด้วยเหตุนี้

ภายใต้การนำของสมาชิกตระกูลหลัว

ในไม่ช้าก็มีชายชราในชุดคลุมสีเทาผู้หนึ่ง ใบหน้าหยาบกร้าน ผมหงอกยาวเต็มศีรษะ ระดับฐานพลังยุทธ์อยู่ในขอบเขตพิสูจน์เต๋า 8 สวรรค์

ซึ่งมีนามว่า จินหวู่ ค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องนี้ด้วยรอยยิ้ม

"จ้าวตระกูลหลัว ข้ามาที่นี่ในครั้งนี้ ก็เพื่อปรึกษาหารือเรื่องสำคัญกับตระกูลหลัว”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้

หลัวเหิงก็สงสัยในใจ

สำนักอาภาทองคำจะมาพูดคุยเรื่องสำคัญอะไรกับตระกูลเขาได้?

อย่างไรก็ตาม หลังเงียบไปครู่หนึ่ง

เขาก็ถามขึ้น

"เรื่องอะไรรึ??"

หลังจากหลัวเหิงเอ่ยคำถามจบ

ใบหน้าอันแก่ชราของบรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักอาภาทองคำ จินหวู่ก็แสดงรอยยิ้มบาง ๆ

และกล่าวเสียงแผ่วเบาว่า

"สำนักของข้าสามารถช่วยตระกูลหลัวของเจ้า กลายเป็นจ้าวเหนือหัวของดินแดนเต๋าอนันต์ได่อย่างแท้จริง"

ใช่แล้ว

บรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักอาภาทองคำ จินหวู่ ได้พูดเช่นนี้จริง ๆ

หลัวเหิงมั่นใจว่าเขาได้ยินไม่ผิด

แต่ทำไมสำนักอาภาทองคำจึงต้องการช่วยเขาเช่นนี้?

ยิ่งหลัวเหิงไตร่ตรอง เขาก็ยิ่งสงสัย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด