ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 54 การเลือกของสำนักอาภาทองคำ
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 54 การเลือกของสำนักอาภาทองคำ
ในไม่ช้า
เขาก็ลืมตาขึ้น
ยื่นมือขวาออกไป ฉวยไปในห้วงมิติ
กำแพงมิติถูกฉีกออกเป็นปากเล็ก ๆ ช่องหนึ่ง
พอดีให้มือขวาของหลัวจิ่วเกอสอดเข้าไปได้
ส่วนหนานกงเหอ?
เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย
หลังจากเคลื่อนย้ายไป
เขาก็เร่งฝีเท้าหนีไปยังที่อื่นอย่างบ้าคลั่ง
ถึงแม้เขาจะไม่เชื่อว่าผู้บำเพ็ญเพียรลึกลับที่ดูเหมือนสัตว์ประหลาด ซึ่งขี่กระทิงเฒ่าจะตามมาพบ
แต่เพื่อความปลอดภัย
เขาต้องหนีไปให้ไกลที่สุด
"น่าจะปลอดภัยแล้วกระมัง?"
หนานกงเหอคิดในใจเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ท้องฟ้ากลับมืดลงทันใด
และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง
เขาเห็นฝ่ามือยักษ์ขนาดเท่าภูเขาที่เปล่งประกายสีทองในอากาศ
กำลังบดขยี้ลงมาทางตำแหน่งของเขาด้วยความว่องไว
เผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ หนานกงเหอคิดอยากจะหนี
อยากจะหลีกเลี่ยงการถูกบดขยี้จากมือยักษ์ขนาดเทียบเท่าขุนเขา
แต่......
ความพยายามของเขาล้มเหลว
"ปัง!"
ในพริบตา
ฝ่ามือยักษ์ที่เปล่งประกายสีทองกระแทกพื้น
บดขยี้ภูเขาจำนวนมากจนราบเป็นหน้ากอง
ทำลายสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนจนแหลกเป็นผุยผง
ส่วนหนานกงเหอ?
แม้แต่เสียงร้องโหยหวนเขาก็ไม่ทันได้ส่ง
ถูกมือยักษ์ขนาดเทียบเท่าขุนเขาเหล่านั้นบดขยี้จนกลายเป็นก้อนเนื้อ
หนานกงเหหายไปจากโลกนี้ตลอดกาล
ณ นิกายหมื่นอัคคี
หลังจากที่หลัวจิ่วเกอจัดการเรื่องนี้เสร็จ
เขาก็ดึงมือขวากลับมาจากรอยแยกในกำแพงมิติอย่างเชื่องช้า
จากนั้นทั้งตัวเขาก็นอนลงบนหลังกระทิงเทพโบราณตัวใหญ่ ที่ชือว่าต้าหวง
หลับตาลงอย่างสบายอารมณ์
"ต้าหวง......”
"เราควรไปได้แล้ว”
"จำไว้ อย่าเร็วเกินไป”
"แล้วก็อย่าลืมโอ้อวด"
หลังนอนอยู่บนหลังกระทิงเทพโบราณ
หลัวจิ่วเกอส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ
ส่วนกระทิงเทพโบราณที่ถูกเรียกว่าต้าหวง
ก็ส่งเสียงครางอู้อี้อย่างเบื่อหน่าย
ทว่าก็ย่ำเมฆาเคลื่อนที่
ทั่วร่างเปล่งประกายเรืองรองสีเหลืองโคลน
มุ่งหน้าไปตามทิศทางที่ดินแดนเต๋าอนันต์ตั้งอยู่อย่างเชื่องช้า
ส่วนเหตุผลที่หลัวจิ่วเกอให้ต้าหวงเคลื่อนที่ช้าลงและโอ้อวดนั้นก็ง่ายนิดเดียว
หากไม่ช้าลงจะให้คนรู้ คนอื่นจะรู้ได้อย่างไรว่าเขามาจากไหน?
แล้วจะให้คนรู้ถึงตัวตนของเขาได้อย่างไร?
บางที สำหรับขุมอำนาจเล็ก ๆ ที่ไม่มีแม้แต่ผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตเซียน สิ่งนี้คงไม่มีประโยชน์อะไร
แต่สำหรับขุมอำนาจที่สามารถดำรงอยู่ในมณฑลตงหวงได้
นับหมื่นปี
หลายหมื่นปี
หรือแม้แต่แสนปี
นี่ถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก
ในไม่ช้า หลัวจิ่วเกอก็ออกจากนิกายหมื่นอัคคี
แน่นอนว่าก่อนจากไป
เขาได้เก็บทรัพยากรทั้งหมดของนิกายหมื่นอัคคีเข้าไปในห้วงมิติกลางตันเถียน
มีของดีมากมาย
ตั้งแต่รากเซียน อาวุธเซียน และวิชาลับต่าง ๆ นับไม่ถ้วน
ถึงอย่างไรนี่ก็คือสมบัติของนิกายหมื่นอัคคี 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำของมณฑลตงหวง
หากหลัวจิ่วเกอเก็บทรัพยากรเหล่านี้กลับไป และใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม
อาจต้องใช้เวลาเพียงไม่กี่พันปีหรือหมื่นปีเท่านั้น
ตระกูลหลัวอาจเข้ามาแทนที่นิกายหมื่นอัคคี
และกลายเป็น 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำในมณฑลตงหวง
หรืออาจกลายเป็นจ้าวเหนือหัวมณฑลตงหวงอย่างแท้จริง
นี่ก็เป็นไปได้เช่นกัน
ในห้วงมิติ
หลัวจิ่วเกอนอนอย่างสบายใจบนหลังของกระทิงเทพโบราณ
ลอยล่องไปอย่างเชื่องช้าตามทิศทางที่ดินแดนเต๋าอนันต์ตั้งอยู่
ส่วน ณ ดินแดนเต๋าอนันต์
ตระกูลหลัว
ข้างในห้องทำงานส่วนตัวของจ้าวตระกูลหลัว
หลัวเหิง จ้าวตระกูลหลัวรุ่นปัจจุบัน
กำลังนั่งนิ่งอยู่หน้าโต๊ะด้วยสีหน้าขรึม
เขากำลังพลิกอ่านเอกสารต่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ
[เมื่อเร็ว ๆ นี้ ราชวงศ์หลัวได้ยึดครองดินแดนของราชวงศ์หนึ่งที่มีประชากรประมาณสิบล้านคน]
[เมื่อเร็ว ๆ นี้ อุตสาหกรรมมวลรวมของตระกูลหลัวเติบโตเพิ่มขึ้นอีกร้อยละสิบ]
[เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีอีกสิบแปดตระกูลที่มาขอสวามิภักดิ์ต่อตระกูลหลัว]
ข่าวที่บันทึกลงในเอกสารดูเหมือนเป็นเรื่องดีทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการยึดครองราชวงศ์
เรื่องการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมมวลรวม
หรือเรื่องสิบแปดตระกูลมาขอสวามิภักดิ์
สำหรับตระกูลหลัวแล้ว ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม..
เมื่อหลัวเหิงพลิกเอกสารแผ่นแล้วแผ่นเล่า
ในใจเขากลับรู้สึกรำคาญใจ
ช้ายิ่งนัก
ช้าเกินไป
อัตราการพัฒนานี้สำหรับอีกหลายขุมอำนาจอาจถือว่าเป็นอัตราที่น่าทึ่งมาก
แต่สำหรับตระกูลหลัว
อัตราการพัฒนานี้ไม่ควรเกิดขึ้นเลย
การพัฒนาของตระกูลหลัวควรจะรวดเร็วและแรงกล้ามากกว่านี้
แต่ทำไม?
ตอนนี้ผลลัพธ์ถึงได้เป็นเช่นนี้?
ทำให้หลัวเหิงในขณะที่รำคาญใจ มีอารมณ์แย่ลงไปทุกที
"จ้าวตระกูล"
"บรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักอาภาทองคำบอกว่าอยากพบท่าน”
ทันใดนั้น
ภายในห้องที่โล่งว่างเปล่า
เงาร่างของสมาชิกตระกูลหลัวผู้หนึ่งปรากฏขึ้น สวมชุดสีเขียว ระดับฐานพลังยุทธ์อยู่ในขอบเขตทารกเซียน
"สำนักอาภาทองคำ?"
ได้ยินสามคำนี้
หลัวเหิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
สำนักอาภาทองคำ
เขาจำได้
ในดินแดนเต๋าอนันต์ มี 3 ขุมอำนาจชั้นนำด้วยกัน
และสำนักอาภาทองคำก็เป็นขุมอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดตามการยอมรับโดยทั่วไปในดินแดนเต๋าอนันต์
มีฐานรากที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง
แต่ทำไมตอนนี้บรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักอาภาทองคำจึงมาหาเขา?
แล้วยังต้องการมาพบเขาด้วย?
นี่ทำให้หลัวเหิงรู้สึกงุนงงไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม การพบปะสักครั้งก็คงไม่เป็นไร
ด้วยเหตุนี้
ภายใต้การนำของสมาชิกตระกูลหลัว
ในไม่ช้าก็มีชายชราในชุดคลุมสีเทาผู้หนึ่ง ใบหน้าหยาบกร้าน ผมหงอกยาวเต็มศีรษะ ระดับฐานพลังยุทธ์อยู่ในขอบเขตพิสูจน์เต๋า 8 สวรรค์
ซึ่งมีนามว่า จินหวู่ ค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องนี้ด้วยรอยยิ้ม
"จ้าวตระกูลหลัว ข้ามาที่นี่ในครั้งนี้ ก็เพื่อปรึกษาหารือเรื่องสำคัญกับตระกูลหลัว”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้
หลัวเหิงก็สงสัยในใจ
สำนักอาภาทองคำจะมาพูดคุยเรื่องสำคัญอะไรกับตระกูลเขาได้?
อย่างไรก็ตาม หลังเงียบไปครู่หนึ่ง
เขาก็ถามขึ้น
"เรื่องอะไรรึ??"
หลังจากหลัวเหิงเอ่ยคำถามจบ
ใบหน้าอันแก่ชราของบรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักอาภาทองคำ จินหวู่ก็แสดงรอยยิ้มบาง ๆ
และกล่าวเสียงแผ่วเบาว่า
"สำนักของข้าสามารถช่วยตระกูลหลัวของเจ้า กลายเป็นจ้าวเหนือหัวของดินแดนเต๋าอนันต์ได่อย่างแท้จริง"
ใช่แล้ว
บรรพบุรุษสูงสุดแห่งสำนักอาภาทองคำ จินหวู่ ได้พูดเช่นนี้จริง ๆ
หลัวเหิงมั่นใจว่าเขาได้ยินไม่ผิด
แต่ทำไมสำนักอาภาทองคำจึงต้องการช่วยเขาเช่นนี้?
ยิ่งหลัวเหิงไตร่ตรอง เขาก็ยิ่งสงสัย