ตอนที่แล้วระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 52 ดับสูญ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 54 การเลือกของสำนักอาภาทองคำ

ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 53 เคลื่อนย้ายมิติ


ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 53 เคลื่อนย้ายมิติ

ภายในนิกายหมื่นอัคคี

[เปลวไฟอสูรกระดูกขาว] อันแปลกประหลาดก่อตัวลุกโชนอย่างต่อเนื่อง

แผ่รังสีอันร้อนระอุออกมา

ทำให้ห้วงมิติสั่นคลอน และบิดเบี้ยวเล็กน้อย

ส่วนคู่จื้อ?

กลายเป็นเถ้าถ่านสลายไปในห้วงมิติแล้ว

ส่วนภายในนิกายหมื่นอัคคี

ศิษย์หลายหมื่นคนถูกขังอยู่ในคุกที่สร้างจาก [เปลวไฟอสูรกระดูกขาว]

ส่งเสียงโหยหวนด้วยความทุกข์ทรมาน

บ้างก็นั่งยองอยู่บนพื้น สิ้นหวังมีดวงตาไร้ประกาย

“จบแล้ว ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว”

ภายใต้เปลวไฟสีขาวประหลาด บรรพบุรุษสูงสุดแห่งนิกายหมื่นอัคคี ว่านหวู่ ก็ตกตาย

พระภิกษุคู่จื้อแห่งวัดสมบัติวิญญาณก็ยังตายเช่นกัน

ส่วนพวกเขา?

ก็จะถูกขังอยู่ในคุกที่สร้างจาก [เปลวไฟอสูรกระดูกขาว] ทำได้เพียงรอแต่ความตายเท่านั้น

ในฐานะ 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำของมณฑลตงหวง

ที่ครอบครองดินแดนเต๋ามากกว่า 50 แห่ง มีสถานะเป็นมหาอำนาจ

ใครจะคิดว่านิกายหมื่นอัคคี จะมาประสบชะตากรรมเช่นนี้?

ช่างน่าสงสารยิ่งนัก

เสียงเปลวไฟเผาผลาญเลือดและเนื้อไม่ขาดสาย

ภายในนิกายหมื่นอัคคี

หนานกงเหอ ใช้มือขวากำจี้หยกแน่นด้วยใบหน้าซีดขาว

"เป็นไปไม่ได้”

"มันเป็นไปไม่ได้”

"เพียงคนเดียวก็สามารถล้มล้างทั้งนิกายได้อย่างนั้นหรือ?"

หนานกงเหอแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

บรรพบุรุษสูงสุด ว่านหวู่ ตาย

พระภิกษุคู่จื้อจากวัดสมบัติวิญญาณก็ตายเช่นกัน

ที่สำคัญ..

เปลวไฟสีขาวประหลาดที่แผ่ขยายไปทั่วสารทิศก็ใกล้เข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง

ดูเหมือนจะต้องการกำจัดให้สิ้นซาก

"สัตว์ประหลาด”

"สัตว์ประหลาดจริง ๆ”

"ต้องรีบหนีไปจากที่นี่"

"หนี ข้าต้องหลบหนี"

เมื่อจ้องมองร่างของผู้ที่ขี่กระทิงเฒ่าอยู่ในห้วงมิติ

หนานกงเหอรู้สึกตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตายห่อหุ้มตัวเขาไว้ตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกไม่สงบใจอย่างยิ่ง

ไม่มีทางเลือกแล้ว

เขาต้องใช้วิธี

หนานกงเหอตัดสินใจเด็ดเดี่ยว โคจรปราณเซียนในร่างกายเข้าไปในจี้หยกที่หน้าอก

จี้หยกจัดอยู่ในอาวุธเซียนระดับสูงสุด

เขาได้รับมาจากจ้าวตระกูลหนานกงคนปัจจุบัน หรือก็คือบิดาของเขา ก่อนที่จะออกจากตระกูลมาเพื่อป้องกันตัว

นอกจากจะมีคุณสมบัติเตือนภัยล่วงหน้าแล้ว

เมื่อชีวิตของเจ้าของจี้หยกตกอยู่ในอันตราย

ก็สามารถฉีกทะลุห้วงมิติ

เคลื่อนย้ายร่างกายได้

แน่นอนว่าจี้หยกใช้ได้ครั้งเดียว และสามารถเคลื่อนย้ายไปยังที่ที่เคยไปมาแล้วเท่านั้น

ระยะทางไม่สามารถไกลเกินไป

หลังจากหนานกงเหออัดปราณเซียนเข้าไป

จี้หยกก็ส่องแสงระยิบระยับและภายใต้แสงสว่างนั้น หนานกงเหอก็ค่อย ๆ จางหายไปจากสถานที่แห่งนี้

ไม่เหลือร่องรอยใด ๆ

นอกดินแดนเต๋าหมื่นอัคคี ณ หุบเขาในดินแดนเต๋าเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง

หนานกงเหอตอนนี้กำลังหอบหายใจถี่รัว

ใบหน้ายังคงซีดขาว

น่ากลัว

น่ากลัวเหลือเกิน

ในสายตาของตระกูลเขา

มณฑลตงหวง เป็นเพียงมณฑลที่แร้นแค้นยากจนและอ่อนแอ

เพราะเหตุนี้เอง

หนานกงเหอจึงเลือกมณฑลตงหวงเป็นสถานที่บำเพ็ญเพียร

แต่ใครจะคิดว่า

แม้แต่ในมณฑลตงหวงเช่นนี้

ก็ยังมีผู้บำเพ็ญเพียรที่น่ากลัวเช่นนี้ปรากฏตัว เพียงโบกมือครั้งเดียวก็กำจัดนิกายหมื่นอัคคี ซึ่งเป็น 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำในมณฑลตงหวงได้

ที่สำคัญ......

หากไม่ใช่เพราะเขามีจี้หยกที่สามารถปกป้องชีวิตได้ติดตัว

ป่านนี้เขาคงตายในนิกายหมื่นอัคคีไปแล้วกระมัง?

นอกดินแดนเต๋าหมื่นอัคคี

ดินแดนเต๋าเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง

ในหุบเขา หนานกงเหอก้มหน้าลงเล็กน้อย มองจี้หยกในมือตนที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหลายชิ้น

อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นแล้วส่ายหัว

ปรากฏว่ายังมีผู้บำเพ็ญเพียรที่น่าสะพรึงกลัวซ่อนอยู่ในโลกนี้อีกมากมายเช่นนี้หรือ?

แม้แต่มณฑลตงหวง มณฑลที่ผู้คนมองว่าอ่อนแอ แร้นแค้น ล้าหลัง

ก็ไม่ใช่สถานที่ที่ผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตกระจ่างแจ้งอย่างเขาจะทำอะไรตามใจชอบได้

"จี้หยกแตกสลาย ก็หมายความว่าการแสวงประสบการณ์ของข้าจบลงแล้ว

"ออกมานานมากแล้ว”

"ข้าก็ควรกลับไปได้แล้ว"

หลังกจากกล่าวเบา ๆ แล้ว

หนานกงเหอเก็บเศษจี้หยกใส่แหวนเก็บของ

แล้วเดินไปในทิศทางหนึ่งอย่างช้า ๆ

ดินแดนเต๋าหมื่นอัคคี ในนิกายหมื่นอัคคี

หลัวจิ่วเกอในชุดคลุมสีขาว คาดกระบี่สนิมเก่าที่เอว ขี่กระทิงเฒ่าตัวใหญ่

เขารออยู่ ณ ที่แห่งนี้อย่างเงียบ ๆ

"จบลงแล้วหรือ?"

หลัวจิ่วเกอถามตัวเอง

ดูเหมือนจะจบลงแล้ว

ภายใต้เปลวไฟร้อนของ [เปลวไฟอสูรกระดูกขาว] ซึ่งเป็นระดับเทพขั้นต่ำ

พร้อมทั้งการเสริมด้วยปราณเซียนจำนวนมหาศาลของเขา

ภายในนิกายหมื่นอัคคี

ไม่มีใครสามารถรับมือได้

อย่างไรก็ตาม..

เหตุใดทั้งที่จบลงแล้ว

เขากลับรู้สึกว่าตนเองละเลยบางอย่างไป

หลังเงียบไปครู่หนึ่ง

หลัวจิ่วเกอหรี่ตา

เพราะเมื่อครู่นี้เองที่เขารู้สึกได้ถึงความวุ่นวายของคลื่นห้วงมิติอย่างอ่อนมากภายในนิกายหมื่นอัคคี

"มีคนหนีไปหรือ?

"ประมุขนิกายหมื่นอัคคีผู้นั้นรึ?"

คิดถึงตรงนี้

หลัวจิ่วเกอก็พยักหน้า

ใช่แล้ว

เหมือนจะเป็นคนผู้นั้น

ตอนที่เขาเพิ่งเข้ามาในนิกายหมื่นอัคคี และพบกับคนผู้นั้น เขาก็รู้สึกได้คลุมเครือ

คนผู้นั้นมีกลิ่นอายพิเศษแปลก ๆ แผ่ออกมา

บอกไม่ถูกว่าจะอธิบายอย่างไร

แต่ก็สามารถดึงดูดความสนใจของหลัวจิ่วเกอได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น เพราะบรรพบุรุษสูงสุดแห่งนิกายหมื่นอัคคีและพระหัวล้านปรากฏตัวขึ้น

ทำให้หลัวจิ่วเกอละเลยหนุ่มน้อยคนนั้นไปชั่วคราว

แต่ตอนนี้ในเมื่อนึกขึ้นมาได้แล้ว

ก็จัดการเสียเลยดีกว่า

หลัวจิ่วเกอนั่งอยู่บนหลังกระทิงเทพโบราณ

หลับตาลงช้า ๆ

สืบค้นไปตามกลิ่นอายของหนุ่มน้อยคนนั้น

จนกระทั่ง 10 นาทีต่อมา

รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลัวจิ่วเกอ

พร้อมกับกล่าวเสียงเบาว่า

"เจอแล้ว"

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด