ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 51 ลุกโชน
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 51 ลุกโชน
"โยมผู้เจริญ โปรดวางมีดวางเขียงลงเถิด แล้วโยมจะบรรลุพุทธะได้ทันที......"
ภายในนิกายหมื่นอัคคี
คู่จื้อที่มีหัวเหมือนไข่ต้มเปล่งประกายวาววับ
ใบหน้าเปี่ยมด้วยความปรารถนาดี
พนมมือทั้งสองข้างเข้าหากัน
ดูเหมือนจะตั้งใจที่จะชักชวนหลัวจิ่วเกอเข้าสู่พุทธศาสนา
ศรัทธาในพระพุทธเจ้า
แต่......
จะให้หลัวจิ่วเกอสนใจเจ้าหัวโล้นเช่นนี้ได้หรือ?
เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้
ได้แต่เห็นว่า หลัวจิ่วเกอโบกมือไปมาเล็กน้อย
แล้วในชั่วขณะถัดมา กลุ่มเปลวไฟสีทองก็หายไปจากสายตาของทุกคนในที่นั้น
ต่อหน้าการกระทำของหลัวจิ่วเกอ
คู่จื้อชะงักไป
ใบหน้าตาชราของเขากระตุกเล็กน้อย
หลังจากนั้น ก็อดกลั้นความโกรธแค้นในใจไว้
กดเสียงต่ำกล่าวว่า
"โยมผู้เจริญ อย่าได้กระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกเลย อาตมาเคยบอกแล้วว่า เปลวไฟตะวันทองคำนั้นมีความผูกพันกับพระพุทธเจ้าของพวกเรา"
"ดังนั้น โปรดมอบมันให้อาตมาเก็บรักษาเถิด"
จนกระทั่งในตอนนี้
คู่จื้อที่มีหัวไข่ต้ม
ยังคงมีใบหน้าเปี่ยมด้วยความปรารถนาดีและรอยยิ้ม
ดูเหมือนมั่นใจว่าหลัวจิ่วเกอจะมอบเปลวไฟตะวันทองคำให้แน่ ๆ
ตามตรง
หลัวจิ่วเกอเองก็ไม่รู้ว่า เจ้าพระไข่ต้มผู้นี้มีความมั่นใจมาจากไหน
แล้วทำไมถึงคิดไปเองว่าเขาจะมอบให้?
เพราะระดับการบำเพ็ญเพียรขอบเขตกึ่งสันติด้วยนั่นน่ะหรือ?
หรือเพราะพระนั่นคิดว่า แค่พูดอะไรเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าไปเรื่อย ๆ เขาก็จะมอบเปลวไฟตะวันทองคำให้?
หลัวจิ่วเกอก็ไม่ใช่คนโง่
......
"เจ้าอยากตายหรือ?"
หลังจากขัดเกลาเปลวไฟตะวันทองคำ มอบเข้าไปในห้วงมิติที่เปิดขึ้นในช่องตันเถียนแล้ว
หลัวจิ่วเกอนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา ถามคู่จื้อที่อยู่ตรงหน้า
"หืม?"
เห็นได้ชัดว่า
คู่จื้อรู้สึกเหมือนหูตัวเองมีปัญหา
ไม่ได้ยินชัดเจน
"ช่างมันเถอะ"
"มากกว่าหหึ่ง ก็ไม่ได้เสียหาย......"
หลังจากส่ายหน้าแล้ว
หลัวจิ่วเกอก็ปลดปล่อยพลังอันมหาศาลในกายออกมา
ใส่เข้าไปใน [เปลวไฟอสูรกระดูกขาว] ในช่องตันเถียน
ในชั่วพริบตา
บริเวณที่ตั้งของนิกายหมื่นอัคคี ลุกโชนขึ้นเป็นระลอก ๆ ด้วยเปลวไฟสีขาวประหลาด
เปลวไฟสีขาวนี้ดูแปลกประหลาดไม่น้อย
ขณะที่ปล่อยความร้อนระอุ ยังทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกอีกด้วย
"นั่นมันอะไรกัน??"
ในที่สุด ก็มีคนพบว่ามีเปลวไฟสีขาวประหลาดปรากฏขึ้นทุกทิศทุกทาง กำลังแผ่ขยายเข้ามาหาที่นี่อย่างเชื่องช้า
"ไฟงั้นหรือ?"
"ยังมีคนกล้าจุดไฟในนิกายหมื่นอัคคีของข้าอีกหรือ!"
"ช่างน่าขันเสียจริง!"
มีผู้อาวุโสท่านหนึ่งของนิกายหมื่นอัคคี
เหลือบมองเปลวไฟสีขาวประหลาดที่ปรากฏอยู่รอบ ๆ แล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเย็นชา
อยู่ดี ๆ ผู้อาวุโสท่านนั้นก็เดินไปทางเปลวไฟสีขาวประหลาดเหล่านั้นอย่างเชื่องช้า
แล้วปลดปล่อยพลังในร่างของเขา
ดูเหมือนจะต้องการแย่งชิงการควบคุมเปลวไฟ แล้วแสดงฝีมือต่อหน้าปรมาจารย์คู่จื้อ
แต่ไม่นึกเลยว่า
ยังไม่ทันที่ผู้อาวุโสนิกายหมื่นอัคคีผู้นั้นจะได้เตรียมตัวเสร็จ
เปลวไฟสีขาวประหลาดนั่นก็พุ่งเข้าใส่ผู้อาวุโสท่านนั้นทันที
เสียงเลือดเนื้อถูกเผาไหม้ดังขึ้นอย่างช้า ๆ
"อ๊ากกก!!!"
เสียงร้องโหยหวนของผู้อาวุโสนิกายหมื่นอัคคีผู้นั้นก็ดังก้องขึ้นมา
แต่เสียงร้องโหยหวนนั้นไม่ยาวนานนัก
เพียงชั่วครู่ต่อมา
ผู้อาวุโสนิกายหมื่นอัคคีผู้นั้นก็กลายเป็นเถ้าถ่านไปตามสายลม
สลายหายไปจากโลกนี้
......
เงียบ
เงียบสนิท
ศิษย์ ผู้อาวุโส และบุคคลของนิกายหมื่นอัคคีต่างพากันตกตะลึง
ครู่ต่อมา ในดวงตาพวกเขาล้วนปรากฏความหวาดกลัวขึ้น
เปลวไฟสีขาวประหลาดนั่น น่ากลัวถึงเพียงนี้เชียวหรือ??
ใครจะคาดคิดได้ว่า เปลวไฟสีขาวนั่นเพียงชั่วครู่ก็เผาผู้อาวุโสนิกายหมื่นอัคคีให้กลายเป็นเถ้าถ่านได้
แม้แต่เศษซากก็ไม่เหลือ
ต้องรู้ว่า ในมณฑลตงหวง นิกายหมื่นอัคคีถือเป็นนิกายที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการใช้เปลวไฟ
แต่กระนั้นก็ตาม ผู้อาวุโสนิกายหมื่นอัคคีที่ยิ่งใหญ่เพียงนี้
กลับถูกเปลวไฟเผาเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
ช่างน่าสมเพชเสียจริง
"โยมผู้เจริญ เจ้า......"
"ทำเกินไปแล้ว!"
เทียบกับคนของนิกายหมื่นอัคคีแล้ว
คู่จื้อที่สวมผ้ากาสาวะกับลูกประคำเก่า ๆ และมีหัวเหมือนไข่ต้ม
ยังคงใจเย็นกว่ามาก
"เกินไปงั้นหรือ?"
ได้ยินคู่จื้อพูดเช่นนี้
หลัวจิ่วเกอไม่รู้จะกล่าวอะไรดีแล้ว
เจ้าพระหัวไข่ต้มจะไร้เดียงสาเกินไปหรือไม่?
ในโลกที่มีกฎ ผู้แข็งแกร่งกินผู้อ่อนแอ ผู้ปรับตัวได้จะอยู่รอด และพลังอำนาจคือกฎหมายสูงสุด
ยังจะพูดอะไรแบบนั้นได้อีกหรือ?
ช่างน่าทึ่งจริง ๆ
......
หลัวจิ่วเกอไม่สนใจ
เพียงกระโดดเบา ๆ ก็ลอยไปอยู่บนหลังของกระทิงเฒ่าต้าหวง
ซึ่งต้าหวงดูร่วมมือด้วยเป็นอย่างดี
ยืนย่ำเมฆาอยู่ในที่สูง มองผู้คนด้านล่างอย่างเหยียดหยาม
"โยมผู้เจริญ......"
"เจ้าหลงผิดไปแล้ว!"
จนถึงตอนนี้
คู่จื้อถึงได้ทำหน้าบึ้งตึง
ภายใต้การควบคุมของพลังมหาศาลที่อยู่ในร่างกายของเขา
ผ้ากาสาวะที่ดูขาดวิ่นของเขา
ในชั่วขณะนี้ ก็กลับสดใสอีกครั้ง
ในมือของเขา
ลูกประคำที่ดูเก่าคร่ำคร่า
ในชั่วขณะนี้ เมื่อได้รับการหนุนเนื่องด้วยพุทธานุภาพ
ก็ส่องประกายพุทธรัศมี
"มารร้าย"
"ในวันนี้ อาตมาจะปราบเจ้าให้ราบเสีย!"
หลังจากพูดจบ
คู่จื้อก็ยืนอยู่กลางอากาศ
มายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหลัวจิ่วเกอ
เห็นได้ชัดว่า เขาพนมมือ
หลับตาลง
สวดมนต์ภาวนา
ครู่ต่อมา ด้านหลังของคู่จื้อก็ค่อย ๆ ปรากฏรูปพระพุทธเจ้าทองคำขนาดใหญ่ที่ส่องประกายระยิบระยับ ยกมือพนมขึ้น
"[ตราประทับมหาพระพุทธเจ้า]!"
หลังจากคู่จื้อพูดจบ
พระพุทธเจ้าทองคำขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังเขาก็ค่อย ๆ ยกมือขวาขนาดใหญ่ขึ้น
มือแฝงไว้ด้วยแสงประกาย
แม้แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ยังปรากฏตราประทับรูปวัชระขึ้น
เมื่อตราประทับเริ่มแข็งตัว
มือขนาดใหญ่ของพระพุทธเจ้าก็ควบคุมตราประทับวัชระ กดทับลงไปทางทิศทางของหลัวจิ่วเกอช้า ๆ
......
"เจ้ามารร้าย วันนี้เจ้าต้องตายแน่นอน!"
กลางอากาศ
คู่จื้อกำลังแสดงรอยยิ้มเย็นชาอยู่พร้อมพนมมือ
ด้านหลังของเขา พระพุทธเจ้าทองคำขนาดใหญ่ที่ถูกบีบอัดขึ้นด้วยพลังศรัทธา
กำลังควบคุมตราประทับวัชระ
กดทับลงไปที่หลัวจิ่วเกออย่างเชื่องช้า
ในตอนนี้ ในใจของคู่จื้อสงบนิ่งเป็นอย่างยิ่ง
ตราประทับวัชระที่ถูกเนรมิตออกมาด้วยพลังวิชา [ตราประทับมหาพระพุทธเจ้า]
นี่เป็นหนึ่งในวิชาลับระดับของวัดสมบัติวิญญาณ
และเมื่อผสานรวมกับพระพุทธเจ้าทองคำขนาดใหญ่ที่บีบอัดขึ้นด้วยพลังศรัทธา
จะสามารถปลดปล่อยพลังที่น่าทึ่งได้อย่างยากจะเชื่อ
แม้แต่พลังทำลายล้างของมันก็ยังแข็งแกร่งกว่าขวานอัคคีเบิกสวรรค์ถึงหลายระดับ
หากอยากจะปราบมารร้ายตนนี้
มันก็ไม่ใช่เพียงเรื่องง่าย ๆ หรอกหรือ?
"พระพุทธองค์ทรงพระเมตตา มารร้ายผู้นี้หลงผิดไปแล้ว ไร้โอสถใดรักษา"
"ช่างน่าเสียดายที่ผู้บำเพ็ญเพียรว่านหวู่ต้องจบชีวิตลง......"
"ถึงขั้นสิ้นชีพด้วยน้ำมือของมารร้ายผู้นี้!"
คู่จื้อส่ายหน้า
รู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก
นิกายหมื่นอัคคีเป็นผลงานที่เขาบำรุงบ่มเพาะมาหลายหมื่นปี
ว่านหวู่ บรรพบุรุษสูงสุดแห่งนิกายหมื่นอัคคี
ก็เป็นผู้ศรัทธาของเขาด้วย
แต่ใครจะรู้ว่า ตอนนี้กลับถูกมารร้ายนั่นสังหารไป
ช่างน่าเสียดายจริง ๆ