ตอนที่แล้วระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 46 การเทศนาธรรมของปรมาจารย์คู่จื้อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 48 ขวานอัคคีเบิกสวรรค์

ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 47 ประมุขนิกายหมื่นอัคคี


ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 47 ประมุขนิกายหมื่นอัคคี

เวลาล่วงเลยไป

ปรมาจารย์คู่จื้อได้เริ่มต้นเทศนาธรรม

ธรรมะนั้นเป็นเช่นไร?

จะหลุดพ้นจากกิเลศได้อย่างไร?

จะบรรลุถึงห้วงจิตที่สงบ และเป็นสุขได้อย่างไร?

คู่จื้อ ปรมาจารย์จากวัดสมบัติวิญญาณนี้ จะอธิบายอีกครั้ง

ถึงแม้การเทศนาธรรมนี้สำหรับคู่จื้อเองแล้ว เป็นเพียงการพูดเล่นเท่านั้น

แต่เมื่อเปิดปากครั้งหนึ่ง เนื้อหาทั้งหมดของการพูดก็ทำให้ทั้งนิกายหมื่นอัคคี รวมทั้งผู้อาวุโสมุ่งเน้นความสนใจมาทั้งหมด

พวกเขาฟังด้วยความหลงใหล

นี่คือปรมาจารย์จากวัดสมบัติวิญญาณ

เป็นเรื่องหายากที่ปรมาจารย์ระดับนี้จะปรากฏ

......

ดินแดนเต๋าหมื่นอัคคี นอกนิกายหมื่นอัคคี

ในขณะนี้ มีผู้บำเพ็ญเพียร 2 คนที่ฐานพลังยุทธ์อยู่ขอบเขตกายาเต๋า กำลังยืนอยู่ที่นี่ด้วยสีหน้าวิตกกังวล

ปรมาจารย์คู่จื้อเทศนาธรรมอยู่

เรื่องนี้ สำหรับนิกายหมื่นอัคคีแล้วถือเป็นสิ่งที่ดี

แต่......

สำหรับพวกเขาทั้งสองกลับเป็นเรื่องที่น่าทุกข์ใจ

ตอนแรก พวกเขาทั้งคู่ได้เตรียมตัวไปฟังธรรมของปรมาจารย์คู่จื้อแล้ว

แต่ใครจะคาดคิด ในการจับสลาก จากผู้บำเพ็ญเพียรของนิกายหลายแสนคน  พวกเขาทั้งคู่กลับถูกเลือกเสียได้

โอกาสที่น้อยกว่าหนึ่งในหมื่นนั้นกลับตกเป็นของพวกเขาทั้งคู่

นี่ช่างเป็นเรื่องตลกร้ายเสียจริง

“เจ้าว่า......”

“ตอนนี้ ปรมาจารย์คู่จื้อได้เริ่มเทศนาธรรมแล้วหรือยัง?”

ผู้บำเพ็ญเพียรร่างสูงผอมสวมเสื้อคลุมนิกายหมื่นอัคคีเอ่ยขึ้น

“น่าจะเริ่มแล้วใช่หรือไม่?”

“เจ้าดูสิ เด็กพวกนั้นไม่ใช่หรือที่อยู่ในศาลา?”

“พูดตามตรง พวกเราทั้งสองโชคร้ายจริง ๆ”

“ศิษย์นิกายหมื่นอัคคีมีตั้งเยอะตั้งแยะ”

“เหตุใดถึงได้เลือกพวกเรา 2 คนกัน?”

“ที่นี่มีปรมาจารย์คู่จื้ออยู่ ทั้งนิกายหมื่นอัคคีของเรายังเป็น 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำของมณฑลตงหวง จะมีใครกล้ามาหาเรื่องที่นี่กัน?”

“การให้คนคอยเฝ้าจะมีความหมายได้อย่างไร?”

ผู้บำเพ็ญเพียรอีกคนหนึ่งที่ร่างกายค่อนข้างอ้วนท้วนไม่อาจห้ามตนเองให้ตำหนิออกมาได้

เพียงแต่ เขายังไม่ทันพูดจบ ห่างจากนิกายหมื่นอัคคีประมาณร้อยเมตร

มีชายหนึ่งคนสวมชุดคลุมสีขาวเรียบง่าย คาดกระบี่สนิมเกาะที่เอว ขี่กระทิงเฒ่าที่ดูธรรมดากำลังมาทางนี้อย่างไม่รีบร้อน

“หืม?”

“ดูเหมือนว่ายังมีคนกล้ามายุ่งกับนิกายหมื่นอัคคีเราอีก?”

ผู้บำเพ็ญเพียรอ้วนจากนิกายหมื่นอัคคีตกตะลึง

“หยุด!”

“เจ้ามาทำอะไร?”

“นิกายหมื่นอัคคีของเราไม่ใช่สถานที่ที่ใครอยากมาก็มา อยากไปก็ไป......”

หลังจากตะลึงไปสักครู่

ผู้บำเพ็ญเพียรอ้วนท้วนจากนิกายหมื่นอัคคีก็รีบเดินไปข้างหน้า

เขาจะหยุดชายที่ขี่กระทิงเฒ่านั้น

น่าเสียดาย

ชายที่สวมชุดคลุมขาวเรียบง่าย คาดกระบี่สนิมเกาะที่เอวและขี่กระทิงเฒ่านั้น

ดูเหมือนจะไม่มีความสามารถใด ๆ

เขาจึงไม่สนใจอีกฝ่าย

“ข้าบอกว่า......”

เขายังไม่ทันได้พูดจบ

ผู้บำเพ็ญเพียรอ้วนคนนั้นก็ร่างระเบิด กลายเป็นละอองเลือดกระจัดกระจายไปในอากาศอย่างไม่น่าเชื่อ

เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว ผู้บำเพ็ญเพียรร่างสูงผอมก็รู้สึกตื่นตระหนก

เขาคิดจะหนี แต่ยังไม่ทันจะหันตัว ร่างกายของเขาก็ระเบิดเช่นกัน กลายเป็นละอองเลือดปลิวกระจัดกระจายไปในอากาศตามกันไป

“นี่คือนิกายหมื่นอัคคีหรือ?”

“ความเข้มข้นของปราณวิญญาณที่นี่ แข็งแกร่งกว่าดินแดนเต๋าหมื่นอัคคีถึงสิบเท่า”

“ในที่แห่งนี้”

“แม้แต่หมูธรรมดาที่มีชีวิตหลายพันปีก็สามารถเป็นจักรพรรดิอสูรได้”

เขาหัวเราะ และส่ายหัว

หลัวจิ่วเกอหาท่าที่สบายเอาไว้

เขาเอนกายลงบนหลังกระทิงเฒ่า

กระทิงเฒ่านั้นไม่แยแสอะไรทั้งสิ้น

มันยังคงเดินไปยังนิกายหมื่นอัคคีอย่างไม่รีบร้อน

สุดท้ายแล้ว คนที่นอนอยู่บนหลังมันก็เหมือนกับสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์ ทำให้กระทิงเฒ่าไม่กล้าทำตัวเกรี้ยวกราด

กระทิงเฒ่าขอบเขตสันติที่มีชีวิตยืนยาวกว่าหลายแสนปี ไม่กล้ามีความเห็นอื่น

มันต้องพยายามให้อีกฝ่ายพอใจ!

......

“เร็วขึ้นอีก”

“ข้ารู้สึกได้ว่านิกายหมื่นอัคคีมีบางอย่างผิดปกติ”

“มีคนคอยเฝ้าประตูเพียง 2 คนเองรึ?”

“มีบางอย่างผิดปกติ......”

“ผิดปกติมาก......”

หลัวจิ่วเกอ ขมวดคิ้ว

จากนั้นก็ยื่นมือขวาออกไป และสะบัดกิ่งต้นหวายอย่างเลือดเย็น โดยที่ไม่รู้เก็บเอามาจากไหน

เขาตีลงบนก้นของกระทิงเฒ่าอย่างแรง

กระทิงเฒ่าตอบสนองต่อการกระทำนี้

ในตอนแรก มันยกหัวขึ้นอย่างฉุนเฉียว รูจมูกขยายใหญ่ขึ้น ใบหน้าของมันที่น่าเกลียดนั้นดูเหมือนจะแดงก่ำ แต่หลังจากนั้นไม่นาน กระทิงเฒ่าก็ถอยกลับ

มันก้มหัวลงและเพิ่มความเร็วเล็กน้อย

กระทิงเฒ่ายังโกรธ นั่นเพราะไม่ว่าอย่างไร มันก็เป็นจักรพรรดิอสูรขอบเขตสันติ ทั่วทั้งมณฑลตงหวง มันถือว่ามีความแข็งแกร่งระดับสูงสุด แต่ไม่นานมันก็ถอยกลับ

เหตุผลง่ายมาก เพราะกระทิงเฒ่านึกถึงความทรงจำที่มันถูกตีจนร่างแหลกละเอียด

ความเจ็บปวดนั้น

ความสิ้นหวังนั้น

ตอนนี้ ความรู้สึกนั้นยังคงติดอยู่ในสมองของกระทิงเฒ่าอยู่ ดังนั้น คนที่นอนอยู่บนหลังมันไม่ควรทำให้ไม่พอใจเป็นอันขาด!!!

......

กระทิงเฒ่าจึงต้องใช้ความเศร้าเป็นพลังอย่างไม่เต็มใจ

มันเพิ่มความเร็วและมุ่งหน้าไปยังนิกายหมื่นอัคคี

เวลาล่วงเลยไปอีก 3 นาที

หนึ่งคน

หนึ่งกระทิง

ในที่สุดก็มาถึงนิกายหมื่นอัคคี

นิกายหมื่นอัคคี มีพื้นที่กว้างขวาง มีพระราชวังหลายแห่งที่หรูหราสง่างามตั้งอยู่

มันปล่อยรัศมีทวีความยิ่งใหญ่ออกมา

ระดับของปราณวิญญาณที่นี่หนาแน่นกว่านอกนิกายหมื่นอัคคี 3 ถึง 5 เท่า

อย่างไรก็ตาม นิกายหมื่นอัคคีที่เจริญรุ่งเรืองเช่นนี้

ในสายตาของหลัวจิ่วเกอ กลับไม่มีใครอยู่เลย

มันไม่ถูกต้อง......

ควรจะพูดว่า มีเพียงคนเดียวที่อยู่ที่นี่

“เจ้าเป็นใคร?”

“มาที่นิกายหมื่นอัคคี มีธุระอะไร?”

ทันใดนั้น

ด้านหน้าของหลัวจิ่วเกอก็ปรากฏชายวัยกลางคนคนหนึ่งขึ้น

ชายคนนั้นสวมเสื้อคลุมประมุขนิกายหมื่นอัคคี คาดกระบี่ที่ประดับด้วยอัญมณีสีแดงไว้ที่เอว มันดูหรูหรายิ่งนัก

ณ ขณะนี้ เขากำลังหรี่ตาดูเหมือนอย่างระมัดระวัง เขาเพ่งมองหลัวจิ่วเกออย่างเข้มงวด

“ข้าเป็นใคร?”

เมื่อได้ยินคำถามจากชายวัยกลางคนด้านหน้า

หลัวจิ่วเกอก็ไม่อาจห้ามตัวเองจากการหัวเราะได้

“ก่อนที่จะถามข้าว่าเป็นใคร ไม่ดีกว่าหรือที่จะคิดว่านิกายหมื่นอัคคีของเจ้าได้ทำให้ใครไม่พอใจ?”

“บางที สิ่งที่ในสายตาของเจ้าดูเหมือนแมลง อาจจะเป็นสัตว์ร้ายที่พร้อมกลืนกินเจ้าในขณะนี้ก็ได้......”

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด