ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 45 เยือนนิกายหมื่นอัคคีกับกระทิงเฒ่า
ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 45 เยือนนิกายหมื่นอัคคีกับกระทิงเฒ่า
ถอยห่างจากนิกายหมื่นอัคคีหรือ?
เป็นไปได้ยาก!
หากไม่ยอมถอย ก็จำต้องลักลอบเปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ ทีละน้อย
แต่หากต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ก็จำเป็นต้องเริ่มจากการปลูกฝังรุ่นเยาว์ใหม่ที่เข้าร่วมนิกาย
"ดูเหมือน ภายภาคหน้าจะเกิดความโกลาหล..."
ในพระราชวังมืดมิด
หนานกงเหอ อดขบขำไม่ได้ เขาส่ายหัวไปมา
หลังจากนั้น จึงวางมือไพล่หลังและเดินเชื่องช้าออกจากพระราชวัง
คู่จื้อคนนั้นหรือ?
ในเวลานี้ เขาก็นั่งบนเรือเหาะที่เคลื่อนตัวเข้าหานิกายหมื่นอัคคีอย่างไม่หยุดยั้ง
......
เมื่อเวลาผ่านไป
ภายใต้ความคาดหวังของพวกศิษย์และผู้อาวุโสนิกายหมื่นอัคคี
ในที่สุดปรมาจารย์คู่จื้อก็มาถึง
ที่นิกายหมื่นอัคคีมีศิษย์และผู้อาวุโสมากมาย และแม้จะเป็น 1 ใน 9 ขุมอำนาจชั้นนำของมณฑลตงหวง นิกายหมื่นอัคคีก็มีพลัง รากฐาน และอิทธิพลที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังอยู่ภายใต้วัดสมบัติวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่านิกายหมื่นอัคคีหลายสิบเท่า
หนานกงเหอ ประมุขนิกายหมื่นอัคคีไม่สามารถต่อต้านความต้องการของอีกฝ่ายได้ จึงต้องยอมให้อีกฝ่ายมาเทศนาธรรม
......
ในอาณาเขตตระกูลหลัว
ในลานที่มีกลิ่นอายโบราณแห่งหนึ่ง
หลัวจิ่วเกอกำลังหลับตาพริ้ม
ในขณะนี้ มีพลังอันยิ่งใหญค่อย ๆ แพร่กระจายออกไป
"ขอบเขตอมตะ 1 สวรรค์... ทะลวงผ่าน!!"
หลังจากนั้นไม่นาน คอขวดก็ถูกพังทลายทันที
ฐานพลังยุทธ์ของเขาในที่สุดก็ทะยานสู่ขอบเขตอมตะ 1 สวรรค์
พลังของเขาทะยานขึ้นสูงอย่างยิ่ง
ส่วนเรื่องค่ายกล?
เขาได้จัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
แม้จะใช้เวลาสักเล็กน้อย และยุ่งเหยิงบ้าง แต่ในอาณาเขตตระกูลหลัว จำนวนค่ายกลก็ได้พุ่งพรวดจาก 100 เป็น 300 ชนิด ซึ่งถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดี
หลัวจิ่วเกอคาดการณ์ หากค่ายกลเหล่านี้ถ้าถูกเปิดใช้งานพร้อมกัน เมื่อผู้ที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตอมตะมาถึงที่นี่ อีกฝ่ายก็อาจต้องตายทันที
ผู้ที่แข็งแกร่งกว่า เมื่อรับการโจมตีของค่ายกลมากกว่า 300 ชนิด ก็จะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส
อย่างไรก็ตาม ค่ายกลมากกว่า 300 ชนิด นั้นมีพลังมหาศาล แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลัวจิ่วเกอปวดหัว
นั่นคือ ค่ายกลเหล่านี้เหมือนกับหลุมลึกที่กลืนกินหินวิญญาณและหินเซียนไปมหาศาล
หากไม่ถูกเปิดใช้งานก็ไม่ได้ใช้จ่ายมากเช่นนั้น
แต่หากถูกเปิดใช้งาน การใช้จ่ายหินวิญญาณและหินเซียนจะเป็นตัวเลขที่มหาศาลเกินกว่าจะคิดได้
"หวังว่าค่ายกลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดใช้งาน..."
"ไม่เช่นนั้น แม้จะฆ่าศัตรูได้ แต่ก็ยังจะเป็นความเสียหายต่อเรามหาศาล"
หลังจากส่ายหัว
หลัวจิ่วเกอก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน
หลังจากนั้นช่วงเวลาสั้น ๆ เขาก็ออกจากลานนั้น
ฐานพลังยุทธ์ของเขาทะลวงคอขวดแล้ว และค่ายกลก็ถูกจัดตั้งเสร็จสมบูรณ์
หลังจากนั้น ภารกิจต่อไปที่ต้องทำคือการทำลายนิกายหมื่นอัคคี
ด้วยการทำลายนิกายหมื่นอัคคี จะทำให้มณฑลตงหวงรู้ถึงการมีอยู่ของตระกูลหลัว รวมถึงผลที่ตามมาหลังจากที่ก่อกวนตระกูลหลัว
......
เขาออกจากตระกูลหลัวไป
หลัวจิ่วเกอไม่ได้ทำตัวโดดเด่น
เขาเพียงแค่แจ้งให้หลัวเหิง จ้าวตระกูลปัจจุบันทราบ
จากนั้นจึงเลือกออกไปทันที
แน่นอน เขาไม่ได้เลือกใช้พาหนะใด ๆ แต่เลือกเดินเท้าแทน
เพราะสำหรับผู้ที่บรรลุขอบเขตอมตะ 1 สวรรค์ เพียงแค่ก้าวเดียวก็สามารถข้ามไปได้นับล้านล้านลี้
สำหรับบางคนที่เข้าใจกฎห้วงมิติ
พวกเขาสามารถข้ามไปหลายสิบหรือเกือบร้อยดินแดนได้ในก้าวเดียว
แต่ชัดเจนว่า ในมณฑลตงหวงเช่นนี้ ผู้ที่สามารถเข้าใจกฎห้วงมิติได้แทบไม่มีอยู่เลย
......
มณฑลตงหวง มีดินแดนมากกว่าพันแห่ง
สำหรับนิกายหมื่นอัคคี?
นิกายนี้ตั้งอยู่ในดินแดนขนาดใหญ่ชื่อว่าดินแดนเต๋าหมื่นอัคคี
"ที่นี่......"
"คือดินแดนเต๋าหมื่นอัคคีนั้นหรือ?"
นอกดินแดนเต๋าหมื่นอัคคี
หลัวจิ่วเกอขี่กระทิงเฒ่าที่ดูเรียบง่าย ไม่มีอะไรพิเศษ แต่มีฐานพลังยุทธ์อยู่ในขอบเขตสันติระดับสมบูรณ์
มันดูไม่สนใจสิ่งใด
พูดตามตรง กระทิงเฒ่าตัวนี้โชคร้ายมาก
ตอนแรก หลัวจิ่วเกอคิดจะเดินตรงไปยังนิกายหมื่นอัคคี
แต่...
กระทิงเฒ่าตัวนี้
กลับนำลูกหลานกระทิงของมันมาที่แห่งหนึ่ง และประกาศอำนาจในพื้นที่นั้น และยังจับปุถุชนในพื้นที่นั้นขังไว้
มันทำเพื่อกินหรือ?
สำหรับสัตว์อสูรเหล่านี้ การกินมนุษย์ไม่ได้ช่วยอะไร
เนื้อมนุษย์ไม่ได้ดีนัก ทั้งการกินคนมากเกินไปยังจะไปกระตุ้นอารมณ์ลบในจิตใจ
ดังนั้นสัตว์อสูรเหล่านี้จึงไม่กินมนุษย์
อย่างไรก็ตาม การที่ไม่กินไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถกักขังไว้เพื่อความสนุกสนานได้
ใครจะรู้ว่า กระทิงเฒ่าตัวใหญ่นี้ดันจับปุถุชนในพื้นที่ที่หลัวจิ่วเกอผ่านไปด้วย
เช่นนี้ หลัวจิ่วเกอจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตีกระทิงเฒ่าตัวนี้ พร้อมทั้งจับมันมาเป็นพาหนะของตนเอง
ด้วยเหตุนี้ หนึ่งคน หนึ่งกระทิง ยังคงเดินทางต่อไปในมณฑลตงหวงเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนจนมาถึงดินแดนเต๋าหมื่นอัคคี
"กระทิงเฒ่า"
"ข้างหน้านั่นแหละ"
"เร็วขึ้น หากยังชักช้าอีก ก็จงระวังหนังของเจ้าจะไว้ให้ดี..."
บนหลังกระทิงเฒ่า หลัวจิ่วเกอยื่นมือออกไปตบที่หัวของมัน
กระทิงเฒ่าตัวสั่นเล็กน้อย ดวงตาแฝงไปด้วยความหวาดกลัว
มันรีบตอบรับหลายครั้ง ก่อนจะเร่งความเร็ว เดินต่อไปข้างหน้า