ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 215 ปรับแต่งกาลเวลาสังหาร
ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 215 ปรับแต่งกาลเวลาสังหาร
ทันทีที่เสียงของกู่หยางดังขึ้น
หยกนั้นกลับส่องประกายแสงประหลาด
เห็นเช่นนี้ เซวียนจื่อไม่รู้ว่าทำไม จู่ ๆ ก็มีความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
เขารีบขมวดคิ้ว
ถัดมา เขาเหมือนสัมผัสได้ถึงบางอย่าง
สีหน้าเปลี่ยนไปทันใด
"ไม่ดีแน่!"
เดิมทีเขาตั้งใจจะใช้วิธีรุนแรงเพื่อสังหารกู่หยางโดยตรง
แต่ในขณะที่หยกนั้นกำลังส่องแสง
เขาตกใจมากที่พบว่า
ปราณมรณะในร่างของเขา... กลับปะทุออกมา!
เมื่อทะลวงขอบเขตแก่นสุญตาไปถึงขอบเขตมรณะชีวัน ก็จะตรัสรู้ปราณชีวิตและปราณมรณะ!
ปราณชีวิตจะทำให้ปราณในร่างตัวเองไร้ขีดจำกัด แม้ได้รับบาดเจ็บก็ฟื้นตัวได้รวดเร็ว
พร้อมกับยังสามารถยืดอายุขัยได้!
ส่วนปราณมรณะนั้นใช้สำหรับต่อสู้กับศัตรู!
หากศัตรูติดปราณมรณะ ปราณในร่างของพวกเขาจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว!
และนี่ก็เป็นวิธีหลักของยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวัน!
แต่เช่นเดียวกัน หากตันเถียนมีปราณมรณะมากเกินไป แม้กระทั่งกดทับปราณชีวิต...
สถานการณ์ก็จะกลายเป็นเรื่องอันตรายมาก
ครั้งนี้ เซวียนจื่อก็ประสบเหตุการณ์เช่นนี้!
ปราณมรณะในร่างของเขากลับปะทุออกมาโดยไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ!
ชั่วพริบตาก็กดทับปราณชีวิตไปทั้งหมด!
เขาชะงักไปครู่
ตาเบิกกว้าง
พยายามกดปราณมรณะในร่างเต็มที่
แต่ไม่ว่าเขาจะกดลงอย่างไร
ปราณมรณะนั้นกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย กลับยังคงเพิ่มสูงขึ้นไม่หยุด!
"เจ้า... เจ้าทำอะไรข้า"
ครั้งนี้ เซวียนจื่อเข้าใจได้แล้วว่าเป็นฝีมือของกู่หยาง!
พูดให้ชัดเจนคือ...
เป็นเพราะหยกประหลาดที่กู่หยางถือในมือ
ก็เพราะหยกนั้นส่องแสง ปราณมรณะในร่างของเขาถึงได้ปะทุขึ้นสูงอย่างกะทันหัน!
ตอนนี้ยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันรอบ ๆ ต่างหน้าซีดตกใจ
เกิดอะไรขึ้น?
ตอนแรกพวกเขาเห็นเซวียนจื่อกำลังจะลงมือ ทว่ากู่หยางยังกล้าข่มขู่
จึงคิดว่ากู่หยางคงต้องตายแน่แท้!
แต่ไม่คิดว่า...
กู่หยางหยิบหยกประหลาดชิ้นหนึ่งออกมา
ปราณมรณะของเซวียนจื่อก็ปะทุขึ้นหลายเท่าตัว!
หรือว่าเด็กหนุ่มผู้นี้...
สามารถควบคุมปราณมรณะได้
"สารเลว!"
"ข้าจะให้เจ้าตายเสีย!"
เซวียนจื่อยังคงกดทับปราณมรณะในร่างไม่หยุด แต่สีหน้ากลับเลวร้ายลงเรื่อย ๆ
ยังคงเพิ่มขึ้นอยู่!
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป...
อีกไม่นาน เขาก็จะทนไม่ไหว ทัณฑ์มรณะจะมาเยือนก่อนกำหนด!
แต่เขายังไม่ได้เตรียมพร้อม
หากทัณฑ์มรณะมาเยือนก่อนกำหนด...
ผลลัพธ์มีอย่างเดียว!
เขาจะต้องตาย!
อีกด้านหนึ่ง กู่หยางยืนอยู่กลางอากาศด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
"ข้าเตือนเจ้าแล้ว แต่เจ้าไม่ยอมฟัง"
ใบหน้ากู่หยางฉายรอยยิ้มเย็นชา
ได้ยินดังนั้น ความโกรธในใจเซวียนจื่อก็พุ่งทะลุฟ้า
ถัดมา... เขาเลิกต่อต้าน
ดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาสังหารหนาแน่น
แล้วโจมตีกู่หยางโดยตรง!
"ตายเสีย!"
ปราณบนตัวเซวียนจื่อปะทุออกมา
กำลังจะใช้ปราณมรณะในตัวโจมตีกู่หยาง
แต่ก็ในช่วงเวลานี้เอง
ปราณมรณะที่ทำให้คนหายใจไม่ออกก็ปะทุขึ้นกลางอากาศ!
"ไม่"
เซวียนจื่อสัมผัสได้ถึงปราณมรณะอันน่าสะพรึงกลัวนี้ สีหน้าเปลี่ยนสีไปทันที ทัณฑ์มรณะของเขา... มาถึงแล้ว!
ปราณมรณะอันน่าสะพรึงกลัวนั้นกลืนกินปราณชีวิตในร่างของเขาจนหมดสิ้นในชั่วพริบตา
แล้วยังคงดำเนินต่อไป
เริ่มกลืนกินตันเถียน เลือดเนื้อ และทั้งร่างของเซวียนจื่อ!
เซวียนจื่อยืนอยู่กลางอากาศ
ร่างกายด้านชาไปทั้งตัวทันที ต้องการจะต้านทาน ทว่าก็ไม่สามารถควบคุมปราณมรณะที่กำลังยุ่งเหยิงในร่างของตนได้แม้แต่น้อย
เพียงไม่กี่นาที
ปราณมรณะอันน่าสะพรึงกลัวนั้นก็สะท้อนกลับ กลืนกินเซวียนจื่อจนหมดสิ้น!
ตุบ!
ร่างกายของเซวียนจื่อกลายเป็นซากแห้งเหือดตกลงบนพื้นดังก้อง เซวียนจื่อ...ตายแล้ว!
แต่ดูเหมือนว่าการล้มลงของเซวียนจื่อนั้น ปราณมรณะอันหนาแน่นในร่างของเขาก็เหมือนจะสูญเสียเจ้าของไปด้วย ไม่นานก็ค่อย ๆ กระจายหายไปเอง
เงียบ
ความเงียบงัน!
เมื่อเห็นเซวียนจื่อล้มลงกับพื้นอย่างทุกข์ทรมาน
ผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรขอบเขตมรณะชีวันรอบ ๆ ต่างถอยหลังไปหนึ่งก้าว
"เกิดอะไรขึ้นกันแน่"
"หยกโบราณในมือกู่หยาง!"
"หยกโบราณนั่น คงทำให้ปราณมรณะปะทุได้!"
ผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรขอบเขตมรณะชีวันเหล่านั้นเพิ่งตื่นตระหนกได้สักพัก ก็ถอยหลังไปติดต่อกันหลายก้าว
เว้นระยะห่างจากกู่หยาง!
ช่วงเวลานี้ ผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรขอบเขตมรณะชีวันที่ขวางหน้าผู้อาวุโสใหญ่อยู่นั้นก็ตกใจมาก ถอยกรูดไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด มองกู่หยางด้วยสายตาระแวงระวัง
ผู้อาวุโสใหญ่ทั้งสามก็ตาค้าง
"นี่...”
พวกเขาไม่คิดเลยว่า
กู่หยางจะมีไม้ตายเช่นนี้
พวกเขาไม่รู้จักที่มาของหยกโบราณรูปทรงประหลาดในมือกู่หยาง แต่จากเหตุการณ์เมื่อครู่...
ชัดเจนว่าหยกโบราณนี้ไม่ธรรมดาเลย!
อีกฝั่งหนึ่ง
ยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันจากสองราชวงศ์ใหญ่ที่ตั้งใจจะดูเรื่องสนุกเดิมก็ตกใจจนหน้าซีดตาค้าง
"เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น"
"กู่หยางหยิบหยกโบราณชิ้นหนึ่งออกมา แล้ว... ปราณมรณะของผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรที่ชื่อเซวียนจื่อก็ปะทุขึ้นทันใด ดึงดูดให้ความตายมาเยือน"
"เป็นไปได้อย่างไร ในโลกนี้ยังมีสมบัติเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ?"
"นั่นไม่ใช่หมายความว่า... เด็กนี่สามารถจัดการยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันได้หรือ?"
พวกเขามีสีหน้าคล้ายกัน
เดิมทีพวกเขาคิดว่ากู่หยางและเหล่ายอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันจากราชวงศ์เซวียนเหนี่ยวคงจะล้มตายที่นี่กันหมด
แต่ผลลัพธ์...
สถานการณ์กลับพลิกผันอย่างรวดเร็ว!
กลายเป็นเช่นนี้!
นี่ทำให้พวกเขาหน้าเปลี่ยนสี
"อยู่ห่าง ๆ ก่อน"
หลังครุ่นคิดชั่วครู่ พวกเขาก็ไม่คิดจะลองดี
แล้วถอยกรูดไปกว่าพันเมตร
มองไปยังหุบเขาอีกฟาก
กู่หยางยืนอยู่กลางอากาศ
ใบหน้ามีรอยยิ้มจาง ๆ
การที่กู่หยางทำให้ปราณมรณะของเซวียนจื่อปะทุได้ ย่อมไม่ได้อาศัยหยกโบราณรูปทรงประหลาดนี้
หยกโบราณนี้เป็นของวิเศษจริง ๆ แต่เขาก็ไม่รู้จักพลังที่แท้จริงของมัน
ส่วนสถานการณ์ที่เซวียนจื่อเจอเมื่อครู่...
มาจากการปรับแต่งของกู่หยางต่างหาก!
กู่หยางใช้ความสามารถของระบบ ปรับแต่งให้ทัณฑ์มรณะของเซวียนจื่อมาเยือนเร็วขึ้นเป็นเมื่อครู่โดยตรง!
ดังนั้นปราณมรณะในร่างของเซวียนจื่อถึงได้ปะทุขึ้นทันใด!
ส่วนหยกโบราณ... ก็เป็นแค่เครื่องมือใช้เสแร้งเท่านั้น
แม้กู่หยางจะมั่นใจว่าใช้วิธีอื่นก็สังหารเซวียนจื่อได้ แต่มันก็จะเผยไม้ตายมากเกินไป
การใช้ความสามารถของระบบนั้นง่ายกว่ามาก
เพราะขอบเขตมรณะชีวันกับขอบเขตอื่นนั้นต่างกัน
การดำรงอยู่ของปราณชีวิตและปราณมรณะ ทำให้ขอบเขตมรณะชีวันแข็งแกร่งมาก แต่ก็มีจุดอ่อนร้ายแรงด้วย
นั่นคือความตาย!
โดยปกติจะเผชิญความตายได้ก็ต่อเมื่อทะลวงผ่านไปถึงขั้นสูงสุดของขอบเขตมรณะชีวัน
หรือไม่ก็ปราณมรณะในร่างมากเกินไป แม้กระทั่งกดทับปราณชีวิตจนหมด ทำให้สมดุลเสียไป
สถานการณ์นี้ก็จะนำพาทัณฑ์มรณะมาเยือนเร็วขึ้น
แต่สำหรับกู่หยางแล้ว ไม่จำเป็นต้องวุ่นวายขนาดนั้น
เพียงปรับแต่งให้ทัณฑ์มรณะของอีกฝ่ายมาเยือน ก็ทำให้ทัณฑ์มรณะปะทุขึ้นมาก่อนเวลาได้!
"แต่ความสามารถปรับแต่งต้องมีการสัมผัสกันก่อนถึงจะใช้ได้ ไม่อย่างนั้น..."
แววตาของกู่หยางวาบขึ้น
เขาเคยต่อสู้กับเซวียนจื่อ จึงถือว่าเป็นการสัมผัสกันแล้ว
จึงสามารถปรับแต่งทัณฑ์มรณะของอีกฝ่ายได้โดยตรง
ส่วนผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรอื่น ๆ นั้นห่างไกลจากเขามาก
จึงไม่มีโอกาสจะลงมือเลย
แต่เขาก็ไม่รีบร้อน
ความกลัวมาจากความไม่รู้
ผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรขอบเขตมรณะชีวันเหล่านั้นไม่รู้ว่ากู่หยางใช้วิธีอะไรโจมตี
ดังนั้นในตอนนี้พวกเขาจึงลังเลใจ ไม่กล้าโจมตีกู่หยางง่าย ๆ!
ภาพนี้ ก็สะท้อนอยู่ในสายตาของอัจฉริยะฟ้าประทานมากมาย