บทที่ 116 ชีวิตแลกชีวิต!
เวลานี้ ศิษย์อีกหลายคนที่หยางเสี่ยวเทียนช่วยไว้เมื่อครู่ ก็ชี้นิ้วหาเขาด้วยสีหน้าโกรธแค้นเช่นกัน
“ใช่ ใช่ คือหยางเสี่ยวเทียน หยางเสี่ยวเทียนเป็นผู้นำสัตว์อสูรมาโจมตีเรา!”
ศิษย์สำนักเสินไห่หลายคนต่างเปลี่ยนอารมณ์ หันสายตาแดงก่ำ มองผู้มีพระคุณราวกับเป็นสัตว์ร้ายเสียเอง
หยางเสี่ยวเทียนระเบิดเสียงหัวเราะต่ำ ขณะนัยน์ตาพลันเย็นยะเยือก
เมื่อหลิวกัวตง เห็นท่าทีเช่นนั้นของหยางเสี่ยวเทียน ใบหน้าเขาก็เริ่มมืดลงพร้อมคุกรุ่นไปด้วยความขุ่นเคือง ก่อนตะคอกกล่าวหาหยางเสี่ยวเทียนทันที
“เจ้าคือหยางเสี่ยวเทียนแห่งสำนักเสินเจี้ยนงั้นหรือ ข้าไม่คิดเลยว่า เจ้าจะมีความคิดชั่วร้ายเช่นนี้ทั้งที่อายุยังน้อย!”
“ชีวิตแลกชีวิต ในเมื่อเจ้าเป็นคนนำสัตว์อสูรมาที่นี่ เจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต รู้หรือไม่ การสังหารคนในสำนักเสินไห่นั้นมีโทษสถานใด เจ้าต้องกลับไปพร้อมกับข้าเพื่อรับการไต่สวนเรื่องนี้!”
เห็นได้ชัดว่า เขาต้องการนำหยางเสี่ยวเทียนกลับไปเพื่อมอบให้กับขุนนางชั้นผู้ใหญ่ โดยหมายป้ายสี ให้เขาเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
ครั้นได้ยินวาจาผู้เป็นอาจารย์ ที่ไม่ยอมเปิดใจรับฟังข้อเท็จจริง เหมือนบรรดาศิษย์เขาครู่นี้ หยางเสี่ยวเทียนก็เผยยิ้มอย่างเย็นชา พร้อมเอ่ยขึ้นว่า
“กลับไปกับเจ้างั้นรึ แล้วหากข้าไม่ไปล่ะ จะทำไม”
ผู้ใดก็ตามที่มีสายตาเฉียบแหลมหยั่งรู้สถานการณ์ในตอนนี้ จะทราบดีว่าวาจาของซูหลี่ ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องสิ้นคิดไร้เหตุผล หาที่มาที่ไปมิได้แม้แต่น้อย
ด้วยเหตุนี้ หยางเสี่ยวเทียนจึงไม่อาจเชื่อได้ ว่าหลิวกัวตงและคนอื่นๆ จะไม่เข้าใจหรือรับรู้ ว่าเรื่องที่ซูหลี่กล่าวทั้งหมดนั้นเป็นเท็จ ไร้ซึ่งความจริงลิ้นสองแฉก
ซึ่งความจริง ก็เป็นดั่งที่หยางเสี่ยวเทียนคิดเอาไว้ หลิวกัวตงพร้อมคนอื่นๆ รู้อยู่เต็มอกว่าซูหลี่กำลังโกหก แต่พวกเขากลับอยากนำตัวหยางเสี่ยวเทียนไป โดยไม่สนข้อเท็จจริงใด
เห็นได้ชัดว่า พวกเขาต้องการผลักความผิดของตนเอง ให้ผู้อื่นเป็นแพะรับบาปแทน
“เจ้าจะไม่กลับไปกับพวกเรางั้นหรือ” น้ำเสียงของหลิวกัวตงแข็งกร้าว ขณะร้องถามออกไป
ไม่ช้า ดวงตาของหลิวกัวตงก็หรี่ลงก่อนกล่าวว่า “หยางเสี่ยวเทียน อย่าได้ลำพองนัก คิดว่าตนเป็นอัจฉริยะผู้มีวิญญาณยุทธ์คู่ขั้นสูง แล้วข้าจะมิกล้าแตะต้องเจ้ากระนั้นหรือ”
เขาสูดหายใจลึกพลางเปิดปากว่า “ผู้ที่หนุนหลังสำนักเสินไห่ตอนนี้ คือราชวงศ์เสินไห่!”
“ซึ่งสิ่งที่เจ้ากระทำ มันเป็นการแสดงถึงความไม่เคารพต่อองค์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรเสินไห่!” ขณะกล่าวเขาก็ยกมือประสานกับกำหมัดแน่นพร้อมเอียงไปทางด้านข้าง เชิงแสดงความเคารพคนที่อยู่เหนือหัวเขา
“ต่อต้านข้า ก็เท่ากับต่อต้านองค์จักรพรรดิ!”
สิ้นเสียง หลิวกัวตงก็มิคิดปกปิดเจตนาฆ่าในดวงตาของตนแม้แต่น้อย เขาปลดปล่อยอายสังหารปะทุขึ้นมาปกคลุมไปทั่วร่าง
ซูหลี่ก็พร้อมตะโกนเสริม ยุยงผู้เป็นอาจารย์เช่นกัน “หยางเสี่ยวเทียนฆ่าศิษย์สำนักเรา ตามกฎของสำนัก การกระทำที่อุกอาจเช่นนี้ ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง!”
ทันทีที่ซูหลี่แผดเสียงร้องคำราม อาจารย์จากสำนักเสินไห่อีกคน ก็กระโจนขึ้นสูงไปในอากาศ พร้อมพุ่งตัวหมายคว้าที่หัวของหยางเสี่ยวเทียนด้วยมือข้างหนึ่ง กางขยุ้มราวกับกรงเล็บ
“ถูกดั่งซูหลี่กล่าว การฆ่าศิษย์ในสำนักของเราถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง เช่นนั้นก็ฆ่าเขาแล้วเอาหัวไปถวายต่อองค์จักรพรรดิ!” อาจารย์จากสำนักเสินไห่ตะเบ็งสุดเสียง
ทันใดนั้น ฝ่ายตรงข้ามปรี่ลงมืออย่างรวดเร็วประดุจสายฟ้า เมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้กำลังพุ่งโจมลงมาจับหัวหยางเสี่ยวเทียนด้วยกรงเล็บข้างเดียว
ปราณดาบอันน่าสะพรั่งพรึงก็พุ่งขึ้นหาคนบนอากาศ สะบั้นตัดลำคออาจารย์ผู้ชะตาขาดของสำนักเสินไห่ออกทันที ก่อนจะมีใครทันได้ตอบโต้ เคลื่อนตัวเร็วกว่าเสียงเสียดคมจากปราณสีครามนั้น
ท่ามกลางสายตาคนจำนวนมาก อาจารย์จากสำนักเสินไห่คนนั้น กลับลอยนิ่ง ตัวแข็งเกร็งกระตุกกลางอากาศ ไม่ช้าศีรษะของเขาก็หล่นหลุดออกจากลำตัว กลิ้งไปตามพื้นเป็นระยะทางหลายสิบฉื่อ
จากนั้น ร่างที่เหลือเพียงลำตัวก็ร่วงหล่นจากอากาศกระแทกพื้น
ตุบ!
เหตุการณ์ผันเปลี่ยนพร้อมเกิดฉับพลันต่อหน้าต่อตาพวกเขา ทำให้ซูหลี่ หลิวกัวตง และคนอื่นๆ ต่างได้ตะลึงตาค้าง จากเหยื่อผู้รับเคราะห์ จะกลายเป็นผู้สนองเคราะห์กรรมแก่พวกเขาได้อย่างไร
ผู้ที่สามารถเป็นอาจารย์ของสำนักหลัก ทั้งสี่แห่งในอาณาจักรเสินไห่ได้ อย่างน้อยต้องอยู่ในขั้นราชันยุทธ์ขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งอาจารย์ที่ศีรษะหลุดไปครู่นี้ เป็นถึงขั้นราชันยุทธ์ระดับสาม ที่นับว่าแข็งแกร่งมากพอจัดการพวกเขาทั้งสองลงได้อย่างง่ายดาย
“จะ… เจ้าเป็นใคร!” หลิวกัวตงเบิกตากว้างขณะมองไปทางหลัวชิง ผู้ยืนอยู่ข้างๆ หยางเสี่ยวเทียนด้วยความตกใจเป็นที่สุด
เนื่องจากคนที่ฟันปราณดาบอันทรงพลังเมื่อครู่ออกมา คือหลัวชิง
หลัวชิงผู้ยืนนิ่งอยู่ข้างกายหยางเสี่ยวเทียน ปกปิดกลิ่นอายของตนไว้โดยตลอด จึงมิแปลกที่จะไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงความแข็งแกร่งอันแท้จริง
ชายวัยกลางคนผู้ไม่เคยโดดเด่นมากพอเป็นที่สนใจของพวกเขา เพิ่งสังหารวิญญาจารย์ขั้นราชันยุทธ์ระดับสาม ด้วยการฟาดดาบเพียงครั้งเดียว!
“ฆ่า!” น้ำเสียงเย็นเฉียบกล่าวขึ้นจากหยางเสี่ยวเทียน
สิ้นเสียงอันแหบห้าวนั้น หลัวชิงพลันเคลื่อนไหวกระโดดสูงเหนือพสุธา เหวี่ยงดาบใหญ่ในมือฟันออกไปเข้าหาหลิวกัวตง ด้วยปรานดาบที่ไม่อาจหยุดยั้งได้
ครั้นได้เห็นปรานดาบอันน่าหวาดหวั่น หัวใจของหลิวกัวตงประหนึ่งจะหยุดเต้น พร้อมใบหน้าซีดเผือด ทำเขาเข่าอ่อนล้มขดตัวลงกับพื้นด้วยความตื่นตระหนก
ขณะที่การโจมตีด้วยดาบจากหลัวชิง ยังคงฟาดฟันกระหน่ำลงมากระแทกเขาหลายครั้งอย่างไม่ปรานี เสียงสะนั่นดังพร้อมเศษฝุ่นฟุ้งกระจาย ปลิวลอยคลุ้งไปทั่วอากาศ
แม้หลิวกัวตงจะพยายามพลิกตัวขึ้นหลบออกไป กระนั้นแล้วเขาก็ยังคงถูกฟันด้วยดาบ เข้าที่ไหล่และแขนข้างหนึ่ง จนแขนข้างนั้นสะบั้นขาดทันที
หลิวกัวตงตวาดเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส ขณะที่มืออีกข้างกำลังยกกระบี่ขึ้นสู้ จู่ๆ ร่างหนึ่งโผเข้าหาพร้อมกับดาบใหญ่ในมือ หลัวชิงปักปลายคมของดาบจมลงลำคอหลิวกัวตงทันที
หลัวชิงจ้องมองเข้าไปนัยน์ตาของอีกฝ่ายอย่างเย็นชา พร้อมชักดาบออกมาอย่างเลือดเย็น
สีหน้าหลิวกัวตงเต็มเปี่ยมด้วยความไม่อยากเชื่อ ก่อนร่างไร้วิญญาณเขาจะพลันล้มลงกระแทกพื้นเสียงดัง
ตุบ!