ตอนที่ 279 เหนือขึ้นไป
ตอนที่ 279 เหนือขึ้นไป
เทือกเขาเฮลล์ตกอยู่ภายใต้สงครามเต็มไปด้วยซากศพ เมืองหลวงสหพันธรัฐก็ถูกระเบิดอย่างรุนแรง สังหารชีวิตทหารไปนับไม่ถ้วน
แต่ ณ ที่แห่งหนึ่งกลับมีชายหญิงสองคนนั่งดื่มกันอยู่ที่ศาลาไม้หลังเก่าแก่
ศาลาไม้ตั้งอยู่ใจกลางสวนดอกไม้ที่เบ่งบานและลำธารขนาดเล็กที่ทอดตัวยาวผ่านทุ่งดอกไม้ มองเพียงผิวเพลินทั้งสองเหมือนกับทั้งสองกำลังดูตัวกันท่ามกลางวิวที่สวยงาม แต่มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
สถานที่มีเพียงเสียงของสายลมและน้ำที่ไหลอย่างแผ่วเบา แต่กลับไร้ซึ่งเสียงของสิ่งมีชีวิตอื่นใดนอกจากทั้งสอง แม้แต่ผีเสื้อหรือผึ้งที่มาเชยชมดอกไม้ก็ไม่เผยตัวออกมาให้ได้พบเห็นสักตัวเดียว
“ที่นี่ไร้ซึ่งชีวิต มันเป็นเพียงแค่ของปลอมเท่านั้น” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นมา
“ชีวิตก็มีอยู่ แต่เจ้ากลับไม่เลือกจะมองมันเอง”
หญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยกแก้วขึ้นที่มีน้ำชาใส เมื่อถูกแกว่งถ้วยชาไปมา ชาในถ้วยก็เปล่งประกายแสงออกมา
เธอจิบมันเบา ๆ ก่อนจะวางแก้วลงพริบตานั้นทั้งทุ่งดอกไม้ก็เต็มไปด้วยผีเสื้อและผึ้ง ในลำธารก็มีปลาแหวกไหว้ไปมาก
ผีเสื้อตัวหนึ่งค่อย ๆ บินผ่านหน้าของทั้งสอง ชายหนุ่มยื่นมือออกมาคว้ามันไว้ ก่อนจะบีบผีเสื้อตัวนั้นตายคามือ เขาค่อย ๆ แบมือและกล่าว
“พวกเธอจะเป็นแบบนี้เมื่อถึงเวลานั้น”
หญิงสาวมองไปที่เศษซากของผีเสื้อตัวนั้น และกล่าวนิ่งเฉยว่า “พวกนายก็เลยยินยอมมอบทุกสิ่งให้กับพวกมันอย่างนั้นเหรอ”
“ระวังหน่อย ถึงจะเป็นเธอก็สามารถตายได้เช่นกัน” ชายหนุ่มเตือนเสียงแข็ง
“หึ ถ้าพวกนั้นกล้าอย่างที่นายพูดก็คงลงมือด้วยตัวเองแล้ว คงไม่ใช้พวกนายเป็นหุ่นเชิดจนถึงตอนนี้”
“หุ่นเชิด...” ชายหนุ่มเงียบและไม่ได้แก้ตัว แต่ก็พูดต่อ “พวกเราทำในสิ่งที่ต้องทำ โลกใบนี้ไม่อาจจะยืนหยัดได้ด้วยตนเอง มนุษย์ก็เช่นกัน ถ้าไม่อยากสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ก็มีแค่วิธีนี้เท่านั้น”
“โดยการทรยศเผ่าพันธุ์มนุษย์”
“ไม่ใช่ นี่คือการช่วยต่างหาก”
“ใครพวกนายหรือพวกมัน” หญิงสาวกล่าวเหน็บแนม
“ไม่ว่าเธอและพวกจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม พวกเราก็ยังจะทำมัน เพราะมันได้เริ่มไปแล้ว” ชายหนุ่มเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า
หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็เผยแววตาดุร้ายออกมาทันที ดอกไม้ ลำธารและสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในที่นี้เริ่มบ้าคลั่งขึ้นมาทันที
“พวกแกทำลงไปจริง ๆ สินะ ถ้าอย่างนั้นที่แกยอมอยู่เฉย ๆ”
“ใช่ ไม่ใช่เพราะเธอที่หยุดฉัน แต่เพราะฉันก็ต้องการหยุดเธอ อีกอย่างการที่เขาจะออกมาได้หรือไม่ได้มันก็ไร้ความหมาย เพราะเมื่อเริ่มแล้วก็ไม่มีใครหยุดยั้งได้”
คราวนี้เป็นฝ่ายหญิงสาวที่เงียบไป
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะฆ่าแกก่อน” สิ้นเสียงหญิงสาวทุกสิ่งรอบตัวก็สลายหายไป ก่อนจะกลายมาเป็นคมดาบพุ่งเข้ามาหาชายหนุ่ม
“หึ!” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะยื่นมือไปด้านหน้า พริบตาที่เขาต่อยออกไป โลกใบนี้ก็แตกทันที
เพล้ง!!!
ภาพตรงหน้าถูกเปลี่ยนให้เป็นท้องฟ้าเหนือเมืองหลวงสหพันธรัฐขึ้นไป ซึ่งถูกกั้นไว้ด้วยเมฆสีดำที่มาจากควันและฝุ่นจากระเบิด ด้านหน้าเป็นหญิงสาวที่ยืนอยู่กลางอากาศ
หมัดของชายหนุ่มต่อยไปที่ไปยังความว่างเปล่า แต่ในแววตากลับสะท้อนคมดาบโปร่งแสงซึ่งมองไม่เห็นในความจริง
“เจลิน่าเธอไม่มีทางชนะฉันได้หรอก ย้า!!!” ชายหนุ่มครวญครางในลำคอ ตอนนั้นเองกล้ามเนื้อก็เริ่มปรากฏเส้นพลังงานสีทองขึ้นมา
“สายเลือดนั้นมัน...เป็นไปไม่ได้ มนุษย์ไม่มีทางมีมัน” หญิงสาวเผยแววตาตื่นตกใจแววตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
“นี่คือทางรอดของพวกเรา เธอเองก็มีมันได้”
“คิดจะล่ามคอฉันด้วยสายเลือดแบบนั้นเหรอ ตาย!”
“ก็ดี! จัดการเธอก่อน จากนั้นฉันจะไปฆ่าพวกที่เหลือ”
พริบตาต่อมาท้องฟ้าด้านบนก็ราวกับกำลังพังทลายลงมาเมื่อทั้งสองลงมือต่อสู้กัน ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่ต่ำกว่าระดับ A จะเข้าใจหรือสัมผัสได้ถึงพลังที่ต่อสู้นี้ได้
...
เมืองหลวงสหพันธรัฐ
ลุคที่บินมาถึงก็มองดูเหมืองที่พังทลายและกลายเป็นซากจากระเบิด ที่นี่ยังมีกลุ่มควันและแรงสั่นสะเทือนปรากฏให้เห็นเป็นครั้งคราว
เขาไม่เคยมาที่เมืองหลวงของสหพันธรัฐ และเคยเห็นเมืองแห่งนี้แค่เพียงในภาพและวิดีโอบนออนไลน์เท่านั้น ภาพที่เคยเห็นกับภาพตรงหน้านั้นตอนนี้แตกต่างกันอย่างมาก
ถึงอย่างนั้นซากที่เห็นก็ยังแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองหลวงสหพันธรัฐที่ยืนหยัดต่อสู้กับมอนสเตอร์มาหลายทศวรรษ
คลื่นพลังของลุคในระดับ A กระจายไปทั่วทั้งเมือง เขากำลังมองหาบางสิ่ง ไม่ใช่ทหารที่ร้องเจ็บปวด หรือการต่อสู้ของทหารสหพันธรัฐกับทหารโคลนนิ่งของกองทัพเทพอนันต์
“ตรงนั้น” ลุคที่ใจกลางเมือง สถานที่พังเสียหายมากที่สุดแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยโกเลมของราชาโกเลมกำลังปกป้องทางลงไปยังใต้ดินอยู่
‘สหพันธรัฐซ่อนอะไรไว้ที่ใต้ดิน แล้วทำไมแซมสันถึงอยากไปที่นั่น ไปดูก็รู้เจนก็น่าจะอยู่กับพวกมันด้วย’
ลุคยกเท้าก่อนจะก้าวเดินพริบตานั้นเข้าก็หายไปจากตำแหน่งเดิมและไปโผล่ยังในเมือง ลุคไม่สนใจต่อสู้กับทหารทั้งสองฝ่าย เขาผ่านคนเหล่านั้นไปโดยตรง เหนือมนุษย์ที่ต่ำกว่าระดับ A ไม่มีทางที่จะตามความเร็วของเขาทัน ลุคจึงผ่านทุกคนมาได้อย่างง่ายได้
แต่กลับโกเลมเหมือนกัน พวกมันเชื่อมต่อกับราชาโกเลมและถูกเตรียมไว้ให้ต่อสู้กับระดับ A ได้
“โฮก!” เหล่าโกเลมต่างคำรามเสียงดังใส่ลุคที่พุ่งเข้ามา พวกมันพากันเข้าไปโจมตีใส่ลุคที่พึ่งมาถึงพอดี
ตูม!!!
ท่อนแขนของโกเลมที่ใหญ่หลายเมตรทุบเข้าใส่ลุค แต่มันกลับถูกลุคหยุดไว้ด้วยนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียว โกเลมตัวอื่น ๆ เห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว พวกมันคือโกเลมที่กำเนิดจากดิน แม้จะทรงพลังก็ไม่ได้มีสติปัญญาดั่งมนุษย์
สิ่งที่พวกมันทำคือทำตามคำสั่งและคำสั่งคือการหยุดยั้งไม่ให้ใครหน้าไหนเข้ามาที่นี่ โดยเฉพาะชายตรงหน้า
“โฮกกก!!!”
โกเลมตัวอื่น ๆ โจมตีใส่ลุคจากทุกทิศทาง
“ไปให้พ้น!” ลุคระเบิดคลื่นพลังออกมาทำให้โกเลมทั้งหมดกระเด็นออกไป
ไม่มีทางที่จะฆ่าพวกมันได้ด้วยการโจมตีแค่นี้ โกเลมค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนพร้อมกับดูดกลืนซากดินและหินรอบตัวเพื่อซ่อมแซมรอยแตกร้าว แต่ก่อนจะได้ขยับตัวไปมากกว่านั้นลุคก็ตวัดดาบวายุวารี
พริบตานั้นก็เกิดคมดาบวายุรอบตัวของลุคเข้าฟันใส่โกเลมทุกตัว คมดาบวายุที่ฟันไม่ใช่เพียงแค่ฟันธรรมดาเท่านั้น แต่มันคือการฟันจนย่อยไปถึงเศษ
แก่นพลังงานของโกเลมภายในถูกทำลายในพริบตา
โกเลมทั้งหมดหายไปไม่มีเหลือ ทำให้ทางเข้าว่างเปล่า
ลุคยืนอยู่ที่ปากหลุม ก่อนจะกระโดดลงไปในหลุม
หลังจากไม่กี่วินาทีที่ลุคลงไปตอนนั้นที่พื้นซึ่งมีหลุมน้ำปรากฏอยู่ก็กลายเป็นเยือกแข็งและสะท้อนเงาเหมือนกับกระจก ภายในกระจกค่อย ๆ มีหญิงสาวโผล่เธอสวมใส่ชุดเกราะน้ำแข็ง
เธอไม่ใช่ใครนอกจากเหนือมนุษย์ระดับ A มังกรเหมันต์
“อาการบาดเจ็บของฉันสาหัสมาก รีบลงมือซะฉันลงมือได้แค่ครั้งเดียว” เธอกล่าวเบา ๆ กับผืนดิน
ตอนนั้นเองผืนดินก็ปรากฏใบหน้าของราชาโกเลมขึ้นมา
“ตกลง”
“โลงศพปฐพี”
ทางเข้าที่ลุคลงไปม้วนตัวเข้าหากันในทันที ไม่ใช่เพียงแค่นั้นมังกรเหมันต์ก็ลงมือด้วย เธอใช้พลังทั้งหมดออกมาเพื่อเยือกแข็งผืนดิน
“ดินแดนเยือกแข็ง”
นี่คือการใช้พลังผสานกันของสองเหนือมนุษย์ระดับ A ไม่ใช่การโจมตี แต่เป็นการกักขัง
“เกิดอะไรขึ้น” ลุคที่ลงมาได้ครึ่งทางเผยสีหน้าเคร่ง เมื่ออยู่ ๆ พื้นที่รอบตัวก็หดตัวเข้ามา พื้นดินพวกนี้แข็งแกร่งกว่าโลหะนับพันเท่า ไม่ใช่เพียงแค่นั้นมันยังถูกเยือกแข็งเพิ่มเข้าไปอีก
“ราชาโกเลม มังกรเหมันต์” ลุคนึกถึงสองคนนั้นทันที ที่แท้โกเลมที่เฝ้าก็เป็นแค่พวกตัวหลอก พวกนั้นวางแผนให้เขาลงมาและกักขังเขาไว้
“คิดว่าจะกักขังฉันได้เหรอ” ลุคที่ตอนนี้โดนดินรอบตัวบีบไว้ก็ปลดปล่อยคลื่นพลังและใช้พละกำลังของตัวเองทำลายดินที่ถูกเยือกแข็งรอบ ๆ ออกไป แต่เขาก็พบว่าพวกมันแข็งแกร่งมาก
“ย้า!!!”
ตูม! ๆ ๆ ๆ
เสียงดังสั่นสะเทือนส่งมาถึงหญิงสาวมังกรเหมันต์
“ฉันต้องไปแล้ว” เธอกล่าวจบก็หนีออกไปจากที่นี่ในทันที อาการบาดเจ็บสาหัสและยังสูญเสียพลังไปจำนวนมาก ถือว่าอันตรายมาก เธอต้องรีบจากไป ถ้ามีระดับ A จากสหพันธรัฐมาเจอเธอที่นี่ เธอจะโดนฆ่าตายได้
ราชาโกเลมไม่ได้กล่าวห้ามแต่กลับมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแทนและใบหน้านั้นก็หายไป
...
ที่ใต้พิภพ
ราชาโกเลมลืมตาขึ้นมาก่อนที่จะกล่าว
“เรียบร้อยหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ เราสามารถลงมือได้ตลอดเวลา” กลุ่มคนที่กลับมารวมตัวกันรายงานกับราชาโกเลม
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงดังมาจากใจกลางของสถานที่แห่งนี้ เมื่อมองไปก็เห็นถึงการต่อสู้ของแซมสันกับเหนือมนุษย์ระดับ A เทียมที่กำลังสู้กันอย่างดุเดือด
“ได้เวลาลงมือแล้ว” กล่าวจบราชาโกเลมและคนอื่น ๆ ก็มุ่งหน้าไปที่ใจกลางในทันที