ตอนที่แล้วตอนที่ 26 ภารกิจแรกของ The Protector (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 28 ภารกิจแรกของ The Protector (3)

ตอนที่ 27 ภารกิจแรกของ The Protector (2)


08.30 น. โรงเรียนของดนัย

“ตอนนี้น่าจะเริ่มงานกันแล้วมั้ง แต่ก็ไม่น่าจะเป็นห่วงอะไรมากเพราะคงไม่มีใครกล้ามายิงกันกลางวันแสกๆหรอก”ดนัยพึมพำออกมาขณะนั่งอยู่ในห้องเรียนและฟังเพื่อนทั้ง 3 ของตนโม้เรื่องตัวละครในเกม

“ฉันได้ยินข่าวมาจากกลุ่มลับในเกมว่ามี Npc ในเกมคนหนึ่งบอกทางไปรังของไวเวิร์นถ้าเราทำเควสสำเร็จด้วย”วินกล่าว

“จริงดิ!!”

“จริงแน่นอนเพราะฉันเห็นมีคนได้ไวเวิร์นเป็นสัตว์เลี้ยงแล้ว”วินเอ่ย

“เวลเท่าไหร่วะ”กันต์ถามบ้าง

“85”

“เลเวล 85!!…มากกว่าผู้เล่นที่เวลเยอะที่สุดในโลกที่ตอนนี้อยู่เลเวล 81 อีก”ดิวอุทานขึ้น

“ใช่! ในกิลวอของพุธที่ผ่านมาไวเวิร์นตัวนั้นไปถล่มกิลด์อันดับ 9 ของทั่วโลกซะเละเลยล่ะ”วินเอ่ยต่อ

“แล้วจากนั้นล่ะ”กันต์ถาม

“มันโดนมือธนูของกิลอันดับ 5 สอยร่วงและตอนนี้น่าจะยังรักษาตัวอยู่”

“โฮ่…นึกว่าจะโดนถล่มกันทั้งหมดเสียอีกเสียฟอร์มหมด”ดิวกล่าว

“ใช่ เรื่องนี้กลายเป็นที่หัวเราะของคนในเซิร์ฟเลยล่ะ”

“ก็จริง มาอย่างเท่แต่โดนนักธนูสอยร่วงอย่างนี้”

ทั้งกลุ่มนั่งหัวเราะกันก่อนที่ครูจะเข้ามาสอนในคาบแรกของวันนี้

………….

10.00 ขบวนรถของ The Protector

รถได้ออกจากกรุงเทพมาเป็นเวลา 3 ชั่วโมงแล้วโดยอีก 1 ชั่วโมง 42 นาที จะถึงจังหวัดชัยภูมิ

การเดินทางนั้นปลอดภัยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ถนนก็โล่งไม่มีติดขัดสภาพอากาศก็โปร่งใสไม่มีเมฆฝน โดยรวมถือว่าเป็นวันที่ควรค่าแก่การเดินทาง

“วันนี้อากาศดีจริงๆเลยนะครับ”ภูมิเยียดแขนและขาคลายเมื่อยเล็กน้อยเพราะรถตู้คันนี้จัดมาให้มีที่นั่งเพียง 4 เท่านั้นทำให้มีพื้นที่ว่างพอสมควร

“ใช่ครับ แต่ยังไงท่านภูมิก็ต้องระมัดระวังตัวเอาไว้ตลอดเวลาเพราะเรามาอยู่ถิ่นของศัตรู”เลขาชายจับแว่นขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมา

“ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญฉันก็คงไม่มาเสี่ยงแบบนี้หรอกน่า แถมฉันยังสร้างปัญหาไว้ให้เจ้านั่นเยอะพอสมควรด้วยถึงได้ระวังแบบนี้ไง”

ทั้งสองพูดคุยกันเล่นๆและดูทีวีที่ติดอยู่ในรถไปพลางๆโดยมีตู้เย็นขนาดเล็กคอยบริการน้ำเย็นๆให้อีกด้วยอย่างสบายใจจนเวลาผ่านไป 1ชั่วโมง

และในตอนนั้นเองก็มีเรื่องเกิดขึ้นจนได้ เพราะตัวส่งสัญญาณแสดงรถที่ขับมาผิดปกติ 3 คัน นี่ก็คือหนึ่งในเทคโนโลยี Gps ที่ยุคนี้ยังไม่มี

“ระวังตัวไว้ด้วยครับท่านภูมิ”คิวพูดขึ้นก่อนจะหยิบปืนพกมาเช็คให้เรียบร้อย

แม้จะมีอุปกรณ์สุดไฮเทคอยู่ในรถอีกคันหนึ่ง แต่ทุกคนได้ถูกกำชับมาว่าถ้าไม่จวนตัวจริงๆก็ไม่ต้องใช้เพราะมันเสี่ยงต่อการเปิดเผยสู่คนอื่นด้วย ทว่าทุกคนก็ยังใส่เกราะพลังงานกันมาครบ

“มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ”ภูมิถามขึ้นระหว่างดูข่าวสารในทีวี

“มีรถที่มีการขับตามเรามา 3 คันครับ”

“ตอนนี้เราอยู่ในจังหวัดชัยภูมิซึ่งเป็นถิ่นของอีกฝ่ายแล้วครับท่าน”เลขาชายกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พวกมันกล้าทำอะไรแบบนี้กลางวันเสกๆเลยงั้นเหรอ”

“ผมว่าพวกมันตอนนี้แค่สะกดรอยตามมาเฉยๆครับ น่าจะลงมือเวลากลางคืน”คิวคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา

“อย่างนี้นี่เอง”ภูมิยังใจเย็นอยู่และไม่ได้คิดมากนักเพราะหากอีกฝ่ายกล้าเล่นงานเขาที่อยู่กลางผู้คนจริงๆก็คงต้องพิจารณาศัตรูการค้าคนนี้ใหม่เสียแล้ว

………….

12.00 น. ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

ขบวนคุ้มกันได้เดินทางมาถึงยังร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ถูกจองไว้เป็นห้องส่วนตัว

ภูมิกับเลขาของเขาก็กินข้าวกันอย่างมีความสุขไร้ซึ่งความกังวล แน่นอนว่าอาหารพวกนี้ถูกตรวจสอบมาอย่างดีแล้ว รวมถึงแก้วน้ำบนโต๊ะด้วย

“พวกนายไม่กินงั้นเหรอ”

“พวกเราจองอีกห้องเอาไว้เพื่อสลับกันไปทานแล้วครับ”หนึ่งในทีมของคิวที่ยืนอยู่รอบโต๊ะเอ่ยขึ้นมา

“ทำงานกันดีจริงๆ”ภูมิพยักหน้าก่อนจะกินอาหารต่อไป

ครึ่งชั่วโมงต่อมามื้ออาหารเที่ยงนี้ก็จบลงและนั่งรถต่อเพื่อเดินทางไปจังหวัดขอนแก่น ครั้งนี้รถที่ตามพวกเขามาได้เพิ่มเป็น 5 คันจึงเริ่มสร้างความระแวงแก่ภูมิแล้ว

“พวกนั้นคิดจะทำอะไรกันแน่”ภูมิกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก

“ใจเย็นก่อนครับ ไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอนหากพวกเรายังอยู่ตรงนี้”คิวเอ่ยเพื่อให้ภูมิสงบลง

“ใช่ครับท่านภูมิ ตอนนี้สิ่งที่เราทำคือต้องมีสติอยู่กับตัว”เลขาหนุ่มเอ่ยด้วยความเยือกเย็นน่าชื่นชมไม่น้อยเลยทีเดียว

“อีกประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีก็จะถึงที่หมายแล้วครับ ตอนนั้นต้องระวังตัวให้ดีที่สุดเพราะจุดหมายของเราอยู่กลางป่าเป็นที่ลับตาคน”

“ฉันเข้าใจ”ภูมิพยักหน้า

เป้าหมายในการเดินทางมาครั้งนี้ของภูมิก็คือที่ดินผืนใหญ่ที่มีขนาดกว่า 100 ไร่ทำเลอยู่ติดกับเมืองเหมาะแก่การสร้างอสังหาริมทรัพย์ขึ้นที่นี่เขาจึงต้องมาดูด้วยตนเอง

และที่ดินผืนนี้ภูมิก็แย่งประมูลมาจากคู่แข่งทางการค้าคนนี้ด้วย นี่อาจจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายก่อเรื่องเช่นนี้หวังจะข่มขู่ก็เป็นได้

หลังจากขับรถมาอีกสักพักหนึ่งสัญญาณที่ส่งออกมาจากเครื่องก็เปลี่ยนไปกลายเป็นขบวนรถแบบปิดล้อม

“ดูเหมือนอีกฝ่ายจะตั้งใจทำอะไรบางอย่าง ตอนนี้ขอให้ระวังให้ดีนะครับ”คิวกล่าวขึ้นหลังจากตรวจดูรอบๆตัวรถ

“ได้ครับ”ภูมิปิดทีวีก่อนจะเริ่มมองไปรอบๆด้วยความระมัดระวัง

…………..

13.10 น. โรงเรียนของดนัย

“เฮ้! นายกำลังดูอะไรอยู่น่ะ”วินถามดนัยที่กำลังเปิดโน้ตบุ๊คสุดล้ำและชมภาพสดจากเหตุการณ์ปัจจุบันอยู่

“หนังน่ะ”

“เรื่องอะไรกัน”

“ไม่รู้สิฉันเปิดเจอมาน่ะ”

“ถ้าจะมันน่าดูเลยนะเนี่ย”

ตอนนี้มุมมองของคนในภาพเริ่มหยิบปืนพกขึ้นมาเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลาแล้ว รวมถึงคนอื่นๆในทีมก็ด้วยเพราะรถได้เลี้ยวเข้ามาในเขตป่าของเมืองแล้ว

‘ใครจะไปคิดว่ามันจะมีคนกล้าหาเรื่องฆ่าคนตอนกลางวันแบบนี้ แต่มีรถ 8 คันได้น่าจะมีคนรวมๆประมาณ 50 คน’ดนัยคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ทีมของตนกำลังเผชิญ

“มีรถตามมาติดๆเลยว่ะ แบบนี้ยิงกันมันแน่นอน”วินกล่าวขณะดูภาพในจอไปด้วย

“ฉันหวังว่าจะไม่เป็นแบบนั้นนะ”

“ทำไมล่ะ”

“ไม่รู้สิ”

ทางด้านของคิวและทีมตอนนี้กำลังตื่นตัวถึงขีดสุดเพราะตอนนี้พวกตนได้มาอยู่กลางป่าเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่ดีในการเริ่มโจมตี

ปั้งง!!!

เคร้งง!!

ยังไม่ทันได้คิดอะไรก็เกิดเสียงปืนดังขึ้นมาแต่รถคันนี้กันกระสุนมันจึงไม่สามารถทำอะไรได้

“แจ้งตำรวจเลยครับ”คิวหันไปกล่าวกับภูมิ

“ได้ๆๆ”ภูมิยกโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะโทรไปยังเบอร์ 191

“สวัสดีค่ะมีเรื่องอะไรให้ช่วยคะ”

“ตอนนี้เกิดเหตุยิงกันกลางป่าบริเวณด้านตะวันตกของเมืองครับ”

“ขอชื่อผู้แจ้งด้วยค่ะ”

“ไตรภูมิ ทินกร ครับ”

“ค่ะ ทางเรากำลังเร่งผสานเรื่องนี้ให้ขอที่อยู่เพิ่มเติมด้วยค่ะ”

“เข้าป่ามาประมาณ 300 เมตรจากถนนสายหลักครับ จากนั้นผมก็ไม่รู้อะไรแล้วเพราะมีแต่ป่าเต็มไปหมด”

“ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ กรุณาซ่อนตัวเพื่อหลบจากการปะทะกันให้ดี ขอบคุณค่ะ….ตรู๊ดด…ตรู๊ดดดด”

“แล้วตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันต่อดี”เลขาหนุ่มถามขึ้นมา

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับ เนื่องจากอีกฝ่ายยิงมาก่อนและเราก็ทำการอัดคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐานแล้วด้วยทางเราจึงโต้ตอบได้”

“งั้นตอนนี้กำลังรออะไรอยู่ล่ะ”ภูมิถามขึ้น

“หากเรายิงโต้ตอบตอนนี้มีโอกาสที่ทางเราจะเสียเปรียบเพราะอีกฝ่ายมีจำนวนที่มากกว่า ผมจึงคิดว่าจะเข้าไปในป่าลึกก่อนจะจอดรถเพื่อทำการตอบโต้”

“แต่เราจะสลัดพวกมันออกไปได้ยังไงกัน”

“พวกเรามีวิธีการของเราครับ”คิวตอบก่อนจะยกวิทยุสื่อสารขึ้นมา

“ใช้แผนปลดอาวุธ”

“รับทราบ!”

กระจกของรถตู้คันหลังแง้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะมีปืนรูปร่างคล้ายดาวเทียมขนาดเล็กโผล่ออกมา

“นั่นมันคืออะไร??”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”ศัตรูที่ขับไล่ตามและกำลังระดมยิงอยู่ก็สงสัยแต่ไม่ได้ติดใจอะไรและยิงต่อไป

ทีมในรถคันที่สองเริ่มเล็งไปทางคนที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าของกลุ่มนี้ก่อนจะเริ่มนับถอยหลัง

“3 2 1 ยิงได้!”

ปิ้วว!!

เกิดเสียงเบาๆดังขึ้นครั้งหนึ่งก่อนที่รถที่ขับตามมาจะเกิดการพลิกโค้งอย่างไม่ทราบสาเหตุ

เอี๊ยดดดดดด!!!

“ทำไมฉันขยับไม่ได้!!”

“ลูกพี่พวกเราก็ขยับไม่ได้เหมือนกัน”

“บัดซบ!!! ทำยังไงก็ได้ให้รถหยุดที”

“ครับ!! คนจากด้านหลังที่อยู่นอกรัศมีก็เข้ามาเหยียบเบรคให้เพื่อหยุดรถลง”

“เวรเอ้ย!! เกิดอะไรขึ้นกัน”คนที่ได้ชื่อว่าลูกพี่ตบไปที่พวงมาลัยอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด