ตอนที่ 22 แหวนเวทมนต์
16.30 น. วันจันทร์ Nebula Restaurant
“เฮ้ออออ…ฉันคิดจะไปสอบเทียบเอาวุฒิ ม.6 เลยดีไหมนะ”ดนัยเอ่ยขึ้นหลังจากวางกระเป๋านักเรียนลงในห้องของตัวเอง
“จบปีนี้ค่อยไปดีกว่า ยังไงเพื่อนที่สนิทด้วยจริงๆก็มีแค่ 3 คนเท่านั้นแหละนะ”ตั้งแต่ที่ดนัยเปลี่ยนไปเพื่อนคนอื่นๆก็เข้าหาเขาเยอะขึ้นโดยเฉพาะผู้หญิงด้วย แต่ยังไม่มีใครถูกใจเขาเลยสักคน
ก๊อก! ก๊อก ! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นมาหลังจากที่บ่นไปได้สักพัก
“เข้ามา”
“ขออนุญาตค่ะ”เป็นซินหรานที่เข้ามาพร้อมด้วยรอยยิ้ม
“มีอะไรงั้นเหรอ”
“สิ่งประดิษฐ์ที่ท่านสั่งให้ทีมของเราทดลองได้ตัวต้นแบบมาแล้วค่ะ”
“ชิ้นไหนล่ะ”
“M-01 ค่ะ”
“ทำไมเร็วจังล่ะ!”ดนัยเลิกคิ้วขึ้นพร้อมถามอย่างแปลกใจ
“เพราะทุกคนตื่นเต้นกับเรื่องนี้กันมากจึงสร้างมันขึ้นมาเป็นชิ้นแรก”
“งั้นจะรออะไรกันอยู่ล่ะเราไปกันเลย”
“ค่ะ”
ดนัยและซินหรานขึ้นไปบนรถก่อนจะขับออกไปยังคอนโดหรูที่ดนัยได้ซื้อเอาไว้ทั้งตัวตึก
ขับมาเพียง 10 นาทีก็มาถึงยังตึกสีฟ้าที่มีป้ายขนาดใหญ่หน้าตึกเขียนว่า Blue Bird ความสูงทั้งหมด 10 ชั้น
มีพื้นที่รวมจำนวน 1 ไร่กับอีก 2 งาน แต่ละชั้นได้ถูกทำเป็นห้องรวมกันไปแล้วทำให้ไม่มีห้องแยกย่อยเหลืออยู่อีก
มีหลายคนที่นอนพักอยู่ในชั้นเดียวกันด้วยจึงทำให้ชั้นที่ 9 และ 10 ได้ถูกเปลี่ยนการเป็นแล็บทั้งหมด ส่วนใหญ่ในนี้จะเป็นเครื่องจักรรุ่นแรกที่ดนัยสร้างขึ้นมาจากเศษเหล็ก
ดนัยเดินเข้าไปในตัวของคอนโดก็พบกับทุกคนที่มายืนรอเขาอยู่แล้ว โดยมีอังเดรหัวหน้าทีมวิจัยออกมารับหน้าเขา
“สวัสดีครับบอสดนัย”
“สวัสดีเช่นกัน”ดนัยพยักหน้ารับ
“จากความรู้ต่างๆที่บอสมอบให้ทำให้พวกเราประดิษฐ์ของเปลี่ยนโลกมาได้แล้วครับ”
“ขึ้นไปกันเถอะ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะเรื่องนี้เราจะเผยอีกเป็นสิบปีเลยล่ะ”
“เข้าใจครับ เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเกินไปก็คงจะไม่ดีสินะครับ”อังเดรพูดออกมา
ทั้งหมดเข้าไปในลิฟต์ขนาดใหญ่และแอนเดรย์ก็กดไปยังชั้นที่ 9 ซึ่งเป็นห้องวิจัยหลัก
ติ๊งง!!
เสียงลิฟดังขึ้นก่อนประตูจะเปิดออกเผยให้เห็นห้องกระจกที่แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ และทุกห้องก็จะมีเครื่องมือที่แปลกตาอยู่เต็มไปหมด
อังเดรเดินนำทุกคนไปยังห้องทึบแห่งหนึ่ง โดยก่อนจะเข้าต้องใส่รหัสผ่านและสแกนลายนิ้วมือด้วย
“โอ้! พวกนายทำเครื่องสแกนลายนิ้วมือได้แล้วเหรอ”
“ใช่ครับ เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้เดวิดเลย”อังเดรเอ่ยขึ้น
“ไม่ได้มากมายอะไรหรอกครับ”เดวิดลูบหัวตัวเองแล้วกล่าวออกมา
“มากมายสิ เพราะนายที่สามารถเขียนลำดับการทำงานโดยใช้ลายนิ้วมือที่แต่ละคนมีแตกต่างกันได้น่ะ”
“เป็นเพราะเกรซช่วยด้วยต่างหาก”
“เป็นเพราะพวกเราทุกคนช่วยกันต่างหากละคะ”เกรซเอ่ย
ภาพที่ทุกคนยกยอกันไปมาแบบนี้สร้างความรู้สึกมีความสุขในใจลึกๆของดนัยไม่น้อยที่มีลูกน้องที่สามัคคีกัน
แกร๊ก!
เสียงปลดล็อกดังขึ้นก่อนจะเปิดประตูออกมาและเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน
มันคือเครื่องจักรสูง 2 เมตร ที่แปลกประหลาดทรงหลายเหลี่ยม โดยมีพื้นที่ว่างอยู่ตรงกลางให้ใส่อะไรบางอย่างลงไป
ตามจริงแล้วมันควรจะเป็นเครื่องขนาดใหญ่เต็มห้องแต่เมื่อดนัยซื้อความรู้เสริมด้านนี้มาจึงมีแบบแปลนจำลองให้มาศึกษา
“M-01 เครื่องนี้พวกเราได้ทดลองโดยใช้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ของเราเองประมวลสสารต่างๆแล้วสามารถจุดไฟจากความว่างเปล่าได้ครับ”พุชกิ้นนักวิจัยลูกทีมอังเดรเอ่ยขึ้น
“ขนาดของไฟที่จุดได้ล่ะ”
“10.528 เซนติเมตรครับ”
“แม่นยำขนาดนี้เลย?”
“ใช่ครับ”
“ดี ในเมื่อพวกนายสามารถทำเครื่องขนาดเท่านี้ได้แล้ว เจ้านี่ก็คงไม่มีปัญหาหรอกมั้ง”ดนัยยื่นเอกสารแผ่นหนึ่งไปให้ โดยคนที่รับมันคือโยชิโกะเพราะเธอสนใจสิ่งประดิษฐ์ชิ้นต่อไปมาก
หลังจากอ่านไปได้สักพักหนึ่งเธอก็ทำตาโตออกมาจนคนอื่นๆสงสัยและแย่งเอกสารออกไปจากมือของเธอเพื่อที่จะเอาไปอ่านบ้าง
เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นเมื่อกระดาษเอกสารแผ่นถูกดึงไปมาจนทำให้ภาพที่ดูกลมเกลียวก่อนหน้าหายไปจากหัวของดนัยทันที
“อะ..แฮ่ม!”ซินหรานที่ทนไม่ได้จึงกระแอมออกมา
ทุกคนที่รู้สึกตัวว่าทำเรื่องน่าอับอายลงไปก็ก้มหน้าสำนักผิดในทันที
“ไม่ต้องห่วงผมปริ้นส์มาหลายแผ่น”ดนัยหันไปหาซินหรานก่อนที่เธอจะนำกระดาษจำนวน 9 แผ่นออกมาแจกจ่ายให้แก่คนทั้งหมด
“นี่มันเรื่องจริงงั้นหรอคะ”แคทเทอรีนหนึ่งในทีมวิจัยของอังเดรถามขึ้นมาหลังจากอ่านสิ่งที่อยู่ในเอกสารดีๆ
“มันคือเรื่องจริงแน่นอน แต่คนที่สามารถทำแบบนั้นได้ตอนนี้มีแค่ 3 คนบนโลกละมั้ง”
“ใครกันคะ?”
“ผมเป็นหนึ่งในนั้น”
“เข้าใจแล้วค่ะ แต่เมื่อกี้บอสพูดว่าในตอนนี้ใช่ไหมคะ”
“ใช่แล้ว ในตอนนี้เท่านั้น”เมื่อได้ยินคำตอบแบบนั้นคนอื่นๆก็ยกยิ้มขึ้นเหมือนจะบ้ารวมถึงซินหรานยังยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยด้วย
“เอาล่ะไปลองสร้างเจ้านี่มาให้ผมที คิดว่าจะใช้เวลาประมาณเท่าไหร่”
“เนื่องจากเอกสารที่บอสนำมาให้มันสมบูรณ์มาก คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 52 ชั่วโมงครับ”แอนเดรย์พูดขึ้น
“ดี แล้วฉันจะรอ”ดนัยกล่าวกับทุกคนก่อนจะเดินออกไปจากห้อง คนอื่นๆที่เหลือก็รีบไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมายด้วยความกระตือรือร้น
ส่วนดนัยก็กลับบ้านไปทานอาหารเย็นกับครอบครัว และเข้าไปคุยกับปัญญาประดิษฐ์ทั้งสองของตนว่าตอนนี้ก้าวหน้าไปถึงไหนแล้วบ้าง
…………….
20.10 น. วันพุธ คอนโด Blue Bird
ดนัยได้มาถึงยังคอนโด Blue Bird แล้วหลังจากที่หายหน้าไปสองวันเพื่อไปหาอะไรทำระหว่างรอครบ 52 ชั่วโมง
เมื่อเดินเข้ามาข้างในตัวของตึกแล้วก็กลับพบกับอังเดรเพียงคนเดียวที่ออกมายืนรอตน
“คนอื่นๆล่ะ?”
“พวกเขากำลังตื่นเต้นกับของใหม่อยู่ครับ”
“เข้าใจแล้วเราไปกันเถอะ”
“ครับบอส”
ติ๊ง!
ประตูลิฟต์เปิดออกก่อนที่ดนัยจะเดินออกมาพร้อมกับคนทั้งสอง
เดินทางผ่านห้องทดลองไปเรื่อยๆจนมาถึงที่เดิมอังเดรก็เปิดมันออกและพาทั้งสองเข้าไป
ข้างในห้องตอนนี้กำลังมีคนทั้ง 8 ล้อมรอบสิ่งหนึ่งอยู่โดยมีดาเนียลนักคณิตศาสตร์จากฝรั่งเศสสวมแหวนวงหนึ่งไว้ที่นิ้วและยื่นมือไปข้างหน้าก่อนจะเกร็งตัวสุดชีวิต
“แฮ่กก..แฮ่กกก….ไม่เห็นเกิดอะไรขึ้นเลย ทำไมกันล่ะเราก็ประกอบขึ้นมาตรงตามแปลนของมันทุกอย่างแล้วนะ”
“การทดลองจากซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ก็สามารถจุดไฟได้ปรกติ หรือที่บอสบอกว่ามีคนใช้ได้เพียง 3 คนในโลกจะเป็นความจริง”โซเฟียลูกทีมคนสุดท้ายของอังเดรเอ่ยขึ้นมา
“ถูกต้องแล้วล่ะ ตอนนี้พวกนายไม่มีทางใช้งานมันได้”ดนัยเดินออกมาจากประตูก่อนจะกล่าวขึ้นมา
“ทำไมหรอคะบอส”โยชิโกะถาม
“เพราะสมองของมนุษย์ปรกติยังไม่สามารถควบคุมอนุภาคมานาได้อย่างไงล่ะ”ดนัยหยิบแหวนขึ้นมาก่อนจะสวมใส่มันและยื่นมือไปข้างหน้า
พรึ่บบบ!
ลูกไฟปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของดนัย
“บอสทำได้ยังไงครับ!!”ดาเรียลเอ่ยขึ้น
“คิดสูตรกระบวนการเกิดไฟแล้วบังคับอนุภาคมานาให้เปลี่ยนเป็นธาตุประกอบของไฟโดยผ่านการทำงานของแหวนแค่นี้มันก็ออกมาแล้ว”
“บอสบอกว่าสมองมนุษย์ปรกติไม่สามารถใช้งานมันได้แล้วทำไมบอสทำได้ล่ะครับ”เองเจโล่ถาม
“เอาตรงๆก็ฉันคือมนุษย์ที่วิวัฒนาการแล้วน่ะ สมองจะเร็วขึ้นร่างกายก็แข็งแกร่งขึ้นด้วย”ดนัยหันไปหาซินหราน
“ถึงว่าทำไมท่านถึงสามารถแลกหมัดกับลูคัสได้”เธอพยักหน้าเบาๆ
“ผมขอเนื้อเยื่อเซลล์ของบอสได้ไหมครับ”เองเจโล่มองมาที่เขาด้วยสายตาอ้อนวอน
“ได้สิ การจะวิวัฒนาการได้จะต้องมีเซรุ่มซึ่งเรื่องนี้เอาไว้ก่อน”
“เช้าใจครับบอส”เองเจโล่พยักหน้า
“ดีมาก….แหวนนี้ก็ใช้งานได้เป็นอย่างดี ต่อไปช่วยทำเกราะพลังงานให้หน่อยนะ”
“ได้ครับบอสพวกเราจะทำอย่างเต็มที่”อังเดรกล่าวออกมาแทนทุกคน
ดนัยพยักหน้าให้แก่ทุกคนก่อนจะกล่าวลาแล้วเดินลงไปจากคอนโดโดยมีซินหรานตามมาติดๆแล้วมองมาที่ตนด้วยความอยากรู้
“ท่านจะเรียกมันว่าอะไรหรอคะ”
“แหวนเวทมนต์ก็แล้วกันนะ”
“เป็นชื่อที่ดีเลยค่ะ”
ติ๊ง!!
[ท่านสำเร็จภารกิจลับจากการสร้างแหวนเวทมนต์]
[ปลดล็อกระบบระดับ 2]
“……..”ดนัยตกตะลึงอย่างมากกับเสียงที่ดังขึ้นในหัว