ตอนที่ 21 เที่ยวเชียงใหม่
ดนัยใช้เวลาอยู่ในกรุงเทพทั้งหมด 1 สัปดาห์ ในแต่ละวันสิ่งที่เขาทำคือไปดูงานก่อสร้าง เคลียร์ปัญหาในบริษัท The Protector ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับความสามารถของบริษัท
และก็กลับไปดูการก่อสร้าง เป็นอย่างนี้ซ้ำๆทุกวันจนในที่สุดดนัยก็ตัดสินใจจะกลับไปยังชลบุรีและจะพาน้องสาวกับแม่ของตนไปเที่ยว
10.00 น. วันจันทร์ Nebula Restaurant
ดนัยกลับมายังภัตตาคารของจนโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่งและเข้าไปคุยกับแม่ของตนเองถึงเรื่องนี้ ส่วนซินหรานเขาก็จะให้เธอไปพักผ่อนตามที่ใจต้องการ
“แม่ครับช่วงปิดเทอมนี้เราไปเที่ยวกันดีไหมครับ”
“ได้สิลูก พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวกันมานานแล้วนะ”แก้วตาตอบหลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก
สองเด็กสาวที่ได้ยินคุณแม่อนุญาตก็ดีใจจนเผลอส่งเสียงออกมา ทำให้ทั้งสองต้องเดินเข้าไปในห้องด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา
น้ำฝนนั้นถูกแก้วตารับเป็นบุตรบุญธรรมโดยชอบธรรมทำให้เธอถือเป็นน้องสาวตามกฎหมายของดนัย นั่นทำให้เขาดูแลเธอเป็นพิเศษ
“งั้นวันนี้เราจะเก็บของกันก่อนนะ ค่อยออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า”
“ครับแม่”
“แล้วแม่หนูซินหรานล่ะ”
“ผมให้เธอพักผ่อนตามใจเธอแล้วครับ”
“ดีแล้วล่ะ”
ทั้งครอบครัวพูดคุยและรับประทานอาหารเที่ยงด้วยกันอย่างอบอุ่นก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนเพื่อรอออกเดินทางในวันพรุ่งนี้
ดนัยเดินกลับไปยังห้องของตนเองก่อนจะพบกับ AI ทั้งสองของตนที่กำลังทำงานอย่างขะมักเขม้น
“มีเรื่องอะไรในเกมบ้างไหมธอธ”
“มีผู้เล่นเข้าใช้งานถึง 800,000 คนแล้วครับ ส่วนเรื่องปัญหาก็คงจะเป็นกิจกรรมที่น้อยเกินไป”
“ทำไมนายไม่จัดการเองเลยล่ะ”
“เพราะผมยังไม่ได้รับคำอนุญาตจากนายท่านครับ”
“งั้นฉันอนุญาต”
“ขอบคุณมากครับนายท่าน”
ดนัยรู้สึกแปลกๆกับธอธเล็กน้อย เพราะน้ำเสียงของมันดูคล้ายมนุษย์มากขึ้นและยังมีน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจตอนได้รับอนุญาตนั่นอีก
“อลิเซียช่วยจองโรงแรมที่เชียงใหม่ให้ทีสิ”
“ได้ค่ะ”
“มีอะไรบ้างไหมในช่วงที่ฉันไม่อยู่”
“มีการเรียกประชุมบอร์ดผู้บริหารจากบริษัท CPN ค่ะ”
“ตอบปฏิเสธไป”
“ดิฉันทำเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ดี ตอนนี้ฉันยังไปไม่ได้เพราะชื่อผู้ถือหุ้นยังเป็นชื่อของแม่อยู่ รออายุ 18 เมื่อไหร่ฉันจะให้แม่รับรองให้จากนั้นก็จะได้บรรลุนิติภาวะอย่างแท้จริงเสียที”
ตอนนี้ยังมีอะไรอีกหลายๆอย่างที่ดนัยไม่สามารถทำได้เพราะอายุไม่ถึง หรือ ชื่อผู้ครอบครองยังไม่ใช่ของเขาอย่างเต็มตัวทำให้เกิดความลำบากในการทำธุรกิจนิดหน่อย
…………..
07.00 น. วันอังคาร
ดนัย แก้วตา ฟ้า และ น้ำฝนได้มายืนอยู่พร้อมกันหน้ารถคันเดียวในบ้าน
“หนูว่าพี่ควรซื้อรถคันใหม่ได้แล้วนะ”ฟ้าเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นเหตุการณ์อย่างนี้
“พี่จะลองเก็บไปคิดดูนะ”
“แต่แม่ว่ามีแค่คันเดียวก้พอแล้ว”
“ในอนาคตรถคันเดียวคงไม่พอแน่นอนครับแม่”ดนัยกล่างอย่างมั่นใจ
“ถ้าลูกว่างั้นแม่ก็จะไม่ห้ามแล้วกัน”
ทั้งสี่คนขึ้นไปบนรถโดยสีแก้วตาเป็นคนขับ ดนัยนั่งเบาะข้าง และเด็กสาวทั้งสองนั่งอยู่ข้างหลังโดยมีเครื่องเล่นเกมคอนโซลที่ดนัยเพิ่งซื้อให้ในมือของทั้งสอง
ใช้เวลากว่า 11 ชั่วโมงแก้วตาก็ขับมาถึงยังโรงแรมที่ดนัยจองเอาไว้ให้และเก็บของขึ้นเข้าพักผ่อนก่อน 1 วันเพื่อจะได้มีแรงเที่ยวให้เต็มที่ในวันพรุ่งนี้
……………
08.00 น. วันพุธ
ดนัยลงมากินข้าวช้าเป็คนสุดท้ายเพราะนอนคนเดียว ส่วนแม่และน้องสาวทั้งสองของเขานั้นนอนด้วยกัน
“พี่คะ มากินข้าวเร็วๆสิหนูอยากไปสวนสัตว์”
“หนูด้วย”
เด็กสาวทั้งสองเริ่มพูดเจื้อยแจ้วออกมาอย่างต่อเนื่องกับสิ่งที่ต้องการจะไปในวันนี้
ดนัยก็ทำได้เพียงแต่นั่งรับฟังและกินข้าวให้เสร็จไวๆตามคำของของน้องสาวตนและเริ่มออกเดินทางด้วยรถคันเดิม
ไม่นานก็มาถึงสวนสัตว์เป็นที่แรก เด็กสาวทั้งสองวิ่งลงจากรถไปที่หน้าทางเข้าสวนสัตว์และส่งกล้องมาให้แก่เขาทำให้ต้องถ่ายรูปกันนานนับชั่วโมงและจึงจ่ายเงินเข้าไปในสวนสัตว์
“นั่นม้าลายล่ะ”
“ดูนั่นๆ สิงโตกำลังหาวด้วย”
“มีแพนด้าอยู่ในนั้นด้วยนะ”
“ตรงนั้นก็มีลิงด้วย พี่ซื้อกล้วยให้หน่อยสิ”
เด็กสาวทั้งสองเอ่ยขึ้นมาเรื่อยๆเมื่อมองเห็นสัตว์ชนิดต่างๆและยังขอให้อาหารโดยใช้เงินของดนัยอีกด้วย แต่ไม่ต้องห่วงทริปนี้มีงบหลักแสน
เที่ยวสวนสัตว์จนตกเย็นในที่สุดเด็กสาวทั้งสองก็หมดแรงและนั่งพักกันก่อนที่จะกลับโรงแรมและเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำเพื่อเตรียมพร้อมไปที่ต่อไปในวันพรุ่งนี้
การเที่ยวเชียงใหม่ครั้งนี้ ดนัยได้ไปทั้งสวนน้ำ สวนสนุก งานกิจกรรมต่างๆที่จัดขึ้น สถานที่สำหรับถ่ายรูปสวยๆ และ ที่ถ่ายภาพสามมิติอีกด้วย
และสิ่งที่ไม่น้อยไปกว่าการเที่ยวก็คือการกิน เด็กๆกินของหวานและอาหารเข้าไปเยอะมากแต่น้ำหนักกลับเพิ่มมาเล็กน้อยเท่านั้น คงเพราะเป็นเด็กระบบเผาผลาญจึงทำงานได้ดี
“ถือว่าสนุกใช้ได้ แต่รู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่างไปแห๊ะ”ดนัยพึมพำออกมา
ตอนนี้ทุกคนได้มาเดินอยู่ที่ถนนคนเดินช่วงกลางคืนของเชียงใหม่หลังกลับไปพักผ่อนในตอนเที่ยงมาแล้ว ทุกๆคนรวมถึงแม่แก้วกำลังเดินถือของกินเต็มไม้เต็มมือและเดินดูของรอบๆ
ชิ้นไหนถูกใจก็จะเข้าไปหยิบแล้วส่งต่อให้ตนจ่ายเงินและเดินถือไปต่อจากนั้นเหตุการณ์แบบเดิมก็ปรากฏขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดทั้งสี่คนก็ถือไม่ไหวและกลับมาที่รถหลังจากเดินไปได้ 3 ชั่วโมง
“พรุ่งนี้เราต้องกลับกันแล้วนะ ดังนั้นรีบกลับไปโรงแรมแล้วนอนกันเถอะ”
“อยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้หรอคะ”ฟ้าถามพลางส่งสายตาออดอ้อนมาให้ตน
“ไม่ได้หรอก มันใกล้จะเปิดเทอมแล้วนะ เอาเป็นว่าครั้งหน้าพี่จะพาไปเที่ยวต่างประเทศเป็นไง”
“จริงหรอคะ! พี่ต้องสัญญานะ”ฟ้าชูนิ้วก้อยขึ้นมา
“แน่นอน”ดนัยนำนิ้วก้อยของตัวเองไปเกี่ยวนิ้วของฟ้าเพื่อแสดงว่าสัญญาแล้ว
ดนัยลูบหัวเด็กสาวทั้งสองก่อนจะขึ้นรถเพื่อกลับไปยังโรมแรงและพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้จะต้องเดินทางกลับ
เนื่องจากซื้อของมาจำนวนมากทำให้ไม่สามารถขนบนรถได้ ดนัยจึงใช้อำนาจแห่งเงินตราส่งของทั้งหมดนี้ผ่านทางไปรษณีย์ช่องทางพิเศษ
วันต่อมาทั้งสี่คนออกจากโรงแรมตอน 11.00 น. เพราะเมื่อวานเหนื่อยกันมากและค่อยขับรถกลับทำให้กว่าจะถึงก็เป็นเวลา 3 ทุ่ม เกือบ 4 ทุ่ม
ดนัยสั่งให้คนของตนที่เป็นพนักงานและเด็กเสริฟมาขนของขึ้นไปบนชั้นสามโดยมีเด็กสาวทั้งสองที่ตอนนี้ตามกล้จะปิดเต็มทีตามไปก่อนจะอาบน้ำและนอน
“ช่วงที่ฉันไม่อยู่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษบ้างไหม?”ดนัยถามเด็กเสริฟคนหนึ่ง
ซึ่งพนักงานในร้านและเด็กเสริฟทุกคนไม่ธรรมดา เพราะเป็นคนที่ผ่านการฝึกมาจากโรงยิมนรกที่คนส่วนใหญ่ผ่านมาได้จะเรียกชื่อนี้กัน
“ไม่มีอะไรครับ ทุกอย่างปรกติดี”
“ดีมาก รีบเก็บของแล้วไปนอนเถอะ”
“ของคุณครับบอส”
หลังจากกล่าวลากันดนัยก็ข่มตาหลับลง เหลือวันหยุดปิดเทอมอีกแค่ 2 วันเท่านั้นก็จะกลับมาเปิดเทอมอีกแล้วทำให้ดนัยรู้สึกลำคานใจเล็กน้อย