ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 210 ปรับแต่งฐานการบำเพ็ญเพียรแสนปี
ระบบปรับแต่งกาลเวลาสะท้านภพ ตอนที่ 210 ปรับแต่งฐานการบำเพ็ญเพียรแสนปี
เย่ชิงเฉิงตกใจเป็นอย่างมาก
แม้ว่าในดวงตาจะเต็มไปด้วยความยินดี แต่ก็ยังส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว "ไม่ได้ ไม่ได้ นั่นเป็นมรดกของเจ้า ข้าจะรับไปได้อย่างไร..."
"ตัวเจ้าก็เป็นของข้าแล้ว มอบมรดกให้เจ้ามีปัญหาอะไรเล่า?"
"อีกอย่าง มรดกนี้ไม่เหมาะกับข้าจริง ๆ เป็นธาตุน้ำแข็ง ซึ่งเข้ากับเจ้าพอดี หากเจ้าไม่รับ... ข้าก็คงต้องโยนทิ้งเสียแล้ว"
พูดพลางกู่หยางก็ทำท่าจะโยนยันต์หยกทิ้ง
เห็นดังนี้เย่ชิงเฉิงก็ร้อนใจ
รีบยื่นมือไปรับยันต์หยกอย่างรวดเร็ว
"ข้าระบ ข้ารับแล้ว!"
"เอาล่ะ"
เย่ชิงเฉิงอดไม่ได้ที่จะแก้มแดง
นางเองก็เข้าใจดีว่าการกระทำของกู่หยางครั้งนี้ก็เพื่อให้นางอุ่นใจในการรับยันต์หยกมรดกนี้
สำหรับการกระทำของกู่หยาง
ในใจของนางแน่นอนว่าหวานชื่นเป็นที่สุดแล้ว
"ขอบคุณกู่หยาง"
"ต้องเรียกว่าสามีไม่ใช่รึ"
"นี่...ขอบคุณสามี"
เย่ชิงเฉิงผงกศีรษะเล็กน้อย แม้ว่าใบหน้าเล็ก ๆ จะแดงไปถึงท้ายทอยแล้ว แต่ก็ยังคงเชิดหน้าเล็กน้อย ท่าทางไม่ยอมแพ้
ช่างน่ารักยิ่งนัก
"น่ารักเสียจริง"
แต่ทันใดนั้น เย่ชิงเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นอีก
"สามีให้ของขวัญล้ำค่าแก่ข้าขนาดนี้ ข้าไม่รู้จะตอบแทนสามีอย่างไรแล้ว"
"ไม่ต้องตอบแทนหรอก พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว"
"ไม่ได้ ต้องตอบแทน!"
เย่ชิงเฉิงพูดเสียงเด็ดขาด
"หากเจ้าอยากตอบแทนจริง ๆ ข้ามีกระบี่ล้ำค่าเล่มหนึ่ง อยากขอให้ชิงเฉิงช่วยลองชิมให้สักครา"
กู่หยางหัวเราะเบา ๆ พลางหยอกล้อ
"กระบี่ล้ำค่า? อืม!"
เย่ชิงเฉิงชะงัก ไม่เข้าใจความหมายของกู่หยางเลย นางก็แค่พยักหน้าด้วยใบหน้าจริงจัง ทำให้กู่หยางอดหัวเราะไม่ได้
หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกจากโถงใหญ่มรดกไปโดยตรง
พวกเขาได้รับมรดกแล้ว
เขตแดนลับนี้ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่ออีกแล้ว
ฉู่เสินเซียวและเจี้ยนเฉินพวกนั้นได้ออกไปก่อนแล้ว
"ได้เวลาออกไปได้แล้ว"
กู่หยางหยุดเล็กน้อย
"สามี ข้าคิดว่ามรดกจากผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตผันแปรต้องดึงดูดยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันมาไม่น้อยแน่ พวกเราต้องระวังตัวเวลาออกไป"
เย่ชิงเฉิงเผยความกังวล เตือนอย่างจริงจัง
กู่หยางยิ้มเบา ๆ กับคำพูดนี้
"ไม่ต้องห่วงหรอก สามีของเจ้าเตรียมการไว้แล้ว"
ได้ยินดังนั้น เย่ชิงเฉิงก็เผยความสงสัย
เตรียมการ?
เตรียมการอะไร?
แต่กู่หยางไม่ได้พูดออกมา
เขามองไปที่ท้องฟ้า
ไม่นานนัก ร่างกายอันยิ่งใหญ่ล่ำสันของอินทรีวิญญาณเพลิงก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
เวียนวนลงมา
กู่หยางให้อินทรีวิญญาณเพลิงบินวนไปมาไม่ใช่ไม่มีเป้าหมายแน่นอน
ผ่านทางอินทรีวิญญาณเพลิง กู่หยางก็พอจะรู้ถึงตำแหน่งคร่าว ๆ ของยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันเหล่านี้
"พื้นที่โดยรอบแทบทุกแห่งมียอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันเฝ้าอยู่หรือ?"
แววตากู่หยางกระพริบวาบ
"ชิงเฉิง เจ้าขึ้นไปก่อน ข้ายังต้องอยู่ที่นี่อีกสักพัก"
กู่หยางบอกเย่ชิงเฉิง
"แต่...สามี ที่นี่อันตรายมาก"
เย่ชิงเฉิงเผยความกังวลขึ้นมาทันที
"ไม่ต้องห่วง สามีเจ้าไม่เคยทำอะไรโดยไม่มีการเตรียมตัวมาก่อน!"
กู่หยางแสดงรอยยิ้มมั่นใจ
ให้เย่ชิงเฉินนั่งอยู่บนหลังอินทรีวิญญาณเพลิง
"มันจะพาเจ้ากลับราชวงศ์เซวียนเหนี่ยว ยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันไม่สามารถไล่ตามทันได้ ไม่ต้องกังวล"
อินทรีวิญญาณเพลิงเองก็นับได้ว่าเป็นราชันแห่งท้องฟ้าอยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าพูดถึงพลังแล้วก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของขอบเขตมรณะชีวันแน่นอน
แม้แต่ผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตแก่นสุญตามันก็ไม่สามารถเอาชนะได้
แต่พูดถึงความเร็วแล้ว เมื่ออยู่บนฟ้า...
แม้แต่ขอบเขตมรณะชีวัน ก็ยากที่จะตามทันมันได้!
"สามีเจ้าระวังตัวให้มาก เข้าใจหรือไม่?!"
เย่ชิงเฉิงก็รู้นิสัยของกู่หยาง จึงไม่ได้ค้านอะไรอีก
ดวงตางามจ้องมองกู่หยางอย่างเข้มข้น เต็มไปด้วยความห่วงใย
"ข้าจะรอให้เจ้ากลับมา ถึงเวลานั้น...ข้าจะทำให้เจ้าตะลึง!"
เมื่ออินทรีวิญญาณเพลิงกระพือปีกช้า ๆ บินวนขึ้นไป
เสียงของเย่ชิงเฉิงก็ดังขึ้นเล็กน้อย
กู่หยางยังคงยิ้มอยู่เสมอ
มองอินทรีวิญญาณเพลิงพาเย่ชิงเฉิงจากไปอย่างห่วงใน
เมื่อทั้งสองพุ่งทะยานขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว
กู่หยางก็เห็นพลังที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งปะทุออกมา
ชัดเจนว่าเป็นยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันลงมือ
เพียงแต่...
ความเร็วของอินทรีวิญญาณเพลิงเร็วเกินไป!
การสกัดกั้นของยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันก็พลาดไป
"บัดซบเอ๊ย!"
ไม่ไกลออกไปในอากาศก็มีเสียงสบถดังขึ้น
เห็นอย่างนี้ กู่หยางก็หันกลับมา
แล้วก็พุ่งตัวไปยังใจกลางของหุบเขาอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ได้รีบร้อนที่จะออกไป
เขาจะได้ฉวยโอกาสนี้ปรับแต่งฐานการบำเพ็ญเพียรของตัวเองโดยตรง
ด้วยเช่นนี้ พอได้รับมรดกแล้ว และบรรลุขอบเขตห้วงสมุทรแก่นแท้ระดับ 13 ขั้นสูงสุดทันที ก็น่าจะสมเหตุสมผลกะรมัง?
นี่คือมรดกจากผู้บำเพ็ญเพียรขอบเขตผันแปร!
กู่หยางอดยิ้มออกมาไม่ได้
แน่นอนว่า เขาก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะปรับแต่งทันที
เขาอยู่ในหุบเขาต่ออีกห้าวัน
ในช่วงเวลานี้เอง ที่ทำให้ดินแดนรกร้างทั้งหมดสั่นสะเทือนขึ้นมา
ข่าวที่กู่หยางได้รับมรดกขอบเขตผันแปรแพร่สะพัดออกไป
ชัดเจนว่าข่าวถึงหูของสามราชวงศ์ใหญ่แล้ว
มรดกเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องดึงดูดความสนใจของสามราชวงศ์ใหญ่อย่างมาก!
ราชวงศ์เทียนเจี้ยนและราชวงศ์ชิงเฟิงก็ส่งยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันมุ่งหน้าสู่ดินแดนรกร้างอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้จะไม่ได้ส่วนแบ่งก็ยังอยากมาดูเรื่องสนุก ๆ อยู่ดี
ส่วนราชวงศ์เซวียนเหนี่ยวก็ส่งยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันออกมาแต่เนิ่น ๆ
กู่หยางถือเป็นอัจฉริยะฟ้าประทานระดับสูงสุดของพวกเขา!
แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถปล่อยให้กู่หยางตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายได้!
ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร
ก็ต้องช่วยกู่หยาง!
ส่วนตอนนี้ รอบ ๆ เทือกเขา มียอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันผู้บำเพ็ญเพียรพเนจรสิบกว่าคนปิดล้อมอยู่แล้ว
พูดได้ว่าแม้แต่ยุงตัวหนึ่งก็บินหนีไม่รอด!
พวกเขาก็รู้ว่ากู่หยางที่ได้รับมรดกยังอยู่ข้างใน
ดังนั้น...แค่คอยกู่หยางออกมาก็พอ!
พวกเขาไม่เชื่อว่ากู่หยางจะสามารถอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ได้ตลอดไปโดยไม่ออกมา!
ดินแดนรกร้างบริเวณนี้ถูกปิดล้อมอย่างสมบูรณ์แล้ว!
หากกู่หยางต้องการจะออกไป ก็ต้องถูกยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันขวางทางแน่นอน!
สำหรับพวกเขาแล้ว มรดกขอบเขตผันแปรในมือกู่หยาง เป็นสิ่งที่จะต้องได้มาให้ได้เด็ดขาด ไม่มีทางยอมปล่อยไปแน่!
ก็เพราะสิ่งนี้อาจจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้พวกเขาสามารถทะลวงสู่ขอบเขตผันแปรได้!
แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง!
แต่ในเวลานี้เอง
กู่หยางกำลังนั่งสมาธิอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ แห่งหนึ่งกลางเทือกเขา
"ดูท่าพวกยอดฝีมือขอบเขตมรณะชีวันเหล่านี้จะเข้ามาไม่ได้จริง ๆ"
"ห้าวัน...คงพอแล้วกระมัง?"
"ห้าวันทะลวงจากขอบเขตห้วงสมุทรแก่นแท้ระดับ 1 ไประดับ 13 ก็คงไม่เกินไปกระมัง?"
กู่หยางอดยิ้มไม่ได้
ที่รอนานขนาดนี้ ก็เพื่อทำให้การเพิ่มขอบเขตสมเหตุสมผลยิ่งขึ้น
ด้วยเช่นนี้ อย่างน้อยจะได้ไม่เป็นที่สงสัยของใคร
คิดได้ดังนี้
กู่หยางก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ
ได้เวลาแล้ว...
ที่จะเริ่มปรับแต่งฐานการบำเพ็ญเพียร!
กู่หยางหลับตาแน่น
ความคิดหนึ่งเกิดขึ้น
"ปรับแต่งฐานการบำเพ็ญเพียร เวลา...หนึ่งแสนปีหน้า!"
พร้อมกับการปรับแต่งของกู่หยาง
พลังภายในร่างของกู่หยางก็พุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง
หากมีคนอื่นอยู่ที่นี่ได้เห็นความเร็วของการทะลวงขอบเขตนั้น
ต้องตาค้างเผยความตกตะลึงเป็นแน่
เป็นการทะลวงขอบเขตง่ายเหมือนกินน้ำ นี่มันเรื่องที่คนทำได้ด้วยหรือ?
ขอบเขตของกู่หยางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในเวลาสั้น ๆ แค่หนึ่งนาที
ก็ทะลวงจากขอบเขตห้วงสมุทรแก่นแท้ระดับ 1 ขึ้นไปถึงระดับ 6 โดยตรง!
และความเร็วที่เพิ่มขึ้นนี้ยังคงทวีคูณอย่างบ้าคลั่ง!
สามนาทีผ่านไป
พลังของกู่หยางก็มาถึงขอบเขตห้วงสมุทรแก่นแท้ระดับ 10 ขั้นสูงสุดแล้ว!
แต่นี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด!
เสียงดังตูมหนึ่งทีดังขึ้น!
ขอบเขตของกู่หยางทะลวงผ่านขึ้นไปขอบเขตห้วงสมุทรแก่นแท้ระดับ 11 อย่างง่ายดาย!
ตามมาด้วย ระดับ 12...ระดับ 13...ระดับ 13 ขั้นสูงสุด!
ทะลวงขึ้นไประดับ 13 ขั้นสูงสุดในชั่วพริบตา
กู่หยางก็ลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน
เพราะในขณะนี้เอง พลังที่คุ้นเคยก็ส่งมาจากท้องฟ้า
เมฆมืดครึ้มก้อนหนึ่งพัดโถมมาจากทุกสารทิศ และรวมตัวกัน!