ตอนที่แล้วบทที่ 59 (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 61 (ฟรี)

บทที่ 60 (ฟรี)


บทที่ 60

หลายคนเริ่มตัวสั่น กลุ่มที่ไม่มีออร่าแรงกล้าเริ่มกระซิบกระซาบกัน

“คนพวกนี้ .... ดูจริงจังกันมาก!”

“ฉันได้ยินมาว่ามีคนเก่งๆมาสมัครเยอะมาก ทั้งปริญญาเอกและปริญญาโท!”

“กระทั่งตำแหน่งพนักงานทำความสะอาดก็ยังมีคนจบปริญญาเอกมาสมัครแย่งตำแหน่งนี้กัน!”

“แค่ยืนข้างพวกเขาฉันก็รู้สึกด้อยค่า ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว!”

“นี่พวกเรายังมีโอกาสอยู่ไหมเนี่ย?”

“หรือพวกเรา ... ควรถอนตัวดี?”

....

ณ ขณะนี้ ประตูถูกผลักเปิดออก มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา

และผู้นำของคนกลุ่มนี้คือหลินเป่ยฝานซึ่งเผยรอยยิ้มแย้ม  “ยินดีต้อนรับผู้มีความสามารถทุกคนที่จะสมัครตำแหน่งในบริษัทของเรา! ผมหลินเป่ยฝาน รองประธานบริษัทหลินอินเวสเมนท์จะรับผิดชอบในการสัมภาษณ์งานครั้งนี้ ถ้าคุณได้รับเลือกเข้าบริษัทเรา ขอบอกได้เลยว่ายังไงก็มีอนาคตสดใสเอาล่ะ เพื่อเป็นการไม่ให้เสียเวลา การสัมภาษณ์จะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้!”

หลินเป่ยฝานนั่งลงบนเบาะตำแหน่งประธาน เริ่มเปิดเรซูเม่ดู

“คนแรกซูลี่!”

“ฉันเองค่ะ!”

ผู้หญิงที่ดูธรรมดาคนหนึ่งยกมือขึ้น

“กรุณาออกมาข้างหน้าและเริ่มแนะนำตัวเองสักสองนาที!”

“ค่ะรองประธานหลิน!”

ซูลี่เริ่มพูดว่า “ฉันชื่อซูลี่ อายุ 33 ปี จบเอกบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยเจี้นเฉียวหลังจากสำเร็จการศึกษา ฉันทำงานที่หนานซานอินเวสเมนท์แบ็งค์เป็นเวลาสามปี ผลงานของฉันมีคร่าวๆดังนี้ ...”

บลา บลา บลา อีกฝ่ายพูดยาวเป็นหางว่าว

มีคำศัพท์ทางวิชาการมากมายจนหลายคนไม่สามารถตีความให้เข้าใจได้ชัดเจน

ในที่สุดอีกฝ่ายก็สรุป

“ฉันเลือกบริษัทนี้เพราะเชื่อว่าตำแหน่งที่สมัครสามารถช่วยให้ฉันตระหนักถึงคุณค่าของชีวิต! และฉันหวังว่ารองประธานหลินกับทุกคนที่นี่จะให้โอกาสฉันได้พิสูจน์ตัวเอง!”

หลินเป่ยฝานปรบมือและกล่าวว่า “ยอดเยี่ยม! พูดได้ดีมาก ผมซาบซึ้งในความมั่นใจและทัศนคติที่ดีของคุณ และขอชื่นชมความสามารถกับประวัติการทำงานของคุณ บริษัทของเราต้องการคนที่มีความสามารถเช่นคุณ!”

ซูลี่เชิดหน้ายืดอกขึ้น ก่อนหันไปมองผู้สมัครคนอื่นๆเป็นเชิงคำถาม : เป็นยังไงเล่า ฉันเจ๋งใช่ไหม? พวกนายทำได้เหมือนกันรึเปล่า??

“แต่คุณเลือกสมัครงานในตำแหน่งแผนกต้อนรับของบริษัทเรา ผมไม่เข้าใจว่างานนี้ช่วยให้คุณตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตได้ยังไง? ไหนลองอธิบายให้ผมฟังที” หลินเป่ยฝานถามอย่างไม่เชื่อหู

หลิวรู่เหมยที่นั่งอยู่ข้างๆ ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

ซูลี่ “...”

ทุกคนมองหลิวรู่เหมยพร้อมกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งซูลี่ที่แสดงออกชัดถึงความไม่พอใจ

หลิวรู่เหมยกลั้นยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษ! ฉันเพิ่งคิดเรื่องตลกในหัวมันเลยกลั้นหัวเราะไม่ไหว พวกคุณไม่ต้องสนใจฉัน สัมภาษณ์ต่อเลย!”

หลินเป่ยฝานกระซิบเตือนว่า “อย่าหัวเราะ ฉันกำลังสัมภาษณ์อยู่ จริงจังนะ!”

หลิวรู่เหมยพอได้ยินก็กลั้นไม่ไหวอีกต่อไป  “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ...”

ซูลี่ “....”

ทุกคน “...”

หลินเป่ยฝานหันมาสัมภาษณ์ต่อ กล่าวด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “คุณซูไม่ต้องสนใจเธอ ใส่ใจแค่ตอบคำถามผมก็พอ”

“เหตุผลที่ฉันเลือกมาเป็นแผนกต้อนรับก็เพราะฉันเหนื่อยกับงานเดิม เลยอยากเปลี่ยนวิธีการทำงานและพักผ่อนสักหน่อย  ได้ยินมาว่ารองประธานหลินเป็นคนมีคุณธรรม ตราบใดที่เป็นคนมีพรสวรรค์ คุณก็ยินดีให้ความสำคัญ ฉันจึงมาอยู่ที่นี่”

คู่ควรแล้วที่ซูลี่จบจากมหาลัยอันทรงเกียรติ สมองของเธอแล่นปร๋อ สามารถพลิกแพลงและหาเหตุผลมายกอ้างได้แทบจะในทันที

หลังจากถามคำถามอีกสองข้อ หลินเป่ยฝานก็ก้มหัวแล้วพูดว่า “ผมขอโทษ คุณไม่ตรงตามมาตรฐานการจ้างงานของบริษัทของเรา!”

อีกฝ่ายปฏิเสธที่จะยอมรับ “ทำไมถึงไม่ตรง?”

“เพราะเรากำลังรับสมัครพนักงานต้อนรับ! แผนกต้อนรับคือตัวแทนของหน้าตาบริษัท และการศึกษาไม่ใช่สิ่งสำคัญ ภาพลักษณ์ต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด! คุณอายุเลยเลข 3 แล้ว ไม่เด็กพอที่จะเป็นไปตามมาตรฐานแผนกต้อนรับของเรา!”

ซูหลี่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วถ่ายรูปตัวเองด้วยท่าทีสับสน  “ดูนี่! ในรูปฉันยังเด็กและสวยมาก!”

หลินเป่ยฝานพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ช่วยปิดโหมดบิวตี้ (ความงาม) ก่อน!”

ซูลี่ “....”

ซูลี่วางโทรศัพท์ของเธอลงอย่างเงียบๆ

“เอาล่ะๆ ทางเราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกันกับคุณในอนาคต แต่ตอนนี้เชิญเก็บเรซูเม่ของคุณแล้วเปิดทางให้คนต่อไป หลินเป่ยฝานยื่นเรซูเม่ด้วยรอยยิ้ม

ซูลี่รับเรซูเม่ คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่งกลับมา

หลินเป่ยฝานงง “คุณทำแบบนี้หมายความว่ายังไง?”

ซูลี่พูดด้วยความขุ่นเคือง “คุณบอกว่าฉันไม่เด็กพอใช่ไหม? งั้นฉันขอเปลี่ยนตำแหน่งสมัครงาน! ฉันจะสมัครตำแหน่งพนักงานทำความสะอาด ดูสิว่าคุณจะยังไม่รับอีกไหม!”

หลินเป่ยฝาน “....”

จากนั้นหลินเป่ยฝานก็สัมภาษณ์ผู้สมัครคนต่อไป

“สวัสดีรองประธานหลิน ผมชื่อหวังหยิงเทียน อายุ 28 ปี จบเอกภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัยฟูตั๋น! จากนั้นไปเรียนต่อปริญญาโทที่ฮาร์วาร์ดสองปี พอเรียนจบผมก็ไปทำงานให้กับทางบริษัทเพนกวิ้นกรุ๊ปเป็นเวลาสองปี นอกจากนี้ยังมีงานแปลจากต่างประเทศ ฯลฯ ...”

บลา บลา บลา ประวัติการทำงานของคนๆนี้ก็ดีมากไม่แพ้คนแรกเลย

หลินเป่ยฝานพยักหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ “แต่เรากำลังรับสมัครแผนกต้อนรับ คุณเป็นผู้ชาย มันไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้ ส่งเรซูเม่ผิดรึเปล่า?”

“ผมไม่ได้ส่งเรซูเม่ผิด แต่ผมคิดว่าถ้าได้ทำงานตำแหน่งนี้ ผมจะได้เปรียบกว่าคนอื่นมาก”

“ช่วยเล่ารายระเอียดมากกว่านี้ที”

หวังหยิงเทียนเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ

“ประการแรก วิชาเอกของผมคือภาษาอังกฤษ จากนั้นผมก็ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ทักษะสองภาษาของผมสามารถใช้มันได้อย่างคล่องแคล่ว และการสื่อสารก็ราบรื่น! ซึ่งบริษัทหลินมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมสำหรับการพัฒนาตั้งแต่แรกเห็น ผมเชื่อว่าสุดท้ายบริษัทจะไปถึงระดับโลก ดังนั้นความสามารถของผมจึงเหมาะสมกับความต้องการของบริษัทมาก!”

“ประการที่สอง ผมเป็นผู้ชาย ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบทางเพศที่ยอดเยี่ยม! เพราะผมไม่ท้องหรือต้องแบ่งเวลาไปเลี้ยงลูก ผมสามารถทุ่มเทพลังทั้งหมดให้กับงานได้! อีกอย่างงานอะไรที่ผู้หญิงทำ ผมก็ทำได้ และไม่มีบ่นว่าเหนื่อย!”

“ประการที่สาม ตอนนี้หลายคนเบื่อหน่ายแผนกต้อนรับที่มีแต่สาวๆแล้ว! ถ้าคุณจ้างผม ผมยินดีมอบความสดใหม่ให้แก่ทุกคนเวลาพบหน้า และทำให้พวกเขาเห็นถึงความเป็นมืออาชีพของบริษัทเรา!”

“ประการที่สี่ ภาพลักษณ์และนิสัยที่ดี! ผมสูง 1.78 เมตร แต่หนักไม่ถึง 140 ปอนด์! ใส่เสื้อผ้าแบบเปิดอกก็เท่ เวลาเดินตามถนนมีแต่คนทักสุดหล่อ~ จนผมเกือบกลายเป็นคนหลงตัวเองไปแล้ว”

หลินเป่ยฝาน “....”

“จากที่กล่าวมาข้างต้น ผมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตำแหน่งแผนกต้อนรับของบริษัทหลินอินเวสเมนท์!”

หวังหยิงเทียนกวาดมองไปทั่ว เหลือบมองทุกอย่างด้วยหางตาอย่างภาคภูมิใจ

คิดแย่งตำแหน่งพนักงานต้อนรับกับฉัน ไปตื่นจากฝันก่อนเถอะ!

หลินเป่ยฝานปรบมือและอุทานว่า “พูดได้ดี!”

หวังหยิงเทียนรู้สึกปิติยินดีอย่างยิ่ง

“แต่คุณตกรอบ!”

จิตใจของหวังหยิงเทียนทรุดลงทันที ถึงกับต้องเอ่ยถาม  “ได้ไงกัน?”

หลินเป่ยฝานชี้ไปที่ตัวเอง “ผมเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?”

“แน่นอนรองประธานหลินเป็นผู้ชาย!”

“แล้วผู้นำบริษัทส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”

“ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย!”

“ถูกตัอง!” หลินเป่ยฝานตบต้นขาตัวเองแล้วพูดว่า “ในเมื่อพวกเขาเป็นผู้ชาย คุณคิดว่าเราควรเลือกแผนกต้อนรับเป็นสาวสวยที่คุยสนุกเป็นกันเอง หรือเลือกผู้ชายที่มั่นหน้ามาต้อนรับคนอื่นๆดี?”

หวังหยิงเทียน “....”

“คุณยังไม่เข้าใจความคิดของระดับผู้นำด้วยซ้ำ ดังนั้นความฉลาดทางอารมณ์จึงไม่ผ่าน!”

หวังหยิงเทียน “....”

“แต่เรื่องนั้นไม่เท่าไหร่ ประเด็นคือทำไมคุณถึงคิดว่าตัวเองหล่อ! ไอ้พวกที่เรียกคุณสุดหล่อนี่ใช่แม่ค้าแผงลอยที่อยากให้คุณหันมาช่วยซื้อของรึเปล่า?”

หวังหยิงเทียน “....”

หลินเป่ยฝานส่ายหัวและถอนหายใจ “คุณเป็นคนไม่มีความฉลาดทางอารมณ์ และไม่สำเหนียกในตัวเอง!  นั่นเป็นเหตุผลที่เราจะไม่ให้งานสำคัญเช่นแผนกต้อนรับแก่คุณ ดังนั้นโปรดกลับไป!”

หวังหยิงเทียนยกมือขึ้นกุมหัวใจที่รวดร้าว รับเอาเรซูเม่ตัวเองกลับมาอย่างเงียบๆ แต่ซักพักก็ส่งคืนมา

หลินเป่ยฝานสับสนและพูดว่า “คุณทำแบบนี้หมายความว่ายังไง?”

“ในเมื่อผมสมัครตำแหน่งพนักงานต้อนรับไม่ได้ งั้นก็ขอสมัครตำแหน่งพนักงานทำความสะอาด! ตำแหน่งนี้ไม่น่าจะใส่ใจเรื่องความฉลาดทางอารมณ์กับความสำเหนียกตนเอง ถูกไหม?”

หลินเป่ยฝาน “....”

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง หวังหยิงเทียนก็เสริมว่า “แล้วในแง่เรื่องเพศ ตำแหน่งนี้ไม่น่ามีข้อกำหนด ถูกไหม?”

หลินเป่ยฝาน “....”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด