บทที่ 60 พบความลับเล็ก ๆ ของ เสวียนหาน!
เมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้องอันน่าสะพรึงกลัวข้างนอกเจ้าหลี่เหวินที่กำลังฝึกฝนอยู่ในห้องลับก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
เขารีบลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ทางเข้าถ้ำเงยหน้าขึ้นมอง
เมฆฝนฟ้าคะนองหลากสีขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครเทียบได้ปรากฏบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน
ภายในเมฆฟ้าคำราม มีสายฟ้าห้าสีเคลื่อนไปมาราวกับมังกรตัวใหญ่ยักษ์.
ภายใต้พายุสายฟ้านี้ ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนไม่ต่างจากมดปลวก
“ดูเหมือนว่า หยานจินจะถูกจับและถูกยอดฝีมือควบคุมนำมาที่นี่.”
“และยอดฝีมือผู้นั้นกำลังลงมือทำลายนิกายแห่งนี้!”
ภายใต้เสียงสายฟ้าคำราม ความกลัวอันลึกซึ้งปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจ้าหลี่เหวิน.
“จ้าวหงเหยา เจ้าโชคดีไปแล้ว!”
จากนั้น เจ้าหลี่เหวินที่โอดครวญร้องออกมาด้วยความไม่เต็มใจ.
เมื่อมองจากระยะไกล อาคารสิ่งก่อสร้างของนิกายยูกุย มากกว่าครึ่งระเบิดพังทลายไปหมดแล้ว
เกรงว่าไม่นาน ทั้งนิกายก็คงพังทลายราบเป็นหน้ากลอง
ส่วนผู้ฝึกตนภูตผี 100,000 คนที่อยู่ในนิกาย...
ต่อหน้าพลังที่น่าเกรงขามเช่นนี้ พวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่อีกรึ?
“เจ้าหงเหยา ถึงนิกายยูกุยจะพังทลายลง แต่หากข้ายังอยู่ สักวันหนึ่งข้าจะต้องสังหารเจ้าให้ตกตาย ไม่มีที่ฝัง!”
เจ้าหลี่เหวินที่กลายเป็นภูตผี เตรียมหลบหนีไปท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย.
ปัง
ทันใดนั้น แรงมหาศาลก็กระแทกเข้าที่หน้าอกของเขา เกือบทำลายให้ร่างทั้งหมดให้แตกสลายไป.
เวลาต่อมาเขาพบว่ามีบุรุษที่หล่อเหลาในชุดขาวปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเขา.
ที่ด้านข้างของชายชุดขาวมีหยานจินศิษย์รับใช้ของเขาอยู่.
“ผู้นำนิกาย คนที่เจ้าหงเหยาเชิญมาคือ ตี้ฟู่!”หยานจินที่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้.
“ตี้ฟู่?”เจ้าหลี่เหวินที่มองไปยังหลินซวนด้วยแววตาสั่นเทา คนผู้นี้คือบุรุษของจักรพรรดินิเสวียนปิงหรือไม่?
แทบจะในทันที สิ่งที่เขาคิดไว้ บุรุษของจักรพรรดินิเสวียนปิงย่อมเป็นคนที่แข็งแกร่งน่าหวาดกลัวโดยแท้จริง.
เพื่อให้สามารถสร้างเมฆสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้ ความสำเร็จเกี่ยวกับกฏสายฟ้าของเขาเพียงอย่างเดียวก็ก้าวไปถึงขอบเขตเทพแล้ว!
“เมื่อภารกิจของเจ้าจบลง เจ้าก็สามารถตายได้เช่นกัน”
พลังจิตวิญญาณยักษาของหลินซวนที่ปะทุขึ้น และบดร่างหยานจินให้แหลกเป็นชิ้น ๆ ทันที นี่คือความน่าพรั่นพรึงของจิตวิญญาณยักษา
พลังจิตวิญญาณสามารถทำลายร่างภูตได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพมาก.
ดังนั้น เมื่อหยานจินถูกพลังจิตบดขยี้ เขาจึงตายจริง ๆ.
ร่างวิญญาณภูตที่พลังกายภาพไม่อาจกล้ำกลาย แต่กลับพังทลายด้วยพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง.
"ฟ่อ!"
เมื่อเห็นหลินซวนสังหารหยานจิน เจ้าหลี่เหวินก็สูดหายใจที่เย็นยะเยือบเข้ามา.
บุรุษผู้นี้ช่างโหดเหี้ยม ไร้ปราณีจริง ๆ
“ตี้ฟู่ โปรดอย่าเพิ่งโกรธเคือง!”
เจ้าหลี่เหวินที่เอ่ยกับหลินซวน ในขณะเดียวกันก็ฉวยโอกาสรวบรวมปราณภูตผีทั่วร่างสร้างกระบี่ผีขนาดใหญ่แทงไปที่หน้าผากของหลินซวนทันที.
“เจ้าคิดว่าตัวเองยังไม่ตายเร็วพอรึ?” หลินซวนเอ่ยอย่างดูแคลน
ทันใดนั้นสายฟ้าห้าองค์ประกอบที่รวมตัวกันในมือขวาของเขา แล้วถูกโยนออกไปยังร่างของเจ้าหลี่เหวิน.
เปรี้ยง
กลุ่มสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวได้กลืนกินร่างของเขา สายฟ้าแล่นพล่านไปทั่วร่างของเจ้าลี่เหวินทันที.
"ไม่……"
หลังจากการกรีดของของเจ้าหลี่เหวิน ร่างของเขาก็ระเบิดเป็นชิ้น ๆ ทันที.
หลินซวนที่หันหน้ากลับไปมอง พบว่านิกายยูกุยทั้งหมดถูกทำลายล้างจนสิ้นแล้วเช่นกัน.
เขาที่โบกมือออกไปเมฆสายฟ้าก็สลายหายไป จากนั้นก็กระตุ้นสร้อยข้อมูลนำเขาจากไปอย่างรวดเร็ว.
หลังจากนั้นหลินซวนก็กลับมายังห้องโถงใหญ่ของประเทศไจ่เยว่ ซึ่งเวลานี้ทุกคนล้วนแต่ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน.
“ว่ากันว่ามีผู้ฝึกตนผี 100,000 ในนิกายยูกุย ตี้ฟู่เดินทางไปไม่ถึงหนึ่งก้านธูปก็กลับมาแล้ว นี่....”
เฟิงหวู่, จางหยูเผิง, โหยวหยวนจุน และนักสู้คนอื่น ๆ
ต่างก็ตะลึงงัน
หลังจากคำนวณเวลาอย่างรอบคอบตั้งแต่หลินซวนจากไป จนทำลายทั้งนิกายยูกุยไป พวกเขายิ่งตกใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม.
“ตี้ฟู่ ช่างทรงพลังน่าเกรงขามจริง ๆ!”
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ทุกคนก็ทำได้เพียงถอนหายใจเท่านั้น
-
เข้าสู่ช่วงกลางคืน.
หลินซวนไม่รู้สึกง่วง เขาหยิบแหวนมิติของราชาวานรแขนเดียวออกมาตรวจสอบ
“อย่างที่คาดไว้สำหรับมหาอำนาจสัตว์อสูรผู้มากประสบการณ์ ได้สะสมสมบัติเอาไว้ค่อนข้างมาก”
จากการตรวจสอบ หลินซวนพบว่ามีหินวิญญาณระดับสูงอย่างน้อยหมื่นก้อน และยังมีเม็ดยาระดับสวรรค์สองร้อยเม็ด.
นอกจากนี้หลินซวนยังพบกับคู่มือกระบี่ที่เขียนด้วยลายมือด้วย.
หลังจากอ่านไปสองสามหน้า หลินซวนก็พบว่านี่คือสรุปความเข้าใจวิถีกระบี่ของราชาวานรแขนเดียว
ในบรรดาสิ่งเหล่านั้น สิ่งพิเศษคือการที่เขาใช้ร่างกายของสัตว์อสูรเพื่อดูดซับและรักษาสมดุลของวิชากระบี่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์
“คู่มือกระบี่เล่มนี้ ควรเป็นวิชาฝึกฝนระดับสวรรค์สูงสุด!”
“ถ้าข้าเป็นเพียงแค่ผู้ฝึกกระบี่ทั่วไป คู่มือกระบี่เล่มนี้นับว่าเป็นสมบัติหายาก แต่น่าเสียดายข้าไม่ใช่!”
หลินซวนส่ายหน้าเล็กน้อย
“ทักษะกระบี่อู๋จี้” ของเขานั้นคือขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ซึ่งเป็นขอบเขตที่สูงกว่านั้นมาก.
กล่าวได้ว่าทักษะกระบี่ของราชาวานรแขนเดียวไม่อาจนำมาเทียบได้แต่อย่างใด.
“หืม?”
ขณะที่หลินซวนกำลังจะเก็บคู่มือกระบี่ดังกล่าวไป ก็พบกับกระดาษสีน้ำตาลอ่อนหลุดออกมา.
หลินซวนคลี่กระดาษแผ่นดังกล่าวออกมาทันที ซึ่งพบว่าเป็นแผนที่ ที่วาดด้วยมือหลายแผ่นซ่อนอยู่บนนั้น
เป็นแผนที่ของดินแดนอมตะเก้าสวรรค์ถูกวาดลงบนแผนที่ และมีสถานที่บางแห่งมีการทำเครื่องหมายพิเศษเอาไว้.
หลินซวนพบว่าสัญลักษณ์ที่ทำเครื่องหมายเอาไว้ล้วนแต่มีรูปลักษณ์ของสัตว์อสูร.
“เป็นไปได้ไหมว่าแผนที่นี้จะบันทึกการอาศัยอยู่ของเหล่าสัตว์อสูรในดินแดนอมตะเก้าสวรรค์”
ดวงตาของ หลินซวน สว่างขึ้น
หลังจากการยืนยันอย่างรอบคอบ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
แผนที่นี้ทำให้เขารับรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับการกระจายตัวของสัตว์อสูรในดินแดนอมตะเก้าสวรรค์ได้
ดูเหมือนว่าสิ่งที่ได้รับจากการจัดการราชาวานรแขนเดียวจะมีประโยชน์อยู่ไม่น้อย.
แม้นว่ากระดาษแผ่นนี้จะดูเก่าแก่ มีแนวโน้มว่าข้อมูลอาจจะแตกต่างจากในปัจจุบัน.
แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย!
ด้วยเหตุนี้ หลินซวนจึงมีความเข้าใจเกี่ยวกับที่ซ่อนของเหล่าสัตว์อสูรในดินแดนอมตะเก้าสวรรค์มากขึ้น.
คิ คิ คิ คิกคัก~
ในขณะนั้นมีเสียงหัวเราะเล็กน้อยจากเตียง
หลินซวน หันกลับไปและเห็นว่า เสวียนจู่ กำลังจับเท้าเล็ก ๆ ของเสวียนหานเอาไว้ในมือของนาง
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ สองคนกำลังหลับอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเสวียนจู่ควรจะฝัน
งั้นรึ! เสวียนจู่ กำลังเกาเท้าของ เสวียนหาน ด้วยมือเล็ก ๆ ของนางขณะละเมอเอ่ยพึมพำทั้งที่ยังหลับ:
“หมีน้อย ทำไมมือของเจ้าถึงไม่มีขนล่ะ”
หลินซวนส่ายหน้าและยิ้ม ปรากฎว่าเสวียนจู่ คิดว่าเท้าของ เสวียนหาน เป็นอุ้งเท้าหมี
และชื่อหมีน้อยน่าจะมาจากเรื่อง "หลอกหมี" ที่หลินซวนเล่าให้ฟัง
ดูเหมือนว่าเสวียนจู่ จะประทับใจเรื่องนี้มาก
ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ฝันแม้แต่ละเมอเกี่ยวกับหมีน้อยเช่นนี้.
เมื่อรู้สึกว่าเสียงหัวเราะของเสวียนหานดังขึ้นเรื่อย ๆ หลินซวนจึงค่อย ๆ เข้าไปปขยับเท้าของนางออกไปอย่างรวดเร็วและอ่อนโยน
หากยอมให้เสวียนจู่เกาอีกต่อไป เกรงว่าสาวน้อยเสวียนหานคนนี้จะตื่นนอนก่อน
อย่างไรก็ตาม หลินซวน อดไม่ได้ ค่อย ๆ ใช้นิ้วเกาฝ่าเท้าเล็ก ๆ ของเสวียนหานสองครั้ง
เมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ขยับเท้าเล็ก ๆ ของนางและหัวเราะคิกคักหลินซวนก็รู้สึกภูมิใจ
“ไม่ได้คาดหวังเลยว่าเสวียนหานจะเป็นคนจั๊กจี้ขนาดนี้ ทั้งที่ปรกติแล้วจะเป็นคนที่เงียบสงบมาก”
การค้นพบความลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ของบุตรสาวของเขาก็ทำให้หลินซวนเต็มไปด้วยความรู้สึกถึงความสำเร็จ
ด้วยกลัวว่าเสวียนหานจะตื่น เขาจึงรีบอุ้มเด็กหญิงตัวเล็ก เอาไว้ในอ้อมแขนของเขา
ไม่นานเด็กสาวก็หลับไปอย่างสงบ
ค่ำคืนดังกล่าวผ่านไปเช่นนั้น
ในตอนเช้าอีกวัน หลินซวน และ มู่โหยวชิง ก็พาเด็ก ๆ ออกจากวังไจว่เยว่ และเดินทางไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการเริ่มต้นต่อไป.
-
ถ้ำหยวนเทียน
กงชิงชาง จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งตงหยวน ภายในพระราชวังเทียนหยวน มีผู้คนอาศัยอยู่ถึง 300,000 คน.
ในเวลานี้ ฮาเร็มพระราชวังเทียนหยวน
กงชิงชาง อุ้มหญิงสาวสวยในวัยยี่สิบเอาไว้ในอ้อมแขนขณะกำลังดื่มสุรา
หลังจากนั้นไม่นาน กงชิงหยู ก็เร่งรีบเข้ามา
เมื่อมองไปที่เสด็จพ่อของเขาและนางสนมตู้โหยวโหรว ที่เพิ่งแต่งงานใหม่ กงชิงหยูก็ขมวดคิ้วและเอ่ยออกมาว่า:
“เสด็จพ่อ ข้าเพิ่งได้ข่าวว่าโหรวหยิง ผู้บัญชาการผู้ยิ่งใหญ่ของเป่ยเสวียนเทียน ได้นำผู้คนไปยังอาณาจักรเทียนซิงเพื่อจับคน”
“กษัตริย์และไท่จื่อแห่งอาณาจักรเทียนซิง(ดาราสวรรค์)ถูกทุบตีอย่างหนักเพราะขัดขวางพวกนาง!”