ตอนที่แล้วตอนที่ 183 ความกลัวของ คุณชายโม่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 185 ทำชั่วได้ชั่ว

ตอนที่ 184 คิดบัญชีรายบุคคล


“กร๊อบ!”

“อ๊าากก~”

ทันทีที่ร่างกายของ ซูเหวิน หายไป

ไม่ถึงวินาทีก็ได้ยินเพียงเสียงกระดูกแตกหักออกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับเสียงกรีดร้องดังสนั่นไปทั่วห้องโถง

ทุกคนตอบสนอง และหันมองไปรอบๆ

นี่จึงพบว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ซูเหวิน ได้มาอยู่ข้างหลังของ คุณชายโม่ แล้วเข้าคว้าจับไหล่ของเขาไว้ พร้อมกับออกแรงบีบเบาๆ

ส่วนทาง คุณชายโม่ ก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูแทบจะยืนไม่มั่นคงอยู่แล้ว

“คุณ... คุณคิดจะทำอะไร?”

หม่า เผิงเฟย และเพื่อนๆ ของ คุณชายโม่ ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ตอบสนองในเวลานี้เช่นกัน

เมื่อพวกเขาเห็น ซูเหวิน อยู่ใกล้พวกเขามาก พวกเขาตกใจทันที และถอยหลังออกไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว

“ฉันไม่ได้คิดทำอะไรเลย ฉันเพียงแค่อยากต้อนรับขับสู้ ดูแล คุณชายโม่ ของพวกคุณอย่างดีก็เท่านั้น”

ซูเหวิน พูดด้วยรอยยิ้มออกมาเบาๆ

จากนั้นเขาก็หันไปมองคนข้างหน้า แล้วพูดว่า : “เป็นยังไงบ้าง คุณชายโม่ การต้อนรับของฉันพอได้ไหม?”

“ดูสิ เพียงไม่กี่วันหลังจากที่ฉัน ซูเหวิน และเพื่อนๆ มาถึงเมืองซูเป็นครั้งแรก คุณหาคนเกือบร้อยคนมาเพื่อต้อนรับเรา และฉันก็ไม่มีอะไรจะตอบแทนคุณเลย และฉันคงได้แต่ ‘นวด’ ให้คุณเพื่อแสดงความขอบคุณคุณเท่านั้น และคุณอย่าได้ปฏิเสธเลย..”

พูดจบ มือของ ซูเหวิน ก็ได้ออกแรงอีกครั้ง มีเสียงกระดูกแตก ‘แกร๊ก’ ดังอีกระลอก ผสมกับเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างมากจน คุณชายโม่ มีเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมาอาบท่วมใบหน้าที่บิดเบี้ยว

ดูเหมือนเขาจะไม่มีเวลาแม้แต่จะเอ่ยปากร้องขอความเมตตาด้วยซ้ำ

“คุณ…”

“คุณทำร้าย คุณชายโม่ ..จริงๆ และนี่คือคุณต้องการเป็นศัตรูกับ ตระกูลโม่?”

หม่า เผิงเฟย พูดขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ

เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าเขาที่ได้พูดออกไปอย่างชัดเจนถึงผลที่จะตามมา หากเขากล้าแตะต้อง คุณชายโม่ แต่อีกฝ่ายกลับยังมีความกล้าที่จะทําเช่นนี้..

ทำไมเขาถึง?

คนคนนี้ไม่กลัว ตระกูลโม่ และไม่กลัวที่เป็นศัตรูกับ หลินต้า กรุ๊ปหรือยังไง?

ซูเหวิน หันศีรษะไปมอง หม่า เผิงเฟย แวบหนึ่ง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูด มัน ..ดูตลกเล็กน้อย

“คุณควรจะคำนึกถึงผลที่ตามมานี้ตั้งแต่วินาทีแรกที่พวกคุณเชิญฉันมาที่ไนต์คลับแห่งนี้ โดยตระเตรียมคนไว้พร้อมที่จะจัดการกับ ..ฉัน”

“ทําไม อย่าบอกฉันนะว่าพวกคุณมีแต่ความกล้าหาญที่จะหาเรื่อง แต่ไม่มีความตระหนักที่จะรับมือกับผลที่จะตามมา”

น้ำเสียงของ ซูเหวิน เต็มไปด้วยการดูถูก

จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า : “อีกอย่าง พวกคุณคงไม่ใช่คิดว่าการมีอยู่ของ หลินต้า กรุ๊ป ทุกอย่างมันจะสามารถแก้ไขได้หรอกมั้ง?”

“ไม่ต้องพูดถึงว่า ตระกูลโม่ มี หลินต้า กรุ๊ป เพียงกลุ่มเดียว หรือต่อให้มี หลินต้า กรุ๊ป เป็นสิบกลุ่ม ในวันนี้ คุณชายโม่ ของคุณก็ไม่สามารถเดินออกจากไนต์คลับแห่งนี้ไปได้..”

พูดจบ ดวงตาของ ซูเหวิน พลันจมลง

เขาก้าวถอยหลัง และใช้เท้าเตะไปที่หลังของ คุณชายโม่

“บูม!”

ในทันที แรงอันทรงพลังก็ได้แทรกซึมเข้าไปทั่วร่างกายของ คุณชายโม่

เขารู้สึกถึงเพียงแรงอันมหาศาลที่เสียดแทงเข้ามาที่เอวพร้อมกับความเจ็บปวดอย่างรุนแรง จากนั้นคนทั้งคนบินลอยออกไปในระยะไกลก่อนจะตกกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง

“อั่ก ..อ๊าาากกก~”

เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกครั้ง

นายน้อย ตระกูลโม่ ที่ก่อนหน้านี้ยังหยิ่งผยอง และครอบงำ ตอนนี้เมื่อมองดูอีกครั้ง เขากลับนอนนิ่งอยู่บนพื้น

มีเพียงเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และเสียงครวญครางเพียงไม่กี่เสียงเท่านั้นที่ดังออกมาจากปากของเขาก่อนที่เสียงดังกล่าวจะพลันเงียบไป..

เวลานี้สภาพของเขาหากไม่ตายก็คงเจ็บปางตาย

เมื่อมองเห็นฉากตรงหน้า เพื่อนๆ ของ คุณชายโม่ ต่างก็รู้สึกงุนงงสับสนไปหมดแล้ว

พวกเขาไม่กล้าจินตนาการว่า คุณชายซู ที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาคนนี้เป็นใคร และแทบไม่อยากคิดถึงเบื้องหลังของอีกฝ่ายว่าน่ากลัวแค่ไหนด้วยซ้ำ

เพราะเห็นชัดว่าไม่เพียงแต่ความสามารถในการต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งเท่านั้น

แม้กระทั่ง หลินต้า กรุ๊ป เขาก็ไม่เห็นมันอยู่ในสายตา..

คนแบบนี้ ..ใครกล้ายุ่งด้วย?

และในขณะเดียวกันที่พวกเขากำลังมองตรงไปด้วยสีหน้าตกใจอยู่นั้น

ทันใดนั้น ซูเหวิน ก็หันมามองพวกเขา แล้วพูดอย่างช้าๆ ว่า : “เอาล่ะ.. ถึงตาพวกคุณแล้ว”

เมื่อครู่นี้ที่พวกบอดี้การ์ดพุ่งเข้ามาจัดการกับเขา..

ก็เป็นเพื่อนๆ ของ คุณชายโม่ เหล่านี้ที่ค่อยชี้มือชี้ไม้อยู่ข้างๆ เสมอ

ถึงขนาดขอให้บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นไปจัดการกับเพื่อนๆ ของเขาด้วย..

ตอนนี้มันถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องได้ลิ้มลองถึงผลที่ตามมาบ้างแล้ว

“คุณ... คุณคิดจะทำอะไร?”

“ใช่ คุณ... คุณอย่าได้คิดทําอะไรบุ่มบ่ามนะ ระวังเรื่องมันจะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ”

“ถูกต้อง แม้ว่าเราจะเทียบไม่ได้กับ คุณชายโม่ แต่เราก็มาจากตระกูลที่ร่ำรวย และมีชื่อเสียงในเมืองซู หากคุณคิดลงมือกับเรา นี่ไม่เท่ากับว่าว่าคุณสร้างศัตรูมากมายในเวลาเดียวกัน คุณแน่ใจนะว่าอยากทำเช่นนี้?”

เมื่อเห็น ซูเหวิน มองมาทางพวกเขาจริงๆ และยังบอกว่าจะลงมือด้วย

สีหน้าเพื่อนๆ ของ คุณชายโม่ เรียกได้ว่าเปลี่ยนไปทันที และพวกเขากลัวจนแทบฉี่ราดแล้ว

ไม่มีทาง ความสามารถในการต่อสู้ของ คุณชายซู ..คนนี้ น่ากลัวเกินไป

ถ้าถูกคนคนนี้ต่อย หรือเตะ แน่นอนว่าไม่ตายก็พิการ แล้วที่นี่ต่อไปพวกเขาจะมีชีวิตที่ดีได้อีกหรือไม่?

ดังนั้นในเวลานี้ พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากพูดให้อีกฝ่ายยอมประนีประนอมเท่านั้น

โดยหวังเพียงว่าอีกฝ่ายจะหยุดความคิดนั้นทันที

แต่ผลลัพธ์นั้นก็ชัดเจน

ซูเหวิน ไม่ได้มีความตั้งใจจะปล่อยพวกเขาไป

เขา ซูเหวิน ยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่คนประเภทที่ชอบรังแกคนอ่อนแอ

แต่วันนี้คนกลุ่มนี้ได้ล้ำเส้นเขาเกินไป

เช่นนี้ก็อย่าได้มาตำหนิเขาว่า ..ไร้ความปราณี

ทันทีนั้น ประกายเย็นวาบปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา พลันร่างกายของกระพริบวูบไหล

อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัว เขาก็ลงมือแล้ว

ความเร็วในการลงมือของเขามันราวกับสายฟ้า บุกหน้าเหมือนผ่าลำไผ่(1)

คุณชายหลายคนยังไม่ทันตอบสนองใดๆ ก็พบอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่หน้าอก จากนั้นคนทั้งคนก็ราวกับถูกขว้างออกไป

“พรวด~”

“พรวด~”

ทันใดนั้น แต่ละคนก็อาเจียนเป็นเลือด ได้รับบาดเจ็บสาหัส และต่างมีสภาพจวนตาย

หลังจากจัดการกับคนเหล่านี้แล้ว ซูเหวิน ก็หันกลับมาอีกครั้ง

เขาเดินตรงเข้าหา หม่า เผิงเฟย หัวหน้าบอดี้การ์ดของ ตระกูลโม่

ถ้าหากเขาคนนี้กล้าที่จะตอบโต้กลับจริงๆ ก็ย่อมไม่อาจปล่อยให้รอดพ้นไปได้

ต้องบอกว่า หม่า เผิงเฟย คนนี้ ในฐานะหัวหน้าบอดี้การ์ดของ ตระกูลโม่ เขามีความสามารถบางอย่างจริงๆ

คาดไม่ถึงว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงความอันตราย ..ตั้งแต่แรก

ทันใดนั้นเขาก็ตกใจ เตรียมลงมือ

แต่มันก็แค่นั้น..

ซึ่งก่อนที่เขาจะทันป้องกัน ซูเหวิน ก็ได้มาถึงหน้าเขาแล้ว เพียงการเคลื่อนไหวเดียวก็ทําให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

ต่อจากนั้นเขาก็เตะเข้าที่ท้องของอีกฝ่าย

หม่า เผิงเฟย รู้สึกถึงเพียงพลังที่ไม่อาจต้านทานได้จากเขา

ตามมาด้วยอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ท้อง ก่อนที่คนทั้งคนจะบินออกไปปานว่าวสายป่านขาด

ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีหลังจากปะทะ เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส และสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไป

หลังจากจัดการคุณชายเหล่านั้นแล้ว

ซูเหวิน หันศีรษะไปมอง เจ้าของไนต์คลับ.. แห่งนี้อีกครั้ง พร้อมกับเดินดุ่มๆ ตรงเข้าไป

แต่ที่น่าตกใจคือในขณะที่ ซูเหวิน กําลังจะลงมือจัดการกับ บอสหลิว คนนี้

เจ้าของไนต์คลับคนนี้กลับคุกเข่าลงด้วยความกลัว ไปพลางก้มหัวให้ ซูเหวิน พร้อมกับกล่าวว่า : “ซู..คุณชายซู ฉัน... ฉันผิดไปแล้ว”

“ฉัน หลิวฮุย มีใบไม้หนึ่งใบบังตา เลยมองไม่เห็นภูเขาไท่ซาน ฉัน..ฉันไม่ควรลงมือกับคุณ และเพื่อนของคุณ ยังอยากขอ คุณชายซู ..ผู้ใหญ่ย่อมใจกว้าง ย่อมไม่คิดเล็กคิดน้อย, ได้โปรดไว้ชีวิตคนตัวเล็กๆ อย่างฉันด้วยเถอะ”

“ข..ขอแค่คุณปล่อยฉันไป น้องชายคนนี้ยินดีที่จะถือว่าท่านเป็นพี่ใหญ่ และต่อไป ตราบใดแค่ท่านพูดมาสักคํา ฉันยอมยินดีเป็นม้าเพื่อรับใช้ท่านอย่างดีที่สุด”

ในขณะนี้ หลิวฮุย เจ้าของไนต์คลับ รู้สึกกลัว และหวาดกลัวจนสูญเสียการควบคุมทางอารมณ์ไปโดยสิ้นเชิงแล้ว

เมื่อเห็น คุณชายโม่ และเพื่อนๆ ของ คุณชายโม่ รวมทั้ง หม่า เผิงเฟย และคนอื่นๆ ที่ไม่มีใครรอดพ้นจากการลงมืออย่างโหดเหี้ยมของ ซูเหวิน แต่ละคนถูกทุบตีจนตกอยู่ในสภาพใกล้ตาย นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นลมหายใจดูแผ่วเบารวยริน ฉากตรงหน้าทั้งหมดนี้ทำให้เขารู้สึกกลัวสุดขีด

เขาไม่อยากเป็นเหมือน คุณชายโม่ และคนอื่นๆ เลย

ที่ตกอยู่ในสภาพน่าสังเวช และเจ็บปวดเจียนตายอย่างพวกเขา

ดังนั้นตราบใดที่ คุณชายซู คนนี้สามารถปล่อยเขาไปได้ ตราบใดที่คืนนี้เขาสามารถผ่านมันไปได้อย่างปลอดภัย

แม้เขาจะถูกขอให้คุกเข่าลงต่อหน้าสาธารณชน เขาก็ไม่ลังเล

และฉากนี้ก็ได้สร้างความตกใจให้กับทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก…

(1)[บุกหน้าเหมือนผ่าลำไผ่ (势如破竹)] - เป็นหนึ่งในคำพูดของ ‘เตาอี้ (杜預)’ - “เมืองง่อ ก็แค่ลำไผ่ ทหารเราเหมือนคมมีด แหวกปล้องไผ่ไปได้สองสามปล้อง ลำไผ่ที่เหลือก็จะแหวกเป็นทางอย่างง่ายดาย” จาก ‘สามก๊ก’ ในสถานการณ์ยกทัพบุกง่อก๊กโดยมีเตาอี้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด