ตอนที่ 18 ไวน์แดงไดโอนีซุส และ ไวน์ขาวแบคคัส
แอ๊ดดด!!
เสียงประตูห้องของเขาถูกเปิดขึ้น
“ฉันมาแล้วค่ะท่านประธาน”เป็นซินหรานที่เข้ามา
“การตอบรับจากผู้เล่นเป็นยังไงบ้าง”
“อยู่ในระดับที่ดีมากเลยค่ะ ไม่มีการโกงกันเกิดขึ้นและเซิร์ฟเวอร์ก็ไม่เกิดปัญหากระตุก ค้าง หรือ หลุดเลยแม้แต่น้อย”
“แล้วตลาดซื้อขายล่ะ”
“ยังเงียบอยู่ค่ะ คงเป็นเพราะผู้เล่นส่วนใหญ่กำลังหาไอเท็มเสริมพลังให้ตัวเองอยู่”
“ฉันก็คาดไว้ว่าจะเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ”ดนัยพยักหน้าให้ก่อนจะคิดอะไรได้
“เธอช่วยสั่งองุ่นคุณภาพดีมาให้ฉันหน่อยสิ”
“เอาเท่าไหร่ดีคะ”
“1 ตันไปเลย”
“เข้าใจแล้วค่ะ”ซินหรานก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป
“ไม่ได้ดื่มไวน์มานานแล้วซิ เราลองมาทำแบรนด์ของตัวเองดีกว่า”
ด้วยความสามารถด้านอาหารระดับสูง บวกกับสูตรไวน์ในอนาคตต่างๆแบรนด์ที่ดนัยต้องการทำขึ้นมาจะต้องไปได้สวยอย่างแน่นอน
…………
11.00 น. วันอาทิตย์
องุ่นจำนวน 1 ตันก็ได้มาถึง เหตุผลที่มันเร็วมากก็เพราะเป็นสวนของคนรู้จักที่ลุงศักดิ์เข้าไปคุยให้ และเขาก็ส่งองุ่นคุณภาพเกรดเอมาให้จำนวนมากเพราะอยากเชื่อมสัมพันธ์กับตน
“ซินหรานเธอเคยกินไวน์ไหม”ดนัยถามหญิงสาวที่นั่งอยู่บนโต๊ะและกำลังทำสรุปกำไรในไตรมาสนี้อยู่
“ไม่เคยค่ะ”
“อืมมม…ก็จริงนะ เธอทำงานเป็นสายลับมาตลอดจะไปมีเวลามาพักผ่อนได้ยังไงกัน”
และเมื่อลองคิดไปถึงทีมที่ตนพามาก็ไม่น่าจะมีใครที่เคยหรือชอบกินไวน์ เพราะส่วนใหญ่คงอยู่ในห้องทดลองกันแน่
อย่างเช่นตอนนี้ที่ดนัยได้มอบความรู้จากอนาคตให้ไปพวกเขาก็หมกตัวอยู่แต่ในห้องเพื่อศึกษาและทำการทดลองมาอวดเขา
“อลิเซียช่วยติดต่อลุงศักดิ์ให้หน่อย บอกว่าวันเสาร์หน้าเวลา 17.00 น. ฉันมีธุรกิจใหญ่จะคุยด้วยและไม่ต้องกินข้าวมานะเดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”
“ได้ค่ะนายท่าน”
“ท่านจะร่วมหุ้นธุรกิจใหม่กับคุณกิตติศักดิ์งั้นหรอคะ”
“ใช่แล้วล่ะ ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องตลาดไวน์มากนัก ต่ถ้าร่วมหุ้นกันสิ่งที่ฉันทำก็แค่ผลิตไวน์แล้วปล่อยหน้าที่ที่เหลือให้ลุงศักดิ์ไป”
“ฉันเข้าใจค่ะ”
ดนัยเดินลงไปที่หลังร้านก่อนจะเรียกคนให้มาช่วยกันขนองุ่นลังเล็กๆภายในกล่องขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนัก 1 ตัน
ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีองุ่นทั้งหมดก็ขึ้นมากองอยู่ในห้องของดนัย แต่ดีที่เดวิดละเกรซกลับไปที่คอนโดแล้วทำให้เหลือพื้นที่ว่างขึ้นมาก
“อืมมม….ฉันจะนำสูตรไวน์ในอนาคตมาผสมกันอย่างไรดี”ดนัยพึมพำออกมาก่อนจะคิดอะไรออก
“ระบบมีสูตรไวน์เด็ดๆในระบบบ้างไหม”
ติ๊ง!!
[มีค่ะ เนื่องจากผู้สร้างชื่นชอบไว้มากจึงใส่สูตรมาเป็นจำนวนมาก และยังมีสูตรหนึ่งที่ผู้สร้างได้คิดเอาไว้แต่ไม่มีโอกาสได้ทำมัน]
“สูตรนั้นราคาเท่าไหร่กัน และมีชื่อว่าอะไร”
[ราคาของสูตรไวน์ที่ผู้สร้างได้คิดขึ้นอยู่ที่ 100,000 แต้มค่ะ มันยังไม่สมบูรณ์ราคาจึงยังน้อยอยู่ และไวน์ชนิดนี้ยังไม่มีชื่อค่ะ]
“ฉันซื้อเลย”
[ท่านได้รับสูตรไวน์]
สูตรไวน์ปรากฏขึ้นมาในหัวทันทีและพบว่ามันยังมีอะไรขาดออกไปเล็กน้อย
“ฉันรู้เหตุผลที่มันไม่สมบูรณ์แล้ว!!”
ดนัยคิดขึ้นได้ก่อนจะจับปากกาขึ้นมาแล้วเขียนลงในสมุดโน้ตของตัวเอง
สิ่งที่ขาดหายไปคือรสชาติอันกลมกล่อมและแอลกอฮอล์จากการบ่มองุ่น เพราะในอนาคตธรรมชาติถูกทำลายไปจำนวนมาก
พืชพรรณส่วนใหญ่ก็สูญพันธุ์ไปสิ่งที่ยังมีเหลืออยู่คือพืชตัดแต่งพันธุกรรมให้เหมือนของจริงเท่านั้น และช่วงเวลาที่องุ่นยังอยู่ฟีรอสคงกำลังหัวหมุนกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอยู่แน่ๆ
แต่ดนัยก็มีวิธีการของเขาเองเกี่ยวกับการจัดการในเรื่องนี้จึงไม่ได้กังวลอะไรกับมันมากนัก
“สูตรตอนนี้คงจะสมบูรณ์แบบแล้ว….อลิเซียสูตรนี้โอกาสสำเร็จอยู่ที่เท่าไหร่”
“83.12% ค่ะ”
“ถือว่าเกินพอแล้ว”
ดนัยเริ่มเทวัตถุดิบต่างๆลงไปตามสูตรโดยใช้ถ้วยตวงเพื่อความแน่นอน เขาคงไม่มาทำอะไรอย่างนี้ทุกคนหรอก ในเมื่อมีเงินก็ต้องจ้างคนมาทำบ้างก็เท่านั้น
เรื่องสูตรก็ไม่ต้องกลัวหลุดไปเพราะถ้าหากแยกกันทำคนละกระบวนการก็ไม่สามารถหาสูตรที่แท้จริงได้อยู่ดี
“เอาล่ะเสร็จแล้ว องุ่น 1 ตันสามารถทำไวน์นี้ได้ 15 ถัง”หลังจากใช้ระยะเวลายาวนานในการบดองุ่นลงในถังไมักไวน์
“ฟู่วววว…4 โมงเย็นแล้วเหรอเนี่ย ซินหรานลงไปกินข้าวกันเถอะ”
“ได้ค่ะ”เธอตอบก่อนจะจัดเก็บเอกสารต่างๆให้เรียบร้อยและเดินตามเขาลงมา
“อีกแค่สัปดาห์เดียวก็จะปิดเทอมแล้ว 1 เดือนนั้นเราคงต้องแวะไปกรุงเทพเพื่อดูโปรเจคหลักที่กำลังสร้างหน่อยซะแล้ว”ดนัยกล่าวขึ้นก่อนจะเริ่มสั่งอาหาร
………….
1 สัปดาห์ต่อมา วันเสาร์ เวลา 16.45 น.
“สวัสดีครับลุงศักดิ์ ขอบคุณที่มาในวันนี้นะครับ”
“ถ้าหลานดนัยเป็นคนเชิญ ฉันต้องมาแน่นอนอยู่แล้วยังไม่รวมเรื่องธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจอีก”
“ฮะฮะ แน่นอนครับและคุณลุงจะต้องไม่เสียใจที่มาแน่นอน คุณป้าก็ด้วยนะครับ”
“จ้าหลานดนัย แต่พอนึกถึงวินเฮ้อออ…พอปิดเทอมช่วงนี้เจ้าลูกชายมันก็เอาแต่อยู่ให้ห้องเล่นเกมอะไรสักอย่างอยู่ทั้งวัน”
“ปล่อยเขาไปเถอะครับ ตอนนี้เรามากินข้าวกันก่อนดีกว่าผมสั่งอาหารรอไว้ให้แล้ว”
“ขอบคุณหลานมาก….ลุงได้ข่าวว่ามีรีวิวจากหนังสือและเว็บดังๆจำนวนมากด้วยนี่”
“ผมก็เห็นอยู่ครับ แต่คนจากมิชลินยังไม่มาสักทีเลยยังไม่มีดาวน่ะครับ”
“เรื่องนั้นหลานไม่ต้องห่วงหรอก ร้านดังๆอย่างนี้พวกเขาต้องมาแน่ไม่งั้นเสียชื่อหมด”
ดนัยพาทั้งสองเดินขึ้นไปบนชั้นสองของร้านซึ่งเป็นโซน VIP ตอนนี้เป็นเวลาช่วงเย็นพอดีคนจึงมีกันเต็มร้านทำให้การเดินทางต้องใช้เวลาเล็กน้อย
“มาถึงแล้วครับ ปรกติที่นี่เป็นห้องประจำของผมน่ะครับ”
“โอ้! ห้องประจำของเจ้าของร้านจะต้องดูดีมากแน่ๆ”
“เชิญเลยครับ”ดนัยเดินไปเปิดประตูด้วยมารยาทและเชิญผู้ใหญ่ทั้งสองเข้าไปก่อน
ข้างในห้องนั้นมีพื้นที่ประดับไปด้วยหญ้าและต้นไม้พันธุ์สวยงามหลากหลายชนิด ด้านหน้ามีกระจกขนาดใหญ่เผยให้เห็นทิวทัศน์ของทะเล
ตามพื้นห้องมีร่องน้ำเล็กๆที่มีปลาตัวน้อยว่ายวนไปมาช่วยขับกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้นสมกับเป็นห้องประจำตัวของเจ้าของร้าน
“ที่นี่ดีมากเลยนะหลานดนัย”แม่ของวินกล่าวขึ้นหลังจากสำรวจรอบๆแล้ว
“แน่นอนครับ ผมลงทุนกับห้องนี้ไปไม่ใช่น้อย และค่าห้องนี้ก็ยังแพงเป็นพิเศษด้วย”
ทั้งสามเดินไปที่โต๊ะก่อนจะนั่งลงและหยิบช้อนส้อมขึ้นมาทานอาหารกัน มีการพูดคุยกันเล็กน้อยระหว่างรับประทานอาหาร
หลังจากใช้เวลากับการกินไปประมาณ 40 นาที อาหารที่สั่งมาบนโต๊ะก็หมดลงและเริ่มเข้าสู่เนื้อหาหลักของวันนี้
“ลุงศักดิ์ชอบดื่มไวน์ไหมครับ”
“แน่นอนสิ สำหรับคนรุ่นลุงแล้วไวน์เป็นอะไรที่ผ่อนคลายจิตใจได้ดีทีเดียว”
“วันนี้ผมมีไวน์จะมาเสนอครับ ซึ่งผมได้ลองชิมไปแล้วครั้งหนึ่ง เรียกได้ว่าอร่อยเหมือนขึ้นสวรรค์เลยทีเดียว”
“โอ้! แล้วมันมีชื่อรึยังล่ะ”
“เนื่องจากผมทำมาสองประเภทคือไวน์แดงและไวน์ขาว ไวน์แดงจะมีแอลกอฮอล์ที่เข้มข้นและรสชาติที่รุนแรงจึงเป็นชื่อไดโอนิซุสครับ ส่วนไวน์ขาวมีชื่อว่าแบคคัสมันมีรสสัมผัสที่อ่อนนุ่มและแอลกอฮอล์น้อยกว่า”
“ตั้งชื่อตามเทพแห่งไวน์เลยนะเนี่ย แสดงว่ามันคงต้องอร่อยจริงๆ”
“ผมมั่นใจในเรื่องนั้นมาก”ดนัยสั่งให้คนของตนวางถังไวน์ลงบนโต๊ะก่อนจะเริ่มเปิดก๊อกเพื่อรินใส่แก้ว
“ยังมีตะกอนอยู่เล็กน้อยนะ”ลุงศักดิ์เอ่ยขึ้นหลังจากสำรวจไวน์ในมือ
“ผมเพิ่งจะคิดสูตรแล้วบ่มมันได้แก่สัปดาห์เดียวเองครับ อุปกรณ์ก็ยังไม่มีเลยด้วย”
“ถ้ามันอร่อยตามที่หลานว่า หากนำเข้ากระบวนการที่ถูกต้องละก็มันต้องอร่อยกว่าเดิมแน่”
ลุงศักดิ์เขย่าแก้วไวน์เล็กน้อยก่อนจะดื่มมันเข้าไป
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือความนิ่งเงียบ ใบหน้าของลุงศักดิ์ตอนนี้ประดับไว้ด้วยรอยยิ้มแสนอ่อนโยน และเหมือนสติเขาจะหลุดลอยไปแล้ว
แม่ของวินก็รินไวน์ขาวใส่แก้วแล้วดื่มมันเข้าไปเช่นกัน และการแสดงออกของทั้งสองคนก็คล้ายคลึงกันนั่นก็คือความเงียบและใบหน้าเปี่ยมสุข
“เป็นยังไงบ้างครับ”
“……..”ไม่มีเสียงตอบรับ