ความเจ็บปวดเสมือนจริงสองเท่า (อ่านฟรี 11/06/2567)

ภายในห้องทดสอบเสมือนจริงของห้างเดอะมอลทาวเวอร์

มีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาพร้อมกันด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียด ด้านหน้าเป็นกลุ่มของชายร่างใหญ่ผมสีแดงในชุดคลุมลายเพลิงพร้อมกับบรรดาลูกกิลด์ที่พามาด้วยนับสิบคน

ส่วนด้านหลังเป็นบอดี้การ์ดจากร้าน EMPHOER และคริสเดินมาพร้อมกัน ตลอดเส้นทางพวกเขาไม่ได้พูดคุยกันแม้แต่น้อย

“นับว่าพวกแกใจกล้ามากนะที่กล้าตามมาแบบนี้” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงหันหลังมากล่าวกับทั้งสองคน เขามองทั้งสองด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

“มันเป็นหน้าที่ครับ อีกอย่างถึงผมจะแพ้ก็ไม่ได้เสียอะไร มีแต่ทางคุณนั่นแหละถ้าแพ้คงเสียหน้าน่าดู” ชายร่างใหญ่โต้ตอบกลับไป

เนื่องจากการปรากฏขึ้นของผู้ปลุกพลังทำให้วิธีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปมาก แต่รัฐบาลก็ยังคงมีอำนาจมากอยู่ดี จึงทำให้ภายในโลกความเป็นจริงผู้คนต้องเคารพกฎหมาย ถ้าทำร้ายคนอื่นร้ายแรงหรือฆ่าผู้อื่นถึงตายก็ต้องถูกจับและลงโทษอยู่ดี

แต่มันก็ยังมีช่องโหว่อยู่มาก เนื่องจากมีผู้ปลุกพลังจำนานมากที่ลงมือฆ่าคนอย่างไร้หลักฐานได้อย่างง่ายดาย พอถึงตอนนั้นกฎหมายอันเข้มงวดก็จะไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง

“เฮอะ! ในตอนนี้มันก็ใช่แหละนะ” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงแค่นเสียงตอบกลับไป

“ยินดีต้อนรับครับ มีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่าครับ ?” หลังจากที่เดินมาหยุดที่หน้าเครื่องที่ใช้ในการเข้าสู่สนามประลองเสมือนจริงก็มีพนักงานในชุดทันสมัยเดินเข้ามาทักทาย

“ขอเครื่องประลองแบบอารีน่าความเจ็บเสมือนจริงให้ฉันกับไอ้นี่คนละเครื่อง” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงตอบพนักงานกลับไป

“คุณแน่ใจเหรอครับ ?” พนักงานตอบกลับไปด้วยความเกรงกลัว

เครื่องประลองแบบความเจ็บเสมือนจริงถูกสร้างมาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงผสานกับวงเวทย์ที่สลับซับซ้อนมากมาย ผ่านการออกแบบจากผู้ปลุกพลังคลาสนักวิทย์คลั่ง ทำให้มันสามารถจำลองความเจ็บปวดจากการประลองสู่จิตใจของผู้ทดสอบได้นั่นเอง

ข้อดีคือมันทำให้ผู้ที่มาทดสอบพัฒนาการตอบโต้และรับความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นได้ เพราะถ้าเราไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลยเวลาโดนดาเมจเราก็จะประมาทเมื่อต้องต่อสู้จริง แต่ข้อเสียของมันก็คืออาจทำให้ผู้ที่เข้ารับการทดสอบเสียสติจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้

“ฉันแน่ใจ แต่ไม่รู้ว่าไอ้นั่นมันจะกล้าไหมอ่ะนะ” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงกล่าวออกมาน้ำเสียงท้าทาย ทำให้บอดี้การ์ดของร้าน EMPHOER ที่ได้ยินได้แต่ยักคิ้วขึ้นด้วยความสนใจ

ที่เขายอมรับคำท้าของอีกฝ่ายนอกจากต้องการตัดปัญหาแล้ว อีกสาเหตุก็เพราะว่าเขามั่นใจว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้ไม่ยาก

น่าเสียดายที่เขาไม่รู้จักหัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิง มันจึงทำให้เขาตัดสินใจพลาดในคราวนี้

“ผมรับคำท้า หวังว่าคุณคงไม่เสียใจภายหลังนะ” บอดี้การ์ดตอบกลับไปด้วยความมั่นใจ

“โอเคครับ ถ้าเช่นนั้นขอเชิญทั้งสองท่านเข้าเครื่องประลองเสมือนจริงได้เลย ผมจะเซ็ตค่าความเจ็บปวดไว้เท่าความเป็นจริงนะครับ” พนักงานที่ได้ยินดังนั้นก็เชิญทั้งสองคนไปยังเครื่องประลองเสมือนจริงที่เป็นแคปซูลแบบนอนขนาดใหญ่ที่วางเอาไว้ตรงกลางห้อง

“เอาความเจ็บปวดไปสองเท่าเลย !” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงกล่าวขัดขึ้นมา

“ผมไม่ขัดข้อง เอาตามนั้นได้เลย” บอดี้การ์ดร้าน EMPHOER ตอบกลับทันที

“ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตให้พวกคุณทั้งสองคนเซ็นสัญญาว่าเป็นความต้องการของพวกคุณทั้งสองคน ทางร้านจะไม่รับผิดชอบทุกกรณีนะครับถ้าเกิดการเสียสติขึ้นมา” พนักงานที่ได้ยินดังนั้นก็เรียกไฟล์โฮโลแกรมดิจิตอลขึ้นมาให้ทั้งสองคนลงชื่อและสแกนเพื่อยืนยันอีกครั้ง

ครึ่งหลัง

“เรียบร้อยครับ เชิญทั้งสองคนเข้าเครื่องได้เลย” พนักงานกล่าวขึ้นหลังจากได้รับการเซ็นยินยอมจากทั้งสองฝ่าย

เมื่อทั้งสองคนเข้าสู่เครื่องประลองเสมือนจริงเรียบร้อยแล้วบนจอภาพขนาดใหญ่จอหนึ่งก็ได้ฉายภาพของทั้งคู่ขึ้นมา มันเป็นสนามประลองแบบโคลอสเซียมโบราณ ทั้งคู่อยู่ในชุดเหมือนกับที่ใส่ในตอนนี้ไม่มีผิด

‘น่าสนใจจริง ๆ’ คริสที่ยืนดูอยู่เงียบ ๆ มาโดยเกิดความสนใจขึ้นมา

ภายในสนามประลอง ทั้งสองฝ่ายต่างเรียกอาวุธของตนเองออกมา

หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงเรียกสนับมือรูปสิงโตออกมาสวมใส่ ส่วนทางด้านบอดี้การ์ดนั้นเขาเรียกดาบมือเดียวกับโล่ขนาดเล็กออกมา

“เข้ามาสิ!” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงกวักมือท้าทายคู่ต่อสู้ ทางด้านบอดี้การ์ดที่เห็นดังนั้นก็ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะพุ่งตัวเข้าหาอีกฝ่าย

ร่างของบอดี้การ์ดเรืองแสงสีม่วงออกมาเล็กน้อย เขาเรียกใช้ทักษะเสริมพลังป้องกันที่ได้รับมาพร้อมกับอาชีพนักรบของเขา

เปรี้ยง! เปรี้ยง!

ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด ถึงแม้อาวุธของบอดี้การ์ดจะดูได้เปรียบ แต่ดาบของเขาก็ไม่อาจฝ่าการป้องกันของหัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงได้เลย ทุกเพลงดาบล้วนถูกหมัดที่ติดสนับมือบล็อคการโจมตีเอาไว้ได้ทั้งหมด

“มีฝีมือแค่นี้แต่กล้ามาทำร้ายน้องชายฉันเนี่ยนะ ?” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงกล่าวเยาะเย้ยอีกฝ่ายออกมา เขาใช้หมัดขวาปัดดาบของอีกฝ่ายก่อนจะใช้หมัดซ้ายซัดไปยังกลางลำตัวทันที

แต่ฝั่งบอดี้การ์ดก็ใช้โล่มือเดียวมาป้องกันไว้ได้ทัน ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากพลังของหมัดอีกฝ่ายอยู่ดี

‘เจ็บชิบ ไอ้ความเจ็บสองเท่านี่แม้งนรกชัด ๆ ดูเหมือนต้องงัดทักษะที่เก็บไว้มาใช้แล้วสิ’ บอดี้การ์ดสบถในใจด้วยความหัวเสีย

เปรี้ยง! เปรี้ยง!

ทั้งสองยังคงต่อสู้กันอย่างสูสีโดยตลอด แต่ยิ่งเวลาผ่านไปฝั่งหัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงก็ยิ่งได้เปรียบ ตัวของเขาไร้ซึ่งบาดแผลแม้แต่น้อยผิดกับอีกฝ่ายที่มีรอยช้ำเต็มไปหมด

ยิ่งความเจ็บปวดที่มากกว่าปกติก็ยิ่งทำให้ฝั่งบอดี้การ์ดตอบสนองได้ช้าลง จนเขาตัดสินใจใช้ทักษะลับของตัวเองออกมา

“แกนี่มันอึดยิ่งกว่าแมลงสาปอีกนะ! หมัดระเบิด!” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงกล่าวออกมาเสียงดังก่อนที่เขาจะใช้ทักษะซึ่งรุนแรงมากของตัวเอง

ทักษะนี้จะสร้างความเสียหายให้กับเป้าหมาย 200% ของพลังโจมตี รวมถึงจะทำการระเบิดรอบบริเวณหนึ่งเมตรเป็นความเสียหาย 100% ของที่ทำได้อีกด้วย

“ตายซะเถอะ!” บอดี้การ์ดคำรามออกมาเสียงดังก่อนที่เขาจะยอมรับหมัดจากอีกฝ่ายเข้าเต็ม ๆ ในตอนแรกหัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงก็ยิ้มเยาะเย้ยที่อีกฝ่ายตอบโต้อะไรไม่ได้แถมยังโดนเขาซัดเต็มหน้าอีก

แต่เมื่อเห็นว่าโล่ของอีกฝ่ายมันเรืองแสงสีแดงดูอันตรายขึ้นมาเขาก็ฉุกคิดบางสิ่งได้

“แย่แล้ว!” หัวหน้ากิลด์ราชสีห์เพลิงอุทานออกมาก่อนที่จะพยายามถีบตัวออกห่าง แต่มันก็สายไปเสียแล้ว! เพราะบอดี้การ์ดพุ่งเข้าหาตัวเขาพร้อมโล่ที่เปล่งแสงสีแดงเจิดจ้าในมือ

“รับไปซะ! เคาท์เตอร์ชิลด์!!” บอดี้การ์ดตะโกนออกมาเสียงดังก่อนจะใช้ทักษะที่เงื่อนไขยุ่งยากออกมา

ทักษะเคาท์เตอร์ชิลด์นั้นจะสะสมดาเมจที่ได้รับเอาไว้แล้วสะท้อนออกไปด้านหน้า 150% ของดาเมจที่สะสมไว้ แต่การจะใช้ทักษะนี้ให้ได้ผลนั้นเขาจะต้องโดนการโจมตีจากเป้าหมายเดียวเท่านั้น แถมระยะการใช้ทักษะก็สั้นมาก

ดังนั้นเมื่ออีกฝ่ายซัดหมัดที่รุนแรงขนาดนั้นออกมา เขาจึงคำนวณความเสียหายแล้วรับมันไว้โดยไม่ป้องกันแม้แต่น้อยก่อนจะใช้โอกาสที่อีกฝ่ายชะงักเล็กน้อยหลังใช้ทักษะโจมตีกลับไป

ตู้ม!!!!!

เสียงการโจมตีดังสนั่นพร้อมกับฝุ่นควันที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ ทำให้ภาพบนจอในตอนนี้ไม่อาจมองเห็นอะไรได้อีกต่อไป