ตอนที่แล้วระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 34 เผาเสบียง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 36 ลากคอมันไปประหารเสีย

ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 35 โลกนี้ช่างโหดร้าย


ระบบสินค้าลดราคาขั้นเทพ ตอนที่ 35 โลกนี้ช่างโหดร้าย

เมื่อพ่ายแพ้ ก็พังทลายลงทันที

ตอนรุกรานเข้ามา กองทัพรวมพลจากสามราชวงศ์ใหญ่ราวกับฝูงตั๊กแตนบุกทำลายทุกสิ่งอย่างบ้าคลั่ง

แต่พอพ่ายแพ้ไป

กองทัพที่เหลือกว่าล้านนาย

ก็พากันโยนอาวุธและถอดเกราะออก

หลบหนีไปนอกชายแดนราชวงศ์หลัวอย่างพร้อมเพรียง

ราวกับกลัวว่าหากช้าลงสักพัก

ก็จะกลายเป็นศพในกองภูเขาศพที่ชายแดน

สูญสิ้นไปจากโลกนี้ตลอดกาล

ไม่ว่าอย่างไร หากยังมีชีวิตรอด

ก็ไม่มีใครอยากตาย

......

"ผู้อาวุโสที่สาม สงครามจบสิ้นแล้ว"

"ฝ่ายเราสูญเสียกว่า 5,000 นาย"

"ฝ่ายศัตรูตายเกือบlb[ล้านนาย มีกองทัพเกินกว่าล้านนายกำลังหลบหนีไปนอกชายแดน"

กลางสมรภูมิ

สมาชิกตระกูลหลัวในขอบเขตทารกเซียน 1 สวรรค์ก้มหน้าเล็กน้อย

ยืนอยู่หลังผู้อาวุโสที่สาม หลัวเจ๋อ

รายงานข้อมูลนี้

"ฝ่ายเราตาย 5,000 กว่านาย?"

"ฝ่ายศัตรูตายเกือบสิบล้าน?"

"ไม่เลว ไม่เลวจริง ๆ "

หลัวเจ๋อพยักหน้า

ดูท่าเขาจะพอใจกับศึกนี้ยิ่งนัก

รอยยิ้มบนใบหน้า ก็อดข่มไว้ไม่อยู่

"ถัดไป นำทัพขับไล่เข้าไปโดยตรง"

"ข้าจะกวาดล้างสามราชวงศ์ใหญ่ให้สิ้นภายในหนึ่งสัปดาห์"

"ให้ทุกคนรู้ว่าราชวงศ์หลัวของเรา"

"ยังมีชื่อของตระกูลหลัวอยู่"

ออกคำสั่งแล้ว

ครู่ใหญ่ ๆ กองทัพผู้บำเพ็ญเพียรกว่า 2 ล้านนายที่ราชวงศ์หลัวจัดตั้งขึ้น

ก็พากันเคลื่อนทัพไปยังชายแดนของราชวงศ์ชิงซาน ราชวงศ์หยินเยว่ และราชวงศ์ฉื่อเหยียน สามราชวงศ์ใหญ่

แน่นอน หลังจากกองทัพรวมพลจากสามราชวงศ์ใหญ่แตกพ่ายไป

ที่เรียกว่าสามราชวงศ์ใหญ่นั้น

ก็จะกลายเป็นปลาบนเขียงของราชวงศ์หลัว

ให้เชือดอย่างอิสระตามอำเภอใจ

......

เมื่อเวลาผ่านไป

ผ่านไปอีกห้าวันอย่างรวดเร็ว

ในห้าวันนี้

ตระกูลหลัวยังคงเงียบสงบเหมือนเดิม

หลัวเหิง จ้าวตระกูลคนปัจจุบันของตระกูลหลัว

ก็ยังคงจัดการเรื่องต่าง ๆ วุ่นวายไม่เว้น

คิดคำนวณ [แผนการพันปี] ที่ตนร่างขึ้น

แต่เมื่อเทียบกับตระกูลหลัวที่เงียบสงบแล้ว

ราชวงศ์ชิงซาน

ราชวงศ์ฉื่อเหยียน

ราชวงศ์หยินเยว่

สามราชวงศ์ใหญ่ที่ทั้งผืนแผ่นดินกว้างใหญ่

และมีประชากรมากมายนี้

กลับยิ่งมีความวุ่นวายไม่สงบ

ก่อนอื่นกองทัพรวมพลจากสามราชวงศ์ใหญ่ถูกสังหาร

ต่อมากองทัพรวมพลจากสามราชวงศ์ใหญ่ก็แตกพ่าย

หลังจากนั้น กองทัพผู้บำเพ็ญเพียรสองล้านนายของราชวงศ์หลัวก็แยกทัพกัน เข้าไปในชายแดนของสามราชวงศ์ใหญ่

สุดท้าย สามราชวงศ์ใหญ่ก็ถูกทำลาย

เมืองหลวงถูกยึดครอง

ราชวงศ์ในพระราชวังถูกสังหารจนหมดสิ้น ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว

เรื่องมากมายเหล่านี้

ทำให้ข้าราชการทุกระดับของสามราชวงศ์ใหญ่มีจิตใจหวาดกลัวยิ่ง

ส่วนราษฎรของสามราชวงศ์ใหญ่รวมกันกว่า 2 พันล้านคน

ในใจก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ

ยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น เพราะการสังหารบานปลายมากขึ้นเรื่อย ๆ

บรรดาผู้ที่ถือว่าตนเป็นปัญญาชนผู้บริสุทธิ์มากมาย

จึงเริ่มจับพู่กันในมือตนขึ้นมา

เขียนเล่าถึงอาชญากรรมมากมายของราชวงศ์หลัว

......

"ไป......"

"ออกไปเสีย!"

"พวกเจ้าไอ้พวกมาตรร้าย ไสหัวออกไปจากราชวงศ์ฉื่อเหยียนของข้า"

"ราษฎรราชวงศ์ฉื่อเหยียนของข้าจะไม่ยอมจำนนหรอก"

ราชวงศ์ฉื่อเหยียน เมืองหลวง

ตรงมุมถนนแห่งหนึ่ง

มีเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่ง จ้องมองกองทัพราชวงศ์หลัวที่กำลังลาดตระเวนไปมาบนถนนด้วยสายตาเกรี้ยวกราด

อดตะโกนออกมาไม่ได้

แล้วยังหยิบหินก้อนหนึ่งบนพื้นขึ้นมา

ขว้างใส่กองทัพที่กำลังลาดตระเวนอีกด้วย

"ปัง......"

เสียงหินกระทบชุดเกราะดังขึ้น

ทันใดนั้น เสียงโห่ร้องมากมายก็ดังขึ้นตามมา

ราวกับราษฎรราชวงศ์ฉื่อเหยียนจำนวนมากที่ซ่อนตัวอยู่ในห้อง

สนับสนุนการกระทำของเด็กชายคนนี้อย่างยิ่ง

ส่วนเด็กชายที่ทำเรื่องนี้

ก็ยิ้มเผล่ด้วยความเยาว์วัย

ลูบศีรษะตัวเอง

ดูเหมือนเขาจะยินดีกับความกล้าหาญของตนที่ยืนหยัดออกมาทำเรื่องนี้

ตามปกติแล้ว หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เด็กชายคนนั้นเพียงแค่แอบหนีไปเงียบ ๆ

ก็จะไม่เกิดเรื่องเกินเลยอะไร

แต่ครั้งนี้ ดูเหมือนจะต่างออกไป

"ตุบ!!!"

ทันใดนัน

มีเสียงหนัก ๆ ดังขึ้น

เลือดสีแดงสดกระเซ็นกระจาย

ส่วนตรงมุมถนน

ตอนนี้ มีศีรษะเด็กชายหล่นกลิ้งอยู่บนพื้น

ค่อย ๆ กลิ้งไป

"นั่นศีรษะใคร?"

เห็นภาพเช่นนี้แล้ว

ใจของราษฎรราชวงศ์ฉื่อเหยียนที่แอบซ่อนตัวอยู่หลังประตู ข้างหน้าต่าง แอบมองอยู่นั้น ล้วนเต็มไปด้วยข้อสงสัย

แต่พอพวกเขาหรี่ตามองดู

สายตาค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น

พวกเขาจึงพบอย่างตกใจว่า

ศีรษะนั่น ก็คือศีรษะของเด็กชายคนนั้น

"ฆาตกรรม......"

"มีคนตาย!!!"

ในเมืองหลวงของราชวงศ์ฉื่อเหยียน

มีราษฎรตะโกนเช่นนี้

"มารร้าย พวกมันเป็นมราร้าย ทำไมแม้แต่เด็ก ๆ ก็ไม่ไว้ชีวิต?"

"มันก็แค่เด็กเท่านั้นเอง......"

"เขายังเด็กเกินไป......"

บางคนมีใบหน้าเศร้าหมอง

บ่นงึมงำเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม ราษฎรส่วนใหญ่ของราชวงศ์ฉื่อเหยียนก็ขาอ่อนทรุดตัวลงนั่งกับพื้น

ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา ด้วยขีดจำกัดการสังหารของราชวงศ์หลัว ทำให้หลายคนรู้สึกว่า

ตนเองยังอยู่ในขอบเขตที่ปลอดภัย

แต่ตอนนี้พวกเขาจึงพบด้วยความตกใจว่า

ในตอนนี้

ชีวิตของพวกเขา

จริง ๆ  ฃแล้ว ตกอยู่ในมือคนอื่นตั้งแต่แรกแล้ว

......

"ในรัศมีร้อยเมตร อย่าไว้ชีวิตใคร!!!"

บนถนน

ผู้นำของกองกำลังลาดตระเวนราชวงศ์หลัวนี้ ได้สั่งการลงไป

ส่วนกองทัพราชวงศ์หลัวที่กระหายเลือดจนพร้อมสรรพแล้วนั้น

ก็เริ่มการสังหารอีกครั้ง

"ทำไม ถึงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ เสียที?"

"คิดว่าพวกเราตระกูลหลัวเป็นคนใจดีงั้นหรือ?"

ราชวงศ์ฉื่อเหยียน

ในพระราชวัง

ผู้บัญชาการสูงสุดในยุทธการครั้งนี้ ผู้อาวุโสที่สาม หลัวเจ๋อของตระกูลหลัว

ตอนนี้ ยืนนิ่ง ๆ อยู่บนหอคอยสูงสุดของพระราชวัง

หรี่ตามองลงไป

มองดูเมืองหลวงราชวงศ์ฉื่อเหยียนที่ค่อย ๆ ย้อมไปด้วยสีเลือด

ส่ายหน้าด้วยความสิ้นหวัง

......

หลัวเจ๋อไม่ค่อยเข้าใจนัก

โลกนี้ โหดร้ายอยู่แล้ว

โลกนี้ ก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว

ในโลกนี้ ชีวิตของผู้คนก็เหมือนหญ้าอ่อนที่ต่ำต้อยเท่านั้น

หากพวกเขาอยู่อย่างสงบสุข

ตระกูลหลัวก็ปล่อยให้พวกเขามีชีวิตอยู่ต่อไป

แต่ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงชอบก่อเรื่อง?

หรือเพราะช่วงหลังมานี้ ตระกูลหลัวของเขาใจดีเกินไปหรือเปล่า?

จึงทำให้ราษฎรไม่ค่อยเกรงกลัวตระกูลหลัวกับราชวงศ์หลัวของเขาแล้ว

ราชวงศ์ฉื่อเหยียน

ในพระราชวัง

บนหอคอยสูงสุดแห่งหนึ่ง

หลัวเจ๋อก้มหน้าเล็กน้อย

ครุ่นคิดถึงคำถามเหล่านี้

5 3 โหวต
Article Rating
3 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด