บทที่ 56 ความสุขมีอยู่ทุกแห่ง!
ภูตเกราะทองสัมฤทธิ์!
เมื่อได้ยินชื่อดังกล่าว มู่โหยวชิงและคนอื่น ๆ ต่างก็งงงวย
พรตโหยวหยวนอธิบาย: "ในวิถีการฝึกฝนภูตผีนั้น มีวิธีการกลั่นศพที่ชั่วร้ายอย่างที่สุด"
“ผู้ปรับแต่งศพมักจะเลือกพวกอันธพาลที่ดุร้ายและเลวทรามในขณะที่พวกเขาเคยมีชีวิต จากนั้นก็นำศพของพวกเขามาฝังในสถานที่ฮวงจุ้ยหยินสุดขีด ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง”
“ทุกวันก่อนรุ่งสาง ศพเหล่านี้จะถูกพรมด้วยน้ำทองแดงและโลหิตสัตว์อสูร จากนั้นก็ร่ายอาคมเฉพาะ เพื่อหลอมกลั่นศพทองสัมฤทธิ์”
“หลังจากผ่านไป 7,749 วัน พวกเขาจะขุดศพออกมาเป็นภาชนะ ปิดผนึกภูติผีที่ดุร้ายหนึ่งตัวขึ้นไปลงในร่าง และใช้โลหิตของพวกเขาเองเป็นเครื่องสังเวยครั้งสุดท้าย ในการลงนามพันธสัญญานายทาสกับศพทองสัมฤทธิ์”
“เมื่อประสบความสำเร็จ พวกเขาก็จะสามารถสร้างภูตเกราะทองสัมฤทธิ์ที่แข็งแกร่งดุร้ายขึ้นมาได้”
หลังจากได้ฟังคำอธิบาย มู่โหยวชิงที่ขมวดคิ้ว“เช่นนั้นก็หมายความว่าภูตเกราะทองสัมฤทธิ์ตนนี้เทียบได้กับการรวมตัวกันของภูตผีและศพสัมฤทธิ์”
“มีทั้งปราณภูตผีและร่างกายที่แข็งแกร่งของศพทองสัมฤทธิ์!”
พรตโหยวหยวนพยักหน้าและเอ่ยออกมาว่า "สิ่งที่กงจูเอ่ยเป็นความจริง! ดังนั้นภูตเกราะทองสัมฤทธิ์ จึงจัดการได้ยากมาก และคนที่กลั่นศพเกราะทองสัมฤทธิ์ก็เป็นตัวอันตรายที่น่าเกรงขามด้วยเช่นกัน"
“ตามการคาดการณ์ คนที่สามารถปรับแต่งภูตเกราะทองสัมฤทธิ์ ต้องมีขอบเขตจ้าววิญญาณขั้นสูงสุดเป็นแน่!”
แฮก ๆ
คำพูดดังกล่าวทำให้เจ้าหงเหยาและคนอื่น ๆ หายใจทีเย็นยะเยือบเข้ามา.
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ความวุ่นวายของภูตผีในเมืองเผิงรุนแรงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เห็นชัดเจนว่าผู้อยู่เบื้องหลังนั้นแข็งแกร่งและน่าหวาดกลัว กำลังคอยชักใยอยู่นี่เอง!
ในเวลานั้นพวกเขาพบว่าภูตเกราะทองสัมฤทธิ์ กำลังพุ่งเข้ามาข้างหน้าพวกเขาแล้ว
มู่โหยวชิงปลดปล่อยพลังที่แท้จริงทั้งหมดของนางออกมา ก่อนที่จะกระชับกระบี่ชิงหยวนพุ่งเข้าไปเช่นกัน.
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ข้าจะต้องสังหารภูตเกราะทองสัมฤทธิ์ตนนี้ให้ได้ก่อน!”
“วิชากระบี่เฟิงหมิง!”
รัศมีกระบี่ที่สดใสส่องประกายสว่างเจ้า
การฟาดฟันที่รวดเร็ว ฟันไปยังหน้าผากของภูตเกราะทองสัมฤทธิ์
เคร้ง!
การสั่นสะเทือนที่รุนแรงไปทั่วทั้งฝ่ามือของนาง ลามไปทั่วทั้งแขนจนชาไปเหมือนกัน.
“ผิวหนังหนาอะไรขนาดนี้!”
มู่โหยวชิงดูที่ตกใจเป็นอย่างมาก.
พรตโหยวหยวนและคนอื่น ๆ ที่อยู่ข้างหลังนาง ต่างก็ตกใจเช่นกัน
ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากอาณาจักรเสมือนจักรพรรดิ ศพหุ้มเกราะทองสัมฤทธิ์ กับต้านทานได้
อย่างไรก็ตาม มู่โหยวชิง มีความสามารถไม่น้อย ด้วยทักษะกระบี่และพลังบ่มเพาะเสมือนจักรพรรดิ.
แม้นว่าเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับภูตเกราะทองสัมฤทธิ์ แต่การปะทะกันหลายสิบกระบวนท่า มู่โหยวชิงก็ค่อย ๆ ได้เปรียบ.
ด้วยกระบวนท่าที่พลิ้วไหว และกระบี่ชิงหลวนที่แหลมคม ในที่สุดนางก็สร้างรอยบนหน้าอกภูตศพเกราะทองสัมฤทธิ์ได้.
จากนั้นนางก็เน้นโจมตีไปยังรอยกระบี่ดังกล่าวเพื่อเปิดฉีกเกราะของอีกฝ่ายออก.
บูม!
ปัง
เมื่อรอยกระบี่เปิดช่องได้สำเร็จ ภูตเกราะศพทองสัมฤทธิ์ก็ระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ.
มู่โหยวชิงที่มือสั่นระริกขณะนั่งลงกับพื้นด้วยความเหนื่อยล้า.
ขณะมองเศษซากของภูตเกราะทองสัมฤทธิ์ ทำให้นางหายใจเย็นเข้ามา“มันยากที่จะเอาชนะจริง ๆ!”
ในความเห็นของนาง ความสามารถในการต่อสู้ของภูตเกราะทองสัมฤทธิ์นั้นไม่สูงนัก
ทว่าขอบเขตกึ่งจักรพรรดิ กับต้องใช้กระบวนท่าหลายร้อยกระบวนเพื่อจัดการกับมัน.
กล่าวได้ว่าพลังป้องกันของมันนั้นผิดปรกติอย่างแท้จริง.
พรตโหยวหยวนและคนอื่น ๆ ที่มองจากระยะไกล ต่างก็คิดเช่นเดียวกัน
เมื่อเห็นมู่โหยวชิงที่หายใจหอบ ทุกคนก็ถอนหายใจเช่นกัน โชคดีที่มีเพียงภูตเกราะทองสัมฤทธิ์ตนเดียว.
ไม่เช่นนั้น ไม่ต้องเอ่ยถึงเมืองเผิงเลย แม้แต่ประเทศไจ่เยว่ คงตกอยู่ในอันตราย.
โฮกกก! - -
เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ทุกคนตกใจหัวใจสั่นระรัว.
แม้แต่มู่โหยวชิงยังสูดหายใจลึก.
ภูตเกาะทองสัมฤทธิ์หลายสิบตัวที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยฟุต.
ยังมีมากกว่านั้น!
เพียงไม่นานภูตเกราะทองสัมฤทธิ์จากพื้นที่ไกลออกไปเองก็กำลังมารวมตัวกัน.
จำนวนนับร้อย!
“ให้ตายเถอะ! นี่จะทำให้ข้าเหนื่อยตายเลยอย่างงั้นรึ?” ใบหน้าที่สวยงามของมู่โหย่วชิงที่ซีดลง
-
ในป่านอกเมืองเผิง
หลินซวน พาบุตรสาวทั้งสี่ของเขา เดินเล่นไปรอบ ๆ อย่างสบายใจ
“เฮ้ ๆ ผีเสื้อเยอะมาก!”
ผ่านไปได้ครึ่งทาง จู่ ๆ เสวียนหานก็ยื่นนิ้วชี้ออกไปข้างหน้า
ดูนั่น!มีพุ่มดอกไม้บานอยู่ในป่า
ฝูงผีเสื้อบินไปมา หลากสีระรานตา ดูสีสันสดใสสวยงามมาก
เสวียนหยูวิ่งออกไป: "ข้าอยากจับผีเสื้อ!"
นางยกมือเล็ก ๆ ขึ้น พยายามคว้าจับผีเสื้อ
ทว่าพยายามยื้อสุดแขน ทำอะไรไม่ถูก ความสูงไม่พอ กระทั่งเร่งรีบมากจนเกินไป จึงควบคุมร่างกายไม่อยู่
สะดุดล้มลงบนพื้น
เมื่อเห็นเข้า หลินซวนที่กลายเป็นสายลมพัดโชกแรงพุ่งออกไปคว้าร่างเด็กหญิงตัวน้อยเอาไว้ในอ้อมแขน“ธิดาที่รัก ช้าลงหน่อย เจ้าเกือบล้มแล้ว!”
“แต่หากข้าไม่รีบก็จับผีเสื้อไม่ได้!”เสวียนหยู ตอบกลับ.
หลินซวนรู้สึกขบขันกับความน่ารักของนาง เขาส่ายหน้าไปมา แล้วเอ่ยออกมาว่า "หากเจ้าล้มแล้ว ก็จับผีเสื้อไม่ได้!"
เสวียนหยูเอียงศีรษะแล้วคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และรู้สึกว่าสิ่งที่เสด็จพ่อเอ่ยนั้นสมเหตุสมผลมาก
“เสด็จพ่อ แล้วเราจะจับผีเสื้อได้อย่างไร” เสวียนจู่และคนอื่น ๆ เองก็มารวมตัวกัน
เมื่อเห็นใบหน้าที่ตื่นเต้นของพวกนาง หลินซวนก็รู้ว่าพวกนางต้องการเล่นจับผีเสื้อ
แต่พวกนางไม่สามารถจับพวกมันด้วยมือเปล่าได้ พวกนางทำได้เพียงใช้กระเป๋าตาข่ายเล็ก ๆ เพื่อคว้าจับ แต่กับไม่สะดวกนัก.
หลินซวนที่ค้นหาข้อมูลในบทช่วยสอน บิดาผู้สมบูรณ์แบบทันที ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า“พ่อมีวิธี!”
เขาเดินไปที่พงหญ้าด้านข้าง และพบกับหญ้าหนวดมังกรขาวจำนวนมากอยู่รอบ ๆ ที่ผุดออกมาจากซอกหิน.
ตามคำอธิบายของบทช่วยสอน หญ้าหนวดมังกรขาวนั้นยาวและแข็งแรง ผู้คนมักตัดนำไปตากแห้งและฟั่นเป็นเชือก.
ด้วยเหตุนี้เขาจึงทำการนำหญ้าหนวดมังกรขาวมาสานเป็นถุงตาข่ายขึ้นมา!
จากนั้นก็ติดกิ่งไม้เป็นถุงตาข่าย เพื่อให้เด็ก ๆ สะดวกในการจับปีเสื้อได้.
เพียงไม่นาน หลินซวนก็ลงมือ ทำชุดไม้ถุงตาข่ายขึ้นมาสี่อัน.
“เสด็จพ่อ นี่มันคืออะไรกัน?”
สาวน้อยที่ดวงตาเบิกกว้างเผยความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก.
หลินซวนเผยยิ้มอย่างมีเลศนัยและเอ่ยออกมาว่า "นี่คือถุงตาข่ายที่สร้างมาเพื่อพวกเจ้า สามารถใช้มันจับผีเสื้อได้"
หลังจากอธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับการใช้ถุงตาข่ายให้กับเด็ก ๆ ฟังแล้ว หลินซวน ก็ส่งมันให้กับพวกนางคนละอัน
เด็กหญิงตัวน้อยเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงรีบวิ่งออกไปยังดงดอกไม้ พร้อมกับยกไม้ตาข่ายสานขึ้น.
เมื่อเห็นผีเสื้อบินไปทั่วท้องฟ้า พวกนางก็ยกตาข่ายสานขึ้นสูงอย่างมีความสุข
แล้วเล็งไปที่ผีเสื้อแล้วฟาดถุงตาข่ายลงอย่างแรง
น่าเสียดาย.
เสวียนจู ตวัดถุงตาข่ายลงไปบนศีรษะของ เสวียนหยู
เสวียนซี เองก็คลุมไปที่ศีรษะของเสวียนหานด้วยเช่นกัน.
“ว้าย! ทำไมข้าไม่เห็นอะไรเลย”
“เสวียนซี อย่าเอาถุงตาข่ายคลุมศีรษะข้า!”
เสวียนหยู และ เสวียนหาน ตะโกนออกมาตามลำดับ
เสวียนจู และเสวียนซี เหลือบมองถุงตาข่ายในมือด้วยความประหลาดใจ และแลบลิ้นออกมาพร้อม ๆ กัน
“อา ข้าจับ เสวียนหยู ได้อย่างไร”
“เสวียนหาน อย่าขยับ ผีเสื้อตัวนั้นอยู่บนศีรษะของเจ้า!”
เมื่อเสวียนหานได้ยินสิ่งนี้ นางก็เอ่ยทันที: "อะไรนะ? ผีเสื้ออยู่บนศีรษะของข้า? เป็นไปได้ยังไง?"
เด็กหญิงทั้งสี่กลายเป็นวุ่นวายทันที ขณะถอดถุงตาข่ายออก แล้วก็ไล่ตามผีเสื้อที่จับได้ไป
เมื่อเห็นว่าพวกนางกำลังเร่งรีบ วิ่งไปมา หลินซวนก็แทบจะหัวเราะออกมา
เด็กน้อยมีความสุขมากที่ได้ออกมาเล่น และเดินทางไปทุกที่.
ติ๊ง!
ทันใดนั้นเสียงกลไกของระบบก็ดังขึ้น
"ท่านได้มอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับบุตรสาว ให้สนุกสนานกับการไล่จับผีเสื้อ รับรางวัล กฎห้าสายฟ้า”