บทที่ 55 (ฟรี)
บทที่ 55
หลินเป่ยฝานเดินเข้าไปในห้องซื้อขาย
ณ ขณะนี้ ตัวเอกเย่ซิงเฉินนอนเหยียดยาวอยู่บนพื้น สายตาจ้องมองเพดานอย่างว่างเปล่า สีหน้าตัวเองเต็มไปด้วยความสับสน คล้ายไม่มีความสุขเลย
หลินเป่ยฝานอยากปรบมือตัวเองดังๆ
อย่างไรก็ตาม เขาแสร้งทำสีหน้าเห็นอกเห็นใจ ค่อยๆเดินเข้าไป นั่งยองๆ และถอนหายใจ “สหายเย่ ทำไมคุณถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?”
เย่ซิงเฉินไม่มีปฏิกิริยาใดๆแม้แต่น้อย ความโศกเศร้าของเขาทำให้หัวใจตายด้านไปแล้ว
หลินเป่ยฝานถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า “ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณเป็นอย่างดี ประธานฉู่เพิ่งโทรมาบอกผม”
ในที่สุดเย่ซิงเฉินก็มีปฏิกิริยาเล็กน้อย ดวงตาเขาสั่นไหวพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า “คุณมาที่นี่เพื่อไล่ผมออกใช่ไหม?”
ในตอนที่เขาตัดสินใจบอกเรื่องมูลค่าที่แท้จริงของที่ดิน เขารู้ว่าเขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป และเขาไม่สามารถแฝงตัวอยู่ข้างกายหลินเป่ยฝานได้อีกแล้ว พลาดโอกาสมากมายที่จะลอบขัดขาหลินเป่ยฝาน
เพราะยังไงซะ ไม่มีใครหรอกที่ชอบการถูกทรยศหักหลัง
แต่ถ้าให้โอกาสอีกครั้ง เขาก็ยังเลือกทำแบบนี้อยู่ดี! เพราะไม่อย่างนั้นผู้หญิงของตัวเองคงหนีไปซุกอ้อมอกของคนอื่น!
แต่หลังจากที่เจอฉู่รั่วเสวี่ยวันนี้ ไม่ว่าเขาจะคำนวณซักกี่ร้อยกี่พันครั้ง ก็พบว่าตัวเองทำผลงานได้ย่ำแย่ต่อหน้าคนที่ตัวเองรัก!
ไม่กี่นาทีก็เสียเงินไป 50 ล้านหยวน!
ในตอนนี้เขาอยากจะตายจริงๆ!
เป็นผลให้เมื่อเขากลับมา จึงตั้งใจทดสอบความสามารถตัวเอง แต่ดันกลายเป็นช่วยศัตรูอย่างหลินเป่ยฝานทำเงินนับพันล้าน!
ในตอนนี้เขาอยากจะตายมาก!
“ทำไมผมต้องไล่คุณออกด้วย?” หลินเป่ยฝานสับสนมาก “แค่เรื่องสารภาพรักถูกปฏิเสธจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร ไม่เห็นกระทบกับงานซักนิด! ผมจะไล่คุณออกเพราะสาเหตุนี้ได้ยังไง?”
“คำสารภาพรักถูกถูกปฏิเสธ?” หัวใจของเย่ซิงเฉินกระตุกเล็กน้อย
หลินเป่ยฝานถอนหายใจและนั่งลงบนพื้น “ประธานฉู่บอกผมว่าจู่ๆ คุณสารภาพรักกับเธอในวันนี้ ทำให้เธอกลัวมาก เลยเรียกคนมาไล่คุณออกไป ส่วนคุณทนความอับอายไม่ไหว เลยมาทรมานตัวเองอย่างนี้ ถูกไหม?”
หัวใจของเย่ซิงเฉินสั่นคลอน รั่วเสวี่ยไม่ได้เปิดโปงเรื่องของฉัน!
ไม่เปิดเผยเรื่องสำคัญเช่นนี้.....
เหอ เหอ ฉันรู้ว่าเธอยังมีฉันอยู่ในใจ!
ฉันยังมีโอกาสอยู่!
เย่ซิงเฉินดูเหมือนจะกลับมามีชีวิตอีกครั้งมองชายตรงหน้าด้วยความภาคภูมิใจ
แกเห็นไหม?
รั่วเสวี่ยยังมีฉันอยู่ในใจ!
...
ช้าก่อน!
ในเมื่อหลินเป่ยฝานไม่รู้เรื่อง นั่นไม่ได้หมายความว่า ... ฉันยังคงแฝงตัวอยู่ข้างกายเขาได้หรอกเหรอ?
เชี่ยเอ๊ย! นี่มันกำไรคูณสองของจริง!
นี่แหละบุตรแห่งโชคชะตา พระเจ้ายังคงรักฉัน!
ณ ขณะนี้หลินเป่ยฝานซึ่ง 'ไม่รู้เรื่องอะไรเลย' ยังคงโน้มน้าวต่อว่า “สหายเย่ ก็แค่ถูกผู้หญิงปฏิเสธไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่มีคนสวยคนไหนในโลกที่คุณไม่สามารถทำให้ตกหลุมรักได้ มีบุปผางามมากมายในเมืองโม่ไห่ คุณก็มีทั้งความสามารถและหน้าตาที่ดี ต่อไปถ้าคุณหาเงินได้เยอะๆ ร่ำรวยมีเงินทอง มันจะไม่มีผู้หญิงชายตามองเลยหรือ?”
“สิ่งที่คุณต้องทำคือเปลี่ยนไปสวมชุดดีๆ อวดคุณค่าของคุณ จากนั้นแค่กระดิกนิ้วก็มีคนพร้อมกระโดดขึ้นเตียงคุณแล้ว! เชื่อเถอะ ผมมีประสบการณ์แบบนี้มาเยอะ”
“มันไม่คุ้มเลยจริงๆ ที่ต้องเสียใจกับแค่ผู้หญิงเพียงคนเดียว”
ได้ยินแบบนั้น หัวใจของเย่ซิงเฉินเต็มไปด้วยความรังเกียจ
ผู้หญิงธรรมดาพวกนั้นสามารถนำมาเปรียบเทียบกับรั่วเสวี่ยของฉันได้อย่างไร?
ฉันคือเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ ราชาแห่งโลกทหารรับจ้าง!
และฉันชอบรั่วเสวี่ยเพียงคนเดียวเท่านั้น!
เธอสง่าและสูงส่ง!
บริสุทธิ์ราวกับหยกน้ำแข็ง!
กระจ่างใสไม่มีสิ่งใดแปลกปลอม!
แต่เมื่อคิดว่าตนเองประพฤติตัวไม่ดีต่อหน้าผู้หญิงในดวงใจและถูกอีกฝ่ายไล่ออกมา เขาก็กลับมาเศร้าอีกครั้ง อยากจะร้องไห้หนักมาก!
หลินเป่ยฝานถอนหายใจและพูดว่า “ดูท่าสหายเย่จะยังทำใจไม่ได้สินะ งั้นทำไมเราไม่ไปบาร์แล้วเมากันล่ะ? ไม่มีปัญหาไหนแก้ไม่ได้ด้วยความเมา!”
เย่ซิงเฉินคิดถึงค่ำคืนอันแสนตระการตานั้น หัวใจก็สั่นสะท้าน ส่ายหัวอย่างรุนแรง “ผมไม่ไป! ไม่ไปเด็ดขาด!”
“สหายเย่ คุณทำแบบนั้นไม่ได้! รู้ไหมว่าทำไมประธานฉู่ถึงปฏิเสธ?”
“ทำไม?”
“ก็เพราะว่าคุณไม่เลวพอ!”
“ยังไม่เลวพอ?”
“พูดง่ายๆ ก็คือคุณใสซื่อเกินไป!”
หลินเป่ยฝานดูเหมือนคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน “ทุกวันนี้ ผู้หญิงไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ชอบผู้ชายเลว! แน่นอนไอ้ที่เรียกว่าเลวไม่ใช่ทำตัวชั่วช้า แต่เป็นการรู้จักเที่ยวและกินดื่ม! คนแบบนี้สิถึงจะเร้าใจผู้หญิง! แต่ถ้าทำตัวใสซื่อ แบบนั้นต่างหากที่ทำให้ผู้หญิงมองว่าน่าเบื่อ!”
เย่ซิงเฉินคิดกับตัวเอง หรือจะเป็นแบบนั้นจริงๆ?
ถึงคนตรงหน้าจะเป็นศัตรูตัวฉกาจ แต่ขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็มีทักษะอันยอดเยี่ยมในการจีบสาว!
ในชีวิตที่แล้ว มีบุปผางามมากมายถูกหลินเป่ยฝานล่อลวง!
และหนึ่งในนั่นยังรวมไปถึงฉู่รั่วเสวี่ยด้วย!
ประสบการณ์ของอีกฝ่ายมีค่ามากในการใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง!
หากฉันสามารถเรียนรู้กลยุทธ์นี้ได้ รั่วเสวี่ยมีหรือจะยังหนีไปจากกำมือฉัน?
ยิ่งกว่านั้นหัวใจเขาตอนนี้รวดร้าวมาก มันต้องการแอลกอฮอล์เพื่อเมา!
“โอเค ผมจะไปกับคุณ!”
------
แต่ทันทีที่พวกเขาก้าวพ้นประตู ก็มีสาวสวยอีกคนไล่ตามมา
“รอก่อน ฉันก็อยากไปเหมือนกัน!”
คนๆ นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลิวรู่เหมย เลขาคนสวยของหลินเป่ยฝาน เธอจ้องมองมาด้วยดวงตาทรงเสน่ห์ “ฉันสัญญากับฉิงฉิงว่าจะจับตาดูนายอยู่เสมอ ป้องกันไม่ให้นายทำตัวรุ่มร่าม!”
หลินเป่ยฝานหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “มันจะเป็นแบบนั้นจริงๆน่ะเหรอ?”
หลิวรู่เหมยรู้สึกสับสนเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีแบบนั้นของเขา เธอเอ่ยด้วยริมฝีปากแข็งทื่อ “ก็แน่สิ ฉันต้องรักษาคำพูดนะ!”
ตัวเอกเย่ซิงเฉินมองคนทั้งสองที่กำลังหยอกล้อกัน หัวใจเขาก็รู้สึกเหมือนถูกทิ่มแทง
แม่งเอ๊ย! นี่แกยังล่อลวงหลิวรู่เหมยไปแล้วอีกคนเรอะ? สมแล้วที่เป็นสุนัขติดสัด แต่ฉันที่เป็นตัวเอกดันถูกรั่วเสวี่ยเตะออกจากประตู?
ยังไงก็ช่าง! จะหวานกันตอนอื่นก็หวานไป แต่ตอนนี้ช่วยใส่ใจความรู้สึกฉันหน่อยจะได้ไหม!
เอาเถอะ ไม่อยากสนใจแล้ว ตอนนี้ขอแค่ไปเมาก่อนก็พอ!
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลย!”
หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็มาที่บาร์อีกครั้ง
เมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว บาร์มีชีวิตชีวามากขึ้นไปอีก
ทันทีที่เขาเดินเข้าไปในประตูบาร์ เหอซิ่วเหวิน เจ้าของบาร์ก็เดินออกมาพร้อมอ้าแขนต้อนรับด้วยรอยยิ้ม สวมกอดหลินเป่ยฝานอย่างอบอุ่น “ฮ่าฮ่า!สหาย! นายมาแล้ว ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้นายกำลังรุ่งเลยนี่!”
หลินเป่ยฝานหลินเป่ยฝานยิ้มและพูดว่า “ช่วงนี้ทำได้ดีไปหน่อย เลยอยากมาผ่อนคลาย! นอกจากนี้ ....”
หลินเป่ยฝานตบไหล่เย่ซิงเฉินแล้วพูดว่า “สหายเย่ของฉันเพิ่งอกหัก กำลังอารมณ์ไม่ดี เขาต้องการมาที่นี่เพื่อดื่มและเมา ระบายความคับข้องใจ เพราะงั้นวันนี้ช่วยทำให้เขาสนุกสุดเหวี่ยงไปเลยนะ”
เมื่อเหอซิ่วเหวินเห็นเย่ซิงเฉิน ดวงตาเขาพลันลุกท่วมเป็นไฟ “เขาอกหักเหรอ? งั้นก็หมดรักกันแล้วสิ!”
เย่ซิงเฉิน “...”
“แค่ก แค่ก ... คือฉันหมายความว่าก็แค่อกหักไม่ใช่เหรอ? มันเรื่องธรรมดา! อย่างฉันก็หมดรักเดือนละเป็นสิบครั้ง! ถ้านายเจอมากๆเข้า เดี๋ยวก็ชินเอง” เหอซิ่วเหวินยักไหล่
หลินเป่ยฝานหัวเราะและดุว่า “นายจะเอาของตัวเองไปเทียบได้ยังไง? นายตกหลุมรักเมื่ออยู่บนเตียง และหมดรักเมื่อลุกจากเตียง! แต่สหายเย่ของฉันเขาไม่ได้หมดรัก แค่อกหัก!”
เหอซิ่วเหวินพูดเสียงดัง “หยุดพูดได้แล้ว ไวน์สามารถคลายความกังวลนับนับพันได้ มาดื่มกันเถอะ คืนนี้เราจะไม่กลับบ้านเว้นแต่เราจะเมา!”
เหอซิ่วเหวินทักทายทุกคนและนั่งลงโต๊ะ VIP อีกครั้ง จากนั้น ไวน์จำนวนมากก็ถูกเสิร์ฟและวางไว้ระหว่างเขากับเย่ซิงเฉิน
เมื่อพิจารณาจากจำนวนไวน์ที่นำมา บอกได้เลยว่าเขาตั้งใจที่จะทำให้เย่ซิงเฉินมึนเมา จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนเวทีอีกครั้ง ฮี่ ฮี่ ...
คราวนี้เย่ซิงเฉินไม่ปฏิเสธ เขาเปิดขวดแล้วเทไวน์ลงในปากตัวเองราวกับดื่มน้ำ
เหอซิ่วเหวินยกนิ้วโป้งให้อย่างตื่นเต้น “สหายเป็นนักดื่มตัวยง งั้นลุยกันต่อเลยเถอะ!”
เย่ซิงเฉินตะโกนเสียงดัง “จัดมาหนักๆ!”