บทที่ 54 (ฟรี)
บทที่ 54
“แต่ดูท่าฉันคิดถูกแล้วจริงๆที่ร่วมมือกับหลินเป่ยฝาน! เพราะเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินที่แท้จริง! หากร่วมมือกับเขา เงินคงไม่ขาดมือ! แต่เรื่องราคาที่ดินต้องมีการเจรจากันใหม่!”
เมื่อคิดได้เมื่อคิดได้ฉู่รั่วเสวี่ยก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดหมายเลขของหลินเป่ยฝาน
ทันทีที่เชื่อมต่อหลินเป่ยฝานก็หัวเราะอย่างสนุกสนาน “ประธานฉู่ ทำไมเธอถึงโทรมาตอนนี้? อย่าบอกนะว่าตั้งใจจะชวนฉันไปทานมื้อเย็นอีก?”
“หลินเป่ยฝาน! เสียใจด้วยนะที่นายซ่อนมันจากฉันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว!” ฉู่รั่วเสวี่ย พูดด้วยรอยยิ้ม “ประเทศกำลังวางแผนที่จะกำหนดเขตพัฒนาเศรษฐกิจในเจียงหนาน และที่ดินผืนนั้นจะมีมูลค่าเพิ่มมหาศาล! นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนายถึงต้องการซื้อที่ดินของฉันใช่ไหม?”
มีเสียงประหลาดใจดังมาทางโทรศัพท์ “เธอรู้ได้ยังไง ใครบอกเธอ?”
ฉู่รั่วเสวี่ยยิ้มอย่างมีความสุขยิ่งขึ้น หลังจากที่โทรหาหลินเป่ยฝานหลายครั้ง ในที่สุดเธอก็เป็นฝ่ายเริ่มกุมความได้เปรียบ
“แน่นอนว่าฉันมีช่องทางหาข่าวของตัวเอง!” ฉู่รั่วเสวี่ยไม่ได้เปิดโปงเย่ซิงเฉิน
เพราะท้ายที่สุดแล้ว อีกฝ่ายปล่อยข้อมูลให้เธอ ทำให้เธอได้รับผลประโยชน์มากมาย ดังนั้นการเปิดโปงอีกฝ่ายถือเป็นการผิดจรรยาบรรณ
เธอไม่ใช่คนไร้ชนชั้นเหมือนเย่ซิงเฉิน เธอมีคุณสมบัติทางศีลธรรมของตัวเอง
เสียงถอนหายใจอย่างโศกเศร้าดังออกมาจากในโทรศัพท์ “เป็นสหายเย่ที่บอกเธอใช่ไหม?”
ฉู่รั่วเสวี่ยตกใจทันที
ฉันไม่ได้พูดอะไร แต่อีกฝ่ายเดาได้ทั้งหมดในคราวเดียว
ฉู่รั่วเสวี่ยไม่ยอมรับอย่างเต็มที่ “ทำไมถึงสงสัยเขา ไม่ใช่สงสัยหลงหยาแคปปิตอล?”
“เพราะว่าตอนหลงหยาแคปปิตอลต้องการร่วมมือกับเธอ พวกเขาไม่ได้บอกเหตุผลให้เธอทราบ! หลังจากตัดความร่วมมือแล้ว ความเป็นไปได้ก็ยิ่งน้อยลงไปอีก! ดังนั้น ข่าวนี้จึงรั่วไหลจากฝั่งของฉันเท่านั้น!”
“และข่าวนี้ฉันบอกแค่กับสหายเย่เท่านั้น!”
“อา!” เสียงถอนหายใจอย่างเจ็บปวดดังมาทางโทรศัพท์
ฉู่รั่วเสวี่ยไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แม้แต่คำพูดปลอบใจก็ตาม
แค่รู้สึกว่าคนอีกฟากต้องเสียใจมาก
เพราะท้ายที่สุดการถูกแทงข้างหลังโดยคนที่สนิทที่สุดและไว้ใจได้มากที่สุด ไม่มีใครจะรู้สึกดี!
หากถูกพี่น้องทรยศ เป็นเธอก็คงเสียใจมาก!
“อย่าคิดมากไปเลย! คิดอีกทางหนึ่ง อย่างน้อยนายก็ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของคนใกล้ตัว และสามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายมากมายที่จะตามมาในอนาคต!” ฉู่รั่วเสวี่ยปลอบใจ
“ฉันรู้ แต่เรื่องแบบนี้มันยากจะทำใจได้! ฉันไม่เข้าใจ ฉันปฏิบัติต่อเขาอย่างดี ปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นพี่น้องที่ดี ฉันให้อย่างที่ควรจะให้ แล้วทำไมเขาถึงทำกับฉันแบบนี้?”
เสียงของหลินเป่ยฝานฟังดูไร้พลังและสับสน
“บางคนแค่รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ เย่ซิงเฉินก็แค่เกิดมาพร้อมกับจิตใจที่ชั่วร้าย!” ฉู่รั่วเสวี่ยไม่ชอบเย่ซิงเฉินอยู่แล้ว จึงร่วมผสมโรงด่า “มันเหมือนชาวนากับงูเห่า ไม่ว่านายจะดีกับเขาแค่ไหนเขาก็ไม่เห็นค่าของนาย หากมีโอกาส เขาจะแว้งกัดนาย อย่าโกรธคนแบบนี้เลย มันไม่คุ้มค่าหรอก!”
-------
“ขอบคุณประธานฉู่ที่คอยปลอบใจฉัน ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว!” หลินเป่ยฝานกล่าวอย่างจริงใจ
“ถูกต้อง ลองคิดดูสิ! แปดในสิบเรื่องในชีวิตของคนเราไม่เคยเป็นไปด้วยดีอยู่แล้ว ใครบ้างที่ไม่เคยเจอเรื่องเลวร้ายในชีวิต?” ฉู่รั่วเสวี่ยพูดด้วยรอยยิ้ม รู้สึกถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในใจของเธอ
“ประธานฉู่ ฉันขอให้เธอช่วยอะไรหน่อยได้ไหม” หลินเป่ยฝานถาม
“ลองว่ามา ถ้ามันไม่ใช่เรื่องยากหรือสำคัญมากไป ฉันยินดีช่วย!”
หลินเป่ยฝานพูดอย่างลำบากใจ “คืออย่างนี้ เธอช่วยแกล้งทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นได้ไหม?”
“นายหมายความว่ายังไง?” ฉู่รั่วเสวี่ยรู้สึกสับสน
“แค่แกล้งทำเป็นว่าเขาไม่ได้ไปหาเธอหรือหรือบอกเธอเรื่องสถานการณ์บนที่ดินผืนนั้น ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นโอเคไหม?” หลินเป่ยฝานถามด้วยความคาดหวัง
“นายพูดบ้าอะไร? นายกำลังจะบอกว่าอยากให้อภัยเขา? ลืมสิ่งที่เขาทำแล้วรักษาความสัมพันธ์เดิมเอาไว้?”
หลินเป่ยฝาน “ใช่ ฉันหวังว่าประธานฉู่จะเข้าใจ!”
อารมณ์ของฉู่รั่วเสวี่ยเริ่มฉุนเฉียวขึ้นมา “ทำไมนายถึงต้องการให้คนที่มีจิตใจต่ำทรามแบบนั้นอยู่ข้างๆอีก?”
หลินเป่ยฝานถอนหายใจอย่างโศกเศร้าและพูดว่า “เพราะถึงอย่างไร เขาคือครอบครัวและสหายรักของฉัน!”
ฉู่รั่วเสวี่ยเหมือนจะเริ่มเข้าใจถึงความสิ้นหวังของหลินเป่ยฝาน
หลินเป่ยฝานยึดถือว่าเย่ซิงเฉินเป็นพี่น้องที่ดีอย่างแท้จริง!
ดังนั้นแม้ว่าเขาจะรู้ว่าอีกฝ่ายทรยศแต่ก็ยังไม่เต็มใจที่จะเปิดโปง และพยายามรักษาความสัมพันธ์ที่เปราะบางนี้ไว้
ไม่คิดว่าเพลย์บอยคนนี้จะเป็นคนที่เห็นคุณค่าของความรักและความชอบธรรม!
ฉู่รั่วเสวี่ยเปลี่ยนความคิดที่เธอมีต่อหลินเป่ยฝานไปอย่างมาก!
ผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับความรักและความชอบธรรมนั้นมีแต่ข้อดีในสายตาของผู้หญิง!
หากเปรียบเทียบกันแล้ว ผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์และไร้หัวใจเช่นเย่ซิงเฉินนั้นสมควรถูกดูหมิ่น!
ฉู่รั่วเสวี่ยโบกมืออย่างไม่อดทนและพูดว่า “ลืมไปเถอะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันอยู่แล้ว! ในเมื่อนายขอ ฉันก็ยินดีสนอง! แต่ให้ฉันแนะนำนายอีกรอบ คนๆนี้เชื่อถือไม่ได้! เขาทรยศนายได้ครั้งหนึ่ง ก็ย่อมมีครั้งที่สองและสาม หรือนับครั้งไม่ถ้วน เขาไม่ได้ยึดถือนายเป็นพี่น้อง!”
“ขอบคุณมากประธานฉู่! ไม่ว่าเขาจะปฏิบัติต่อฉันเหมือนพี่น้องหรือไม่ เขาก็ยังเป็นพี่น้องของฉันเสมอ!”
“ประธานฉู่ เธอโทรมาเพราะอยากเจรจาเรื่องราคาที่ดินใหม่ใช่ไหม? ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ไว้วันอื่นค่อยคุยกันใหม่ได้ไหม”
“เอาล่ะ ไม่มีปัญหา ยังไงก็ตาม มีบางอย่างที่ฉันลืมถาม เย่ซิงเฉินเป็นอัจฉริยะด้านการลงทุนจริงๆหรือ ดูจากการเก็งกำไรของเขาแล้ว ฉันว่าฝีมือเขาต่างจากที่นายโม้เอาไว้มาก!”
ฉู่รั่วเสวี่ยพูดเป็นนัยเพื่อยืนยันการคาดเดาของเธอ
หลินเป่ยฝานถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า “ยังไงเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว ไม่ต้องถามหรอก!”
ประโยคนี้ถือเป็นคำตอบโดยปริยาย
หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว ฉู่รั่วเสวี่ยก็ก็เขียนคำว่า 'เย่ซิงเฉิน' สามคำลงบนกระดาษ จากนั้นจึงวาดตัว 'x' ตัวใหญ่ทับลงไป
ในทางกลับกัน เมื่อหลินเป่ยฝานวางสายโทรศัพท์ จิตใจเขาแทบไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
เขารู้มานานแล้วว่าเย่ซิงเฉินคงไม่สามารถต้านทานการไปหาฉู่รั่วเสวี่ยได้!
เพราะเมื่อแผนความร่วมมือนี้บรรลุผล นางเอกตัวเองก็จะจากไป และในขณะเดียวกัน มันก็จะเปิดฉากแห่งความหายนะตัวเองด้วย
ดังนั้น เย่ซิงเฉินต้องทำทุกอย่างเพื่อขัดขวาง ต่อให้ต้องเปิดเผยมูลค่าที่แท้จริงของที่ดินผืนนั้นก็ตาม
ซึ่งแม้นี่จะทำให้หลินเป่ยฝานเสียเงินไปบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่อดทนได้ เพราะสุดท้ายฉู่รั่วเสวี่ยก็ต้องตกเป็นของเขา ดังนั้นเงินที่เสียไปถ้าให้เปรียบเปรยก็เหมือนแค่ย้ายเงินจากกระเป๋าซ้ายไปกระเป๋าขวาเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม เย่ซิงเฉินประสบความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง
เพราะสิ่งที่ฉู่รั่วเสวี่ยเกลียดชังที่สุดคือการทรยศ หลังจากนี้นายไม่เหลือที่ว่างให้อยู่ในสายตาของเธอแล้ว! เป็นนายเองแท้ๆที่ส่งตัวเองไปตาย! กลายเป็นคนที่เธอรังเกียจที่สุด!
หลินเป่ยฝานยิ้มบาง แต่แล้วเขาก็อยากเห็นสีหน้าของเย่ซิงเฉินในตอนนี้ จึงเดินออกจากออฟฟิศ แล้วพบว่าทุกคนในห้องซื้อขายกำลังกระซิบกระซาบกัน
“เป็นไงบ้างทุกคน?” หลินเป่ยฝานเดินเข้ามาถามอย่างสงสัย
หนึ่งในนั้นพูดว่า “รองประธานหลิน คุณเย่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเขาเพิ่งกลับมา เขาซื้อขายทองคำ น้ำมันดิบ ฯลฯ อย่างบ้าคลั่ง จนถึงตอนนี้เขาทำกำไรได้มากกว่า 4,000 ล้านหยวนแล้ว!”
หลินเป่ยฝานมีความสุขมากที่ได้ยินแบบนี้และพูดว่า “ทำเงินได้มากกว่า 4,000 ล้าน วันนี้สหายเย่ขยันมากจริงๆ สงสัยตั้งใจจะรีบคืนทุนในช่วงที่หายไปจากการลาพักร้อน! นี่ไม่ใช่เรื่องดีเหรอ? ทำไมทุกคนถึงดู .... ทำหน้าแปลกๆกัน?”
“เรามีความสุขแน่นอนที่ทำเงินได้! แต่ดูเหมือนคุณเย่จะไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ เขาอารมณ์เสียมากแล้วไล่พวกเนาทุกคนออกมา ขังตัวเองอยู่ในห้องคนเดียว! พวกเราทุกคนเป็นห่วงคุณเย่มาก!”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ฉันจะไปดูเขาให้เอง!” หลินเป่ยฝานถอนหายใจและเดินเข้าไปในห้องซื้อขาย