บทที่ 52: แจ็กเก็ตบุนวมตัวเล็ก 4 ตัว!
ตงหวงจื่อโหยว สูดหายใจเข้าลึก ๆ และกำหมัดแน่น
แม้ว่าเจ้าจะไม่ต้องการฝึกศิลปะการต่อสู้ ยังไม่ต้องการอ่านหนังสืออีก นี่ไม่คิดจะทำอะไรอย่างงั้นรึ?
คิดจะเป็นปลาเค็มไปตลอดชีวิตจริง ๆ หรือ?
ตงหวงจื่อโหยวที่กัดฟันขาวเงินของนางแน่น ต้องการสอบถามหลินซวนออกมาเสียงดังจริง ๆ.
เจ้าที่บอกว่าจะแต่งกับข้าวันนั้น นี่คือวิธีการของเจ้าอย่างงั้นรึ?
นางที่ผ่อนลมหายใจยาว สงบใจ ท้ายที่สุดตงหวงจื่อโหยวก็ไม่เอ่ยอะไรออกมา.
ในเมื่อข้ายอมรับตัวตนของหลินซวนแล้ว ก็ควรยอมรับเรื่องนี้ของเขาด้วย ทำไมต้องร้อนรนกับเรื่องเช่นนี้ด้วยล่ะ?
ท้ายที่สุดแล้ว การเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา มีแต่นางเท่านั้นที่โกรธเกรี้ยว.
ทำไมยังคาดหวังอะไรอีก?
เป็นการดีที่จะไม่เอ่ยอะไรออกมา ยิ่งพูดมากก็เป็นนางที่โมโหสะเอง.
ตงหวงจื่อโหยว สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แทบจะไม่สามารถฝืนยิ้มออกมาได้: "ในเมื่อเจ้าไม่สนใจ งั้นก็ลืมมันเถอะ"
“อืม.”หลินซวนรู้สึกปวดศีรษะเช่นกันเมื่อเห็นหนังสือเหล่านี้.
ชีวิตมีไว้เพื่อความเพลิดเพลิน และเขายังมีระบบสนับสนุนที่ยอดเยี่ยม ทำไมต้องพยายามอะไรอีกล่ะ?
ดูเหมือนว่าตงหวงจื่อโหยวเพียงแค่ต้องการให้คำแนะนำกับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ และสุดท้ายแล้วการตัดสินใจก็ยังคงอยู่ในมือของเขาเอง.
ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะอ่านมันอย่างแน่นอน.
ทั้งสองกลายเป็นเงียบไปพักหนึ่ง บรรยากาศดูน่าขัดเขินอยู่เหมือนกัน.
ตงหวงจื่อโหยวแอบส่ายหน้า หันหลังแล้วเดินไปหาบุตรสาว
ในเวลานี้ โหรวหยิง เดินออกมาจากพื้นที่เงามืดและเอ่ยอย่างเคร่งขรึม: "ฝ่าบาท มีบางอย่างเกิดขึ้น!"
"เกิดอะไรขึ้น?" ตงหวงจื่อโหยว ถาม
โหรวหยิงรายงาน“ไท่จื่ออาณาจักรซ่างเยว่ อู๋ซือหยู แห่งเป่ยเสวียนเทียน ถูกไท่จื่อตู้จุนหมิง อาณาจักรดาราสวรรค์แห่งตงหยวนเทียน ลักพาตัวไป.”
ตงหวงจื่อโหยวที่ขมวดคิ้ว“ไท่จื่ออาณาจักรดาราสวรรค์ ลักพาตัวไท่จื่อแห่งซ่างเยว่ ต้นเหตุคืออะไร?”
โหรวหยิง เอ่ยว่า: "ว่ากันว่าเป็นเพราะไท่จื่อทั้งสองกำลังฝึกฝนอยู่ที่ชายแดนและบังเอิญพบกับกระบี่เซียน ทำให้พวกเขาต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงมัน "
“เดิมทีคนที่ได้รับรับก็คืออู๋ซือหยู ทว่าตู้จุนหมิงไม่เต็มใจ ที่จะยอมรับและท้าประลองกับอู๋ซือหยู”
“ตู้จุนหมิงไม่เพียงทุบตีอู๋ซือหยูอย่างหนัก ยังจับตัวเขาไปที่อาณาจักรดาราสวรรค์ และแจ้งกลับมาว่าอู๋ซือหยูทำร้ายเขา และอาณาจักรซ่างเยว่ ต้องจ่ายค่าชดเชยให้เขาเป็นจำนวนมาก.
“หึ!”ตงหวงจื่อโหยวแค่นเสียงด้วยความโกรธ“ตู้จุนหมิงคนนี้กล้าหาญมาก! เพียงแค่อาณาจักรดาราสวรรค์ของพวกเขา คงไม่กล้าอหังการขนาดนี้หรอก!”
โหรวหยิงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว“ฝ่าบาทเอ่ยถูกแล้ว เหตุผลที่อาณาจักรดาราสวรรค์ กล้าหยิ่งผยองนั้น เป็นเพราะว่าอาณาจักรพวกเขาเพิ่งส่งมอบน้องสาวของตัวเองให้กับจักรพรรดิตงหยวนให้เป็นนางสนมอีกฝ่าย.”
“ทำให้เรื่องนี้ยากที่จะจัดการ!”
ตงหวงจื่อโหยว ตะคอกออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ถ้ายากจะจัดการ ก็ใช้กำลังสิ!”
ตงหยวนเทียนดินแดนที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเป่ยเสวียนเทียน
ราชวงศ์ตงหยวนเทียนนั้นปกครองด้วยจักรพรรดิตงหยวน กงชิงชาง ที่ไม่เป็นมิตรแม้แต่รังเกียจเป่ยเสวียนเทียนเป็นอย่างมาก.
ส่วนเหตุผล.
ประการแรกเป็นเพราะกงชิงชางเคยสู่ขอ ตงหวงจื่อโหยวให้กับไท่จื่อคนที่สอง กงชิงหยู เพื่อให้แต่งงานกัน แต่ถูกปฏิเสธ ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างตระกูลกงและตระกูลตงหวง.
ประการที่สอง ดินแดนตงหยวนเทียนและหนานเสวียนเทียนนั้น มีความใกล้ชิดกันมาก ฉินซ่างแห่งหนานเสวียนเทียนนั้นก็ถูกปฏิเสธข้อเสนอการแต่งงานด้วยเช่นกัน.
ทำให้ตงหยวนเทียนและหนานเสวียนเทียนใกล้ชิดกัน.
แม้แต่รวมหัวตั้งเป้ามายังตงหวงจื่อโหยว.
ดังนั้นอาณาจักรดาราสวรรค์ที่มาสร้างปัญหาครั้งนี้ คงต้องการยั่วยุแม้แต่ต้องการให้เรื่องมาถึงตงหวงจื่อโหยวเพื่อออกมาแก้ไขปัญหา.
ในเมื่ออีกฝ่ายตั้งเป้ามายังนาง เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าใคร!
“ฝ่าบาท พระองค์ต้องการไปยังอาณาจักรดาราสวรรค์เพื่อช่วยคนหรือไม่?”โหรวหยิงเชื่อว่าจักรพรรดินิตงหวงจื่อโหยวจะต้องใช้กำลังเพื่อแสดงศักดิ์ศรีของนางแน่นอน.
ตงหวงจื่อโหยว เอ่ยอย่างเย็นชา: "แน่นอนว่าข้าต้องรับการท้าทายนี้,เจ้าลงมือได้เลย ข้าจะเป็นคนรับมือกับกงชิงชางเอง!”
โหรวหยิงที่เผยท่าทางตกใจ ดูเหมือนว่าฝ่าบาทต้องการใช้โอกาสนี้ปราบปราบจักรพรรดิตงหยวนแล้ว!
จากนั้นตงหวงจื่อโหยวก็หันกลับไปมองบุตรสาวทั้งสี่คนด้วยสีหน้าอ่อนโยน: "ธิดาที่รัก เสด็จแม่ คงต้องไปทำงานก่อนแล้ว"
“ตงลงเสด็จแม่ ระวังอย่าทำงานหนักเกินไป”
"ลาก่อนเสด็จแม่!"
“เสด็จแม่ไม่ต้องห่วง ไปทำงานเถอะ!”
“ใช่ ๆ เรามีเสด็จพ่อแล้ว ส่วนเสด็จแม่ไปทำงานได้เลย!”
เมื่อเห็นว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทั้งสี่สนิทและดูเอาใจใส่นาง ตงหวงจื่อโหยวก็เผยยิ้มอย่างมีความสุข: "ตกลง!"
มีเสื้อแจ็คเก็ตบุนวมเล็ก ๆ สี่คนที่มอบความอบอุ่นให้ ไม่ว่าข้างนอกลมจะแรงและฝนตกหนักแค่ไหน นางก็พร้อมลุย!
นางที่มองไปยังหลินซวนเล็กน้อยก่อนที่จะจากไปพร้อมกับโหรวหยิง
ไม่นานหลังจากที่นางจากไป มู่โหยวชิงก็ขี่เพกาซัสสีขาวมาหยุดที่พระราชวังหยก
หลังจากลงมาจากเพากาซัส มู่โหย่วชิงก็เข้ามาหาหลินซวนเอ่ยด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า: "เจี่ยฟู่เกอ สวัสดี!"
หลินซวนยิ้ม: "เจ้ามีอะไร หรือไม่?"
"ใช่ มีบางสิ่งที่สำคัญมาก!" มู่โหยวชิงเหลือบมองเด็กหญิงตัวน้อยทั้งสี่ "เสวียนจู่ มานี่สิ!"
"มีอะไรเกิดขึ้น?"
สาวน้อยที่วิ่งเข้ามาหา.
มู่โหยวชิงหยิบลูกอมสี่ก้อนออกมาแจกอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นมองไปที่หลินซวนแล้วเอ่ยออกมาว่า:
“พรุ่งนี้เช้า ข้าจะเข้าร่วมการประเมินกระบี่ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งจุดเริ่มต้น”
“ข้าได้แจ้งถางเจี่ยไปแล้ว ว่าจะพาเด็ก ๆ ไปดู!”
“เพราะที่นั่นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าและนางฝึกฝนกระบี่อยู่ นางจึงอยากให้เด็ก ๆ ได้สัมผัสกับบรรยากาศมานานแล้ว แต่นางก็ยุ่งกับงานราชกิจของแผ่นดินตลอดเวลา จนไม่มีเวลาเลย”
หลินซวน พยักหน้าเล็กน้อย ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งจุดเริ่มต้น คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเป่ยเสวียนเทียน ที่เชี่ยวชาญด้านกระบี่มากที่สุด.
ตามตำนาน กล่าวว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งจุดเริ่มต้นนั้นก่อตั้งมาประมาณหนึ่งล้านปีแล้ว.
ทุก ๆ 10,000 ปี จะปรากฏมือกระบี่ที่หายากปรากฏขึ้นเสมอ.
กล่าวได้ว่าเป็นดินแดนที่ลึกล้ำและทรงพลังมาก.
ไม่น่าแปลกใจเลยที่จักรพรรดิทุกพระองค์ของเป่ยเสวียนเทียน กระทั่งตงหวงจื่อโหยว จักรพรรดินิจะเลือกเรียนกระบี่ที่นั่น.
“วันนี้เจ้าจะเดินทางอย่างงั้นรึ?”หลินซวนถาม
"อืม!" มู่โหย่วชิงแสดงความชื่นชม ลูกพี่ลูกน้องของนางฉลาดมาก และเขาสามารถเห็นความคิดของนางได้ทันที
จากนั้นนางก็เอ่ยว่า: "ถางเจี่ยและข้าต่างก็นับว่าเป็นสาวกดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งจุดเริ่มต้น พวกเราสามารถฝึกฝนทักษะกระบี่ดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นั่นได้"
"เมื่อถางเจี่ยอายุ 14 ปี นางก็ได้เข้าสู่เขตแดนที่สาม ของแดนจิตกระบี่ได้แล้ว"
“ดังนั้นข้าจึงต้องไปก่อนเวลา หนึ่งก็เพื่อเตรียมตัวล่วงหน้า อีกอย่างก็ต้องการพาเด็ก ๆ ไปเล่นด้วย.”
หลินซวน พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจนัก "ไม่มีปัญหา"
การทดสอบกระบี่ ถือเป็นประสบการณ์ที่หายากสำหรับเด็ก ๆ เช่นกัน.
การพาพวกนางไปเปิดหูเปิดตา ก็เป็นหนทางที่สร้างความสนุกได้เช่นกัน.
เมื่อเห็น หลินซวน พยักหน้าเห็นด้วย มู่โหยวชิง ก็มีความสุขมาก:
“ข้ามีเพกาซัสสองตัว ตอนนี้ข้าจะเรียกอีกตัวมา!”
เอ่ยจบนางก็เงยหน้าขึ้นแล้วเป่านกหวีดขึ้นไปบนฟ้า
เพียงไม่นานก็มีแสงสีขาวสว่างขึ้นแวบหนึ่ง เพกาซัสที่มีปีกสีขาวราวกับหิมะก็บินร่อนลงมาอย่างสง่างาม
เมื่อเห็นว่าพวกนางกำลังจะได้ออกไปเล่นอีกครั้ง เด็กหญิงทั้งสี่ก็ดีใจมาก วิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว.
ก่อนขึ้นเพกาซัส เสวียนจู่ที่เอ่ยบางอย่างออกมา.
“เสี่ยวอี่(น้องสาวของภรรยา) ท่านจะเข้าร่วมการประเมินทดสอบ ข้าอยากให้ของขวัญแก่ท่านเพื่อช่วยเพิ่มโชค!”
เอ่ยจบว่านางหยิบกิ๊บทับทิมอันประณีตและหรูหราออกมาจากแหวน
“เสวียนจู่เจ้าใจดีมาก ขอบใจมาก!” มู่โหยวชิงหยิบกิ๊บขึ้นมาติดผมอย่างมีความสุข และโน้มตัวไปสัมผัสศีรษะน้อย ๆ ของเสวียนจู่
เสวียนซี, เสวียนหาน และ เสวียนหยู ก็มารวมตัวกันเมื่อเห็นพี่สาวให้ของขวัญเสี่ยวอี่
เสวียนซีหยิบขนนกกระเรียนสีขาวเนื้อดีออกมาแล้วยื่นไปข้างหน้า: "เสี่ยวอี่ รับนี่ ข้าขอให้ท่านประเมินการทดสอบสำเร็จ!"
"ขอบคุณ!" มู่โหยวชิงยิ้มอย่างมีความสุข
เสวียนหานหยิบดอกลิลลี่ที่แกะสลักจากหยกชั้นดีออกมา: "เสี่ยวอี่ ดอกลิลลี่หมายถึงความปรารถนาดี และข้าให้มันกับท่านด้วย!"
“ตกลงเสี่ยวอี่ยอมรับแล้ว!” มู่โหยวชิงรู้สึกหัวใจอ่อนโยนสั่นไหว เด็ก ๆ เอาใจใส่นางมาก.
เสวียนหยูเห็นว่าพี่สาวของนางมอบสิ่งดี ๆ มากมายออกไป
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่านางก็มีสิ่งที่พิเศษที่สุดเช่นกัน.
นางยื่นมือออกไปในอ้อมแขนของนางแล้วเอ่ยว่า "เสี่ยวอี่ ท่านพาเสี่ยวจิ่วไปด้วย การประเมินของท่านจะสำเร็จด้วยดี!"
ก่อนที่มู่โหยวชิงจะตอบได้ นางก็วางอสรพิษหลามนภาเก้าเศียรไว้ในมือของมู่โหยวชิงแล้ว
"กรี๊ดด!!!"
มู่โหยวชิงกรีดร้องด้วยความตกใจ เสียงของนางดังท่วมพระราชวังหยกทันที.