บทที่ 32 ตระกูลซ่ง ฉู่เฉิน
บทที่ 32 ตระกูลซ่ง ฉู่เฉิน
ซ่งเหยียนตกตะลึง
ผลกรรมของซ่งชิ่งเผิง มาถึงเร็วขนาดนี้?
เสียงกรีดร้องดังขึ้น
ซ่งชิ่งเผิงกลิ้งตัวอยู่บนพื้น ร้องขอความช่วยเหลือ
“งูดำตัวนี้มาก่อเรื่องอีกแล้ว” ฉู่เฉินวิ่งเข้าไป เตะก้นของซ่งชิ่งเผิงอยู่หลายครั้ง
ซ่งชิ่งเผิงส่งเสียงร้องที่น่าเวทนาเหมือนหมู
“ฉู่เฉิน หยุดนะ” ซ่งมู่หยางวิ่งเข้ามาอย่างดุร้าย มีบอดี้การ์ดหลายคนเดินตามหลังมา
ซ่งมู่หยางมองไปที่ซ่งชิ่งเผิงที่กำลังร้องโอดครวญอยู่บนพื้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยโทสะ “ซ้อมมัน”
บอดี้การ์ดหลายคนวิ่งเข้าไป...
“ฉันอยากจะดูว่าใครกล้า” ซ่งเหยียนตะโกนออกมา “ฉู่เฉินเป็นลูกเขยของตระกูลซ่ง ใครกล้ายุ่งกับเขา ฉันจะไล่ออกจากตระกูลซ่ง”
สีหน้าของบอดี้การ์ดหลายคนเปลี่ยนไป
“แค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน ฉันจะสั่งสอนมันหน่อย มีปัญหาอะไร?” ซ่งมู่หยางมีสีหน้าที่ดุร้าย เดินเข้าไปหาฉู่เฉิน ถ้าไม่มีใครกล้าลงมือ งั้นเขาก็จะลงมือเอง
“คุณซ่ง อย่าเข้าใจผิด ฉันกำลังช่วยเขา” ฉู่เฉินมีสีหน้าที่สงบนิ่ง “ก้นของน้องเผิงถูกงูกัด ฉันวิ่งเข้าไปเหยียบอยู่หลายครั้ง เพื่อเหยียบงูให้ตาย ถ้าไม่งั้น ใครจะไปรู้ว่างูดำตัวเล็กๆ ตัวนี้จะเลื้อยเข้าไป...ผลลัพธ์คงจะไม่คาดคิด”
สีหน้าของซ่งมู่หยางมืดมนลงในทันที
“อ๊า!” ซ่งชิ่งเผิงกำลังจะสลบไปด้วยความเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้เขาทนไม่ไหว “รีบให้พี่สองมาช่วยฉัน”
ฉู่เฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย
ดูเหมือนว่า เขาจะรู้แล้วว่า เจ้าของงูวิเศษมนตร์ดำเป็นใคร
ซ่งมู่หยางรีบเดินเข้าไป เห็นงูดำที่ตายสนิทอยู่บนพื้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป รีบอุ้มซ่งชิ่งเผิงเดินจากไป
“ภรรยาจ๋า ฉันบอกแล้วไงว่า เขาจะต้องได้รับผลกรรม” ฉู่เฉินยิ้มพลางกล่าว
ซ่งเหยียนมองดู “แปลก ทำไมอาสองถึงได้พากลับบ้าน”
“บางทีคุณซ่งอาจจะมียาสมุนไพรที่สืบทอดกันมาในตระกูล มันอาจสามารถระงับพิษงูได้” ฉู่เฉินเปิดวิดีโอที่ตัวเองถ่ายเอาไว้ดู
ซ่งเหยียนเริ่มคุ้นเคยกับการเชื่อคำพูดของฉู่เฉินครึ่งหนึ่ง
บ้านฝั่งตรงข้ามทะเลสาบซ่ง ห้องโถงชั้นหนึ่ง
เสียงกรีดร้องของซ่งชิ่งเผิงยังคงไม่หยุด ซ่งชิ่งเหอเดินลงมาจากชั้นบน รีบเดินไปหาซ่งชิ่งเผิง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป “นายถูกงูกัดตรงไหน?” ตั้งแต่งูวิเศษมนตร์ดำกัดเย่เส้าหวง ซ่งชิ่งเหอก็ขาดการติดต่อกับงูวิเศษโดยสิ้นเชิง
“ที่ริมทะเลสาบครับ” เสียงของซ่งชิ่งเผิงสั่นเทา ริมฝีปากของเขามีเลือด “พี่สอง รีบช่วยผมแก้พิษงู”
งูวิเศษเป็นของซ่งชิ่งเหอเอง การที่จะแก้พิษงูก็ง่ายมาก
หลังจากที่แก้พิษงู ซ่งชิ่งเผิงก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ทรุดตัวลงบนโซฟา ความเจ็บปวดที่รุนแรงนั้น ทำให้เขารู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น ไม่แปลกใจเลยที่แม้แต่เย่เส้าหวงก็ยังทนไม่ไหว กลิ้งตัวอยู่บนพื้น
“งูวิเศษอยู่ไหน? พาฉันไปดู” ซ่งชิ่งเหอกังวลใจเล็กน้อย การเลี้ยงดูงูวิเศษมนตร์ดำตัวหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ในมือของเขามีงูวิเศษมนตร์ดำแค่ตัวเดียว นั่นคือแก้วตาดวงใจของเขา
สีหน้าของซ่งชิ่งเผิงดูโหดเหี้ยม โกรธ “ถูกฉู่เฉินเหยียบตาย พี่สองดูที่ก้นของผมสิ ยังมีรอยเลือดของงูวิเศษอยู่”
ซ่งชิ่งเหอกำหมัดแน่นทันที โทสะพลุ่งพล่าน “ฉู่เฉิน แกกล้าฆ่างูวิเศษของฉัน”
“จะจัดการกับฉู่เฉิน ง่ายมาก” ซ่งมู่หยางไม่สนใจ หันไปพูดว่า “ตอนนี้เผิงเอ๋อไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว บอกข่าวดีให้พวกลูกฟัง พี่ใหญ่ของพวกลูกเอาชนะใจคุณหนูรองของตระกูลหวงได้แล้ว เช้านี้ คุณปู่ของตระกูลหวงจะพบกับพี่ใหญ่ของพวกลูก”
“เยี่ยมไปเลย” ซ่งชิ่งเผิงลืมความเจ็บปวดที่บาดแผลตรงก้น กระโดดขึ้นมาทันที ตื่นเต้นมาก “ครั้งหน้าที่เจอคุณหนูรองของตระกูลหวง จะได้เรียกว่าพี่สะใภ้แล้ว”
“ซ่งเสียหยางกับครอบครัว คิดจะเอาใจตระกูลเย่อย่างเดียว พวกเขาคงจะฝันไม่ถึงว่า อีกไม่นานพวกเราจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันกับตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองฉาน” อารมณ์ของซ่งมู่หยางในวันนี้ดีอย่างเห็นได้ชัด เมื่อกี้เขาเดินไป ก็คืออยากจะบอกเรื่องน่ายินดีนี้ให้คุณปู่ฟัง ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญเจอซ่งชิ่งเผิงถูกงูกัด
ตระกูลหวงแห่งเมืองฉาน มีชื่อเสียงว่าเป็น ‘ตระกูลอันดับหนึ่ง’ มายาวนาน
ช่วงนี้ ตระกูลหวงยิ่งพัฒนาอย่างรวดเร็ว เหมือนกับโกงเกม ยังมีคำพูดหนึ่งที่ว่า แค่มีคนอยู่ที่เมืองฉาน ก็จะมีธุรกิจของตระกูลหวง
หวงเจียงหง คุณปู่ของตระกูลหวง แค่กระทืบเท้า แรงสั่นสะเทือนก็ยังสามารถส่งผลกระทบไปถึงเมืองหยางข้างๆ
...
ในตอนนี้ คนที่กำลังถูกพูดถึง สวมชุดจีนสีขาว อยู่ภายในห้องทำงาน คนรับใช้สองคนของตระกูลหวงกำลังคลี่ภาพอักษรพู่กันจีนแผ่นหนึ่งออก
“ไม่น่าดู” หวงเจียงหงถอนหายใจ เขาโบกมือ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง
เขาประกาศรับสมัครคำอวยพรทั่วทั้งเมือง อยากจะใช้โอกาสนี้ ชื่นชมอักษรพู่กันจีนของแต่ละตระกูล
แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
“ลายมือเหมือนไก่เขี่ย” หวงเจียงหงส่ายหน้า
หน้าประตูห้องทำงาน ชายหนุ่มในชุดดำ คิ้วเหมือนดาบ ดวงตาเหมือนดวงดาว เดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย “คุณปู่”
หวงเจียงหงโบกมือ “หยู่ไห่ หลานมาได้พอดี มาดูอักษรพู่กันจีนพวกนี้กับปู่สิ”
ชายหนุ่มคนนี้คือหวงหยู่ไห่
ในบรรดาลูกหลานรุ่นเยาว์ของตระกูลหวง หวงหยู่ไห่ไม่ได้โดดเด่นที่สุด แต่เมื่อหลายปีก่อน หวงหยู่ไห่ถูกผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งสนใจ รับเป็นศิษย์สำนักลึกลับ ทำให้สถานะของหวงหยู่ไห่ในตระกูลหวงสูงขึ้นเยอะ
“ก่อนที่หลานจะกลับมา ได้ยินว่าคุณปู่ประกาศรับสมัครคำอวยพรทั่วทั้งเมือง” หวงหยู่ไห่เอ่ยปาก “หลายปีมานี้ ภายใต้การสอนอย่างเอาใจใส่ของอาจารย์ ความสามารถในการเขียนพู่กันจีนของหลานก็พัฒนาขึ้นเยอะ หลานตั้งใจเขียนอักษรพู่กันจีนแผ่นหนึ่งกลับมา ขอให้คุณปู่ช่วยชี้แนะ”
“เปิดดูหน่อย” ดวงตาของหวงเจียงหงเป็นประกาย เขาเป็นคนที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ ชอบทั้งศิลปะการต่อสู้และพู่กันจีน ส่วนหวงหยู่ไห่ในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่ามีคุณสมบัติทั้งสองอย่าง
หวงหยู่ไห่มั่นใจ บอกให้คนรับใช้สองคนคลี่พู่กันจีนแผ่นนี้ออก
เขามั่นใจมาก
อักษรพู่กันจีนแผ่นนี้ เขียนโดยผู้อาวุโสในสำนักก่อนที่เขาจะกลับบ้าน
ต้องถูกเลือกเป็น ‘คำอวยพร’ แน่ๆ จะโดดเด่นในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของงานฉลอง
“อักษรพู่กันจีนที่ดี” หวงเจียงหงชื่นชมไม่หยุด สายตาที่เขามองหวงหยู่ไห่ก็ยิ่งชื่นชม “หยู่ไห่ ไม่คิดเลยว่า ความสามารถในการเขียนอักษรพู่กันจีนของหลานจะไปถึงขั้นนี้แล้ว คนรุ่นใหม่ของเมืองฉาน ไม่ว่าจะเป็นบุ๋นหรือบู๊ มีไม่กี่คนที่เทียบกับหลานได้”
หวงหยู่ไห่ดีใจในใจ สีหน้าของเขาดูถ่อมตัว
“หยู่ไห่ยังต้องฝึกฝนอีกเยอะครับ”
หวงเจียงหงหัวเราะออกมา “ลูกหลานของตระกูลหวง ไม่ต้องถ่อมตัวขนาดนั้น หลานมาดูสิ อักษรพู่กันจีนที่ส่งมาสองวันมานี้ เทียบกับของหลานแล้ว ไม่น่าดูเลย”
พูดจบ หวงเจียงหงก็หยิบอักษรพู่กันจีนแผ่นหนึ่งขึ้นมาส่งๆ บอกให้คนรับใช้คลี่ออก
“หลานดูสิ พวกเขาเขียนอักษรพู่กันจีน เหมือนกับขีดเขียนมั่วๆ” สายตาของหวงเจียงหงเหลือบมองไป คำพูดของเขาก็หยุดชะงัก ตกตะลึงในทันที
หวงหยู่ไห่มองไป จิตใจของเขาก็สั่นสะท้าน เสียกิริยาเล็กน้อย “หารือเรื่องการครองแผ่นดินอย่างผ่อนคลาย ไม่สู้ใช้ชีวิตอย่างเมามาย”
ห้องทำงานเงียบลงในทันที
ครู่หนึ่งต่อมา
หวงเจียงหงเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว มองดูทีละตัวอักษร ดวงตาของเขาเป็นประกาย ตื่นเต้นมาก “ดี! ดี! ดีมาก!”
สายตาของเขามองไปที่อักษรพู่กันจีนแผ่นนี้ด้วยความร้อนแรง
เขาประกาศรับสมัครคำอวยพรทั่วทั้งเมือง ก็เพื่อที่จะหาอักษรพู่กันจีนแบบนี้
อักษรพู่กันจีนแผ่นนี้ แสดงความรู้สึกที่เขาอยากจะแสดงออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในตอนนี้ หวงเจียงหงรู้สึกว่า นอกจากอักษรพู่กันจีนแผ่นนี้แล้ว แผ่นอื่นๆ ก็เหมือนกับขีดเขียนมั่วๆ รวมถึงแผ่นที่หวงหยู่ไห่หยิบออกมา ก็ยังเทียบไม่ได้
หวงหยู่ไห่อยากจะกระอักเลือด ดีใจได้ไม่ถึงหนึ่งวินาที เขาก็ถูกโจมตีทันที
สูดหายใจเข้าลึกๆ ซ้ำๆ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป สายตาของเขาเผลอมองไปที่ด้านล่างสุดของอักษรพู่กันจีนแผ่นนี้ “ตระกูลซ่ง ฉู่เฉิน”