ตอนที่6 ไม่รู้ตัว(ลักหลับ)
"พรุ่งนี้ครับ...พวกผมต้องขอตัวกลับโรงแรมก่อน"
นิโคลัสพอจะโล่งใจได้บ้างที่ทองม้วนดูจะถอดใจแล้วตอนนี้เขาก็เห็นว่ามันเย็นมากแล้วจึงถือโอกาสนี้ขอตัวกลับไปที่โรงแรมเสียก่อนที่ฟ้าจะมืด
"ถ้าไม่รังเกียจก็นอนเสียที่นี่เถอะนะ..."
พนากับมาลีถึงกับมองหน้ากันเพราะรู้ได้แน่ชัดว่าแม่ตนต้องมีแผนการอะไรแน่นอนไม่อย่างนั้นคงไม่ชวนคนแปลกหน้าที่พึ่งเจอนอนที่บ้าน
นิโคลัสเองก็ชะงักไปครู่หนึ่งอันที่จริงเขาไม่ได้อยากรบกวนอะไรคนที่บ้านนี้แต่คำว่าถ้าไม่รังเกียจของผู้อาวุโสทำให้เขาต้องจำใจทำตามคำขอ
"เอ่อ..ก็ได้ครับ"
ครู่ต่อมา
หลังจากนิโคลัสตกลงที่จะพักที่นี่ทองม้วนและพนาจึงเข้าครัวเพื่อทำอาหารเพิ่มให้กับสามหนุ่ม
"แม่จะทำอะไรกันแน่"
พนาที่กำลังลงมือผัดข้าวผัดเมนูที่คิดว่าต่างชาติน่าจะทานได้ถูกปากเขาหันมาถามคนเป็นแม่ที่กำลังบดามุนไพรอะไรบางอย่างด้วยรอยยิ้มอ่อน
"เอ็งรู้เหรอไอ้ฑิต"
ทองม้วนหันมามองหน้าลูกชายเธอด้วยรอยยิ้มเช่นกันทั้งยังเอ่ยเสียงเบาทำท่าลับลมคมใน
"ฉันลูกแม่นี่นา"
"รู้ก็ดีแล้วเอ็งเอาไอ้นี่ไปใส่ในน้ำสามคนนั้นนะ"
ว่าจบก็วางสมุนไพรลงบนผ้าขาวบางแล้วบีบผสมน้ำนิดหน่อย
"อะไรเหรอแม่"
พนาทำสีหน้าแปลกใจเพราะเขาเองก็พึ่งเห็นคนเป็นแม่ทำอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก
"สมุนไพรช่วยให้หลับลึกช่วยให้อะไรๆมันง่ายขึ้นไง"
"อ๋อ.."
พนาพยักหน้าเข้าใจตอนนี้เขายิ่งทึ่งในตัวคนเป็นแม่มากขึ้นกว่าเดิมเสียอีกมิน่าคนแถบนี้จึงให้ฉายาหมอตำแยไม่ใช่เป็นหมอทำคลอดแต่เป็นคนที่มีลูกล่อลูกชนที่แพรวพราวหากใครดีมาก็ดีตอบใครร้ายมาก็เอาคืนได้อย่างเจ็บแสบ
สองชั่วโมงต่อมา
หลังจากเวลาอาหารเย็นได้เกือบชั่วโมงตอนนี้ทั้งสามหนุ่มหลับไม่รู้เรื่องอยู่ในห้องมาลีกับพนาจึงช่วยกันแบกร่างนิโคลัสเข้ามาในห้องคนเป็นลูกสาวอย่างทุลักทุเล
"เฮ้อ.. เรียบร้อย"
เมื่อวางร่างใหญ่ลงบนเตียงสีชมพูของลูกสาวตนได้พนากับมาลีถึงกับปาดเหงื่อ
"เอาแบบนี้จริงเหรอย่าจะได้ผลใช่ไหม"
เกวรินทร์เขียนบอกกับย่าตนด้วยสีหน้ากังวลเธอไม่รู้ว่าแผนการของย่าเธอจะทำให้เธอหายจากอาการนี้หรือไม่เพราะนิโคลัสไม่ได้เต็มใจแถมพวกเธอยังกระทำการโดยที่เขาไม่รู้ตัวเหมือนการลักหลับอีกด้วย
"ก็ต้องแบบนี้แหละ...เราสองคนเตรียมพิธีผูกข้อไม้ข้อมือเลย"
ทองม้วนเท้าเอวพยักหน้าและรีบสั่งให้ลูกชายและลูกสะใภ้เตรียมด้ายมาผูกข้อไม้ข้อมือนิโคลัสและหลานสาวเธอโดยเร็ว
"จ่ะแม่"
พนาและมาลีลุกรี้ลุกรนเตรียมการจนเสร็จโดยใช้เวลาไม่นานนัก
ครู่ต่อมา
ตอนนี้เกวรินทร์นั่งมองนิโคลัสอยู่ข้างๆเขาบนเตียงขณะที่พ่อแม่และย่าเธอกำลังทำการสู่ขอกันเป็นพิธี
หญิงสาวเอ่ยขอโทษชายหนุ่มในใจแต่ยังไงเธอก็ต้องเอาตัวเองรอดก่อนแม้นจะรู้ว่าหากนิโคลัสตื่นมาคงโวยวายแต่พิธีก็ได้เสร็จสิ้นไปแล้วเรื่องการรับมือกับเขาเธอค่อยว่ากันอีกที
"ไอ้ฑิตเราเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวมาลีเราเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว..เอาเงินเก้าบาทมากองสู่ขอกันซะเสร็จแล้วจะได้ผูกข้อไม้ข้อมือ"
ทองม้วนเป็นคนจัดแจงทุกอย่างหลังจากทำการสู่ขอกันเรียบร้อยทองม้วนจึงเริ่มการผูกข้อไม้ข้อมือหลานสาวเธอกับนิโคลัสต่อด้วยมาลีและพนาทุกคนในตอนนี้ต่างก็ใจจดใจจ่อว่าการครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่แต่ในใจลึกๆทุกคนก็เชื่อว่ายังไงเกวรินทร์ก็ต้องหาย
"อีหนูจุดธูป16ดอกบอกเค้าสิลูกว่าเราได้แต่งงานเรียบร้อยแล้ว"
"จ่ะย่า"
เกวรินทร์รีบรับธูปที่คนเป็นย่าส่งมาให้เดินลงจากบ้านพร้อมไฟแช็คสีเหลืองหนึ่งอันไปที่หน้าต้นไม้ใหญ่
"หวังว่าจะหายนะ...ขอแก้หนึ่งข้อก่อนแล้วกันนะเจ้าคะ"
สาวเจ้าคิดในใจขณะจุดธูปเธอรู้ว่าตอนนี้เธอยังคงแก้บนไม่ครบแต่ยังไงก็ได้ถือว่าทำตามสัจจะหนึ่งข้อแล้วยังไงก็ภาวนาให้เธอหายจากอาการนี้ก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน
หลังจากธูปติดสาวเจ้าก็นั่งหลับตาพนมมืออธิษฐานบอกชื่อนามสกุลและคำที่เธอเคยบนบานเอาไว้เมื่อไหว้เสร็จเกวรินทร์ก็กลับขึ้นมาบนบ้านนั่งรวมกลุ่มกับพ่อแม่และย่าของเธอทั้งสามใจจดใจจ่อมองไปที่เกวรินทร์ที่กำลังพยายามเปล่งเสียงแต่ก็ไม่เห็นจะเป็นผล
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ฟู่วววว...
จากที่คืนนี้เป็นคืนที่เงียบเชียบไม่มีแม้แต่เสียงลมและหรีดหริ่งเรไรจู่ๆลมแรงก็พัดมาวูบหนึ่งทำให้ทุกคนขนลุก
"ไอ้ฑิตชะเง้อดูซิธูปหมดยัง"
ทองม้วนเห็นว่านี่น่าจะเป็นสัญญาณอะไรบางอย่างจึงให้พนาเดินไปที่ชานเรือนเพื้อที่ชะเง้อดูธูปที่หลานสาวเธอปักว่าไฟแดงๆที่ธูปหมดหรือยัง
"ธูปก็ดับหมดแล้วทำไมเจ้าเกวมันยังพูดไม่ได้ล่ะแม่"
สีหน้าพนาไม่ค่อยสู้ดีนัก