ตอนที่5
ครู่ต่อมา
"พร้อมแล้วใช่ไหมจ้ะหนูวิ"
หลังจากที่วรรณวารีออกไปแล้วราณีก็หันมามองหญิงสาวที่ใส่ชุดเดรสชมพูหวานที่เธอซื้อให้อย่างชื่นชมเพราะหญิงสาวดูน่ารักราวกับตุ๊กตาก็ว่าได้
"ค่ะคุณน้า"
วิวาห์รินทร์พยักหน้าด้วยรอยยิ้มเธอพร้อมที่จะทำงานมานานแล้ว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
"ออฟฟิศเราจะอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมนะจ้ะ"
"ค่ะคุณน้า"
เมื่อรถตู้คันหรูมาจอดทางด้านหลังโรงแรมได้ราณีก็พาวิวาห์รินทร์เข้าทางด้านหลังโรงแรมและขึ้นลิฟท์ผู้บริหารไปที่ชั้นออฟฟิศทันทีเพราะอยากพาหญิงสาวไปแนะนำให้ลูกชายเธอรู้จักแย่แล้วหวังว่าทั้งสองจะร่วมงานกันได้เป็นอย่างดี
"สวัสดีค่ะคุณท่าน"
ปรางค์ทิพย์เลขาของราณีวัย30ปีที่พึ่งรับมาใหม่เห็นราณีและหญิงสาวอีกคนเดินเข้ามาก็รีบยกมือสวัสดี
"สวัสดีจะตารันอยู่ในห้องหรือเปล่า"
ราณีรับไหว้และถามหาลูกชายเธอทันที
"ท่านรองรอคุณท่านอยู่ค่ะ"
ก๊อกๆๆ
"เชิญค่ะคุณท่าน"
ปรางค์ทิพย์เคาะประตูและเปิดให้ทั้งสองเข้าไปในห้องของรองประธานเสร็จแล้วจึงกลับไปทำหน้าที่ของตน
"ตารัน"
ราณีเห็นลูกชายเธอเอาแต่จ้องจอคอมจึงเรียกด้วยรอยยิ้ม
"มากันแล้วเหรอครับ"
พารันเงยหน้ามามองคนเป็นแม่ทั้งคนที่เดินตามหลังแม่ของเขามายิ่งทำให้เขาตกใจจนชะงักงัน
"นี่หนูวิที่แม่จะให้มาเป็นเลขาของลูกน่ะจะ"
ราณีรีบแนะนำวิวาห์รินทร์ให้พารันได้รู้จักเธออมยิ้มเบาๆที่เห็นว่าลูกชายเธอมองหญิงสาวตาไม่กระพริบ
"ส..สวัสดีค่ะ"
วิวาห์รินทร์ตัวชาวาบไม่คิดว่าจะได้เจอพารันที่นี่เธอรีบยกมือสวัสดีอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักและทำตัวปกติเพื่อไม่ให้ราณีรู้ว่าเธอรู้จักกับพารันมาก่อนไม่คิดว่าโลกจะเหวี่ยงเธอมาเจอกับเขาอีกเพราะอุตส่าห์หนีกลับมาที่ไทยแล้ว
"สวัสดีครับเชิญนั่งกันก่อนสิครับ"
พารันเห็นว่าหญิงสาวทำท่าทีไม่รู้จักเขาตัวเขาเองก็จะเล่นตามน้ำไม่กระโตกกระตากอะไรเพราะก็ไม่ได้อยากอธิบายเรื่องราวของเขากับเธอให้แม่เขาๆด้ฟังเช่นกัน
"ยังไงเราก็สัมภาษณ์หนูวิไปก่อนก็แล้วกันนะแม่ขอตัวก่อน"
ราณีเห็นทีหมดหน้าที่ของเธอแล้วเธอจึงขอตัวออกไปก่อนและให้พารันที่จะเป็นเจ้านายหญิงสาวคุยกันเอง
"เอ่อ.."
วิวาห์รินทร์ใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อรู้ว่าจะต้องอยู่ห้องนี้กับพารันสองต่อสองเธอน่าจะถามรายละเอียดก่อนที่จะรับปากทำงานให้ราณีไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องมาเจอชายหนุ่มที่นี่
"ครับคุณแม่"
พารันเอ่ยรับปากคนเป็นแม่ด้วยสายตามีเลศนัย
"........"
เมื่อราณีไปแล้วในห้องก็มีแต่ความเงียบหญิงสาวเองก้มหน้างุดเธอไม่อยากจะเอ่ยสนทนาอะไรกับชายหนุ่มตรงหน้าเธอทั้งนั้นหากไม่ติดว่าเธอเกรงใจราณีเธอคงปฏิเสธจะทำงานและเดินออกไปแล้ว
"โลกกลมจังเลยนะ...ไม่คิดจะทักทายกันเลยหรือไง"
พารันไม่ค่อยชอบใจนักที่หญิงสาวเอาแต่เงียบและก้มหน้าไม่รู้ว่าหน้าของเขามันไม่มีอะไรน่ามองขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร
"นี่เอกสารของฉันค่ะ"
วิวาห์รินทร์ยื่นเอกสารประวัติของเธอให้ตรงหน้าชายหนุ่มตามระเบียบที่พนักงานจะต้องทำ
"อืม...แล้วคุณกับแฟนใหม่ยังคบกันดีอยู่ไหม"
พารันไม่ได้สนใจเอกสารตรงหน้าเลยสักนิดเพราะประวัติของเธอเขารู้มาหมดแล้วเพราะตอนอยู่ซิดนี่ย์เธอก็เป็นเลขาให้เขาและเขาก็มีสัมพันธ์กับเธอจนถึงขั้นจะแต่งงานแล้วด้วยแต่ก็มีเหตุอันให้ต้องเลิกรากันไป
เขาจึงเอ่ยประชดหญิงสาวเรื่องผู้ชายคนใหม่ของเธอขึ้น
"คุณล่ะคะมีความสุขกับแฟนใหม่ดีหรือเปล่า"
วิวาห์รินทร์ไม่ได้ตอบเรื่องแฟนใหม่เพราะเธอไม่เคยมีและรู้ว่าเขาต้องการกวนประสาทเธอตัวเธอเองจึงย้อนถามเขากลับคำถามที่เธอถามเองแต่ก็รู้สึกเจ็บในใจเอง
"ผมถามคุณ"
พารันเอ่ยเสียงแข็งเขาไม่รู้ว่าเธอเอาเรื่องอะไรมาพูดกล่าวหาเขาครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งที่เขาไม่ได้มีคนอื่นเป็นเธอต่างหากที่นอกใจเขาและบอกเลิกเขาเองด้วยเหตุผลที่ว่าเขามีคนอื่น
"ฉันคิดว่าคำถามมันไม่เกี่ยวกับเรื่องงานค่ะเลยไม่อยากตอบ"
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเอ่ยเสียงแข็งวิวาห์รินทร์ก็เริ่มไม่ชอบใจแล้วเหมือนกัน
"คุณคิดว่าคุณมีประสิทธิภาพพอที่จะทำงานกับผมหรือเปล่า"
พารันยืนขึ้นทั้งอ้อมมาหาหญิงสาวและกอดอกถามเธอ
"ฉันเคยทำงานแบบนี้มาก่อนฉันทำได้ค่ะหรือถ้าเป็นงานอย่างอื่นฉันก็ทำได้เหมือนกันค่ะ"
วิวาห์รินทร์ไม่แม้แต่จะหันหน้าไปหาเขาเธอตอบเสียงปกติโดยมองแค่เก้าอี้เปล่าของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอเท่านั้น
"รู้จักกับแม่ผมได้ยังไง"
พารันยังสงสัยกับข้อนี้อยู่ไม่หาย
"ฉันกับน้องบังเอิญช่วยท่านเอาไว้จากคนร้ายค่ะ"
วิวาห์รินทร์ตอบไปตามความจริง
"คุณแม่ไม่เห็นบอกผม"
พารันขมวดคิ้วเล็กน้อยแม่เขาไม่เห็นจะบอกเรื่องนี้เลย
"อืม...งั้นงานวันนี้คุณก็จัดห้องนี้ให้เรียบร้อยก็แล้วกัน"
พารันหาเรื่องแกล้งหญิงสาวที่ทำท่าอวดดีกับเขาจะดูซิว่าเธอจะเอ่ยปฏิเสธหรือไม่
"ค่ะ"
วิวาห์รินทร์รับคำชายหนุ่มหากเขาสั่งเธอก็จะทำ
"ส่วนโต๊ะทำงานของคุณเดี๋ยวผมจะให้คนย้ายเข้ามาด้านใน"
พารันที่คราแรกคิดว่าหญิงสาวจะปฏิเสธกลับอวดดีกับเขาต่อจึงหาเรื่องแกล้งเธอเพราะรู้ว่าเธอคงอึดอัดไม่น้อยที่ต้องอยู่ในห้องนี้กับเขา
"ฉันไม่ได้ต้องนั่งหน้าห้องเหรอคะ"
วิวาห์รินทร์ถึงกับหน้าเสียหากเธอต้องมานั่งเห็นหน้าเขาทั้งวันในห้องแบบนี้จะพาเธอตัดใจยากขึ้นไปอีก
"อยู่ในห้องผมนี่แหละจะได้ใช้งานง่ายๆ"
พารันเห็นสีหน้าหญิงสาวก็แอบยิ้มมุมปากเล็กน้อยไม่อยากมองหน้าเขานักก็อยู่ด้วยกันมันเสียในนี้เลย