ตอนที่5 ไม่ยอมแต่ง
เกวรินทร์พยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบ
“เอ่อ...เราคุยกับเค้าแล้วเหรออีหนูเค้าถึงได้มาที่นี่”
ทองม้วนเอ่ยถามหลานสาวเธอด้วยความใจชื้น
“เปล่าจ่ะย่า...เค้ามาเอง”
“อ้าวเรอะ...แต่ก็ดีแล้ว..มาได้จังหวะเหมาะเจาะพอดีเลย”
เมื่อได้เพ่งสายตาอ่านตัวหนังสือที่หลานสาวเขียนก็ใจแป้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เป็นผลอะไรหากยังไม่รู้วันนี้ชายหนุ่มมาถึงที่นี่แล้วเดี๋ยวก็ได้รู้เอง
“สวัสดีทุกคนครับ”
นิโคลัสเดินตามพนามายืนต่อหน้าทุกคนดวงตาคมของเขาเหลือบมองไปที่หญิงสาวร่างบางที่นั่งอยู่ข้างคนเป็นแม่ด้วยสายตาคาดโทษก่อนจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงหน้าลูคัสกับโอดินเองก็ยกมือไหว้ตามเจ้านายตนไปด้วยมาบ้านเมืองของคนอื่นเขาก็ต้องทำตามประเพณีของบ้านเมืองคนอื่นเช่นกัน
“นี่มาลีภรรยาผมแม่เจ้าเกวส่วนนี่ก็แม่ผมชื่อทองม้วน...คุณนิโคลัสเค้าจะมารับเจ้าเกวไปทำงาน”
พนารีบแนะนำตัวทั้งเมียและแม่ให้นิโคลัสได้รู้จักก่อนจะบอกจุดประสงค์ของนิโคลัสให้ทุกคนได้รับรู้
“ก่อนจะไปช่วยอะไรหลานฉันอย่างได้หรือเปล่า”
มาลีและทองม้วนรับไหว้ชายทั้งสามและเป็นทองม้วนเองที่เอ่ยปากออกมาถึงเรื่องที่กำลังร้อนรุ่มในใจอยู่ตอนนี้เธออยากจะเจรจาเสียให้มันจบๆหลานเธอจะได้พ้นจากเรื่องร้ายๆเสียที
“อะไรเหรอครับ”
นิโคลัสมีสีหน้าแปลกใจพอสมควรที่เห็นหญิงชราตรงหน้าเอ่ยปากกับเขาเรื่องขอความช่วยเหลือ
ครู่ต่อมา
"ผมคงช่วยพวกคุณไม่ได้หรอกครับ"
ชายต่างชาติทั้งสามที่ได้ยินคำขอของทองม้วนต่างก็ตกใจกันตามๆกันดูคนที่จะตกใจที่สุดเห็นจะเป็นนิโคลัสเพราะเขาคิดว่ายังไงก็คงจะทำตามคำร้องขอของทองม้วนและทุกคนไม่ได้
เกวรินทร์ตอนนี้ก็หน้าเสียอยู่ไม่น้อยเธอรู้ว่ายังไงเธอก็ต้องได้รับคำตอบที่น่าผิดหวังแต่ยังไงเธอก็คิดว่าครั้งนี้ยังไงเธอก็จะต้องทำให้ตัวเองได้เข้าพิธีแต่งงานให้ได้เพราะไม่อยากเจออะไรร้ายๆอีกแล้ว
"คุณต้องช่วยลูกฉันนะคะไม่อย่างนั้นลูกฉันก็จะพูดไม่ได้อยู่แบบนี้"
มาลีอ้อนวอนนิโคลัสอีกครั้งหวังว่าเขาจะเห็นใจแม้นคำขอของเธอจะดูเห็นแก่ตัวก็เถอะ
"ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องแปลก...แต่หลานฉันออกจะสาวจะสวยทำไมไม่อยากได้เป็นเมียกันล่ะ"
ทองม้วนเอ่ยเสริมมาลีอีกแรง
"เธอไม่มีเสียงทำไมไม่ลองพาไปหาหมอครับเชื่อเรื่องพวกนี้จนงมงายเกินไปหรือเปล่าครับ"
นิโคลัสแทบกุมขมับไม่คิดว่ายังจะมีคนเชื่อเรื่องอะไรแบบนี้อยู่อีก
"ก็ฉันพาเจ้าเกวไปหาพระมาแล้วท่านบอกว่าเป็นเพราะยังไม่ได้แก้บน...”
ทองม้วนเริ่มเท้าเอวขึ้นเสียงเล็กน้อยเพราะดูท่านิโคลัสจะไม่เชื่อเรื่องที่พวกเธอนั้นเชื่อ
“ผมขอคุยกับเกวเป็นการส่วนตัวสักเดี๋ยวนะครับ”
ชายหนุ่มรีบดึงมือเกวรินทร์ออกจากตรงนี้ไปคุยกันตามลำพังเพราะดูท่าแล้วทั้งพ่อแม่และย่าของเกวรินทร์ก็จะคะยั้นคะยอให้เขาแต่งกับเกวรินทร์ให้ได้
“ช่วยฉันหน่อยนะคะ”
เมื่อเดินตามนิโคลัสมาข้างบ้านได้หญิงสาวก็รีบเขียนขอความช่วยเหลือตัวใหญ่ๆให้นิโคลัสได้อ่าน
"เธอจะบ้าหรือไงใครจะแต่งงานกับเธอ"
ชายหนุ่มยืนจ้องหน้าหญิงสาวตาแข็งเขาเอ่ยเสียงดุใส่หญิงสาวเพราะแทนที่เธอจะไปหาหมอรักษากลับมาเชื่อเรื่องไม่เป็นเรื่อง
"แต่งๆไปก่อนนะคะ...ฉันจะได้หายจากไอ้อาการบ้าๆนี้ซะที"
สาวเจ้าเขียนข้อความใส่สมุดยังไงเธอก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด
"ไม่"
เสียงทุ้มแข็งกระด้างตอกใส่หน้าเธอกลับทันควันจนทำให้เกวรินทร์เริ่มน้ำตารื้นเพราะเธออยากจะหายจากไอ้อาการแบบนี้เต็มทนรู้สึกอึดอัดเหลือเกินที่สื่อสารอะไรแต่ละทีก็ช่างลำบากไม่ทันใจเสียเหลือเกิน
"หยุด..อย่าบีบน้ำตาถ้าไม่อยากให้ฉันบอกเรื่องนั้นกับพ่อแม่เธอ...พรุ่งนี้เราจะเดินทางกลับกรุงเทพพร้อมกันและหลังจากนั้นก็จะกลับอเมริกาให้เร็วที่สุดส่วนเรื่องอาการที่เธอเป็นอยู่ฉันจะหาหมอรักษาให้เอง"
นิโคลัสยกมือชี้หน้าเกวรินทร์ให้เธอหยุดการร้องให้เพราะมันไม่ได้ช่วยให้เขาใจอ่อนง่ายๆและยังขู่ว่าจะขุดประเด็นเก่าขึ้นมาหากหญิงสาวไม่ยอมหยุดตื๊อเขาเรื่องนี้ในส่วนอาการที่หญิงสาวเป็นอยู่ตอนนี้เขาคิดว่าหากเธอได้พบหมอเก่งๆยังไงก็ต้องหายเธอจะได้เลิกเชื่อว่าเกิดจากสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นเสียที
ครู่ต่อมา
"ไม่ยอมก็ไม่เป็นอะไร...แล้วนี่จะกลับกันเมื่อไรล่ะ"
หลังจากที่นิโคลัสยังคงยืนยันคำตอบเดิมทุกคนก็เอาแต่เงียบและมองหน้ากันอย่างหมดหวังทองม้วนโพร่งออกมาทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงและสีหน้าถอดใจจนพนามาลีและเกวรินทร์ต่างมองทองม้วนเป็นตาเดียวเพราะปกติแล้วทุกคนในบ้านจะรู้ดีว่าทองม้วนนั้นเป็นคนที่ไม่ถอดใจกับอะไรง่ายๆแต่ครั้งนี้ดูจะแปลกกว่าทุกครั้ง