ตอนที่4 แต่งงานกันตอนไหน
"โอเคนะจ้ะ"
หทัยรัตน์มองหน้าพราวพิไลอย่างเป็นกังวลเล็กๆหวังว่าหญิงสาวจะไม่เปลี่ยนใจตอนนี้หรอกนะ
"ค่ะ..พร้อมค่ะ"
"ตามแม่มาเลยจ่ะ"
เมื่อพราวพิไลพยักหน้าหทัยรัตน์จึงโล่งอกและเดินนำหน้าหญิงสาวมาด้านใน
"น้องมาแล้วนะรัญ"
"......"
หิรัญหันหน้ามามองหญิงสาวร่างเล็กผมยาวสวยหน้าจิ้มลิ้มสะกดสายตาเขามองเธอด้วยอาการแน่นิ่งจนคนรอบข้างดูไม่ออกว่าเขานั้นคิดอะไรอยู่
"พี่รัญ...พราวคิดถึงพี่มากๆเลยค่ะ...พราวดีใจมากเลยนะคะที่พี่รัญดีขึ้นมากๆแล้ว"
"เอ่อ.."
พราวพิไลมองชายหนุ่มที่หล่อเหลานึกว่าหลุดออกมาจากปกนิตยสารทั้งรีบฉีกยิ้มกว้างรวบรวมความกล้ารีบวิ่งโล่เข้ามาโผกอดคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาแน่นทั้งยังซุกอกแกร่งจนคนตัวโตที่ตั้งตัวไม่ถูกนั่งตัวแข็งทื่อ
"ท่าคุณพราวจะคิดถึงคุณหนูมากเลยนะคะ"
อุ่นเรือนยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
"ค่ะ..นม.."
พราวพิไลพยักหน้าให้อุ่นเรือนพรางขยิบตารู้กัน
"อืม...แม่ครับผมอยากจะเข้าห้องพักผ่อนแล้ว"
หิรัญหันไปบอกคนเป็นแม่ทั้งยังรีบยกมือประคองโอบร่างเล็กที่เอาแต่กอดเขาอยู่ไว้เบาๆ
"อ๋อ..จ่ะ..งั้นเดี๋ยวแม่พาไปนะ"
"ก็ภรรยาผมมาแล้วนี่ครับให้เธอดูแลผมก็ได้อีกอย่างผมเองก็อยากคุยกับเธออยู่หลายเรื่องเลย"
หิรัญปฏิเสธด้วยรอยยิ้มเล็กๆทำเอาพราวพิไลหน้าเจื่อนอย่างเห็นได้ชัดเมื่อรู้ว่าต่อจากนี้จะต้องอยู่ในห้องกับชายหนุ่มที่พึ่งเจอกันสองต่อสอง
"0*0"
คำพูดของหิรัญทำเอาพราวพิไลอ้าปากค้างเล็กน้อย
"งั้น...ก็...เชิญตามสบายนะ"
หทัยรัตน์ยิ้มแห้งๆพรางมองไปที่พราวพิไลและหวังว่สเธอจะรับมือได้เป็นอย่างดี
"ไป...เข้าห้องกัน"
หิรัญเดินจูงร่างเล็กไปหน้าตาเฉยตรงไปยังห้องนอนของเขา
"ค..ค่ะ.."
หญิงสาวแอบมีสีหน้ากังวลหันกลับมามองหทัยรัตน์เล็กน้อยอีกฝ่ายก็ได้แต่ยกมือบอกให้สู้ๆเท่านั้นเพราะตอนนี้เธอยุ่งอะไรไม่ได้แล้วเหมือนกัน
แกร๊กกก
"...พราวว่าเรื่องคุยกันเอาไว้ก่อนดีกว่าค่ะ...ถ้าพี่รัญอยากพักผ่อนก็พักไปก่อนเลยค่ะ.."
หิรัญเดินจูงพราวพิไลมานั่งอยู่ที่เตียงนุ่มสีขาวของเขาบริเวณในห้องค่อนข้างจะกว้างพอสมควรแต่หญิงสาวในตอนนี้ดันรู้สึกอึดอัดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดทั้งยังนั่งตัวรีบเกร็งจนชายหนุ่มต้องอุ้มคนตัวเล็กมานั่งพิงที่หัวเตียงข้างๆเขา
"อืม...งั้นพราวมานอนข้างๆพี่สิมาเหนื่อยๆนอนพักสักแปปตื่นมาก็น่าจะเย็นพอดี.."
"เอ่อ...พราว..ม..ไม่ค่อยง่วงเท่าไรค่ะ"
"อย่าลุกไปไหนเลยถ้าพราวไม่ง่วงเรานอนคุยกันก็ได้"
"อืม..ฮืมม.."
พราวพิไลรีบถดตัวลงจากเตียงแต่ถูกมือหนารั้งเอาไว้ให้เธอนอนลงหญิงสาวจึงทำได้แต่ยิ้มแหยๆเท่านั้นเธอรู้สึกใจเต้นไม่ค่อยเป็นส่ำเท่าไรที่ดูเหมือนเธอจะประมาทคิดว่าน่าจะไม่มีอะไรเกินไปซะแล้วสิ
"พี่รู้จากคุณแม่มาว่าเราแต่งงานกันก่อนที่พี่จะเกิดอุบัติเหตุช่วยบอกพี่หน่อยสิว่าเราเจอกันรักกันได้ยังไงเพราะที่พี่จำได้ว่าพี่กับพราวเรายังไม่เคยเจอกัน"
หิรัญนอนตะแคงใช้แขนชันหัวมาทางหญิงสาวทั้งถามคำถามที่อยากได้ยินคำตอบจากปากของคนหน้าจิ้มลิ้มที่ยิ้มหน้าเจื่อนอยู่ตรงหน้าของเขา
"อืม...ก็เราเจอกันตอน..ที่..งานเลี้ยงงานนึงน่ะค่ะ"
"งั้นเหรอ...แล้วเราตกลงคบกันตอนไหน"
หิรัญเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเขาไม่ค่อยออกงานสังคมเท่าไรแต่เธอกลับตอบว่าเจอเขาตามงานเลี้ยงเสียอย่างนั้น
"คือพราวเป็นคนจีบพี่รัญก่อนเองค่ะหลังจากนั้นเราก็คุยกันมาเรื่อยๆแล้วก็ตกลงแต่งงานกัน"
"เรื่องราวมีแค่นี้เองเหรอ.."
"ค่ะ..อืมพราวรู้สึกง่วงแล้วขอนอนก่อนนะคะ"
พราวพิไลชิงแกล้งง่วงไปก่อนเพราะตอนนี้เธอไม่รู้ว่าเขาจะถามคำถามลงลึกอะไรอีก
"อืม..ก็ได้"
การแกล้งหลับของหญิงสาวเป็นไปได้ไม่นานเธอก็ผลอยหลับไปจริงเพราะว่าบรรยากาศตอนที่ฝนตกมาจนเย็นชุ่มฉ่ำมันทำให้เธอเคลิ้มหลับไปอย่างง่ายดาย
สำนักงานธนาคาร
"ลุงขอบใจมากนะที่มาช่วยงานลุง"
พิศมัยและแพรวพิลาสนั่งคุยกันอยู่ในห้องผู้บริหารระดับสูงของธนาคารนั่นก็คืออนุชิตสามีของหทัยรัตน์นั่นเองอนุชิตยินดีที่จะได้คนเก่งๆอย่สงแพรวพิลาสมาทำงานด้วยเพราะเขารู้ว่าเธอเก่งเรื่องบัญชีจากปากของหทัยรัตน์อยู่บ่อยครั้งจากนี้ลูกชายคนเล็กของเขาจะได้มีคนมาช่วยงานเสียที
"แพรวเธอเต็มใจค่ะ"
"เก่งๆอย่างนี้ลุงจะให้หนูแพรวมาเป็นผู้ช่วยตารัฐแล้วกัน"
"ผู้ช่วยคุณรัฐเหรอคะ"
แพรวพิลาสเคยรู้จักธรัฐจากในข่าวแต่เธอเองก็ไม่เคยเจอตัวจริงเสียทีไม่รู้ว่าเธอกับเขาจะทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดีหรือไม่แต่นั่นก็ต้องลองกันสักตั้งมันอาจจะราบรื่นมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ก็ได้
"ใช่เป็นเลขานุการกรรมการผู้จัดการหนูแพรวรับงานนี้ไหม"
"ถ้าคุณลุงเห็นว่าแพรวมีศักยภาพในการทำงานนี้ได้แพรวก็จะทำให้เต็มที่ึค่ะ"
"คุณพ่อครับ"
ธรัฐเดินเข้าห้องคนเป็นพ่อโดยที่ไม่ได้เคาะประตูเพราะคิดว่าคงไม่มีแขกอยู่
"ตารัฐเข้ามาพอดีนี่น้าพิศมัยกับหนูแพรวพิลาส"
อนุชิตแนะนำให้ธรัฐได้รู้จักกับคนทั้งสองเพราะวันนี้เป็นวันแรกที่ธรัฐนั้นได้เจอคนทั้งสองครั้งแรกหลังจากที่รู้จักกันเพียงชื่อมานาน
"สวัสดีครับ"
ธรัฐค่อนข้างตกใจเล็กน้อยเขาไม่คิดว่าโลกมันจะกลมจนเกินไปเพราะหญิงสาวคนที่เขาเจอที่ร้านอาหารแถมยังพ่วงข้อหาชอบแย่งสามีคนอื่นเป็นคนรู้จักกับพ่อแม่ของเขามานมนานแถมเท่าที่เขารู้มาลูกสาวบ้านนี้เรียนจบได้ก็เพราะเงินของแม่เขาอีกด้วย
"สวัสดีจ่ะ"
"สวัสดีค่ะ"
พิศมัยทักทายชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มแพรวพิลาสก็รีบยกมือสวัสดีอีกฝ่ายทั้งส่งยิ้มหวานทักทายอย่างเป็นมิตรด้วยเช่นกัน
"คุณพ่อเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ"
ธรัฐแอบยืนนิ่งงันกับรอยยิ้มหวานๆกับลักยิ้มที่สองพวงแก้มของหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่งจึงรีบผละสายตามองมาทางคนเป็นพ่อโดยทันทีเพราะรอยยิ้มแบบนี้สินะถึงได้มีปัญหาแบบวันนั้นเขาคิดในใจ
"พ่อจะให้หนูแพรวมาเป็นเลขาแกหนูแพรวเก่งมากคงจะช่วยงานแกได้เยอะ"
"อ๋อ..ครับเรื่องพ่อจะแจ้งผมมีเท่านี้ใช่ไหมครับงั้นผมขอตัวไปทำงานต่อก่อน"
ธรัฐค่อนข้างไม่ค่อยพอใจเท่าไรนักที่พ่อของเขาให้คนมาช่วยงานโดยที่ไม่บอกเขาก่อนแต่ต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองเขาจึงไม่อยากพูดอะไรตอนนี้เพียงแค่เดินออกจากห้องไปหน้าตาเฉยเท่านั้นหากหญิงสาวมีความสามารถทำงานได้จริงก็คงอยู่กับเขาได้แต่ถ้ามาทำไปวันๆเขาไล่ตะเพิดกลับอย่างไม่เกรงใจแน่
"......"
พิศมัยและแพรวพิลาสค่อนข้างงงกับอาการของธรัฐอยู่อย่างมากที่ท่าทีของเขาดูไม่ออกเลยว่ายินดีหรือยินร้ายที่จะมีผู้ช่วย