ตอนที่4 ลักพาตัว
“เออ..ไปล้างหน้าล้างตาก่อน”
“แล้วมึงรู้เหรอว่าบ้านชู้เมียมึงอยู่ที่ไหน”
พันแสงเปิดกระจกหยิบขวดน้ำในรถมาเทใส่มือลูบหน้าลูบตาเมื่อเสร็จแล้วจึงหันมาถามเมืองรามด้วยสีหน้าสงสัยว่าเพื่อนของเขารู้แล้วเหรอว่าบ้านโจทย์ที่ตามหาอยู่ที่ไหน
“ตรงหน้ามึงนี่ไง”
เมืองรามสะบัดหัวเล็กน้อยไปทางเรือนธิติลักษณ์ที่เป็นเรือนใหญ่ทรงปั้นหยาให้คนเป็นเพื่อนดูนอกรั้ว
“หา..นี่มึงไม่คิดจะหลงบ้างไงวะ”
“กูจะหลงได้ไงก็กูรู้ที่อยู่ผู้ใหญ่ให้กูมา”
พันแสงมองไปยังรั้วบ้านที่เป็นทรงปั้นหยาร่วมสมัยหลังใหญ่ตรงหน้าด้วยสีหน้าที่งงงวยเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าเมืองรามจะมาถูกโดยที่ไม่หลงแม้แต่นิดเดียว
“แล้วมึงเอาไงต่ออะมึงจะเผาบ้านเค้าจริงเหรอวะ”
พันแสงเลิกคิ้วสงสัย
“กูเปลี่ยนใจแล้วกูจะให้มันตายทั้งเป็นแทน”
เมืองรามพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่มียกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเพราะเขานั้นได้ไปรู้อะไรดีๆมาว่าภิภพนั้นมีของรักของหวงอยู่ในบ้านหลังนี้และเขาจะใช้จุดอ่อนนี้เล่นงานภิภพ
“ยังไงวะ”
พันแสงเกาหัวแกรกๆทั้งสีหน้ายังขมวดครุ่นคิดไม่เจ้าใจสิ่งที่เมืองรามพูดสักเท่าไร
“กูจะพาลูกสาวมันกลับไปที่ไร่แล้วให้มันไปตามเอาเองดูซิว่าถ้ามันรู้ว่าลูกมันถูกทำอะไรบ้างมันจะเจ็บปวดแางตายแค่ไหน”
เมืองรามยิ้มกริ่มอย่างผู้ชนะคนอย่างเขาไม่ทำใครก่อนแต่หากถูกกระทำแล้วเขาจะเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่าหากทำได้
“มึงรู้ได้ไงว่ามันมีลูกสาว”
พันแสงหันขวับมองหน้าเมืองรามอย่างรวดเร็วแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่เขาหลับไปเพื่อนเขารู้เรื่องขนาดนี้เชียวเหรอถ้าใช่ก็นับว่าฉลาดจนน่ากลัวไปแล้ว
“กูก็เห็นพวกคนรับใช้บ้านนี้เค้าคุยกัน”
“นี่กูหลับไปเท่าไรเนี่ยมึงถึงได้รู้ทุกอย่างเร็วขนาดนี้”
“กูปีนบ้านไปพักเดียวก็ก็รู้แล้ว”
เมืองรามหันมองคนเป็นเพื่อนอย่างอ่อนใจเพราะกากเขารอพันแสงตื่นคงไม่ได้เรื่องกันพอดี
“วิชาโจรมึงนี่ก็เก่งเหมือนกันนะ”
พันแสงชี้หน้าเพื่อนของเขาทั้งพนักหน้าเบาๆทึ่งในความสามารถที่ความสามารถนี้มันไม่ใช่เรื่องดีเท่าไร
“มาทำเรื่องใหญ่ใครเค้าจะมาหลับเหมือนมึงล่ะไม่ทันการกันพอดี”
“แล้วมึงจะพาลูกสาวเค้าไปตอนกลางวันแสกๆแบบนี้เนี่ยนะ”
“รอดูไปก่อน”
เมืองรามยังคงต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าเขาจะพาลูกสาวศรัตรูไปตอนไหนดีหากจะบุกเข้าไปชิงตัวเลยเขาก็ฉลาดพอที่จะไม่ไปเสี่ยงกับคนดูแลในบ้านที่มีมากกว่าพวกเขาหลายเท่า
11.00 น.
“มึงจะไปไหนวะ”
พันแสงทำหน้างงที่จู่ๆเมืองรามก็ขับรถออกจากที่จอดกระทันหันโดยไม่บอกไม่กล่าว
“ตามแม่นั่นไปน่ะสิ”
เมืองรามใจจดใจจ่อมองไปที่หญิงสาวชุดสีขาวกระโปรงบานที่กำลังเดินอยู่ข้างถนนคนเดียวนับว่าเป็นโชคที่เข้าข้างเขานักที่หญิงสาวได้ทีอยู่คนเดียวเพราะมันจะง่ายต่อการที่เขาจะจัดการเธออย่างดีเลยทีเดียว
“นั่นเหรอลูกสาวบ้านนี้งามที่สุดเลยว่ะ”
เมื่อรถเทียบใกล้จนเห็นหน้าหวานของสาวน้อยพันแสงก็อดชมไม่ได้ว่าโจทย์ของเมืองรามนั้นเป็นผู้หญืงที่งามที่สุดที่เขาเคยเจอมาเลย
“มึงหยุดหัวงูสักแปปได้ไหม”
เมืองรามหันมาหน้างอใส่พันแสงที่พูดเล่นไม่เลือดเวลา
“เออ..”
พันแสงเหล่สายตามองคนเป็นเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์เพราะนานๆเขาจะได้พบเจอสาวงามที่งามราวกับนางฟ้าสักทีกลับถูกขัดจังหวะ
“หืม...”
นรีนาถรีบเดินให้เร็วขึ้นเพราะรู้สึกว่ามีรถตามหลังมาและจู่ๆก็ชะลอเมื่อใกล้กับตัวเธอยิ่งถนนตรงนี้ค่อนข้างเปลี่ยวเพราะแต่ละบ้านเป็นรั้วสูงหากเธอเป็นอะไรคงไม่มีใครเห็น
“ไอ้แสงมึงมาขับเดี๋ยวกูจะการแม่นี่เอง”
เมืองรามรู้ว่าหญิงสาวท่าจะรู้ตัวแล้วจึงรีบให้พันแสงขับรถและเขาก็กระโดดลงเข้าไปประชิดตัวหญิงสาวก่อนที่เธอจะเดินหนีไปจนพ้นจุดเปลี่ยว
“นี่..ว้าย..ปล่อยนะแกเป็นใคร”
นรีนาถหน้าซีดตัวสั่นเทาเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเธอจึงโวยวายส่งเสียงจนสุดเสียง
ปั้ก
“โอ้ย..”
เมืองรามเห็นเช่นนั้นจึงปล่อยหมัดใส่ท้องน้อยของหญิงสาวดีที่เขายังยั้งมือไม่ออกเต็มแรงต้องการเพียงแค่ให้หญิงสาวเงียบเสียงอละต่อสู้ไม่ได้เท่านั้นแต่แรงของเขาก็ทำให้หญิงสาวสลบไปได้ในเวลาไม่กี่วิเมืองรามจึงอุ้มร่างบางขึ้นรถและสั่งให้พันแสงออกรถไปจากตรงนี้อย่างรวดเร็ว
“ไปโว้ย..”
“มึงทำรุนแรงกับสาวสวยคนนี้เกินไปเปล่าวะ”
พันแสงเหลือบมองร่างบางที่นอนอยู่บนตักเมืองรามอย่างสงสาร
“มึงอย่าพูดมากขับไป”
เมืองรามมองหน้าหวานของหญิงสาวอย่างยิ้มกริ่มต่อจากนี้ได้เวลาที่เขาจะเริ่มต้นแก้แค้นแล้ว
20.00 น
"มีอะไรกันรึเปล่าครับนม"
เมื่อรถของสิงหนาทแล่นมาจอดที่หน้าบ้านทุกคนในบ้านต่างก็กรูกันเข้ามาหาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู้ดีกันเท่าไรเขานั่นทำให้ชายหนุ่มคิดได้ทันทีว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่
"เมื่อกลางวันคุณหนูออกไปหาหนูหนึ่งแต่ยังไม่กลับมาพวกคนใช้ก็ไปตามที่บ้านหนูหนึ่งแต่ได้คำตอบว่าคุณหนูไม่ได้ไปที่นั่นค่ะ"
นมสรวงรีบเล่าทุกอย่างให้สิงหนาทได้ฟังเพื่อที่ตอนนี้จะได้ช่วยกันหาทางแก้ปัญหาและตามหานรีนาถให้ได้เร็วที่สุด
"อะไรนะ...แล้วตอนน้องหญิงออกไปไม่มีใครไปด้วยหรืออย่างไร"