ตอนที่4 ดูหนุ่มกว่าวัย
“อีกประมาณสองกิโลครับนาย”
ลูคัสมือขวาคนสนิทวัยสามสิบกว่าๆนั่งอยู่ข้างๆโอดินมือซ้ายของนิโคลัสที่กำลังขับรถเขาหันกลับมาบอกคนเป็นนายพร้อมชูมือถือที่กำลังเปิดจีพีเอส
“อืม..”
นิโคลัสตอบกลับพร้อมพยักหน้าเบาๆด้วยน้ำเสียงทุ้มในลำคอก่อนจะเปรยสายตาหันมองข้างทางที่ส่วนมากจะมีแต่ป่าแต่สวนเป็นส่วนใหญ่ยิ่งเข้าลึกมามากเท่าไรถนนหนทางก็ค่อนข้างลำบากมากขึ้นเท่านั้นเขาเดาออกว่าถนนหนทางแถวนี้น่าจะใช้เดินทางเข้าไร่เข้าสวนเสียมากจึงไม่ค่อยเจริญเท่าไรนัก
นิโคลัสหนุ่มใหญ่วัยเกือบห้าสิบเป็นนักธุรกิจชาวอเมริกาครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเลียมแต่เขาให้คนเป็นพี่บริหารธุรกิจนี้เพียงคนเดียวแต่ก็มีปรึกษางานกันกับคนเป็นพี่ที่บริษัทบ่อยๆ
ส่วนธุรกิจของตัวเขาเองก็คือการทำอสังหาโรงแรมบ้านพักต่างๆนิโคลัสเป็นหนุ่มใหญ่ที่ตอนนี้ยังครองตัวโสดเพราะภรรยาคนที่สองเสียไปด้วยโรคร้ายเมื่อประมาณห้าปีก่อนเขาไม่คิดจะมีใครเพิ่มเพราะไม่อยากจะเสียใจกับการสูญเสียคนรักไปอีกเนื่องจากภรรยาทั้งคนแรกและคนที่สองที่เขาแต่งงานด้วยอยู่กันได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นเธอก็ต้องเป็นโรคร้ายและจากเขาไปในที่สุด
แม้นอายุจะเกือบเลขห้าแต่เขาค่อนข้างดูหนุ่มกว่าวัยอยู่มากเขาสูงราวสองเมตรหุ่นบึกบึนไม่มีไขมันใบหน้าหล่อเหลาผมสีน้ำตาลเข้มหยิกยาวประบ่ามีไรหนวดไรเคราคิ้วเข้มตาคมนัยห์ตาสีฟ้าน้ำทะเลจมูกโด่งเป็นสันรับปากกระจับหนาอมชมพู...เป็นคนที่โลกส่วนตัวค่อนข้างสูงไม่ค่อยชอบออกสื่อสุขุมนุ่มลึกภายนอกดูดุเย่อหยิ่งถือตัวพอสมควรแต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนค่อนข้างอบอุ่นหากใครได้รู้จักจริงๆ
เขามาเป็นเจ้าหนี้ของเกวรินทร์ได้ก็เพราะเมื่อสี่ปีก่อนหญิงสาวดันเลือกที่จะขโมยเงินของเขาเพื่อที่จะเอาไปช่วยครอบครัวเธอแลกกับการที่จะไม่ให้เขาบอกพ่อแม่ของเธอถึงวีรกรรมการเป็นขโมยและไม่จับเธอส่งตำรวจโดยการให้สัญญาว่าจะทำงานใช้หนี้ให้เขาหลังจากเรียนจบการที่เขามาที่ไทยครั้งนี้ก็เพื่อมารับเธอให้เธอไปทำงานใช้หนี้ตามสัญญา
18.00 น.
เมื่อได้เวลาอาหารเย็นทุกคนในบ้านต่างก็มาช่วยกันยกสำรับจัดแจงที่แคร่ไม้ใต้ถุนบ้านวันนี้มีแกงไก่บ้านเผ็ดนรกแตกของโปรดพนาไก่บ้านที่ทำไม่ใช่ของบ้านนี้แต่เป็นของประสงค์ที่แบ่งเนื้อไก่มาให้ตอบแทนที่พนาไปช่วยซ่อมรถเมื่อเช้า
"อ้าว..นั่นใครมาไปดูซิไอ้ฑิต"
ระหว่างที่ทุกคนกำลังจะนั่งลงล้อมวงทานข้าวเย็นจู่ๆรถตู้สีดำคันหรูก็จอดอยู่ที่หน้าปากทางเข้าบ้านสวนทองม้วนจึงหลี่ตามองให้แน่ใจว่ารู้จักหรือไม่เมื่อได้ความว่าตัวเองไม่รู้จักแล้วจึงรีบบอกให้พนาออกไปดูเพราะกลัวจะเป็นคนอื่นหลงทางมา
"เอ..รถไม่คุ้นเลย..มาผิดบ้านรึเปล่าก็ไม่รู้"
พนาเอ่ยเสียงสูงก่อนจะลุกออกจากแคร่ไม้ด้วยสีหน้าที่เสียดายเพราะเกือบจะได้ลงมือทานของโปรดแล้วแต่กลับชะงักไปเสียก่อน
“สวัสดีครับผมนิโคลัสมาหาเกวรินทร์”
นิโคลัสลงจากรถได้เขาเห็นชายร่างสูงท้วมอายุน่าจะมากกว่าแต่คงไม่ต่างจากเขาเท่าไรจึงยกมือไหว้สวัสดีตามธรรมเนียมของคนไทยก่อนจะรีบเอ่ยถามถึงหญิงสาวที่เขาต้องการพบทันที
“ครับ..ผมเป็นพ่อเจ้าเกวพวกคุณมีธุระอะไรเหรอครับ”
พนารับไหว้พร้อมมองหน้าชายต่างชาติที่ยืนอยู่กันสามคนด้วยสีหน้าที่สงสัยอยู่พอสมควรว่าลูกสาวตนไปรู้จีกมักจี่กับชายต่างชาติตอนไหน
“ผมเป็นเจ้านายของเธอผมรอเธออยู่ที่กรุงเทพนานแล้วไม่เห็นเธอจะไปหาตามที่นัดไว้เลยต้องมาตามเพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดกลับอเมริกาแล้วครับ”
“เอ่อ..งั้นเชิญข้างในก่อนครับ”
เมื่อได้ฟังจบพนาก็ได้ถึงบางอ้อ..และเห็นว่าดีแล้วที่เจ้านายของลูกสาวเธอมาที่นี่จะได้ทำอะไรๆให้มันเสร็จสิ้นไปเสียที
“แม่นั่นเจ้านายหนู”
สาวเจ้ารีบเขียนใส่สมุดที่ช่วงนี้ต้องพกติดตัวตลอดให้คนเป็นแม่ได้ดู
“ผู้ชายผมยาวนั่นน่ะเหรอเจ้านายเรา”
มาลีเหลือบสายตามองชายต่างชาติร่างสูงใหญ่ที่เดินตามสามีเธอเข้ามาก่อนจะหันมาถามลูกสาวตนด้วยสีหน้าที่แปลกใจเพราะจากที่ได้รู้มาว่าเจ้านายลูกสาวของเธอมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับสามีเธอแต่ยังคงดูหนุ่มกว่าวัยอยู่ไม่น้อยหากบอกว่าอายุสามสิบปลายๆเธอก็ยังเชื่อ